ร้านเม้าท์ทูเม้าท์ร้านนี้เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์ชิคๆยามค่ำคืนของชาวสุราฎร์ ซึ่งร้านนี้หลักๆจะมีบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอร์และอาหาร โดยอาหารจะมีอาหารหลากหลายสไตล์ ทั่งฝรั่ง ไทย และอาหารฟิวชั่น

เมื่อเข้าไปในร้าน หาที่นั่งอะไรเสร็จ จะมีพนักงานมาเสิร์ฟเกี๊ยวทอดกรอบโรยผงแซ่บๆคนละ1แก้ว เอาไว้ทานเล่นๆระหว่างรอ ขอบอกว่าเกี๊ยวนี่อร่อยมาก มีการขอเบิ้ลด้วย แต่พรักงานบางคนบอกว่าหมดแล้ว ส่วนพนักงานอีกคนเค้าเอามาให้เพิ่ม จริงๆถ้าจำกัดว่าจะให้คนละ1แก้วก็น่าจะบอกตรงๆ คือเราก็อยากทานอีกเพราะมันอร่อย จะให้สั่งแบบเสียเงินก็ยอมนะ แต่มันดันไม่มีในเมนูซะนี่

สำหรับอาหารการกินที่สั่งมาทานในวันนั้นมีดังนี้

-พล่าซาซิมิปลาแซลมอล(190฿)

อันนี้เป็นเหมือนกุ้งแช่น้ำปลาเลยค่ะ แบบมีปลาแซลมอลแล่บางๆประมาณ5-6ชิ้น วางมาบนกองผักและน้ำจิ้มแซ่บๆแบบน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติจัดจ้านแซ่บดีค่ะ แต่ราคาอาจจะสูงไปนิดนึงสำหรับเมนูนี้

-สลัดปูอัดไข่กุ้ง(150฿)

สลัดจานนี้อารมณ์แบบญี่ปุ่นๆหน่อย ผักมาเต็มจาน ด้านบนมีปูอัดฉีกฝอยและท๊อปด้วยไข่กุ้ง ทานคู่กับน้ำสลัดงาญี่ปุ่น รสชาติอร่อยดีค่ะ

-พิซซ่าสโมคแซลมอลกระเทียมย่างน้ำมันมะกอก(350฿)

จริงๆเมนูนี้ขอเค้าฮ๊าฟหน้าเป็นฮาวานเอี้ยนอีกครึ่งนึงด้วยค่ะ เพราะเพื่อนไม่ทานแซลมอล ทางร้านก็ทำให้ค่ะ น่ารักมากๆ แต่รสชาติพิซซ่าโดยส่วนตัวคิดว่านังไม่ค่อยโดนค่ะ เนื้อแป้งหน้าไปหน่อย และชีสรสชาติแปลกๆไปนิด หน้าพิซซ่าก็ดูมันเยิ้ม ทานแค่ชิ้นเดียวก็แอบเลี่ยนเบาๆค่ะ

-เครื่องดื่มสั่งเป็นมะนาวโซดาแก้วละ60บาท รสชาติเปรี้ยวจี๊ดสดชื่นดีค่ะ ส่วนเครื่องดื่มที่เหลือทานเป็นน้ำเปล่า ขวดนึงก็ราคา30บาทค่ะ

วันที่ไปไม่ได้ทานเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ค่ะ แต่ดูจากราคา ราคาเครื่องดื่มค่อนข้างสูงค่ะ

ร้ านบรรยากาศดี มีทั้งโซน indoor และ outdoor

การบริการดี พนักงานดูแอคทีฟดีค่ะ

สำหรับร้านนี้รวมๆคิดว่ารสชาติอาหารอร่อยดีนะ อาจมีบางเมนูที่ดูแปลกๆไปนิด แต่ก็อยู่ในเกณฑ์อร่อยค่ะ

สำหรับใครที่มาสุราษฎร์แล้วอยากหาร้านชิคๆนั่งแองค์เอ้าท์ยามค่ำคืนกับกลุ่มเพื่อนฝูง หรือจะมานั่งจิบเครื่องดื่มเบาๆเคล้าเสียงเพลงก็ลองแวะมาที่ร้านนี้ดูได้ค่ะ

ร้านครัวลุงมูลเป็นร้านที่ตั้งอยู่ฝั่งในบาง สถานที่ตั้งร้านดูร่มรื่น มีธรรมชาติล้อมรอบ ภายในร้านเต็มไปด้วยต้นไม้ ร้านบรรยากาศดี

