ขออนุญาตเล่าความเป็นมาของ  “ความอยาก”  ที่จะไปร้าน  R.E.111 CAFÉ  by  Villa  Musée  Khaoyai  ก่อนนะครับ



เจ้าของบล็อกเอง  คนข้างๆ  และคุณนายแม่  เป็นแฟนอันเหนียวแน่นของรายการ  เปิดตำนานกับเผ่าทอง  โดย  อาจารย์เผ่าทอง  ทองเจือ  มานานมากๆ  



ในรายการครั้งหนึ่งพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์บ้านโบราณ  (Villa  Muse’e)  ที่เขาใหญ่  (ซึ่งถ้าใครเคยดูละครเรื่อง  เล่ห์บรรพกาล  จะต้องจำบ้านของพระเอกกับนางเอก  หลังสีเขียวๆ  ได้แน่ๆ)   เจ้าของบล็อกก็ตามเข้าไปดูในเวบไซด์ของ  Villa  Muse’e  (ก็ได้รู้ว่า  Villa  Muse’e  ตั้งอยู่ในบริเวณของ  ภูวนาลี  รีสอร์ต  เขาใหญ่  และได้ทราบด้วยว่าที่นี่มีคาเฟ่สวยๆ  เสิร์ฟของว่างกับกาแฟ  และเครื่องดื่มที่แปลกกว่าคาเฟ่ที่อื่นๆ  ก็เลยอยากลองไปครับ


ถ้าเราจะมา  ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่  ให้จอดรถได้ที่ที่จอดรถของภูวนาลี  รีสอร์ต  เขาใหญ่  นะครับ  แล้วแจ้งกับพนักงงานว่าจะไปทานอาหารที่  ร.ศ. 101 คาเฟ่  พนักงานจะเอารถกอล์ฟมารับ  เพราะ  ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่  จะอยู่ด้านในของ  ภูวนาลี  รีสอร์ต  เขาใหญ่  ครับ


รถกอล์ฟบริการของทางรีสอร์ทจะขับพาลัดเลาะไปตามทางอันร่มรื่นภายในรีสอร์ต  วันที่เจ้าของบล็อกพนักงานที่ขับรถชี้ชวนให้ดูนู่น  นี่  นั่น  ไปตลอดเส้นทางครับ  และยังบอกด้วยว่าที่  ภูวนาลี  รีสอร์ต  ตั้งอยู่ในผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์มากๆแห่งหนึ่งของเขาใหญ่  


แล้วเราก็มาถึง  ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่


ตัวร้านจะตกแต่งสไตล์จีนนะครับ  น้องพนักงานเล่าให้ฟังว่าเจ้าของร้านตั้งใจจะตกแต่งให้เป็น  โรงเตี๊ยม  แบบในหนังจีนกำลังภายใน  อิอิอิ


ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่  มีที่นั่งทั้งภายในและภายนอกตัวเอคารที่สร้างขึ้นคล้ายๆโรงเตี๊ยมนะครับ  ด้านในจะตกแต่งด้วยชุดเก้าอี้ประดับมุกตัวใหญ่ๆ  

ส่วนด้านนอกจะล้อมรอบด้วยต้นไม้ใหญ่ๆ  สวนสวยๆ  และน้ำตก  ถึงแม้วันที่เจ้าของบล็อกไปทานจะเป็นวันที่ร้อนมากๆวันนึงในปลายเดือนมีนาคม  แต่ว่าเมื่อมาถึง  ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่  แล้ว  อากาศดีมากๆเลยครับ  มีลมเย็นๆ  แดดก็ส่องผ่านใบไม้ลงมานิดหน่อยเท่านั้น  เราเลยตกลงว่าจะนั่งด้านนอกดีกว่า



สั่ง  ชาดอกหอมหมื่นลี้  มาจิบแก้ร้อนกันหน่อย  จะได้เข้ากับบรรยากาศรงเตี๊ยมครับ



เครื่องดื่มเย็นนี่จำไม่ได้เลยครับว่าสั่งอะไรไปบ้าง  เยอะจัดครับ






ไข่มุกปาฎิหารย์  ทางร้านเข้าในตั้งชื่อให้เข้ากับคอนเซ็บร้านครับ  มันคือขนมไข่นกกระทา  หรือ  บางคนเรียกว่าขนมไข่เต่า  ที่ทำมาจากมันเทศสีเหลืองกับมันเทศสีม่วงครับ ข้างนอกกรอบ  ข้างในนุ่มๆ 



ติ่มซำชุดนี้ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเรียกว่าชุดฮองเฮาครับ เสิร์ฟมาในเข่งที่ใหญ่เกือบๆเท่าโต๊ะเลยครับ  ฮ่าๆๆๆ  อร่อยทุกอย่างเลยครับ  



ร.ศ. 101 คาเฟ่ บาย วิลล่า  มูเซ่  เขาใหญ่  เป็นคาเฟ่เปิดใหม่  ตกแต่งในสไตล์จีน  ตั้งอยู่ในรีสอร์ตสวยๆ  ร่มรื่นๆ  เหมาะกับการหลบร้อน  มานั่งจิบชา  กินติ่มซำ  
แถมมีมุมให้ถ่ายรูปสวยๆเยอะเลยครับ

Café des Artists นี้เป็นห้องอาหารของโรงแรม Hotel des Artists ที่เขาใหญ่ค่ะ  โรงแรมในเครือนี้จะเป็น boutique hotels ที่มีขนาดค่อนข้างเล็ก  แต่เน้นการตกแต่งแบบเก๋ไก๋ดูดีมีรสนิยม โดยยึดธีมตามท้องถิ่นที่โรงแรมตั้งอยู่  สำหรับที่เขาใหญ่นี้จะเป็นการผสมผสานสไตล์โคโลเนียลแบบกึ่งไทยกึ่งฝรั่งเข้ากับสไตล์โมเดิร์นที่เรียบง่ายเป็นธรรมชาติตัวอาคารเน้นโทนสีขาวสะอาดตา ด้านในตกแต่งด้วยของสะสมที่จัดวางได้อย่างลงตัวมีศิลปะ ถูกใจบรรดาติสต์ตัวแม่ทั้งหลายยิ่งนัก  รอบๆโรงแรมตกแต่งด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ดูร่มรื่นน่าเดินแชะเดินชม เหมาะกับจะมาพักผ่อนแบบ slow life ดีจริงๆค่ะในส่วนของ Café des Artists นั้นจะเป็นอาคารแยกมาอยู่ต่างหากตรงทางเข้าโรงแรมด้านหน้าจึงถูกออกแบบให้เป็นกระจกโปร่งเพื่อให้ชมทิวทัศน์โดยรอบได้ถนัด มีทั้งห้องแอร์ด้านในและที่นั่งส่วน outdoor สำหรับคนชอบรับลมธรรมชาติ ตกแต่งได้น่ารักน่าสบายดีมากๆเลย***-เมนูที่ได้ลอง-***

Café des Artists แห่งนี้ดูจะทำหน้าที่ได้เอนกประสงค์  โดยเป็นทั้งห้องอาหารสำหรับมื้อเช้า เป็นร้านอาหารที่มีเมนูจานหลักต่างๆให้บริการตั้งแต่เช้าถึงค่ำ  เป็น coffee shop ที่มีเค้กและขนมพร้อมเครื่องดื่มให้มานั่งชิลล์จัดมื้อเบาๆ และไม่ลืมมีไวน์จากหลายไร่องุ่นดังให้ได้สั่งมานั่งดริ๊งค์กันด้วย สำหรับครั้งนี้เราได้ลองในส่วนของ Breakfast และ ขนมยามบ่ายนะคะ

[Breakfast]

อาหารเช้าของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นบุฟเฟต์ตักได้ไม่อั้น และอาหารจานหลักกับเครื่องดื่มชา-กาแฟที่สามารถสั่งจากเมนูได้คนละ 1 อย่างค่ะ●Buffet – ในส่วนนี้จะมีทั้งสลัดที่ผักสดกรอบได้ใจ น้ำสลัดก็รสดี มีผลไม้ที่ปลูกกันมากในย่านนี้ อย่างวันที่ไปก็มีทั้งองุ่น พุทรานมสด และส้ม มีนมสดและน้ำผลไม้ใส่เหยือกไว้ นอกจากนี้ยังมีปาท่องโก๋และขนมปังปิ้งให้อีกด้วย ทีเด็ดของที่นี่ที่ถูกใจเรามากๆก็คือแยมผลไม้ที่กวนเองแบบโฮมเมด ได้รสผลไม้ตามธรรมชาติเน้นๆเนื้อๆไม่ใส่น้ำตาล ไม่ปนเยลลี่  อย่างวันที่ไปเป็นแยมสตรอเบอร์รี่และแยมมะเฟือง อร่อยโดนใจจนเราแอบไปกระซิบถามพนักงานว่ามีแบ่งขายให้บ้างไหมจ๊ะ  ได้คำตอบว่าเนื่องจากเป็นแยมกวนสดๆ เก็บได้ไม่เกินอาทิตย์  จึงมักกวนแค่พอดีวันต่อวัน แต่ถ้ามาพักรอบหน้าสั่งเอาไว้ตอนโทร.จองก็จะทำเผื่อไว้ให้จ้ะ (ใครคิดจะไปพักที่นี่ถ้าสนใจก็ลองถามดูนะ)  งานนี้แม้ต้องผิดหวังแต่ก็ประทับใจกับคำตอบที่น่ารักมีน้ำจิตน้ำใจดีจริงๆค่ะ● ข้าวต้มกุ้ง / ข้าวต้มหมู – ตัวข้าวต้มเคี่ยวมาได้ดี ข้าวนุ่มบานเต็มที่ไม่แยกเป็นเม็ดๆ น้ำซุปก็รสดีใช้ได้ แอบรู้สึกว่าข้าวต้มหมูอร่อยกว่าข้าวต้มกุ้งนิดนึง ซึ่งน่าจะเป็นเพราะการปรุงรสของหมูสับที่ใส่มาทำได้ดีนั่นเอง●Egg Benedict Toast – เป็น Egg Benedict ที่วางมาบนแผ่นขนมปัง แฮม และเบคอน ราดด้วย Hollandaise Sauce รสออกหวานนำนิดๆ ..แม้อาจจะยังเทียบไม่ได้กับร้านที่เน้นเสิร์ฟ Brunch แบบจริงจัง แต่ในระดับอาหารเช้าโรงแรมนี่ต้องถือว่าดีงามเลยล่ะ[Afternoon Tea]

