อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2014-07-15
776 วิว
เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น (อีกละ ... เปิดหัวมาทีไรก็เมื่ออาทิตย์ก่อนโน้น ... มันแปลว่าจำไม่ได้ว่าอาทิตย์ไหน เพราะมันนานมากแล้ว ฮ่ะๆๆๆๆ) เกิดอยากจะไปเที่ยว one day trip ไปเที่ยวกาญจนบุรีครับ เที่ยวเบี้ยบ้านรายทางไปเรื่อยๆ เริ่มตั้งแต่วัดพระแท่นดงรัง เขื่อนแม่กลอง วัดถ้าเสือ ชุมชนปากแพรก มาเที่ยงๆบ่ายๆ ที่สะพานข้ามแม่น้ำแควพอดีเลยครับ ก่อนที่เราจะไปเที่ยวกันต่อก็ต้องหาอะไรรองท้องกันก่อน ... ก็เค้าว่ากันว่ากองทัพต้องเดินด้วยท้องไงครับ อิอิอิ เราได้ร้านร้านหนึ่งมาจากเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่งจากห้องบลูเพลนเน็ต พี่คนนั้นบอกว่าร้านนี้วิวสวย และอยู่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแควเลยครับคีรีธารา สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรีร้านคีรีธารา อยู่ถัดไหจากสะพานข้ามแม่
คีรีธารา สะพานข้ามแม่น้ำแคว กาญจนบุรี
ร้านคีรีธารา อยู่ถัดไหจากสะพานข้ามแม่น้ำแควนิดเดียวเท่านั้นครับ จากกรุงเทพฯ ก็วิ่งตรงมุ่งหน้าสะพานข้ามแม่น้ำแคว พอถึงจังหวัดกาญจนบุรีก็ใช้ถนนแสงชูโต ซึ่งเป็นถนนเส้นยาวมากๆ ตัดผ่านสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งของจังหวัดกาญจบุรี รวมทั้งสะพานข้ามแม่น้ำแควด้วยครับ วิ่งมาตามถนนแสงชูโตแล้วจะเห็นทางแยกซ้ายเข้าไปสะพานข้ามแม่น้ำแควก่อนทางรถไฟนะครับ (ถ้าเลยทางรถไฟมาแล้วก็เลี้ยวซ้ายได้อีกครับ ตรงสุดกำแพงเมือง แต่ให้ขับตรงไปจนริมแม่น้ำแควเลยครับ) ขับตรงเข้าไปจะมีทางเลี้ยวขวาเพื่อข้ามทางรถไฟ แล้วเลี้ยวซ้ายอีกที แล้วขับตรงไปเรื่อยๆจนเจอริมแม่น้ำแควจะเป็นทางบังคับเลี้ยวขวา ร้าน คีรีธารา เป็นร้านซ้ายมือร้านที่สองนับตั้งแต่เลี้ยวขวาครับ
ที่จอดรถหน้าร้านมีไม่เยอะนักครับ สามารถจอดได้ที่จอดรถแบบเสียตังที่มีอยู่เยอะครับ (บางที่ก็ไม่ได้กำหนดค่าจอด แล้วแต่ว่าเราจะให้เท่าไหร่ครับ)
ถ้าเดินทะลุร้านไปจนถึงริมแม่น้ำแควที่นั่งบริเวณนี้จะเป็นที่นิยมของลูกค้ามากๆ ถึงจะเป็นที่นั่งแบบไม่มีแอร์แต่เป็นที่นั่งริมน้ำ มีลมเย็นๆจากแม่น้ำแควพัดมาตลอด ที่นั่งบริเวณนี้จัดเป็นชั้นๆตามความลาดของตลิ่งแม่น้ำแคว จากระดับเดียวกับตัวร้านลงไปจนถึงเป็นแพอยู่ริมแม่น้ำ (มื้อกลางวันแพยังไม่เปิดบริการเพราะแดดร้อนมากๆครับ แต่ถ้าเป็นตอนเย็นๆ ที่นั่งในแพจะเต็มก่อนครับ) และแน่นอนครับ ที่นั่งที่อยู่ใกล้น้ำจะเต็มก่อนเสมอ อิอิ