ร้านจะเป็นแบบโอเพ่นแอร์ มีทั้งโซนอินดอร์และเอ้าท์ดอร์ มีที่นั่งค่อนข้างเยอะ

ส่วนอาหารก็จะเป็นอาหารไทยที่ไม่ใช่เฉพาะอาหารใต้ โดยร้านนี้มีเมนูให้เลือกค่อนข้างเยอะค่ะ

วันที่ไปทานสั่งอาหารมา4อย่างคือ

-แกงส้มปลาผักรวม รสชาติแกงส้ม(แกงเหลือง) ยังไม่ค่อยจัดจ้านแบบแกงใต้ซักเท่าไหร่ค่ะ แต่ปลาสดดี

-พล่ากุ้ง อันนี้รสชาติแซ่บจัดจ้านดีค่ะ สมุนไพรเยอะ กุ้งสดใช้ได้

-ห่อหมกทะเลมะพร้าวอ่อน ห่อหมกใส่ในลูกมะพร้าว แต่เหมือนไม่ค่อยเป็นห่อหมกซักเท่าไหร่ ราชาติเหมือนผัดเครื่องแกงทะเลซะมากกว่าค่ะ

-ปลาอินทรีย์ทอดน้ำปลา มาแบบเป็นชิ้นกลางๆ รสชาติเค็มๆอร่อยดีค่ะ

รสชาติอาหารโดยร่วมค่อนข้างอร่อย วัตถุดิบที่นำมาใช้ค่อนข้างดี ปลาสดดี แต่บางมนูก็มีไม่ค่อยถูกปากบ้าง รสชาติของทางร้านจะทำไปในทางอาหารภาคกลาง คือรสชาติจะไม่ค่อยจัดจ้านมากนัก

ราคาอาหารก็ไม่แพงมากค่ะ มีตั้งแต่หลักสิบไปยังหลักหลายร้อย ซึ่งที่แพงๆจะเป็นพวกปลาค่ะ

การบริการดีใช้ได้

ร้านนี้เป็นร้านติ๋มซำในตำนานที่อยู่คู่กับชาวสุราษฎร์มานาน โดยร้านนี้เป็นร้านที่เปิดใต้โรงแรมเสรีค่ะ

ซึ่งเป็นภาพชินตาที่ทุกๆเช้าเราจะเห็นคนแน่นร้านต้องพูดเลยว่าร้านนี้คนเยอะมากค่ะ

โดยอาหารที่นี่นอกจากจะมีติ๋มซำแล้วยังมีเมนูอาหารเช้าอื่นๆอีกเพียบค่ะ

การบริการค่อนข้างดี เจ้าของพูดจาดี เป็นกันเอง เจ้แกจะลงมาคุมเอง มาพูดคุยกับลูกค้า ลูกน้องที่ร้านเยอะพอสมควร เนื่องจากมีเมนูเยอะจึงต้องใช้คนจำนวนมากแบ่งเป็นอย่างๆไป

ร้านนี้มีติ๋มซำให้เลือกหลายแบบค่ะ แต่เมื่แก่อนรู้สึกว่าจะมีเยอะกว่านี้ นอกจากติ๋มซำแล้วที่นี่ยังมีซาลาเปาทอด มีบั๊กกุตเต้ โจ๊กปลาด้วยค่ะ

เครื่องดื่มก็มีให้เลือกหลายเมนูดีค่ะ ชาเย็นอร่อยดี เข้มข้น

ส่วนราคาอาหารก็ไม่แพงมากค่ะ ติ๋มซำเข่งละ15บาทเท่านั้น

สำหรับร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านติ๋มซำที่ชาวสุราษฎร์ยกให้เป็นร้านที่รสชาติอร่อยระดับตำนาน

ถ้าหากใครไปสุราษฎร์ แล้วกำลังมองหาร้านติ๋มซำ หรือร้านอาหารเช้าแบบตำนานก็ไม่ควรพลาดร้านนี้ค่ะ

ร้านต้นกล้วยเป็นร้านที่ตั้งอยู่หน้าโรงแรมดิโอวาเล่ย์(โรงแรมเรือ) เป็นร้านที่ขายทั้งอาหารคาวและอาหารหวานค่ะ เมนูก็มีให้เลือกค่อนข้างเยอะดี ราคาอาหารมีตั้งแต่ราคาห้าสิบบาทไปจนถึงร้อยกว่าบาท อาหารคาวรสชาติพอใช้ค่ะ ส่วนอาหารหวานรสชาติกลางๆ เครื่องดื่มก็เฉยๆค่ะ สั่งโกโก้มาทานรู้สึกว่ารสชาติยังไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่ เหมือนนมจะมีกลิ่นเล็กน้อย