นอกจากอาหารแล้ว ที่นี่ยังมีชา-กาแฟและเบเกอรี่หลากหลายชนิดให้เลือกสั่งค่ะ ขนมเค้กที่นี่ทำกันสดๆแบบโฮมเมดจริงๆ แอบชะโงกดูส่วนของครัวแล้วเห็นกำลังปั่นครีมทำหน้าเค้กกันจะๆ เลยเชียว สำหรับราคาเค้กที่นี่อยู่ในราวไม่ถึงร้อย ถือว่าราคาไม่แรงสำหรับย่านนี้  แต่สำหรับแขกที่มาพักที่โรงแรมนั้นตอนช่วงบ่ายๆของทุกวันจะมีการเสิร์ฟขนมเค้กฟรี 1 ชิ้นพร้อมชาร้อน 1 ถ้วย ให้ถึงในห้องเลยค่ะ  ส่วนตอนก่อนนอนก็จะมีชา, น้ำขิง หรือโอวัลตินร้อนๆมาเสิร์ฟให้อีกด้วยนะ ดังนั้นเราเลยได้ลองเค้กไปตามนี้เลย

● เค้กมะพร้าว – ของที่นี่จะไม่ได้ใส่ชิ้นมะพร้าวอ่อนให้เห็น แต่มีกลิ่นรสของมะพร้าวแทรกอยู่ในครีมที่แต่งหน้าเค้กค่ะ  เนื้อเค้กเค้าจัดว่าดีงามใช้ได้เลย คือเนื้อนุ่มเนียนไม่แห้งฝืดคอ ได้รสนมเนยเข้มข้นกำลังดีไม่มากไม่น้อย อร่อยสมกับเป็นเค้กโฮมเมดนะ● เค้กช็อคโกแลต – ชิ้นนี้ลืมถ่ายรูปไว้ ..เนื้อเค้กดีงามไม่แพ้ชิ้นแรก  ได้รสช็อคโกแลตแบบเข้มข้นและไม่หวานจนเกินไป ถูกใจคนรักช็อคโกแลตดีจริงๆเลย

เท่าที่ดูโดยภาพรวมแล้วคอนเซ็ปต์ของร้านนี้ก็สอดคล้องกับภาพลักษณ์ของโรงแรม คือเล็กแต่เปี่ยมไปด้วยความละเมียดละไม ดูใส่ใจในรายละเอียดดี ทำให้แม้เราจะไม่ได้ลองอาหารในเมนูอาลาคาร์ทของเค้าแต่ก็เชื่อว่าน่าจะทำออกมาได้ดีระดับนึง คือคงไม่ขี้เหร่แน่ๆ  แต่ความที่เป็นร้านอาหารเล็กๆนี่เอง เมนูก็เลยอาจไม่หลากหลายอลังการเท่าร้านใหญ่ๆที่นักท่องเที่ยวชอบแวะกัน  ..ไม่มีวงดนตรีเล่นสดตอนค่ำ  ไม่มีไร่องุ่นให้ชม ไม่มีสินค้าหรือของที่ระลึกขาย  ร้านนี้จึงเหมาะกับคนที่อยากจะมาจัดมื้อเล็กๆง่ายๆ ในบรรยากาศเก๋ๆที่เงียบสงบน่าสบายและไม่ touristy นักนั่นเองค่ะ ถ้าใครชอบแนวนี้ผ่านไปแถวนั้นก็ลองแวะดูได้นะคะ

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาว Openrice ทุกคน
วันนี้ มีร้านอาหารบรรยากาศดีๆ พิกัดที่ตั้งอยู่ใน Escape Khaoyai Hotel มาแนะนำกันค่ะ

ไปชมบรรยากาศและเลือกเมนูหน้าตาดีงามด้วยกันค่า ห้องอาหาร Green Oak Bistro พิกัดตั้ง ชั้น2 โรงแรม Escape Khaoyai ค่ะ

มาถึงแล้ว เราไปเก็บบรรยากาศสวยๆของห้องอาหารนี้กันบรรยากาศชิลด์ๆยามบ่ายแก่ๆในโซน outdoor
ถ้าไม่ได้มีแพลนออกไปทัวร์นอกรีสอร์ท แนะนำให้มารับอากาศบรืสุทธิ์ แล้วสั่งเครื่องดื่มแก้วโปรด
นั่งมองพระอาทิตย์ลาขอบฟ้า ต้องบอกว่า มุมตรงนี้มันฟินทีเดียวค่า

ส่วน prizella เรามาถึงห้องอาหารในช่วง 6 โมงเย็น ฟ้าเริ่มมืด
เลยขอเลือกเข้าไปดินเนอร์ในโซนอินดอร์ รับแอร์เย็นๆกันค่ะบรรยากาศในโซน Indoor
ห้องอาหารกรีนโอ๊คมีขนาดไม่ใหญ่มาก เพดานสูงโปร่ง
จัดวางโต๊ะสำหรับรับประทานในจำนวนพอดี ทำให้รู้สึกไม่อึดอัด
เราจองโต๊ะไว้โดยเลือกที่นั่งในโซนติดหน้าตา
ต้องบอกว่า ยิ่งดึก ก็ยิ่งมีคนออกมาใช้บริการในห้องอาหารนี้กันเยอะ
ที่นั่งเต็มค่า

มาดูเมนูกันต่อเลยเมนูของที่นี่จะมีเซ็ตอาหารไทย ที่จัดอาหารเซ็ตหลายๆอย่าง ได้น่าสนใจและราคาก็ reasonable ด้วยค่ะ
นอกจากนี้ ก็ยังมีเมนู a la carte เป็นอาหารจานเดียวที่เราเลือกสำหรับมื้อนี้ค่าสั่งกันเรียบร้อย พนง.จะนำออร์เดิร์ฟ เป็นขนมปังนุ่มๆพร้อมเครื่องเคียงถ้วยเล็ก
มาเสิร์ฟกันก่อนค่ะความที่ทราบว่ามา ห้องอาหารที่นี่จะคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีภายใต้คอนเซ็ป Farm to Farm
เราเลยเลือกเมนูเฮลตี้ เป็น Caesar Salad with Grilled chicken (200B) มาเรียกน้ำย่อยกัน
จานนี้ ผักออแกนิคที่จัดมาสดดี ทานกับไก่ย่าง เบคอนกรอบๆ คลุกเคล้าด้วยน้ำสลัดซีซ่า อร่อยเบาๆดีค่ะต่อด้วยเมนคอร์ส 2 เมนู
บน Fried River Prawn with Tamarind Sauce (380B)
ล่าง Spaghetti with sausage chili and garlic (250B)

จานแรก กุ้งแม่น้ำราดซ๊อสมะขาม  กุ้งตัวใหญ่ปรุงมาดี ทานกับข้าวสวยๆร้อนๆ รสชาติก็โอเคมาตรฐานค่ะ
ส่วนเมนูเส้นจานล่าง คือ สปาเกตตี้ไส้กรอกเขาใหญ่ผัดพริกกระเทียม ที่ปรุงแต่งจัดมาสวยงามน่าทานมาก
ชิมรสชาติแล้ว คนทานไม่จัดมากแบบเราต้องบอกว่ารสมันเร้าใจ ด้วยความเผ็ดของพริกกระเทียม
เป็นอีกจานที่น่าจะถูกใจคนชอบความจัดจ้านเผ็ดร้อนกันค่ะปิดท้ายมื้ออร่อยด้วยไอศครีมรสแมคคาดาเมียนัทแบรนด์โปรดแสนอร่อยถ้วยนี้ค่ะ

โดยรวมสำหรับดินเนอร์ครั้งนี้ รสชาติอาหารอร่อยกลางๆ ตามมาตรฐาน ถูกใจคนไม่ทานจัดมากแบบเรานะคะ
บรรยากาศในร้านสวย นั่งกันสบายๆ ส่วนราคาก็สูงไปตามวัตถุดิบและมาตรฐานของรีสอร์ทนี้ค่ะ

สวัสดีค่าเพื่อนๆชาว Openrice ทุกคน
วันนี้มาชวนไปชิลด์-เอาท์ สูดความสดชื่นเติม OXYGEN ท่ามกลางขุนเขากันที่เขาใหญ่นะคะ
ทริปพิเศษครั้งนี้ เป็นการไปพักผ่อนรวมถึงฉลองวันเกิดย้อนหลังของพุทราเองค่า
โดยพี่ช่างภาพเป็นคนจัดการในเรื่องที่พัก ส่วนหมวยขอรับหน้าที่หาร้านฮิปฮิป อินเทรนด์ที่เขาใหญ่
พร้อมแล้ว ไปรู้จัก Coffee TANK ร้านกาแฟสุดชิค ที่ทาง BLOG แสนสิริเลือกให้เป็น
1 กิจกรรมใหม่ที่น่าสนใจ ที่ต้องบอกว่า เราพลาดไม่ไปเยือนไม่ได้เลยคร่า
(ขอขอบคุณแสนสิริสำหรับข้อมูลด้วยค่ะ)

YELLOW SUBMARINE COFFEE TANK
www.facebook.com/yellowsubmarinecoffee
OPEN : FRI-SUN 09.00-19.00
พิกัดการเดินทาง ถ้ามาจากถนนธนะรัชต์ ให้เลี้ยวขวาที่กิโลเมตรที่ 24 ทางเดียวกับที่จะไป
Primo Piazza , Thames Valley , เป็นลาว และ The Birder'S LodgeThe Birder 'S Lodge
จากนั้น ให้ขับรถตรงต่อไป จนกระทั่งเห็น Terano Restuarant ที่อยู่ทางซ้ายมือ ใกล้ถึงจุดหมายแล้ว
เพราะร้าน Yellow Submarine จะอยู่ในซอยที่ติดกับร้านอาหาร ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยข้างหน้า
โดยจะเห็นป้ายร้านขนาดใหญ่ สีตำ ตั้งบอกพิกัดที่หน้าซอยด้วยค่ะ
มาถึงแล้ว ต้องเก็บบรรยากาศ ที่ขอบอกว่า ชิคอาร์ตลึกลับน่าค้นหา ตั้งแต่ประตูเอนทรานซ์ด้านหน้าเลยหละค่าไปสำรวจด้านในกันต่อ
จากลานกว้างด้านหน้า ที่มีกำแพงสีดำประกบคู่ยาวขนาน เป็นทางที่นำเราเข้าสู่ด้านในร้านค่ะ
Zone outdoor...

