การดื่มชาและการชงชาถือเป็นศิลปะอันลึกซึ้งในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี ซึ่งมีประเพณีชงชาหลายขั้นตอนสืบทอดกันมาแต่โบราณ แต่ถ้าเป็นยุคปัจจุบันนี้อาจไม่สะดวกเท่าไรนัก OpenRice จึงขอรวบรวมเคล็ดลับง่ายๆ ในการชงชาให้หอมกรุ่นละมุนลิ้นเอาไว้ จะชงชาดื่มยามบ่ายเพื่อความกระปรี้กระเปร่าหรือดื่มให้ผ่อนคลายยามเย็นก็อย่าลืมลองทำตามกันดู
1. น้ำร้อน
ระดับอุณหภูมิของน้ำร้อนเป็นสิ่งสำคัญมากในการชงชา ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับชาแต่ละชนิด ถ้าเป็น ชาขาว หรือ ชาเขียว ที่ต้องการความสดใหม่ ควรใช้น้ำร้อนประมาณ 85 องศาเซลเซียส ชาอูหลง ประมาณ 90 องศาเซลเซียส ชาแดง หรือ ชาพูเอ่อร์ ประมาณ 100 องศาเซลเซียส
2. รักษาอุณหภูมิของภาชนะ
ต่อให้ต้มน้ำร้อนได้อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับชงชาแล้ว แต่ถ้ากาน้ำชาและแก้วที่ใช้ยังเย็นอยู่ เมื่อเทน้ำร้อนลงไปอุณหภูมิของน้ำก็จะลดลง ทำให้ดึงรสชาติชาออกมาได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นจึง ควรอุ่นอุปกรณ์ที่ใช้ในการชงชาก่อน ด้วยการลวกน้ำร้อน เป็นรายละเอียดและเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ควรมองข้าม
3. เลือกกาน้ำชาให้ดี
กาน้ำชาที่ดีต้องน้ำหนักเบา เก็บความร้อน รินน้ำแล้วไม่หยด เมื่อเอียงกากลับมาน้ำต้องหยุดทันที ไม่ไหลเปียกโต๊ะ และฝากาต้องแน่นหนาพอให้เมื่อรินน้ำชาแล้วฝาไม่หลุดออกมา กาน้ำชาเซรามิกบางรุ่นหนักมาก ทำให้ควบคุมปริมาณน้ำที่เทออกมาได้ยาก แถมยังไม่เก็บความร้อน กาน้ำชาที่ดีควรทำจาก Bone China ซึ่งเป็นกระเบื้องเคลือบแบบจีนชนิดหนึ่งที่มีส่วนผสมของกระดูกสัตว์
4. อย่าล้างกาน้ำชาด้วยน้ำยาล้างจาน
อย่าเพิ่งตกใจว่าแล้วอย่างนี้กาจะสะอาดได้ยังไง ที่บอกว่าไม่ควรล้างกาน้ำชาด้วยน้ำยาล้างจานเป็นเพราะกลิ่นของน้ำยาจะไปติดอยู่ที่กา ทำให้กลิ่นของชาเสียไป
เคล็ดลับในการล้างกาน้ำชาคือ ล้างด้วยมือให้สะอาด ลวกน้ำร้อนเก็บไว้ จากนั้นก่อนชงชาครั้งต่อมาก็ลวกน้ำร้อนอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นจะมีคราบชาบางส่วนติดอยู่กับกา เรียกว่ายิ่งเก๋าเหมือนคนใส่กางเกงยีนรุ่นเก่านั่นเอง บางที่ซึ่งเคร่งครัดมากๆ จะถึงขั้นใช้กาน้ำชาใบนี้ชงชาชนิดนี้เท่านั้น เพื่อไม่ให้กลิ่นชาต่างชนิดตีกัน
ขอขอบคุณผู้ให้ข้อมูล: อาจารย์ สมศักดิ์ กัณหา หนึ่งในผู้ดูแล โรงน้ำชามิตรามิตร ร้านชาในท่าพระอาทิตย์ที่พร้อมให้ทุกคนมานั่งทำงาน อ่านหนังสือ จิบน้ำชา เสวนามิตร เพื่อชีวิตอันรื่นรมย์
เช็กพิกัดร้าน โรงน้ำชามิตรามิตร ได้ที่นี่
...บทความที่เกี่ยวข้อง...