ปลารากกล้วยเป็นของขึ้นชื่อของจังหวัดกาญจนบุรีอยู่แล้วครับ ที่ร้านคีรีธาราเค้าจะเอาปลารากกล้วยมาเคล้ากับเกลือเล็กน้อยครับ แล้วจะเอาไปผึ่งแดดซักแดดนึงหรือเปล่าไม่แน่ใจ แล้วเอามาทอดให้กรอบทั่วตัว สามารถกินได้หมดตั้งแต่หัวยันหางโดยไม่มีเรื่องก้างมากวนใจเลยครับ ปลารากกล้วยทอดรสชาติเค็มๆ มันๆ ทอดมาแบบไม่อมน้ำมัน กินเล่นๆก็สนุก กินเป็นกับข้าวก็อร่อยมากๆครับ
เมนูนี้ใช้ขาหมูที่หมักเครื่องมาอย่างดี ตุ๋นให้เปื่อย แล้วเอามาทอดจนกรอบหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ แล้วเอามายำกับมะม่วงเปรี้ยวๆ มันๆ ให้มีรสแซ่บๆ เปรี้ยว มัน หวานและเค็มนิดๆ เมนูนี้เด็ดที่มะม่วงครับ เค้าใช้มะม่วงอมเปรี้ยว ใสเป็นเส้นบางๆ เวลาเคี้ยวขาหมูกับมะม่วงไปด้วยกันมันได้รสชาติกรอบๆ เผ็ดๆ เปรี้ยวๆ มันๆ มากๆครับ นอกจากนั้นความเปรี้ยวของมะม่วงยังช่วงลดความมันของขาหมูทอดได้ด้วยนะครับ
ผมไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำพริกอะไรนะครับ ออกแนวๆน้ำพริกตาแดง น้ำพริกนรกครับ ท่าทางจะเป็นน้ำพริกพื้นบ้านของจังหวัดกาญจนบุรีครับ น้ำพริกนี้ใช้พริกแห้งตำนะครับ รสจะเผ็ดซึมลึกกว่าน้ำพริกที่ใช้พริกขี้หนูสดตำ เมนูมีรสเผ็ดนำมาเลยครับ แล้วมีรสเค็มๆตามเท่านั้น ไม่มีรสเปรี้ยวเลย แบบนี้แหละครับเป็นรสชาติของน้ำพริกพื้นบ้านครับ ส่วนเครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาด้วยกันก็มีทั้งผักสด ผักต้ม แคบหมูชิ้นใหญ่ๆ และที่เข้ากันกับน้ำพริกมากๆก็คือไข่ต้มครับ สั่งเมนูน้ำพริกธารามาแล้วต้องสั่งข้าวสวยมาซักโถใหญ่ๆนะครับ กินน้ำพริกคลุกข้าวร้อนๆ มองวิวริมแม่น้ำแควไปด้วยมันช่างมีความสุขจริงๆเลยครับ
เมนูนี้นอกจากมีบร็อกโคลี่แล้วก็ยังมีแครอทในจานเดียวกันเพื่อความสวยงาม ใส่กุ้งตัวขนาดพอดีคำมาเยอะทีเดียวครับ รสชาติของเมนูนี้เค็มๆ หวานๆ ตามรสชาติของของน้ำมันหอยครับ นับว่าเป้นเมนูแก้เผดได้ดีทีเดียวครับ
เพิ่งทราบจากเพื่อนคนนึงว่าเมนูแกงป่านี่มีต้นกำเนิดที่เมืองกาญจน์นี่เองครับ เท็จจริงอย่างไรรอให้ผู้รู้จริงมาชี้แจงแถลงไขนะครับ เมนูแกงป่าไก่ไทยนี่รสแซ่บ จี๊ดมากกกกครับ เครื่องแกงป่าเข้มข้นมากๆ น้ำแกงใส่มาแบบกำลังดี ไม่ใสโจ๋งเจ๋ง ใส่ผักมาหลายหลากมากครับ ทั้งมะเขือเปราะ มะเขือพวง หน่อไม้ ฟักทอง และที่ขาดไม่ได้คือกระชายหั่นฝอยและพริกไทยอ่อนครับ หอมกลิ่นกระชายและพริกไทยอ่อนมากๆ ซึ่งเป็นกลิ่นเฉพาะของแกงป่าเลยครับ สำหรับไก่ไทย ถึงแม้เนื้อจะไม่เหนียวแน่นหนึบเหมือนไก่บ้าน แต่ก็เคี้ยวหนุบหนับๆสนุกมากๆครับ โดยเฉพาะถ้าเคี้ยวไปโดนหนังไก่นะครับ จะหนึบหนับๆ มากๆครับ
โพสต์