Zone Outdoor

0

Zone Outdoor

Zone outdoor... เป็นอีกพื้นที่ที่มีมุมให้คนรักกล้องได้สนุกกับการเก็บภาพสุดๆค่า

พุทราไปถึงในช่วงบ่าย แสงอาทิตย์กำลังแผ่รังสีความร้อน ทำเราแทบละลายกันเลยทีเดียว
เดินมาถึงกลางร้าน จะเป็นที่สำหรับสั่งเครื่องดื่มและของว่างกันค่ะเมนูเครื่องดื่ม...มีทั้ง Hot Ice Frappe และ Cold Pressed
ส่วนรายการของหวาน สามารถชี้สั่งได้จากตู้กระจกที่ Counter เลยค่ะ
ออร์เดอร์กันเรียบร้อย ก็ตามหมวยไปผจญภัยกับเยลโหลซัปมารีนในโซน Indoor กันต่อค่าZone indoor...เรียบง่าย ได้ฟิลของบรรยากาศการนั่งจิบกาแฟเก๋ๆ ในป่ากัน (ถ้าคนน้อยนะ 555)

มาชิมด้วยกันเลยค่าOur Beverage...พุทราเลือก ไอซ์มัตฉะลาเต้ ส่วนพี่ช่างภาพได้ คอฟฟี่ลาเต้เย็น มาดับร้อนค่านอกจากขนมในตู้แล้ว น้องพนักงานแนะนำ Black Honey Toast ซึ่งเป็นเมนูหน้าตาดีและน่าสนใจมาลองค่ะโทสน์ชาโคลสีดำหนึบหนับ ท็อปด้วยไอศครีมวนิลา+สตรอเบอรี่ เสิร์ฟคู่กับวิปครีมและคาราเมลซ๊อส
ก็เรียกว่า อ้วนเต็มสตีมทั้งหวาน มัน อิ่มของหวานพุงกลมกันที่เดียวค่า

โดยรวมสำหรับที่นี่ ต้องบอกว่าเหมาะสำหรับคนที่รักกล้องชอบถ่ายภาพค่า
เครื่องดื่มและของหวานราคากลางๆ รสชาติก็ปกติ ไม่ได้ว้าวมากมาย
แต่ที่ประทับใจ ก็คือ บรรยากาศรอบๆร้าน
ถ้ามีโอกาส แนะนำให้ลองแวะไป drop in @ เรือดำน้ำสุดชิค แค่ได้แชะและเมมโมรี่ไว้ใน IG&FB ก็ฟินกันแล้วหละค่า วันนี้ ขอลากันไปด้วยภาพ L o s T in The Miraculous L a n d... ตรงนี้เลยค่ะ

ร้านก๋วยเตี๋ยวติดแอร์ที่กำลังเป็นกระแสโด่งดังอยู่ในโคราชตอนนี้คงจะหนีไม่พ้นร้าน ก๋วยเตี๋ยวไง สาขาโคราช ซึ่งเป็นของกัปตันทีมสวาทแคท ซึ่งหลายๆ คนก็คงจะรู้จักกันดี ร้านอยู่เส้นโพธิ์กลาง เยื้องๆ กับธนาคารกรุงไทย สาขาโพธ์กลาง ร้านจะเป็นห้องแถวขนาด 2 ห้อง ด้านในติดแอร์สามารถจอดรถได้ริมถนนเลยค่ะ แต่ต้องดูวันด้วยนะคะ วันคู่ วันคี่ จอดได้ไม่ได้ ต้องระวังด้วย โดนตำรวจให้ใบสั่งไปหลายคันแล้ว หรือถ้าจะให้ดีก็ไปจอดตรงที่จอดรถของตลาดแม่กิมเฮงก็ได้ค่ะ ทางร้านจะจ่ายค่าที่จอดรถให้เอง

มาดูบรรยากาศภายในร้านกันค่ะ ภายในร้านค่อนข้างจะอัดแน่นไปด้วยที่นั่ง ที่ร้านจะใช้เป็นโต๊ะสีแดง กับเก้าอี้หัวโล้น ว่าไปแล้วก็เบือดกันเกินไปหน่อย เปิดแอร์แล้วก็ยังรู้สึกว่าไม่ค่อยเย็น อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อนและลูกค้าเยอะด้วยค่ะ แต่ทางร้านก็ได้นำพัดลมมาเปิดช่วยมาต่อกันที่เมนูของทางร้าน ก๋วยเตี๋ยวไง กันต่อค่ะ ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าขายก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวที่นี่จะเป็นน้ำต้มยำทั้งหมดนะคะ ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท 20 บาทได้อะไรบ้าง ได้เส้น กับ น้ำซุปและสามารถเลือกท็อปปิ้งต่างๆ เพิ่มได้ สำหรับเด็กอายุไม่เกิน 10 ปี ทางร้านมีก๋วยเตี๋ยวสำหรับเด็กบริการให้ฟรีค่ะ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ  ชามดำ - เครื่องที่ใส่มา  มีกุ้ง  ไข่ต้ม  ปลาหมึก  ไข่ปลาริวกิว  ลูกชิ้น  ปลาหมึก
ท็อปปิ้งที่มีให้เลือก เช่น  ปลากระพง กุ้ง กุ้งแม่น้ำ เนื้อปลาหมึก ปลากหมึกยัด กั้งกระดาน กรรเชียงปู ปูทะเลไข่ ปูม้าไข่ ปูมาเนื้อ แมงกะพรุน เอ็นหอย หอยเชลล์ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ เป็นต้น ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันไป เส้นมีให้เลือกทั้ง เส้นเล้ก เส้นใหญ่ เส้นมาม่า เส้นบะหมี่ เส้นหมี่ วุ้นเส้น และ บะหมี่หยก

น้ำซุปของที่นี่จะมี ไม่ใส่พริก เผ็ดน้อย เผ็ดปานกลางและแซ่บเวอร์

ที่ร้านมีน้ำดื่มสมุนไพรไทยแบบรีฟิลให้บริการด้วยนะคะ เราเลือกเป็นน้ำกระเจี๊ยบค่ะ รสชาติโอเคเลย ไม่หวานมากด้วย แก้กระหายได้ดีวันที่ไปทาน เราเลือกทานก๋วยเตี๋ยวแบบชามดำ ราคา 560 บาท สั่งชามนี้ควรจะมาทานกันประมาณ 3 คนเป็นอย่างน้อย เพราะเครื่องที่ได้เยอะมากๆ เราสามารถเติมเส้นและน้ำซุปได้ฟรีตลอดเลย ตรงนี้ชอบมากๆ เลย มากันเยอะๆ มาแย่งกันกินคงสนุกดี เราว่าสั่งชามเดียวคุ้มมากๆ ซีฟู้ดที่ใส่ให้มาก็เยอะและสดใช้ได้เลยค่ะ เริ่มจากกั้งกระดาน กั้งที่ใส่มาในชามนี้ ได้มา 3 ตัว หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ กรรเชียงปู ปูทะเลไข่ ปูทะเลเนื้อ กุ้งแม่น้ำ กุ้ง ปลาหมึกยัดไส้ เนื้อปลาหมึก ลูกชิ้นปลา ไข่ปลาริวกิว ไข่ต้มยางมะตูม หอยเชลล์ ไข่ชะอมทอด แมงกะพรุน เห็ดออรินจิ เห็ดเข็มทอง มากันทั้งทะเลเลยยยย เครื่องเยอะจนเลือกทานไมถูกเลย จะทานอะไรก่อนดีน๊าาปลาหมึกยัดไส้หมูสับตัวตัวๆ วางอยู่อย่างโดดเด่น ปลาหมึกตัวใหญ่พอประมาณ เนื้อเด้งๆ เคี้ยวเพลินดีค่ะ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ตัวใหญ่ๆ  3 ตัว สดดีค่ะ เวลาทานเข้าไป ทานไปเลยค่ะหนึ่งตัวเต็มๆ ไม่ต้องแบ่ง มันฟินมากนะเออไข่ต้มยางมะตูม 1 ฟอง ผ่าครึ่งมา ปูไข่ ไข่มาแบบจัดเต็ม ใส่มาให้ครึ่งตัวนี่ก็กินแบบฟินๆ แล้ว กั้งกระดาน ตัวใหญ่ๆ เลยค่ะ ใส่มาให้ 3 ตัว แต่แกะออกมาแล้ว ส่วนเนื้อที่ทานได้มีแค่นิดเดียวเอง แต่ก็อร่อยดีนะคะ เนื้อกั้งที่แกะออกมาแล้ว ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดของทางร้าน อร่อยดีค่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวไง เปิดบริการ 11.00-20.00 น. หยุดทุกวันจันทร์นะคะ ไปลองกันได้ อร่อยแบบฟินๆ ชวนเพื่อนๆ ไปนั่งกินด้วยกันยิ่งอร่อย

