เมล็ดเจีย

เทรนด์สุขภาพ

รู้จักเมล็ดเจีย (Chia Seed)

ก่อนอื่นมารู้จักเมล็ดเจียกันก่อน เมล็ดเจีย เมล็ดเชีย หรือ Chia Seed ถูกจัดว่าเป็นพืชตระกูลเดียวกับเครื่องเทศอย่างกะเพราหรือมินต์ มีลักษณะคล้ายเม็ดแมงลักจนหลายคนสับสน ซึ่งเมล็ดเจียจะทรงรีมีสีขาวและสีดำ ส่วนแมงลักจะมีสีดำเข้ม เมื่อแช่น้ำแล้วเมล็ดเจียจะพองตัวออกสีเขียวตุ๋นๆ ด้านนอกใสๆ แต่เม็ดแมงลักเมื่อพองตัวจะออกสีขาวขุ่น โดยเมล็ดเจียนิยมปลูกในอเมริกาใต้ แต่ในประเทศไทยก็เริ่มมีการเพาะพันธุ์เมล็ดเจียเช่นกัน ตามจังหวัดลำปางและกาญจนบุรี เป็นต้น 

ประโยชน์เมล็ดเจีย

1.เต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหาร

เมล็ดเจียถือเป็นธัญพืชที่จิ๋วแต่แจ๋ว ทานเพียง 2 ช้อนโต๊ะต่อวันก็เพียงพอ โดย 1 ออนซ์ (28 กรัม) ให้พลังงาน 137 แคลอรี โดยจะได้รับสารอาหารเพียบ เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน ไขมัน รวมถึงกรดไขมันโอเมก้า 3 วิตามินต่างๆ อาทิ วิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุที่ร่างกายต้องการอย่างแคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส รวมไปถึงกรดอมิโนที่จำเป็น 18 ชนิด มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ช่วยบำรุงเซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และช่วยปรับสมดุลระบบเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ จึงนับได้ว่าเป็นธัญพืชที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประโยชน์

2.ป้องกันมะเร็งและช่วยให้ดูอ่อนเยาว์

ในเมล็ดเจียมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้ดูอ่อนวัย โดยสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยให้เซลล์ต่อสู้กับอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ แต่ที่สาวๆ สนใจคงจะเป็นเรื่องการช่วยให้ดูอ่อนเยาว์ เส้นผมแข็งแรง ผิวพรรณเนียนใส ซึ่งเมล็ดเจียก็เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งที่น่าสนใจ

3.ไฟเบอร์สูงช่วยให้กินน้อย

จะเห็นได้ว่าเมล็ดเจียมีคาร์โบไฮเดรตอยู่สูง แต่คาร์โบไฮเดรตนี้เป็นไฟเบอร์เสียส่วนใหญ่ ประโยชน์คือช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร ทั้งยังช่วยให้อิ่มนานด้วยเมล็ดที่พองออก ความอยากอาหารก็จะน้อยลงด้วย 

4.มีโปรตีนคุณภาพ

เต็มไปด้วยโปรตีนคุณภาพช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกาย ทั้งยังมีโปรตีนสูง ที่จะช่วยสร้างกล้ามเนื้อแทนที่จะเป็นไขมัน ทำให้การทานเมล็ดเจียมีผลต่อการลดน้ำหนักไปด้วย และด้วยประโยชน์นี้เองทำให้คนที่ทานมังสวิรัติหันมาบริโภคเมล็ดเจียเพื่อเพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย

5.ช่วยลดน้ำหนัก

อย่างที่เกริ่นไว้ว่าเมล็ดเจียช่วยเรื่องการลดน้ำหนักได้ดี เพราะมีไฟเบอร์สูง โดยเมล็ดเจียจะพองออก เพราะอุดมด้วยไฟเบอร์ที่ละลายน้ำได้ ถ้าบริโภคเข้าไปก็จะทำให้อิ่มนานขึ้น ทานอาหารได้น้อยลง

6.มีกรดไขมันโอเมก้า 3

เมล็ดเจียมีโอเมก้า 3 มากกว่าแซลมอนอีกนะ โดยโอเมก้า 3 ช่วยเรื่องการปรับสมดุลระบบไหลเวียนโลหิต ลดระดับคอเลสเตอรอล และไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรง ช่วยบำรุงระบบประสาทและสมอง และกรดไขมันโอเมก้า 3 ในร่างกายยังสามารถเปลี่ยนเป็นสารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) มีฤทธิ์แก้อักเสบ ป้องกันการติดเชื้อ และทำให้แผลหายเร็วขึ้น 

7.ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ

ด้วยสารอาหารต่างๆ ของเมล็ดเจีย ช่วยเรื่องการลดคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีต่อร่างกาย และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลที่ดีต่อร่างกาย ที่สำคัญช่วยลดการอ้วนลงพุงได้ด้วยนะ

8.ดีต่อผู้ป่วยเบาหวาน

เพราะเมล็ดเจียมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ ไฟเบอร์สูงจึงช่วยการรักษาสมดุลของน้ำตาลในเลือด หากเป็นผู้ป่วยเบาหวานก็ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ทั้งยังช่วยลดภาวะดื้อต่ออินซูลินได้อีกด้วย 

9.ช่วยให้กระดูกแข็งแรง

นอกจากจะมีประโยชน์ต่ออวัยวะในร่างกายแล้ว เมล็ดเจียยังมีประโยชน์ต่อกระดูกด้วยนะ เพราะมีสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อการสร้างความแข็งแรงให้กับกระดูก ทั้งแคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม และโปรตีน ซึ่งแคลเซียมในเมล็ดเจียเมื่อเทียบกันกรัมต่อกรัมจะพบว่า ให้แคลเซียมเยอะกว่าผลิตภัณฑ์นมอื่นๆ ใครที่ไม่ดื่มนมสามารถบริโภคเมล็ดเจียแทนเพื่อป้องกันโรคกระดูกพรุนได้เช่นกัน 

10.มีประโยชน์กับผู้ที่รักการออกกำลังกาย

ด้วยสารอาหารของเมล็ดเจียช่วยให้พลังงานเร่งด่วน เพราะมีโปรตีนสูง ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น และหลังจากการเสียเหงื่อ ถ้าต้องเลือกระหว่างเครื่องดื่มเกลือแร่หรือเมล็ดเจีย ขอแนะนำเมล็ดเจียค่ะ เพราะมีสารอาหารที่เยอะและไม่มีน้ำตาล แต่ถ้าต้องการดื่มเครื่องดื่มหลังการเล่นกีฬา แนะนำให้เติมเมล็ดเจียลงไปด้วยนะคะ เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่

ประโยชน์เยอะขนาดนี้สมแล้วที่ได้ชื่อว่าเป็น Super Food

ดูสูตรสมูทตี้ใส่เมล็ดเจีย

เครดิต: authoritynutrition.com