บุฟเฟ่ต์
นานาชาติ Sunday Brunch มื้อใหญ่ ณ ห้องอาหาร FLOW โรงแรม Millennium Hilton Bangkok กันไปแล้ว และยังจำได้ถึงความประทับใจของบรรดาเมนูอาหารสุดละลานตาสมกับชื่อเสียงของโรงแรม Hilton คราวนี้ขอลองไปชิม "สกาลินี วีคเอนด์ อะลาคาร์ต บรั้นช์" ณ ห้องอาหารสกาลินีScalini
โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ (Hilton Sukhumvit Bangkok) กันบ้าง บอกได้แค่ว่า ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงแรมในเครือฮิลตันแล้ว ธรรมดาไม่ได้จริงๆ
อิ่มเอมกับบุฟเฟ่ต์พรีเมียมกว่า 30 เมนู Scalini Weekend A La Carte Brunch ที่นำเสนออาหารสไตล์อิตาเลียนโฮมเมดซึ่งผสมผสานกลิ่นอายของความเป็นอเมริกัน
ห้องอาหารสกาลินี (Scalini) ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ห้องอาหารลูกครึ่ง เป็นลูกผสมระหว่างรสชาติของอาหารอเมริกันให้เข้ากับอาหารอิตาเลียนได้อย่างลงตัว
ทั้งยังเป็นห้องอาหารหลักของโรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ซึ่งคำว่า Scalini เป็นคำศัพท์ภาษาอิตาเลียน หมายถึง ขั้นบันได เพราะที่ตั้งของห้องอาหารสกาลินี ตั้งอยู่ใกล้กับบันไดวน ที่สามารถเดินขึ้นมาจากชั้นล่างของโรงแรมได้เลย
ภายในห้องอาหารสกาลินี ตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ของโรงแรม มีฉากหลังย้อนไปยังยุค 1920 ครั้งที่ชาวอิตาเลียนลี้ภัยมายังเมืองนิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา เป็นช่วงแรกๆ ที่ชาวอเมริกันได้รู้จักรสชาติอาหารอิตาเลียนที่เริ่มแพร่หลายในอเมริกา
ด้วยโทนสีเข้ม เน้นสีดำและสีน้ำตาล ทำให้ห้องอาหารดูคลาสสิก โดยเพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยลายเส้นวาดมือสีขาวเป็นรูปทิวทัศน์มหานครนิวยอร์ค
ผนังส่วนหนึ่งของห้องอาหารยังตกแต่งด้วยตู้โชว์ขวดไวน์เป็นแนวยาว แล้วนำเอาจุกไวน์มาเป็นส่วนหนึ่งของพร็อพในการตกแต่งห้องอาหาร
สำหรับอาหารเช้ามื้อสายสไตล์อิตาเลียน “สกาลินี วีคเอนด์ อะลาคาร์ต บรั้นช์” (Scalini Weekend A La Carte Brunch) เป็นอาหารสไตล์อิตาเลียน-อเมริกัน เสิร์ฟทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ราคา 2,200 บาท (บุฟเฟ่ต์รวมน้ำเปล่า ชากาแฟ และน้ำผลไม้ 2,500 บาท) ส่วนช่วงเวลาความอร่อยนั้นตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. รวม 3 ชั่วโมง ที่จะได้เต็มอิ่มกับมื้อบุฟเฟ่ต์แบบไม่ยั้ง เสิร์ฟสดใหม่กันจานต่อจานกว่า 30 เมนู
ทุกโต๊ะจะได้รับขนมปังเป็น Starter เพื่อเรียกน้ำย่อย
ต้องยอมรับเลยว่าไม่ใช่แค่ขนมปังที่อร่อยและหลากหลาย แต่ Dip ของที่นี่ก็ยังอร่อยจนเผลอทานเพลิน โดยเฉพาะ Dip ฟักทองที่อร่อยไม่เหมือนใคร
เริ่มด้วย Assorted Italian cold cuts and cheeses from Mondo ทานเล่นเพลินๆ ทั้งชีสและ cold cuts ของที่นี่ คัดสรรมาอย่างดี