กลับมาอีกครั้งกับร้านกาแฟที่เราคิดว่าบรรยากาศร่มรื่นที่สุดในประเทศโคราชแล้ว มาร้านนี้เหมือนหลุดเข้ามาอีกโลกหนึ่ง เงียบ สงบ ร่มรื่น สวย สบายตา วันนี้มากันที่ร้าน 382 Space ร้านนี้เรียกว่าเป็นร้านกาแฟในสวนของแท้เลยค่ะตัวร้านจะเป็นบ้านไม้สองชั้น ด้านบนเป็นที่พักอาศัยส่วนด้านล่างเปิดเป็นร้านกาแฟค่ะ ความพิเศษของบ้านหลังนี้คือ เจ้าของบ้านสร้างบ้านหลังนี้ขึ้นมาด้วยตัวเอง เรียกว่าลงมือทำเองทุกขั้นตอน แสดงให้เห็นถึงความรักและความตั้งใจของเจ้าของบ้านมากๆ ค่ะ ตัวบ้านสวยมากๆ เลยค่ะ จะไม่สวยได้ยังไง บ้านหลังนี้ได้ขึ้นปกนิตยสาร My Home เชียวน๊าาาบรรยากาศรอบๆ ร้านจะเต็มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ มีกระรอกตัวเล็กๆ ป่ายปีนไปตามต้นไม้ ดูแล้วก็เพลินตาดี ชอบอีกอย่างคือ ร้านนี้ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่ ไม่ว่าจะนอกร้าน ในร้าน หรือรอบๆ บริเวณตัวร้าน ก็แหมมมม...อากาศออกจะดีขนาดนี้ จะให้คนอื่นมานั่งสูดกลิ่นบุหรี่เหม็นๆ ก็คงจะไม่ไหว อย่ามาทำลายอากาศบริสุทธิ์ของคนอื่นเลยค่ะ

ตัวร้านกาแฟจะแบ่งโซนออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ คือ ภายในร้าน ซึ่งจะเป็นห้องแอร์ และด้านนอกร้าน ได้นั่งแบบใกล้ชิดกับธรรมชาติมากๆ รอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้สีเขียวสบายตาโซนด้านนอกร้าน มีโต๊ะนั่งอยู่รอบๆ บริเวณร้าน ด้านข้างบ้านจะมีบ่อเลี้ยงปลา เพื่อนๆ คนไหนที่พาเด็กๆ ไป พาไปดูได้เลยนะคะ เด็กๆ น่าจะชอบ เราเองยังชอบเลย ปลาตัวใหญ่น่าตื่นเต้นดีค่ะ อยากรู้ว่าเป็นปลาอะไร ไปดูเอาเองนะจ๊ะ สุนัขก็มีหลายตัวเลยนะคะ นอนตากพัดลมอยู่รอบๆ ร้านนั่นแหละค่ะมุมไหนๆ ก็เต็มไปด้วยต้นไม้ทั้งนั้นเลย มาดูด้านในตัวร้านที่เป็นห้องแอร์ ร้านนี้จะไม่ใหญ่มากนะคะ ที่นั่งด้านในร้านจะมีโต๊ะอยู่ประมาณ 4 โต๊ะ เป็นโต๊ะใหญ่ 1 โต๊ะ และโต๊ะเล็กๆ อีก 3 โต๊ะ ที่นั่งก็ไม่ได้เป็นแบบนั่งสบายเหมือนร้านกาแฟอื่นๆ เป็นเก้าอี้ไม้ มันเป็นสไตล์และธีมของร้าน อยากนั่งสบายไปร้านอื่นค่ะ วันไหนว่างๆ เจ้าของร้านก็นั่งเล่นเปียโนให้ฟังด้วยน๊าาา ชิลอะไรเบอร์นั้นต่อกันที่บาร์เครื่องดื่มค่ะ เพื่อนๆ สามารถเดินมาสั่งเครื่องดื่มและเลือกเบเกอรี่ได้ตรงบาร์เลยค่ะ สั่งเสร็จแล้วก็จ่ายเงินเลยนะคะ แล้วก็ไปนั่งรอเครื่องดื่มได้ที่โต๊ะเลยค่ะเครื่องดื่มก็มีทั้งร้อน เย็น ปั่น เบเกอรี่ของทางร้านจะเป็นแบบโฮมเมด ราคาเครื่องดื่มค่อนข้างแรงเหมือนกันค่ะ (อันนี้ก็แล้วแต่ความคิดของแต่ละคนเน๊อะ)เบเกอรี่ มัม-เมด ที่คุณแม่ของเจ้าของร้านเป็นคนทำค่ะ เราว่าขนมอร่อยดีค่ะ เราเลือกเป็นมัฟฟินชาเขียวกับมัฟฟินส้มค่ะ กลิ่นส้มหอมมากๆ เลย ชอบๆส่วนเครื่องดื่ม เราสั่งเป็นโกโก้เย็น ราคาแก้วนี้ 75 บาท รสชาติก็ใช้ได้นะคะ แต่ไม่ค่อยเข้มข้นมากเท่าไหร่อีกแก้วเป็นกาแฟร้อนค่ะ เลือกเป็น Flat White ราคา 55 บาท กาแฟที่นี่คั่วเข้มค่ะ ใครที่ไม่ทานเข้มแนะนำให้ทานอย่างอื่นหรือใครอยากจะลองดูก็ได้นะคะใครอยากจะหลีกหนีความวุ่นวายจากในเมือง เราแนะนำร้านนี้เลยค่ะ มาพักกาย พักใจ พักสายตากัน
อ่อออ!! ปั่นจักรยานมา ลด 10 % นะคะ

เปิดบริการ: 09.30-17.00 น. (หยุดอาทิตย์-จันทร์)
ที่ตั้ง: ซอยท้าวสุระ 3 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา (ถ้ามาจากทางวัดศาลาลอย ให้ขับตรงผ่านหน้าวัดไป เจอทางแยกให้เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ เจอทางแยกให้เลี้ยวขวาค่ะ ร้านจะอยู่ด้านซ้ายมือ สามารถจอดรถได้ริมกำแพงค่ะ)
เบอร์โทรศัพท์: 095-6093082