ส่วนการบริการ พนักงานบริการดีมากค่ะ ดูใส่ใจลูกค้าดี

ภายในร้านดูสะอาดดีค่ะ ร้านมีทั้งโซน indoor และ outdoor ร้านเปิดให้บริการดึกถึง3ทุ่ม ปิดดึกดีค่ะ

รวมๆถือว่ารสชาติอาหารยังไม่ถึงกับอร่อยมากเท่าไหร่ค่ะ รสชาติกลางๆ ราคาก็กลางๆค่ะ

ร้านกาแฟนางเงือกชื่อดังร้านนี้เป็นร้านที่ใครๆก็รู้จัก

ซึ่งมีสาขาอยู่แทบทั่วทุกมุมโลก ในประเทศไทยก็เช่นกัน มีร้านสาขาของแบรนด์นี้ไปเปิดแทบจะทุกจังหวัดแล้วมั้งคะตอนนี้

ส่วนที่สุราษฎร์ธานีก็มีกับเค้าด้วย ซึ่งนอกจากสาขาเกาะสมุยแล้ว สตาบัคก็ยังมีอยู่ที่เซ็นทรัลพลาซ่าสุราษฎร์ฯ โดยร้านจะอยู่ชั้น1 สามารถเข้าได้ทั้งทางด้านหน้าห้างและในห้าง

บรรยากาศโดยรวมถือว่าเหมือนสาขาอื่นๆทั่วๆไปที่ไม่นับสาขาที่แต่งเป็นพิเศษค่ะ มีมุมหลายมุมให้เลือกนั่ง ไม่ว่าจะเป็นมุมเดี่ยว มุมหมู่ มุมคู่ก็มี ใครอยากนั่งตรงไหนก็เลือกนั่งตามชอบได้เลยค่ะ

ส่วนเมนูที่สั่ง ช่วงนั้นเป็นช่วงวาเลนไทน์ โดยจะมีเมนูพิเศษออกมา ส่วนตัวเป็นคนชอบลองเมนูใหม่ๆของร้านนี้อยู่แล้วค่ะ พอเมนูใหม่ออกมาก็ไม่รีรอที่จะลอง

ส่วนเมนูที่สั่งคือ

-Strawberry Red Velvet Mocha

เมนูกาแฟเบาๆที่ไม่เน้นความเข้มของกาแฟ โดยส่วนตัวปกติแล้วเป็นคนไม่ค่อยทานกาแฟเท่าไหร่ค่ะ แต่ถ้าเป็นกาแฟอ่อนๆจะทานได้ เลยเล่อกสั่งเมนูนี้ก็เพราะว่ามีส่วนผสมของกาแฟไม่เยอะนั่นเอง ซึ่งรสชาติก็จะออกไปทางช๊อคโกแลตหน่อยๆ ตัวนี้ลองสั่งมาเป็นแบบปั่นหรือแบบFrappuccinoนั่นเอง ซึ่งตัวนี้ที่พิเศษกว่าเมนูอื่นก็คือ มีเนื้อเค้กกำมะหยี่เรดเวลเวทแบบเป็นเกล็ดๆเล็กๆโรยมาในวิปปิ้งครีม รสชาติออกเปรี้ยวนิดๆ หวานหน่อยๆ อร่อยดีค่ะ โดยส่วนตัวชอบนะ

ส่วนอีกแก้วก็สั่งเป็นเมนูที่ทานประจำ นั้นก็คือ Chocolate Frappuccino นั่นเอง เป็นเมนูที่ทานบ่อยค่ะ แต่ละสาขารสชาติก็จะมีต่างกันบ้าง สำหรับสาขานี้อร่อยดีค่ะ