ต่อด้วยสลัดผักร็อคเก็ตสดๆ Rocket salad topped with cherry tomatoes, bocconcini and infuse balsamic vinegar
สัมผัสสลัดรสชาติแปลกใหม่ Radicchio salad with beetroot, fresh prawns, mango chutney, and mustard vinaigrette สดชื่นในปากด้วยรสมะม่วงที่เพิ่มความหอมหวานให้เมนูนี้
เพิ่มความรู้สึกแบบตื่นขึ้นมากินอาหารเช้าเก๋ๆ ด้วย Vegetable Frittata on toast with tapenade and rocket salad เพิ่มพลังจัดเต็มทั้งไข่และขนมปัง
Beef Carpaccio with rocket salad and parmesan shaves ใครที่ชอบ Carpaccio ไม่ควรพลาดเมนูนี้ เพราะทานด้วยกันแล้วเข้ากันมากๆ
หากมาทาน Scalini Weekend A La Carte Brunch ต้องสั่ง Oyster Fine D‘Eclaire with caviar and Prosecco foam ซึ่งเป็น Signature Dish ของที่นี่
เมนูนี้เน้นที่ความสดของหอยนางรม ทั้งยังโรยด้วยคาเวียร์เพิ่มรสชาติ ทำให้ได้กลิ่นอายของทะเล
หนึ่งในเมนูเนื้อที่โดนใจ OpenRice Italian steak tartare prepared by the table ทั้งนุ่มเนื้อและรสชาติก็ยังกลมกล่อมทานง่าย
เอาใจ Cheese Lover ด้วย Tuscan bruschetta topped with portobello mushrooms and caprino cheese ชีสเข้มข้นมากๆ
เริ่มเข้าจานหลัก Main Affaire Event เมนูแรกที่อยากให้ลอง Orechiette pasta with pork sausage, portobello mushrooms and spicy tomato พาสต้าผัดซอสมะเขือเทศ เมนูคุ้นเคยที่พิสูจน์ฝีมือของเชฟว่าเจ๋งจริงหรือเปล่า และสกาลินีก็ทำเมนูนี้ได้อย่างเข้มข้นถูกปาก หัวใจหลักคือการคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีตั้งแต่มะเขือเทศไปจนถึงเส้นพาสต้า
ต่อด้วย Spaghetti Verrigni with seafood รสเบาๆ ทานง่าย โดดเด่นด้วยซีฟู้ดสดๆ ชิ้นโต
เมนูประทับใจอีกจาน Ferron rice risotto with pan fried foie gras ข้าวริซอตโต้ปรุงรสเข้มถูกใจมากๆ โดยมีเคล็ดลับการทำข้าวริซอตโต้ ด้วยการค่อยๆ เติมน้ำสต็อคลงไป ทำให้เม็ดข้าวออกกรุบๆ ไม่นุ่มเละ ทานกับฟัวกราส์ด้านนอกกรอบด้านในนุ่ม พูดเลยว่า ฟิน!!!
พิซซ่าก็ทำได้ดีไม่แพ้กัน Seafood pizza, calamari, tuna, salmon, prawns, onions, chili, oregano
มาถึง Roasted Australian rib eye severed with butternut puree and white mushroom sauce เป็นเมนูเนื้อเหนียวนุ่ม ที่ทำซอสออกมาได้เข้มข้นมีรสออกหวาน
ทางร้านสกาลินียังแนะนำให้ลองโรยเกลือชาเขียวลงไป ทานคู่กับเนื้อเพื่อเพิ่มความเค็มและหอมกลิ่นชาเขียวอ่อนๆ
เมนูนี้สำหรับคนที่ชอบทานหอยแมลงภู่ Sauteed black mussels wit espelette chili in white wine sauce
เมนูล็อบสเตอร์ก็มีนะคะ Refreshing pacific rock lobster wih confit potato, Kalamata olives and sauteed baby spinach
ล็อบสเตอร์เนื้อแน่นกัดแล้วเด้ง
เมนูปลากันบ้าง Seared snapper Meuniere style and capers ชอบตรงความหวานจากเนื้อปลากะพง ปรุงรสไม่มาก แต่ได้รสชาติปลาสดๆ