The Mew Khao Yai ชื่อนี้อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรนัก แต่ถ้าได้แวะไปซักนิดจะสามารถสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และความสุขได้เหมือนกับเราสองคนสำหรับที่ The Mew นั้นบอกเล่าความน่ารักผ่านตัวการ์ตูนที่มีชื่อว่า Mrs. & Mr. Mew ที่โผล่มาต้อนรับพวกเราตั้งแต่หน้าร้าน ไปจนถึงข้างในร้านเลยครับ บรรยากาศที่นี่นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ร่มรื่น ด้วยตัวร้าน The Mew เองนั้น คล้ายกับ Barn House หรือบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่เป็นเหมือนกับโกดังหรือยุ้งฉางสำหรับเก็บเมล็ดพันธุ์พืช ดูเก๋ไก๋สไตล์คันทรี่ และอบอุ่นดี ที่สำคัญบรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยสวนสวยๆ ที่มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายอยู่รอบๆ เติมความสดชื่นด้วยลำธารเล็กๆ ที่ตัดผ่านหน้าร้าน ชวนให้นึกถึงธรรมชาติที่ดูร่มรื่น น่านั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ซึ่งแค่บรรยากาศก็ทำให้รู้สึกสดชื่น และเพลิดเพลินได้ดีทีเดียวครับ โดยสวนสวยๆ นี้ในช่วงเทศกาลต่างๆ ทางร้านก็จะมีการจัดกิจกรรมสนุกๆ หมุนเวียนกันไป ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด Farmer Market ที่รวมเหล่าบรรดาร้านค้าสุด Hip มารวมกันเฉพาะกิจ หรือการทำ Workshop กลางสวน ให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้มาเปลี่ยนบรรยากาศสบายๆ กลางสวนสวยๆ แห่งนี้มัวแต่พาไปดูบรรยากาศด้านนอกซะเพลิน ขอพาเข้าไปด้านในร้านกันบ้างนะครับ แม้ที่นี่จะเพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่วันที่เราไปถึงก็พบว่ามีลูกค้านั่งกันอยู่เต็มร้านแล้วครับ ดังนั้นจึงยังพอมีเวลาเดินเล่นดูความน่ารักของร้านได้สบายๆ โดยภายในร้านนั้นตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนเป็นหลัก ชวนให้นึกถึงคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ดูน่ารักน่าอบอุ่นได้เช่นกัน ที่สำคัญภายในร้านยังมีของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่น่ารักๆ วางประดับอยู่ทั่วร้าน แต่ไม่ดูเกะกะตาจนเกินไป นอกจากนี้ด้านนอกของร้านยังมีมุมสวยให้ถ่ายรูป เซลฟี่กันได้ไม่เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นชิงช้าตัวใหญ่ที่อยู่หน้าร้าน ที่สังเกตได้ว่าลูกค้าที่ทานเสร็จแล้วก็จะแวะมาแชะรูปกันทั้งนั้น รวมทั้งเราสองคนด้วย อิอิหลังจากเดินเล่นอยู่ไม่นาน ก็มีโต๊ะว่างพอดีครับ คราวนี้เลยต้องขอเปลี่ยนฟิลมาที่อาหารกันบ้างดีกว่านะครับ แม้ภายนอกจะดูเหมือนที่นี่เป็นคาเฟ่อย่าเพิ่งว่าจะมีแต่เบเกอรี่ และเครื่องดื่มเท่านั้นนะครับ ที่นี่มีของอาหารคาวให้จัดเต็มความอร่อยได้เช่นกันอย่างที่เห็นว่าที่นี่นั้นตกแต่งโดยเน้นเรื่องธรรมชาติเป็นหลักซึ่งเป็น lifestyle ที่ดูชิล รีแลกซ์ ดังนั้นอาหารของที่นี่จึงผสมผสานเรื่องสุขภาพเข้ามาเช่นกัน โดยจะนำเอาสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมายมาผสมผสานอาหารที่หน้าตาดูทันสมัย ซึ่งเรียกการผสมผสานแบบนี้ได้ง่ายๆ ว่า “Hipๆ Herbๆ” หรือดูดี แต่มีคุณประโยชน์นะครับก่อนอื่นมาเริ่มที่เมนูเบาๆ กันก่อนกับ Mew Curry Puff (90.-) กะหรี่ปั๊บที่ดูแปลกตา เพราะเป็นสไตล์ของทางร้านที่ทำให้คนทานสามารถเลือกได้ว่าชอบไส้น้อยหรือมาก ตามใจชอบเลยครับ แต่ก็ยังมีรสชาติความเป็นกะหรี่ปั๊บ เมนูขึ้นชื่อของปากช่องเป็นอย่างดีครับตามมาด้วย Mrs .Mew's Garden (260.-) สลัดสำหรับคนรักสุขภาพ ผักสด สีสันสดใส คลุกเคล้าน้ำสลัดจากทับทิมคั้นสด ได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ดีต่อสุขภาพเชียวครับต่อด้วย Homemade Herbal Fettucini White Sauce with Black Truffles (260.-) เฟตตูชินี่สมุนไพรไวท์ซอส สูตรของ The Mew ผัดเคล้ากับเห็ดทรัฟเฟิล หอมอร่อย ที่สำคัญไม่เลี่ยนด้วยครับมาถึงของหวานกันบ้างดีกว่าครับ ขอเริ่มที่เมนูเด่นประจำร้านนั่นก็คือ Homemade Scone with Three Sauces (160.-) สโคนสูตรโฮมเมด อร่อยคู่กับซอส 3 ชนิด Clotted Cream, Passion Fruit Jam และ Mixed Berry Jam ที่ชอบสุดก็เป็นซอสเสาวรสนี่แหละครับ รสเปรี้ยวนิดๆ ตัดกับตัวสโคนที่หอมนุ่มได้อร่อยลงตัวเชียวครับเมื่อได้สโคนหอมๆ อร่อยๆ ก็ต้องทานคู่กับน้ำชาดีๆ ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกหลายกลิ่นหลายรสเช่น Earl Grey Tea (180.-) ชาเอิร์ลเกรย์ ที่ทางร้านคัดสรรใบชา มาจากแหล่งชาที่มีชื่อเสียงจากหลายๆ ประเทศ ผ่านกรรมวิธีในการชงชาที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิ ระยะเวลา ปริมาณใบชา ทำให้ดึงรสชาติและกลิ่นหอมๆ ของใบชาออกมาได้ดีทีเดียว ยิ่งได้ทานคู่กับขนมอร่อยๆ ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการดื่มชาได้มากทีเดียวครับหรือจะเลือกจัดเต็มเมนูของหวานกับ Mr. and Mrs. Mew Tea Set (580.-) เซ็ตน้ำชาหอมๆ ที่มาพร้อมกับขนมและของว่างน่ารักๆ มีให้เลือกหลากหลาย เสิร์ฟขนาดพอดีคำ ที่ชอบสุดเห็นจะเป็นทาร์ตมะม่วงครับ หอมหวาน อร่อยมากๆ สำหรับเซ็ตนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำชา 2 กา ครับมาถึงเมนูเครื่องดื่มกันบ้างดีกว่า ที่ The Mew แห่งนี้มีเครื่องดื่มให้เลือกเติมความสดชื่นหลายแบบ หลายสไตล์ ถ้าชอบเครื่องดื่มร้อนก็แนะนำ Hot Cappuccino (85.-) คาปูชิโน่ร้อน ที่มาพร้อมกับลวดลายน่ารักของ Mrs. Mew ซึ่งกาแฟของที่นี่บาริสต้านั่นเบลนด์เมล็ดกาแฟเอง ทำให้ได้กาแฟที่หอม และรสชาติกลมกล่อม เพิ่มความสดชื่นได้ดีทีเดียวส่วนใครที่ชอบชาเขียวก็มี Iced Matcha Latte (115.-) มัชชะลาเต้เย็น ที่ได้รสชาติความหอมแต่ไม่หวานจนเกินไปตามแบบฉบับชาเขียวญี่ปุ่นแบบเต็มๆ ครับแต่ถ้าใครที่ไม่ชอบชา กาแฟ ก็เลือกเป็น Passion Fizz (95.-) น้ำเสาวรสโซดา รสชาติหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ นอกจากจะทำให้ชื่นใจแล้ว ยังเพิ่มวิตามินซีให้ร่างกายได้ดีด้วยนะครับสำหรับอาหารและของหวานของที่นี่บอกเลยว่ารสชาติถูกปาก บวกกับบรรยากาศและการบริการที่น่ารักของร้าน ช่วยเพิ่มเติมความสดชื่นและความสุขให้กับผู้ที่มาเยือนได้ไม่ยากเลยครับ ที่สำคัญใครที่ชื่นชอบความน่ารักของ Mrs. & Mr. Mew ก็สามารถเลือกซื้อของฝาก ของชำร่วยเล็กๆ น้อยๆ ได้นะครับ เพราะที่นี่ยังมีอีกส่วนที่เป็นเหมือนร้านค้าเล็กๆ ขายพวกสมุนไพร เครื่องดื่ม ของใช้ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ไว้ไปเป็นของฝากหรือใช้เองก็ได้นะครับเอาเป็นว่ามื้อนี้ได้รับความสุข ความน่ารักกันไปแบบเต็มๆ เพื่อนๆ คนไหนที่คิดว่าอยากไปสูตรอากาศบริสุทธิ์ที่เขาใหญ่ก็ลองแวะมาเช็คอินชิลๆ ที่ The Mew ได้นะครับ สำหรับที่นี่สะดวกสบายทั้งที่จอดรถและห้องน้ำด้วยนะครับ

วันนี้มีโอกาสได้มาทานข้าวกับครอบครัวกันที่ร้านอาหาร "ครัวเก้าคูณเก้าการ์เด้น สวนบ้านขนมไทย" ร้านนี้มีให้บริการทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง อาหารอีสานและอาหารญี่ปุ่น พร้อมทั้งมีเบเกอรี่-กาแฟสด และเครื่องดื่มต่างๆ บริการอีกด้วย มาที่เดียวครบทุกอย่าง เรียกว่า One Stop Service กันเลยทีเดียว ครัวเก้าคูณเก้ามีทั้งโซนที่เป็นห้องแอร์หรือถ้าใครชอบแบบใกล้ชิดธรรมชาติบรรยากาศร่มรื่นเปิดโล่งก็มีให้เลือกนั่งได้ตามต้องการเลยค่ะ

พิกัดและการเดินทาง:
ร้านตั้งอยู่ในซอยมิตรภาพ 4 มาจากถนนมิตรภาพขาเข้าโคราช ให้เลี้ยวเข้าตรงซอยที่มีตึกโรงรับจำนำ Easy Money สีแดงอยู่ปากซอย ตรงเข้ามา ผ่านสะพานข้ามคลอง เข้ามาเจอ iCondo เลี้ยวขวา ตรงไปเรื่อยๆ ผ่านแปลงผัก ตรงมาอีกจะเห็นป้ายทางเข้าร้านค่ะ ร้านอยู่ซ้ายมือใกล้กับอุดมทรัพย์เพลส

บรรยากาศ:
เลี้ยวซ้ายเข้ามาตามป้ายเสร็จแล้ว จะเห็นป้ายร้าน ครัวเก้าคูณเก้า ขับเข้ามาด้านในได้เลยค่ะ เมื่อผ่านเข้ามาตรงป้ายทางเข้าร้านแล้วก็หาที่จอดรถกันค่ะ  จะมีที่จอดรถอยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งก็จอดได้ไม่ถึง 10 คันนะคะ พอจอดรถเสร็จเดินเข้าไปในบริเวณร้าน จะพบกับบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ ชื่อว่า บ้านชมมณี บ้านเรือนไทยหลังนี้ส่วนใหญ่จะมีไว้จัดงานหมั้นหรืองานแต่งงานนะคะ เราไม่ได้ทานอาหารกันที่นี่ ต้องเดินเข้าไปด้านใน เดินเข้าไปไม่ไกลมาก ด้านขวามือจะเป็นร้าน Sisterly ซึ่งเป็นร้านขายเบเกอรี่และเครื่องดื่มค่ะ เดินเข้าไปอีกหน่อยจะเป็นบริเวณของร้านอาหารค่ะ จะมีบ่อน้ำขนาดไม่ใหญ่มาก อยู่ด้านซ้ายมือ มีทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านเรือนไทยกับร้านอาหารค่ะ ร้านอาหารจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนห้องจัดเลี้ยง ซึ่งเป็นห้องแอร์ จะมี 2 ห้องนะคะ เป็นห้องขนาดใหญ่ สามารถรองรับแขกที่มาที่ร้านได้ค่อนข้างเยอะ