การบริการดีมาตรฐานสตาบัคค่ะ

สำหรับร้านนี้เป็นร้านสเต็กที่ตั้งอยู่กลางป่า จะว่าไปก็ไม่ใช่กลางป่าซะทีเดียว แต่ที่นี้เค้าตั้งใจให้ร้านมีบรรยากาศรายล้อมไปด้วยป่า มีต้นไม้สูงใหญ่ แลดูร่มรื่น อารมณ์ก็คล้ายๆในป่านั่นแหละค่ะ โดยร้านนี้จะตั้งอยู่หน้าริมถนนใหญ่ เป็นเส้นทางระหว่างสุราษฎร์-นครศรีธรรมราช โดยถ้าไม่สั่งเกตุป้ายดีๆอาจมีขับเลยได้ แต่ตอนนี้เหมือนที่ร้านเค้าจะปรับปรุงเรื่องป้ายใหญ่ใหญ่ และให้มองเห็นชัดเจนกว่าเดิมค่ะ

ร้านนี้ชื่อว่าร้านสเต็ก แต่เค้าก็ไม่ได้มีเฉพาะสเต็กนะคะ อาหารที่นี่มีค่อนข้างหลากหลาย มีเมนูอาหารไทยเยอะพอสมควร เผลอๆเหมือนจะเยอะกว่าเมนูสเต็กด้วยซ้ำค่ะ ส่วนเมนูของหวานก็มีไอศครีมโฮมเมดหลากหลายรสชาติให้เลือกทาน

คราวนี้มาพูดถึงอาหารที่สั่งมาลองทานกันบ้างดีกว่าค่ะ สำหรับเมนูที่สั่งมีดังนี้

-บ้านท่าช้างบาบีคิว(229฿)

เห็นชื่อเป็นเชื่อเดียวกับชื่อร้านเลยคิดว่าเมนูนี้ต้องเป็นเมนูเฉพาะของทางร้านแน่ๆก็เลยลองสั่งมาทานดูค่ะ ซึ่งตอนสั่งก็ได้สอบถามว่าเป็นเนื้อประเภทไหน ที่ร้านก็บอกว่าเป็นเนื้อวัวก็ยิ่งดีใจไปอีก เพราะชอบทานเนื้อมาก

เมนูนี้ดูจากราคาก็ค่อนข้างสูง แต่พอเห็นการนำเสนอก็คิดว่าราคานี้แหละ คุ้มค่ามากๆ เพราะการนำเสนอของดมนูนี้มาแบบบาบีคิวจุดไฟอลังการงานสร้างมากๆ ตอนมาเสิร์ฟลูกค้าโต๊ะอื่นก็หันมามองกันเต็มเลย แบบว่ามันดูน่าตื่นเต้นอ่า อย่างกะมีการเต้นควงกระบองไฟหยั่งไงหยั่งงั้น(555เว่อร์มาก) ส่วนรสชาตินี่ก็อร่อยดีค่ะ อาจมีเนื้อบางส่วนเหนียวๆไปย้างแต่รวมๆก็ถือว่าอร่อยค่ะ อ่อ เนื้อที่มาเสิร์ฟมีการหั่นมาเป็นชิ้นๆแล้วเสียบเหล็กยาวๆพร้อมผัก มีการราดน้ำซอสออกแนวพริกไทยดำรสชาติจัดจ้าน ในการมีขนมปัง เฟรนฟราย และสลัดมาให้ด้วย รวมๆถือว่าอร่อยคุ้มค่าสมราคามากกับเมนูนี้

-กุ้งแช่น้ำปลา(180฿) อยากทานอาหารรสแซ่บๆ เลยลองสั่งกุ้งแช่น้ำปลามาทาน สำหรับจานนี้ดูแปลกกว่าร้านอื่นๆไปซักหน่อย เพราะที่นี่เค้าจะไม่มีมะระแบบร้านอื่นแต่ใช้ก้านคะน้าแทน ส่วนน้ำจิ้มรสชาติก็แปลกพอควร ยังไม่ค่อยถึงอารมณ์แบบน้ำจิ้มซีฟู้ดรสชาติจัดจ้านแบบที่เคยทานมา ส่วนกุ้งเหมือนจะไม่ค่อยสดเท่าที่ควรค่ะ รวมๆจานนี้ยังไม่ค่อยประทบใจเท่าไหร่

-ข้าวคลุกกะปิ(70฿)จานนี้มาแบบจัดเต็มแน่นๆ ทั้งข้าวทั้งเครื่อง แทบไม่เชื่อว่าจานนี้แค่70บาท เพราะมาเต็มมากๆ ทั้งกุ้ง มะม่วง หมูหวาน ไข่เจียวที่มาแบบเป็นฟอง ไม่ใช่ไข่หั่นฝอยแบบที่เคยทานมา หมูหวานที่ว่าก็มาแบบถ้วยแน่น สั่งชามนี้มาคือคุ้มมาก รสชาติก็อร่อยเกินราคา เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ปลื้มสุดที่สั่งมาก็ว่าได้