ปิดท้ายเมนูของคาวด้วย Slow cooked lamb ribs on truffle puree with lentils stew ซี่โครงแกะเนื้อนุ่มทานง่ายไม่มีกลิ่นสาบมากวนใจ
ถึงเวลาของหวานกันแล้ว จัดแน่น จัดเต็ม อีกเช่นเคย
ขอเพิ่มความสดชื่นด้วยชาเอิร์ล เกรย์ หอมๆ กันก่อน
หรือจะเลือกกาแฟร้อนดื่มคู่กันขณะทานขนมก็ดีไม่แพ้กัน
ก่อนไอศกรีมจะละลาย... ขอเริ่มด้วย Ice cream selection ทานคู่กับผลไม้สดๆ
ต่อด้วย Homemade Lemon Tart รสนุ่มนวลไม่เปรี้ยวโดด
หรือจะเลือกลอง Provencal strawberry tart รสละมุนทานง่าย
ถ้าชอบช็อกโกแลตต้องไม่พลาด Mom’s Chocolate cake เข้มรสช็อกโกแลต
เมนูของหวานไฮไลท์ของที่นี่ Signature Scalini Tiramisu ทีรามิสุหอมๆ เนื้อนุ่มๆ
และ Blueberry cheese cake American style ชีสเค้กสไตล์อเมริกัน เป็นเมนูสุดท้ายของวันนี้
ก่อนจากกันไป OpenRice ได้แวะเข้าไปชมในครัวของสกาลินี พบกับเชฟหลายท่านที่กำลังขะมักเขม้นปรุงอาหารอย่างพิถีพิถัน
พาสต้านำเข้าจากหลากหลายที่มาคัดแล้วว่าจะต้องใช้ของดีเท่านั้น และนอกจากเส้นพาสต้านำเข้าแล้ว ที่สกาลินีก็ยังมีพาสต้าเส้นสดที่ทำเอง มาเสริมทัพให้เมนูพาสต้าน่าสนใจขึ้นอีกด้วย
แวะเวียนมาดูวัตถุดิบขึ้นชื่อของครัวอิตาเลียน เห็ดพอร์ชินี (Porcini mushroom) ซึ่งนิยมใช้ในอาหารอิตาลีหลากหลายเมนู
ความพิเศษของเครื่องปรุงที่สกาลินีใส่ใจ เกลือหลากสีจากหลายประเทศ เช่น Smoked Salt ที่ให้กลิ่นหอมแบบรมควัน Black Salt จากฮาวาย และ Wine Salt สีแดงอมม่วงหอมกลิ่นไวน์
โฉมหน้ารองหัวหน้าเชฟ อิจิดิโอ ลาทอร์รากา Executive Sous Chef, Egidio Latorraca ที่มาจากเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี เชฟมักจะคิดค้นเมนูใหม่ๆ ให้ได้ตื่นเต้นกันอยู่ตลอด ทั้งยังมีเมนูอาหารรสชาติดั้งเดิมสไตล์อิตาเลียน เป็นสูตรลับจากครอบครัวของเชฟ ที่นำมาแบ่งปันความอร่อยให้กับทุกคนอีกด้วย ครั้งนี้เชฟยังได้โชว์ฝีมือทำ The Book ซึ่งเป็นเซอร์ไพรส์ของทางร้านให้กับแขกคนสำคัญ โดยเสิร์ฟเมนูของหวานซ่อนมาในหนังสือ
วัตถุดิบหลักที่เลือกใช้คือ Chocolate Soil ดินช็อคโกแลตที่ทำมาจากคุ้กกี้ที่เน้นโกโก้เยอะๆ ใช้เนยน้อยๆ จึงมีลักษณะเป็นผงและร่วนกว่าปกติ
เชฟอิจิดิโอ ลาทอร์รากา โชว์ผลงานศิลปะกินได้ ภายในมีทั้งคุ้กกี้และช็อกโกแลต ทั้งยังประดับประดาด้วยดอกไม้ และผล Cape Gooseberry
เพิ่มความสวยงามด้วย Chocolate Soil เท่านี้ก็ Surprise!
นอกจากบุฟเฟ่ต์อาหารเช้ามื้อสาย Scalini Weekend A La Carte Brunch แล้ว ที่ห้องอาหารสกาลินี (Scalini) โรงแรมฮิลตัน สุขุมวิท กรุงเทพฯ ยังมีโปรโมชั่นอีกเพียบ อัพเดตข้อมูลต่างๆ ได้ที่ facebook.com/ScaliniBangkok หรือสำรองที่นั่งได้ที่ 02-620 6666
บุฟเฟ่ต์เต็มอิ่มแบบฉบับพรีเมียม Scalini Weekend A La Carte Brunch