ห้องจัดเลี้ยง A ห้องจัดเลี้ยง B และบริเวณด้านนอกซึ่งด้านซ้ายมือจะเป็นบริเวณที่นั่งที่ติดกับบ่อน้ำ และขวามือจะเป็นบริเวณที่อยู่ติดกับซุ้มอาหารญี่ปุ่น รอบๆ จะมีต้นไม้เยอะมาก ถ้าช่วงเย็นๆ อากาศดีๆ บริเวณโซนด้านนอกนี่น่านั่งมากเลยค่ะ แต่พอกลางคืนต้องระวังยุงค่ะ ทั้งต้นไม้ทั้งน้ำเลย

วันนี้ได้นั่งในห้องแอร์ด้านใน(ห้องจัดเลี้ยง A) ตรงนี้เป็นห้องที่มีอยู่นานแล้วค่ะ ด้านในก็จะประดับตกแต่งไปด้วยของสะสมของเจ้าของร้าน ยกตัวอย่างเช่น นาฬิกาโบราณ หัวกวาง หนังเสือ

เมนูอาหาร:
เมนูมีทั้งอาหารฝรั่ง อาหารไทย อาหารญี่ปุ่น อาหารจานเดียว ของหวาน เบเกอรี่ และเครื่องดื่มอาหารฝรั่งก็มีทั้ง สเต็ก สลัด พิซซ่า สปาเก็ตตี้ ซุป เมนูแนะนำ: ยำหอยแมลงภู่ชู้ตเตอร์ หมูคลุกฝุ่น ออเดิร์ฟ 9x9

อาหารที่สั่ง:
เริ่มต้นกันที่เมนู ***ต้มแซ่บกระดูกอ่อน*** (ราคา 150 บาท) มาทีไรก็สั่งแต่เมนูนี้ค่ะ ที่บ้านชอบทานกระดูกหมูกัน และอยากได้เมนูแซ่บๆ ซดคล่องๆ คอ เสิร์ฟมาในถ้วยที่ใหญ่มากๆ ค่ะ ปริมาณที่ให้มานั้นเยอะ รสชาติดี แซบ ถึงเครื่องดีค่ะ แต่กระดูกหมูยังไม่ค่อยเปื่อยเท่าไหร่ แต่รวมๆ แล้วถือว่าโอเคค่ะกระดูกหมูเพียบบ ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด สมุนไพรจัดมาเต็มมากค่ะ อร่อยดี ซดกันหมดถ้วยเมนูต่อมา ***ยำหอยแมลงภู่ชู้ตเตอร์*** (ราคา 199 บาท) เมนูนี้ทางร้านจะเสิร์ฟมาเป็นแก้วๆ นะคะ ใน 1 แก้วก็จะใส่หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ตัวใหญ่ๆ ไว้ 1 ตัว มีผัก และน้ำยำใส่มาเราเลือกมา 1 แก้ว น้ำยำของเมนูนี้ จะคล้ายๆ กับน้ำยำของ ยำถั่วพลู นะคะ รสชาติจะไม่ได้เผ็ดมาก อร่อยดีค่ะ หอยตัวใหญ่และสดดีจานต่อมา ***กุ้งชุบแป้งทอด*** (ราคา 170 บาท) จานนี้เสิร์ฟมา เราสงสัยว่านี่เมนูอะไร ที่บ้านบอก กุ้งชุบแป้งทอด คือ เรามองไม่เห็นกุ้งเลย เห็นแต่ผักชุบแป้งทอด มองๆ ดู เห็นกุ้งตัวเล็กนิดเดียว คือ ร้านแบบนี้ และ ราคาขนาดนี้ 170 บาท ไม่ได้ถือว่าถูกนะคะ กุ้งตัวเล็กเกินไปมั้ย รู้สึกเหมือนจะเอากุ้งแช่แข็งมาทำให้กินเลย คือรู้สึกไม่โอเคอย่างแรง ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป จานก็เล็กๆ ให้มาไม่เยอัต่อมา ***ยำถั่วพลูกุ้งสด*** (ราคา 130 บาท) ยำถั่วพลูมีกุ้งแช่แข็ง ปลาหมึก หมู และไข่ต้มครึ่งฟอง รสชาติโอเคนะคะ ไม่ได้เผ็ดมาก ปลาหมึกสดดี ถั่วพลูที่ใส่มาก็เยอะดีค่ะ แต่ก็ยังเป็นกุ้งแช่แข็งอยู่ดี ไม่รู้ว่าลดคุณภาพวัตถุดิบลงรึป่าว ร้านนี้เป็นร้านหนึ่งที่ถือว่าเป็นหน้าเป็นตาให้กับเมืองโคราช แขกผู้ใหญ่ก็มาทานกันเยอะ จริงๆ อยากให้รักษามาตรฐานเรื่องวัตถุดิบเอาไว้เมนูต่อมา ***ปลาทอดตะไคร้กรอบ*** (ราคา 120 บาท) จานนี้จัดจานมาสวยงาม เสิร์ฟมาในจานยาวๆ ใส่เนื้อปลาทอดมาทั้งหมด 8 ชั้น มีตะไคร้ทอดกรอบวางอยู่ด้านล่าง ราดน้ำน้ำปลามา รสชาติเค็มๆ หวานๆ แต่รู้สึกว่าจะเค็มไปหน่อย ทอดมากรอบดีค่ะ ต้องทานกับข้าวนะคะ ทานเล่นๆ ไม่ไหวเค็มเกินปลาทอดจะมีตะไคร้อยู่ด้านล่าง แต่เราว่ามันน้อยเกินไป ให้เนื้อปลามาเยอะ แต่ตะไคร้ให้มาน้อย จริงๆ ถ้าจะทานให้อร่อยมันต้องทานคู่กัน อันนี้ตะไคร้หมดก่อนเนื้อปลาจานต่อมาที่เราสั่งคือ ***พิซซ่า***(ราคา 200 บาท) คือสั่งอาหารไทยมาเยอะแล้ว เลยลองสั่งอาหารฝรั่งมาบ้าง พิซซ่าแล้วกัน เด็กๆ น่าจะทานง่ายๆ เป็นพิซซ่าแบบโฮมเมดนะคะ เป็นแป้งแบบหนานุ่ม แต่อบมาก็กรอบอร่อยค่ะ จานไม่ใหญ่มากนะคะ จานนี้อร่อยค่ะ เราชอบจานสุดท้าย ***พอร์คช้อปย่างจิ้มแจ่ว*** (ราคา 190 บาท) เนื้อหมูย่างมาสุกพอดี นุ่มกำลังดีค่ะ หั่นมาเป็นชิ้นๆ ให้เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่ว ด้านล่างมีหอมใหญ่ผัดมา หวานอร่อยดีค่ะร้านนี้จัดจานสวย รสชาติโอเคค่ะ ทานอาหารอิ่มแล้วอยากเปลี่ยนไปนั่งโซนร้านเบเกอรี่ของร้าน Sistely by บ้านขนมไทยก็ได้นะคะ ร้านอยู่ในบริเวณเดียวกันค่ะ
ขากลับ เดินออกมามาเจอกับน้องๆ ที่มาเล่นดนตรีไทยขับกล่อมให้ลูกค้าฟังด้วยค่ะ เข้ากับบรรยากาศดี เห็นทัวร์จีนมาลงทานอาหารที่นี่เยอะเหมือนกันนะคะ แต่เค้าก็แยกไปอีกห้องนึงเลย เปิด: อังคาร- อาทิตย์ 11.30 - 23.30 น.

เบอร์โทรศัพท์: 083-3681522

วันนี้พาไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือกันที่ร้าน ภ.สำเภา เค้าการันตีไว้ว่าก๋วยเตี๋ยวของร้านเค้า อร่อย!! ไม่ต้องปรุง

พิกัดร้าน:
ร้านอยู่ติดกับวัดป่าสาละวัน ทางฝั่งหนองแก้ช้าง เปิดบริการทุกวัน 09.00-17.00 น.

การเดินทางไปที่ร้าน:
ร้านนี้จะสามารถมาได้หลายทาง แต่เอาเส้นทางหลักๆ แล้วกันนะคะ
1. ถ้ามาจากทางสืบศิริ ให้ขับเข้ามาตรงถนนสืบศิริ ซอย 3 ขับตรงเข้ามา ผ่านร้านตำแก่นขอน ผ่าน กศน. จากนั้นจะเป็นทางแยกซ้ายขวาตรงกำแพงวัดป่าสาละวัน
1.1 ถ้าเลี้ยวขวา ขับตรงมานิดนึงแล้วเลี้ยวซ้ายซอยแรก (เลียบกำแพงวัด) ขับตรงมาเรื่อยๆ พอเจอสระน้ำ ให้เลี้ยวซ้าย จะเจอเจดีย์วัดป่า ตรงไปอีกนิดก็จะเจอป้ายร้านค่ะ
1.2 ถ้าเลี้ยวซ้าย ก็ให้ขับเลียบกำแพงวัดมาเหมือนกันค่ะ ให้โค้งขวาตรงร้านไก่ย่างโค้งวัดป่า มาตามทางเรื่อยๆ ค่ะ สังเกตุกำแพงวัดไว้นะคะ ขับผ่านหน้าประตูวัดมา เตรียมเลี้ยวขวาเข้าซอยตรงกำแพงวัดค่ะ ตรงมาก็จะเจอร้านก๋วยเตี๋ยว