สำหรับรสชาติอาหารโดยส่วนตัวคิดว่าอร่อยดีค่ะ ราคาก็ไม่สูงมากด้วย

ส่วนการบริการอยู่ในระดับดี แต่อาจจะมีพนักงานบางคนเฉื่อยๆไปบ้าง (คงเพราะว่าดึกแล้วมั้งคะ น้องคงเนือยๆเหนื่อยๆ)

ส่วนบรรยากาศร้านร่มรื่นดีค่ะ เหมือนทานข้าวในป่า แต่ช่วงเย็นๆค่ำๆยุงอาจจะเยอะไปหน่อย ต้องตามยาจุดกันยุง ซึ่งตอนนั้นกว่าน้องพนักงานจพมาจุดให้ก็โดนนุงรุมกินเลือดไปพอสมควรค่ะ

สำหรับร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านสเต็กที่ราคาค่อนข้างจับต้องได้ เหมาะกับครอบครัว

หากใครเดินทางไปนครแบ้วผ่านร้่นนี้ก็ลองแวะไปทานดูค่ะ ร้านนี้เค้ามีเมนูหลากหลายให้ได้เลือกทาน

โดยส่วนตัวปลื้มค่ะร้านนี้

วิวจากมุมสูงของเกาะสมุยน่าตื่นตาตื่นใจเป็นที่สุด! คงเป็นเพราะแบบนี้ถึงมีร้านอย่าง The Giant Summit
จะมาถึงร้านได้ต้องขับไต่เขาคดเคี้ยว ที่ GPS บนมือถือก็ยังร้องโอ้ยๆแล้วก็บอกว่าโนเซอร์วิส ให้มันได้ยังงี้สิ...

ร้านแบบไหนจะอยู่บนยอดเขาหนอ คิดไปพลางขับตามทางไปพลาง จริงๆมันเป็นเส้นทางเดียวดังนั้นไม่หลงหรอกค่ะ
มอเตอร์ไซค์ก็วิ่งขึ้นมาได้สบายๆ แถมยังจะดีกว่ารถด้วยซ้ำ เพราะถนนนี้มันก็ไม่ได้กว้างเท่าไหร่เลย

พอมาถึงร้านแล้วก็เข้าใจถึงคำว่า โลเกชั่นคือทุกสิ่งจริงๆค่ะ วิวที่นี่เห็นแบบพาโนราม่า เห็นป่าเห็นทะเล สวยมากๆ ทั้งๆที่ร้านสร้างด้วยไม้แบบง่ายๆ ไม่ได้มีตกแต่งอะไร แต่การตั้งมุมหน้าวิวของร้านให้เป็นที่นั่งชมวิวแบบยาวนี่เก๋มากจริงๆ เรียกว่าใช้ประโยชน์จากสถานที่โดยที่ไม่ต้องเสียสตางค์ตกแต่งอะไรให้มากมายเลยตอนที่เราไปไม่มีลูกค้ามากเท่าไหร่ ทำให้ยึดครองพื้นที่วิวสวยได้เต็มๆ สั่งเครื่องดื่มมา 2 แก้ว
- น้ำมะม่วงปั่น 140.- ใช้มะม่วงสดๆทั้งแก้ว ปั่นแบบไม่ได้ใส่โยเกิร์ต หอมมะม่วง อร่อย

- น้ำแตงโมปั่น 90.- เป็นน้ำแตงโมปั่นรสชาติเบาๆ ไม่หวานจนแสบคอ เจ้าของแก้วก็ชอบค่ะร้านขายทั้งอาหาร ขนม และเครื่องดื่ม แต่เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันแห่งการกินอันหนักหน่วง แค่น้ำผลไม้ปั่นสักแก้วก็เพียงพอกับวิวดีๆแบบนี้แล้วค่ะ

ร้านหวันตก เป็นร้านอาหารไทยริมทะเลบนเกาะสมุย ที่อยู่ค่อนข้างใกล้ท่าเรือโดยสารและอยู่ห่างไกลจากนักท่องเที่ยว
ทำให้เป็นแหล่งของคนพื้นที่ ร้านอาหารเหมาะกับคนท้องที่ และราคาไม่แพงค่ะ