2.ถ้ามาจากทางสำนักงานประกันสังคม (ดูจากแผนที่ประกอบเลยนะคะ) สามารถเลี้ยวได้ทั้งทางซ้ายและขวา
2.1ถ้าเลี้ยวขวามาตามถนน จะผ่านสระน้ำจรรยา พอเห็นรั้วของวัดป่าสาละวัน ให้เลี้ยวซ้ายตรงซอยก่อนหน้ารั้ววัดค่ะ ตรงเข้ามาก็จะเจอร้านอยู่ทางด้านซ้ายมือค่ะ จอดรถทางฝั่งกำแพงวัดได้ค่ะ
2.2 ถ้าเลี้ยวซ้ายมาทางสระน้ำหนองแก้ช้าง ขับตรงเข้ามาเรื่อยๆ พอเห็นสระนำ้ เพื่อนๆ สามารถขับรถมาได้ทั้งซ้ายและขวานะคะ เหมือนอ้อมสระน้ำมาค่ะ ให้มองหาเจดีย์ของวัดป่าสาละวันไว้นะคะ ร้านจะอยู่เยื้องๆ กับบริเวณนั้น สามารถจอดรถได้ตรงเจดีย์วัดป่าแล้วเดินมาที่ร้านก็ได้ค่ะ
จริงๆ ถ้าเป็นคนในพื้นที่ก็น่าจะมากันถูกค่ะ ส่วนคนต่างจังหวัดก็ถามทางมาวัดป่าสาละวันค่ะ ร้านอยู่ตรงข้ามกับเจดีย์วัดป่า

บรรยากาศร้าน:
เห็นป้ายหน้าร้านแล้ว เรารีบเดินเข้าไปที่ร้านกันดีกว่าค่ะ ไม่ใช่อะไรนะ ร้อน!! วันนี้มาช่วงบ่ายๆ แล้ว คนน่าจะซาลงบ้าง เดินเข้ามาในบริเวณร้าน ไม่ได้ถึงร้านเบยนะคะ ต้องเดินเข้ามาอีก ร้านจะอยู่ด้านในสุดเลย
มีป้ายร้านติดไว้ตรงทางเดิน เข้าไปกดไลค์เพจและติดตามข่าวสารของร้านกันได้ค่ะ มีป้ายเมนูอาหารด้วย มองแว๊บๆ ก่อนว่าจะทานอะไรดี ส่วนของร้านก๋วยเตี๋ยวค่ะ เป็นบ้านไม้ ดัดแปลงด้านล่างมาทำเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ที่นั่งทานก็จะอยู่รอบๆ บริเวณของบ้านค่ะ มีต้นไม้บ้าง แต่แดดก็ยังส่องค่ะ ร้อนนนน!!มีต้นไม้อยู่เหมือนกันค่ะ แต่ต้นยังไม่ใหญ่เท่าไหร่ 
ส่วนของเค้าน์เตอร์ปรุงอาหาร บริเวณที่นั่งค่ะ เป็นแบบโอเพ่นแอร์ทั้งหมดนะคะ ชอบโต๊ะกับเก้าอี้ค่ะ สวยดีมีตู้โชว์ของเก่าสะสมของเจ้าของร้านอยู่นิดหน่อยค่ะ
เมนูอาหาร: อาหารแนะนำของที่นี่ก็จะเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่นี่จะมีเฉพาะ "หมู" นะคะ แต่ๆๆๆ ก็ไม่ได้มีแค่ก๋วยเตี๋ยวเรือนะคะ อาหารอย่างอื่นทางร้านก็มี ไม่ว่าจะเป็น ลวกจิ้ม ข้าวซี่โครงหมูตุ๋น ข้าวหมูตุ๋น ขาไก่ตุ๋นยาจีน ของทานเล่นและก็มีเครื่องดื่มสมุนไพรไทยขายด้วย เสิร์ฟมาในขัน เกร๋ๆ มาดูอาหารกันบ้างค่ะ
ก๋วยเตี๋ยวเรือ มี 3 ไซส์ให้เลือก พิเศษ 60 บาท ธรรมดา 40 บาท และเล็ก 20 บาท ถ้าเป็นเกาเหลา 60 บาท
ลองสั่งแบบธรรมดามา ราคา 40 บาท รสชาติโอเคค่ะสั่งเพิ่มค่ะ ลองไซส์เล็กดู เล็กจริงๆ 20 บาท ต่อไป เมนูข้าว ลองสั่งข้าวซี่โครงหมูตุ๋น ราคา 60 บาท ได้กระดูกหมูตุ๋นมา 2 ชิ้น รสชาติออกหวานไปสำหรับเรา หมูยังไม่ค่อยเปื่อยเท่าไหร่เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำซุปและน้ำจิ้มสูตรของทางร้านสุดท้ายจบด้วยที่เมนู ลวกจิ้ม ราคา 120 บาท ไปตอนของใกล้จะหมดแล้ว เลยบอกทางร้านว่า เหลืออะไรก็จัดมา รสชาติจะออกหวานนะคะ อันนี้แล้วแต่คนชอบเลย กระดูกหมูถ้าเปื่อยกว่านี้จะดีมาก เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรของทางร้านกระดูกหมูตุ๋นตีนไก่ตับลวกหมูสดลวกใครอยากลองก็ตามไปชิมกันได้ค่ะ ช่วงกลางวันคนอาจจะเยอะหน่อยนะคะ

วันนี้ชวนเพื่อนๆ มาทานอาหารไทยกันที่ร้าน อยู่ เย็น เย็น ร้านเปิดมาได้ไม่กี่ปี แต่ก็มีลูกค้ามาใช้บริการอยู่กันอย่างต่อเนื่อง เป็นการนำบ้านของเจ้าของร้านมาประยุกต์และตกแต่งใหม่เป็นร้านอาหาร
พิกัดและการเดินทาง:
ร้านอยู่ เย็น เย็น ตั้งอยู่ในซอยท้าวสุระ 3/6 ร้านเปิด 11.00-21.00 น. ร้านหยุดทุกวันที่ 1 และ 15 ของทุกเดือนค่ะวิธีการเดินทาง หลักๆ สามารถเดินทางมาได้ 2 ทาง 
1. ถ้ามาจากทางวัดศาลาลอย ให้ขับรถผ่านวัดมา ตรงมาจนสุดทาง เลี้ยวขวาตามทาง จากนั้นตรงมาเรื่อยๆ พอสุดทาง จะมีกำแพงอยู่ ให้เลี้ยวซ้ายค่ะ (ถ้าเลี้ยวขวาจะไปร้าน 382 Space) หลังจากนั้นให้ตรงไปนิดนึงค่ะ จะมีทางแยก (มีป้ายชุมชนอะไรสักอย่างค่ะ จำไม่ได้) ให้เราเลี้ยวขวาไป ถ้าจำไม่ผิดจะมีร้านขายผัดไทยอยู่ตรงนั้น (ถ้าตรงไปจะไปร้านบ้านปลาจุ่ม) เลี้ยวขวาเข้าไป ขับไปไม่ไกล จะเห็นป้ายร้าน อยู่ เย็น เย็น ให้เราเลี้ยวขวาเข้าไปค่ะ มาทางนี้จำง่ายๆ ขวา ซ้าย ขวา ขวา
2. เข้ามาในซอยวัดทุ่งสว่าง จากวัดทุ่งสว่าง ขับรถผ่านหน้าวัดทุ่งสว่าง ให้เลี้ยวซ้ายตามทาง ตรงมาเรื่อยๆ เจอแยกก็ตรงมาค่ะ ทางจะเป็นทางไม่ใหญ่มากนะคะ ตรงมาจนเห็นป้ายร้าน ให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปในที่จอดรถค่ะ เส้นนี้ง่ายมากๆ ค่ะ ใครสะดวกเส้นทางไหนก็เลือกมาเส้นทางนั้นค่ะสามารถจอดรถได้ด้านหน้าร้านเลยนะคะ มีที่จอดรถอยู่พอประมาณ 

บรรยากาศ: 
ร้านจะเป็นการนำบ้านไม้ของเจ้าของร้านมาดัดแปลงเป็นร้านอาหาร เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น แต่เปิดให้บริการแค่ด้านล่างนะคะ เดินเข้ามาในร้านก็จะพบกับต้นไม้น้อยใหญ่ปลูกอยู่รอบๆ ร้าน สร้างความร่มเย็น มองแล้วสร้างความสบายตาให้กับเราบริเวณที่นั่งจะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ
***โซนด้านนอก ซึ่งจะเป็นที่นั่งแบบโอเพ่นแอร์ เปิดโล่ง ตั้งอยู่รอบๆ บริเวณบ้าน มีนกยูงด้วยนะคะ ระหว่างรออาหารพาเด็กๆ มาดูก็ได้ค่ะบรรยากาศที่นั่งด้านนอกยามค่ำคื่น เปิดไฟรอบๆ ร้าน แต่อาจจะไม่ค่อยน่านั่งนะคะ เพราะเหมือนยุงจะเยอะเลย***โซนด้านในร้าน เป็นห้องแอร์นะคะ มีโต๊ะใหญ่อยู่ 2 โต๊ะ และโต๊ะเล็กอีก 2 โต๊ะค่ะ ห้องมีมีของสะสมของเจ้าของร้านตั้งโชว์อยู่เยอะเลยค่ะ เด็กๆ ดูได้นะคะ แต่ให้ดูแต่ตา มืออย่าต้อง ของจะเสียจานช้อนที่นี่สะอาดสะอ้านดีค่ะมาดูเมนูอาหารกันค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารไทยค่ะ ครบเครื่อง ต้ม ผัด แกง ทอด ยำ หอมอร่อยในพริบตา

ป้ายแนะนำอาหารของทางร้านค่ะเมนูต่างๆ ของทางร้าน แบ่งเป็นประเภทของการทำอาหารนะคะ ดูง่ายดีค่ะเมนูยำอาหารที่สั่ง ภูมิใจนำเสนอมากเลยค่ะกับเมนูนี้ ยำส้มโอกุ้งฟู ไม่รู้จะอธิบายยังไงกับเมนูนี้ มันอร่อยมาก รสชาติพอดีเป๊ะ ทานเล่นๆ หรือจะทานกับข้าวก็ได้ มาทีไรต้องเบิ้ลตลอด มาที่นี่ต้องสั่งเมนูนี้เลยนะคะ ถ้ามาแล้วไม่สั่ง ถือว่ามาไม่ถึงร้านค่ะเมนูต่อมา ปลาทอดน้ำปลา เสิร์ฟมาพร้อมกับยำมะม่วง เนื้อปลาสดและหวานดีค่ะ ที่นี่จะแบ่งครึ่งปลาและบั้งเนื้อปลาก่อนนำไปทอดนะคะ อร่อยดีค่ะ เนื้อปลากรอบนอกนุ่มในเมนูต่อมา ปีกไก่ทอดน้ำปลา ราคา 120 บาท เมนูเป็นอีกหนึ่งเมนูเด็ดของทางร้านที่เราอยากบอกต่อ ปีกไก่ทอดมาได้กรอบ ด้านในนุ่ม หวานนิด เค็มหน่อยๆ เด็กๆ ชอบมากๆ ค่ะกับเมนูนี้ บอนชอนก็บอนชอนเถอะ 555มาดูต้มต้มไว้ซดให้คล่องคอดีกว่า เอ๊ะนี่เราแก่แล้วรึป่าว สั่งแกงส้มชะอมไข่มาค่ะ รสชาติดี น้ำแกงเข้มข้น อร่อยค่ะอีกสักเมนูกับโป๊ะแตก ซดแล้วเหมื่อแตกซิกเลย เผ็ดร้อนดีมากค่ะแกงคั่วหอยขม ให้หอยเยอะมากๆ ค่ะ แต่จานนี้เราเฉยๆ เราว่าน้ำเยอะไปหน่อย ต้องคั่วให้งวดกว่านี้ อันนี้เป็นความชอบส่วนตัวนะคะปลาหมึกผัดไข่เค็ม ราคา 140 บาท ปลาหมึกสดดีค่ะ แต่เราไม่ชอบแบบนี้ เราชอบแบบที่เอาไข่แดงเค็มไปขยี้ๆ ส่วนใครชอบแบบนี้ก็ลองสั่งทานดูนะคะจบด้วยเมนูยำค่ะ สั่งยำเห็ดเข็มทองมา รสชาติดีค่ะ อร่อย ทานเล่นๆ ก็ได้ถ้ามาโคราชแล้วอยากทานอาหารไทยๆ รสชาติดี บรรยากาศได้ แนะนำให้มาร้านอยู่ เย็น เย็น เลยค่ะ รับรองไม่ผิดหวัง

ถึงแม้ว่าโคราชจะอยู่ในภาคอีสาน ไม่ติดกับทะเลเลย แต่เราก็มีอาหารทะเลสดๆ ทานกันค่ะ เมื่อก่อนมีหลายร้านมาก แต่ตอนนี้ต่างปิดตัวลงไป หรือไม่ก็ย้ายไปอยู่ต่างอำเภอ ทั้งๆ ที่ก็เห็นมีลูกค้าเยอะตลอด แต่จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เรายังมีร้านอาหารทะเลที่ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้ และขยายสาขาเพิ่ม เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่มากขึ้น

วันนี้เราพามากันที่ร้าน "กระต่ายขาวซีฟู๊ด" ร้านอาหารซีฟู๊ด สดเหมือนยกทะเลมาไว้ที่โคราช จริงๆ แล้วร้านกระต่ายขาวซีฟู๊ดนี้มี 2 สาขานะคะ คือ สาขาชลประทาน ซึ่งเป็นสาขาแรก และเป็นสาขาที่เราจะมารีวิวกันวันนี้ ส่วนสาขาที่ 2 คือสาขาเทคโนฯ ใกล้ๆ กับคลังวิลล่า ถนนสุรนารายณ์ค่ะ

พิกัดและการเดินทาง:
ร้านตั้งอยู่บนถนนสืบศิริ ติดกับองค์การโทรศัพท์ สาขาชลประทาน ถ้ามาจากทางวัดอัมพวัน ตรงมาเข้าทางถนนสืบศิริ ข้ามแยกไฟเขียวไฟแดงอละทางรถไฟตรงตะวันแดงมา กลับรถตรงทีโอที แต่ถ้ามาจากร่วมเริงชัย ข้ามแยกไฟแดงตรงชลประทาน เจอทีโอที ก็เตรียมเลี้ยวซ้ายหาที่จอดรถได่เลยค่ะ สามารถจอดรถได้ริมถนนหรือจอดตรงที่จอดรถด้านข้างร้าน ซึ่งก็มีพื้นที่ให้จอดรถค่อนข้างเยอะเหมือนกันค่ะ บรรยากาศร้าน:
ร้านกระต่ายขาวซีฟู๊ด แต่เดิมจะเป็นร้านอาหารแบบโอเพ่นแอร์ เป็นพื้นที่เปิดโล่ง จะมีโซนที่ติดอยู่กับส่วนทำครัว โซนตรงนี้จะมีหลังคานะคะ และก็จะมีโซนด้านนอกติดกับที่จอดรถจะไม่มีหลังคา ถ้าอากาศเย็นๆ ก็นั่งรับลมชิวๆ ดีค่ะ บริเวณที่ว่างด้านบนรอบๆ ทั้งร้านจะเต็มไปด้วยเมนูอาหารต่างๆ ค่ะ นั่งทานไปดูเมนูอาหารไป ใครอยากสั่งอะไรเพิ่มก็ดูได้เลยค่ะ จริงๆ เราว่า สั่งข้าวเปล่าจาน ส่วนกับข้าวเดี๋ยวมองเมนูด้านบนเอา อันนี้ล้อเล่นนะคะ คลายเครียดตอนนี้ทางร้านมีห้องแอร์ห้องใหญ่ 2 ห้องเพิ่มขึ้นมาค่ะ อันนี้ไม่แน่ใจว่าต้องจองหรือมากันหลายๆ คนรึป่าวนะคะ ตอนที่มาก็ได้นั่งด้านนอก เพราะห้องแอร์เต็มทั้ง 2 ห้องค่ะ ที่ร้านจะมีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่ไว้ให้ลูกค้าดูค่ะ ด้านข้างจะมีบ่อปลา สามารถให้อาหารปลาได้นะคะ ปลาที่นี่จะกินถั่วฝักยาวค่ะ พนักงานที่นี่ก็มีเยอะพอสมควร โชคดีที่เจอคนขยัน เรียกปึ๊บมาปั๊บ ขออะไรก็ได้ แบบนี้มันน่าให้ทิป บางร้านอาหารอร่อยจริง แต่...พนักงานไม่สนใจ หน้าบึ้ง เรียกก็ไม่อยากจะมา อย่างนี้ทำให้ร้านเสียชื่อเสียง

เมนูอาหาร:

ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารซีฟู๊ด เรียกว่ายกทะเลมาไว้ที่นี่กันเลย ทั้งกุ้ง ปู ปลาหมึก หอย ปลา เมนูก็จะแบ่งออกตามประเภทของวัตถุดิบที่ใช้ปรุง และประเภทของอาหาร ไม่ว่าจะต้ม ผัด แกง ทอด ย่าง เผา ที่นี่มีเมนูให้เลือกทานเยอะเลยค่ะ
เมนูที่มีรูปภาพประกอบเมนูพร้อมราคาอาหาร เมนูของหวานและไอศกรีมอาหารที่เราสั่งมาทานในวันนี้

***กุ้งเผา*** มาที่นี่เราจะชอบสั่งกุ้งเผาค่ะ กุ้งสด ตัวใหญ่ มากินที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง ราคากุ้งเผาที่นี่ก็จะแพงหน่อยนะคะ เพราะทางร้านเค้าคัดแต่ไซส์ใหญ่ๆ มาไว้ให้ลูกค้าได้ทาน แต่ราคาเท่าไหร่นั้น เราก็จำไม่ค่อยได้เหมือนกันค่ะ เอาให้ชัวร์ก็ถามพนักงานที่ร้านดีกว่าค่ะ ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ดของที่นี่ คลุกกับข้าวสวย อร่อยมากๆ ***ทอดมันกุ้ง*** จานนี้ราคา 150 บาท เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วย เมนูทอดมันกุ้งนี้ก็อร่อยค่ะ เราสั่งมาให้เด็กทาน ไม่มีกลิ่นหืน เนื้อกุ้งเด้งๆ ดี ***ต้มยำรวมมิตรหม้อไฟ*** (ราคา 180 บาท) เมนูนี้เสิร์ฟมาในหม้อไฟ ทำให้อาหารร้อนอยู่ตลอด เมนูนี้จัดเต็มทั้งปู ปลาหมึก หอย กุ้ง ปลา อาหารทะเลสดค่ะ ซดน้ำแล้วรู้สึกเผ็ดร้อนมากค่ะ ใครปวดหัวเวียนหน้ามา ซดเมนูนี้เข้าไป วะ..กระโทกโชคชัย นี่คนโคราชเค้าว่ากันแบบนี้ คือ กินแล้วมันหายวิงเวียน มันโล่งงง***กุ้งอบวุ้นเส้น*** วุ้นเส้นเหนียวนุ่ม กินเล่นๆ ก็ได้นะคะ กุ้งที่ใส่มาก็สด แต่ส่วนใหญ่เราจะแย่งกันกินวุ้นเส้น ไม่กินกุ้ง***ทอดมันปลา*** (ราคา 150 บาท) เนื้อแน่น นุ่ม เด้ง ทานคู่กับน้ำจิ้มและแตงอร่อยดีค่ะ มาร้านนี้รับรองอาหารสดค่ะ ไม่มีผิดหวัง รสชาติก็ดี ใครอยากทานอาหารทะเลสดๆ แบบไม่ต้องไปไกลถึงทะเล ก็มาทานอาหารที่ร้านนี้ได้ค่ะ ลูกค้ามาใช้บริการกันค่อนข้างจะเยอะนะคะ อาจจะมีอาหารออกช้าบ้างแต่ก็พอรอได้อยู่ค่ะ