เสียดายที่ไปตอนตะวันลับฟ้าไปแล้ว แต่ก็ยังได้ภาพสุดท้าย ชายหาดที่นี่ไม่สวยค่ะ ไม่เหมาะเล่นน้ำ อาหารที่นี่สดอร่อย บรรยากาศบ้านๆ ราคาไม่แพง ตอนที่ไปมีแต่คนไทยมากินทั้งน้าน
- ปลาหมึกนึ่งมะนาว
หมึกเนื้อบางไปหน่อย แต่สดมาก สมกับที่เป็นร้านบนเกาะ- ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม
ตัวเล็กไปนิด กินแปปเดียวหมดเลย เนื้อแน่นอร่อย กระเทียมหอม- แกงส้มหน่อไม้ไข่ปลา
น้ำแกงแซบสุดๆ ไข่ปลามันๆ เสียดายใส่ไข่มาน้อยไปหน่อย- ต้มข่าไก่บ้าน
จานนี้เหลือค่ะ กินไม่หมด ไม่ค่อยมีอะไรโดดเด่นสรุปว่าเป็นร้านอาหารที่เหมาะกับคอคนไทย อาหารรสจัด นั่งกินนั่งคุยสบายๆ ไม่แออัดด้วยนักท่องเที่ยว

ร้านชื่อ "กาแฟริมน้ำ" แต่จริงๆไม่ได้ขายเฉพาะแต่กาแฟนะคะ ตอนนี้เหมือนลูกค้าส่วนใหญ่จะมานั่งทานอาหาร ทานของทานเล่นกันซะมากกว่า

โดยร้านนี้แต่เดิมเป็นร้านเล็กๆที่มีโต๊ะญี่ปุ่นนั่งพื้นริมฟุตบาท แต่ตอนนี้ลูกค้าเยอะขยายร้านใหญ่โตและกว้างขวางเลยละ ที่ร้านมีดนตรีสดด้วยนะ ทานอาหารไปฟังดนตรีไปด้วยเพลินไม่น้อยเลยละ

ส่วนอาหารจองที่นี่มีให้เลือกค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว มีทั้งอาหารทานเล่น อาหารจานเดียว และเครื่องดื่ม

สำหรับเมนูที่ได้ลองทานมีดังนี้

-ยำเกี๊ยวปลา(90฿)

เมนูนี้เป็นเกี๊ยวปลาลวกนำมายำรสชาติจัดจ้านกำลังดี ตัวเกี๊ยวปลาสดดึ๋งดั๋งอร่อยดีค่ะ

-เอ็นไก่ทอด(80฿) เอ็นไก่ทอดได้กรอบดี อร่อยนะ ทานคู่กับซอสพริกที่ให้มา

-โรตีมะพร้าว (50฿) โรตีใส่ไข่ไส้มะพร้าว มะพร้าวให้มาเยอะดี แต่รสชาติยังเฉยๆ

เครื่องดื่มสั่งเป็น -โอวันติลภูเขาไฟ (40฿) โอวัลตินโรยผงภูเขาไฟไว้ด้านบน รสชาติอร่อยดีค่ะ

-แคนตาลูปปั่น(40฿) น้ำแคนตาลูปปั่นหวานๆหอมๆดีค่ะ

-แป๊ปซี่ (20฿) แป๊ปซี่นี้เป็นขวดพลาสติกค่ะ สำหรับร้านนี้เหมาะแก่การนั่งชิลล์สังสรรค์กับเพื่อนฝูงแบบสบายๆ ไม่มีพิธีรีตองมาก

ราคาอาหารกลางๆ

การบริการดี

ร้านปักกิ่งเป็นร้านขายข้าวต้มหรืออาหารรอบดึก ซึ่งร้านนี้จะเปิดช่วงเย็นไปถึงค่ำ

อาหารของที่นี่จะค่อนข้างออกไปทางอาหารจีนซะมากกว่า

ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ที่ค่อนข้างขึ้นชื่อในหมู่ผู้ที่หาร้านอาหารทานกันตอนค่ำ ตัวร้านเป็นห้องแถว1คูหา ซึ่งมีที่นั่งประมาณ6-7โต๊ะ(รวมที่นั่งด้านหน้าร้านริมฟุตบาท)

ลูกค้าของที่นี่ค่อนข้างเยอะ ไปช่วงประมาณหนึ่งทุ่ม-3ทุ่ม ลูกค้าแน่นร้านกันเลยทีเดียว

ช่วงเวลานี้จะเป็นช่วงพีคของร้านนี้มาก ถ้าสั่งอาหารแล้วก็ต้องรอนิดนึงค่ะ เพราะถ้าอยากทานของอร่อยต้องใจเย็นๆ

ร้านนมีมีเมนูค่อนข้างเยอะเลนทีเดียว โดยอาหารก็จะมีพวกข้าวต้มปลา ข้าวต้มทะเล เป๋าฮื้อน้ำแดง พล่ากุ้ง หน่อไม้ทะเลผัดกุ้ง ปลากระพงน้ำแดง เป็ดพะโล้ กุ้งแช่น้ำปลา ผัดผักบุ้ง โกยซิหมี่ หัวปลาหม้อไฟ ผัดหมี่ปู แมงกระพรุนลวก ข้าวต้มแห้ง ฯลฯ

โดยเมนูอาหารส่วนใหญ่จะออกแนวอาหารจีนและเป็นอาหารที่ทานกับข้าวต้ม

ส่วนเมนูที่สั่งมาทานคือ

-ผัดหมี่ปู (60฿) เห็นเมนูนี้เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน เลยลองสั่งมาทานดู

จานนี้เป็นหมี่เหลืองเส้นเล็กๆผัดกับปู ถั่วงอก และต้นหอม ทานร้อนๆอร่อยดีค่ะ ตัวเส้นเหนียวนุ่มดี ส่วนปูให้น้อยไปหน่อย ส่วนตัวคิดว่ามันยังไม่จุใจ อยากให้มีปูเยอะๆแล้วอัพราคาก็น่าจะเวิร์คอยู่

-เกาเหลาน้ำทะเล (100฿) เกาเหลาชามนี้เป็นเหมือนน้ำซุปข้าวต้มและใส่เครื่องปลาแต่ไม่ใส่ข้าวต้มลงไป อารมณ์ก็คล้ายๆแกงจืดปลานั่นแหละ รสชาติน้ำซุปหอมดี ส่วนปลากระพง กุ้ง ปลาหมึกสดดีเช่นกันค่ะ เมนูนี้มีน้ำจิ้มเต้าเจี้ยวมาให้ด้วยค่ะ เอาไว้จิ้มกับอาหารทะเลในเกาเหลา

สำหรับร้านนี้จะมีลูกค้าคนจีนมาทานค่อนข้างเยอะด้วยค่ะ ราคาอาหารถือว่าไม่สูงมาก อาหารอร่อยดี แต่ตัวร้านอาจจะดูเป็นแนวบ้านคนไปนิดนึง ของยังวางไม่ค่อยเป็นระเบียบเท่าไหร่ แต่รวมๆร้านนี้ก็โอเคนะ

ถ้าหากใครหิวดึกๆก็ลองแสะมาทานอาหารร้านนี้ดูค่ะ ร้านนี้อาหารอร่อย ราคาถูก คุ้มค่าสมราคามากๆ

ร้านนี้คนท้องที่แนะนำให้มาทาน ทั้งๆที่ไม่ได้อยู่ในอ.เมืองของจังหวัด ต้องขับรถมาราวๆ 15-20 กิโลเมตร เค้าก็ยังบอกว่าคุ้ม ก็เลยมาลองกันค่ะ

ทางเข้าร้านจะเป็นซอยเล็กๆที่ต้องหักขึ้นไปบนเขา ค่อนข้างชัน แต่ขึ้นไปไม่เยอะก็ถึงร้านแล้วค่ะ ช่วงเที่ยงๆคนเต็มร้าน พอถึงร้านก็เจอวิวนี้ค่ะ สวยดีเนอะ แต่ตอนนั่งกินไม่เห็นนะ ต้องไปยืนดูริมร้านภูณิศาเป็นร้านอาหารถิ่นที่เหมาะสำหรับเลี้ยงต้อนรับแขก หรือมากินข้าวชมวิว อาหารค่อนข้างรสจัด อร่อยใช้ได้เลยค่ะ แต่ราคาเราว่าแพงไปหน่อยสำหรับร้านอาหารนอกตัวเมืองแบบนี้

ทุกโต๊ะจะมีฟรีน้ำพริกกะปิกับผักแนม น้ำพริกกะปิสุดยอดมากๆค่า เสียดายให้มานิดเดียว สุดท้ายขอซื้อเพิ่มค่ะ แซ่บหลายยำสามกรอบ 150.- คิดว่าเป็นยำแบบจีนนะ มีในเมนูร้านได้ไงยังงงๆ แต่อร่อยเด็ดอีกจานค่ะ แว่บเดียวเหลือแต่จานเปล่าเนื้อปูผัดผงกะหรี่ 400.- เนื้อปูสดๆผัดแบบไม่เน้นไข่เหลืองๆแบบนี้ชอบมากๆ เอาไป 5 ดาวทอดมันภูณิศา 150.- ทอดมันไปด้วยกันกับไข่แดงได้ดีเลยเชียว เป็นอีกจานที่ชอบค่ะปลาหมึกผัดไข่เค็ม 180.- ปลาหมึกสดเนื้อแน่นมาก แต่เราไม่ชอบการผัดที่ใส่ข้าวโพดอ่อนเลย มันไม่ค่อยไปด้วยกันค่ะต้มยำรวมมิตร 250.- จานนี้เฉยๆสะตอผัดกะปิกุ้ง 150.- สะตอกรอบ กุ้งสด อร่อยมากค่ะช่วงมื้อเที่ยงลูกค้าค่อนข้างแน่นก็เลยเสิร์ฟช้า ระหว่างรอก็เดินไปถ่ายรูปวิวแม่น้ำตาปีก่อนก็แล้วกันค่ะ

แต่เตี๊ยม หรือติ่มซำ เป็นอาหารเช้าสไตล์จีนยอดนิยมทางภาคใต้ตอนล่าง มีต้นกำเนิดมาจากชาวจีนมาเลย์ ชาวจีอินโดนีเซีย ที่ทำให้วัฒนธรรมการกินของคนจีนข้ามมาอยู่จังหวัดสุราษฏร์ฯ และจังหวัดอื่นๆได้อย่างน่าทึ่ง

คำว่าแต่ หรือแต๊ แปลว่าน้ำชา ส่วนเตี๊ยม มาจากคำว่าโรงเตี๊ยม หมายถึงของกินเล่นในโรงเตี๊ยมที่กินกับน้ำชา มาจนถึงปัจจุบันนี้ไม่ใช่โรงเตี๊ยมแล้ว แต่เป็นร้านขายแต่เตี๊ยมมากมายหลายร้าน ซึ่งถ้าจะกินก็ต้องตื่นแต่เช้า เพราะสายๆติ่มซ้ำก็วายแล้วจ้า ถึงจะมีให้กินก็จะของหมดมั่งทำให้ไม่อร่อยเหมือนออกมากินเช้าๆ

เจ็กบั๊กแต่เตี้ยม เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ร้านกว้าง โต๊ะเยอะ แต่ลูกค้าก็เยอะเช่นกัน เวลามากินพอได้โต๊ะแล้วเราก็ต้องเดินไปเลือกติ่มซำ เพราะร้านจะไม่นึ่งรอไว้ ข้างๆที่สั่งติ่มซำเป็นซุ้มขายเครื่องดื่ม กาแฟ ชาเย็น มีครบ

ติ่มซำมีหลากหลายและรสชาติอร่อยดีค่ะ แปลกใจที่มีไข่ตุ๋นขายเสียด้วย ไม่ค่อยเจอนะไข่ตุ๋นในร้านติ่มซำ
ส่วนที่อยากแนะนำสุดๆคือ บักกุตเต๋ หรือเนื้อติดกระดูกหมูกับเครื่องในต้มซุปสมุนไพรจีน ร้านนี้น้ำซุปหอมอร่อยจริงๆ ถ้าใครไม่ทานเครื่องในก็สั่งไม่ใส่เครื่องในได้ค่ะ

บีชบาร์ริมหาดน่ารักๆ บรรยากาศดี บนเกาะสมุย รู้สึกว่าเราได้มาเป็นชาวเกาะจริงๆก็ตอนที่มานั่งชิลๆที่ร้านนี้นี่แหละ
ร้านนี้ต้องเป็นร้านฮิตแน่ๆ เพราะขนาดว่าเย็นวันธรรมดายังรู้สึกราวกับเล่นเก้าอี้ดนตรีหาบีนแบ็คที่ลูกค้าคนอื่นเพิ่งลุกไป ซึ่งต้องหาเองนะจ๊ะ พนักงานร้านไม่มีดูแลส่วนนี้ให้ แต่ถ้าบีนแบ็คไม่พอนั่งก็เดินไปขอเพิ่มได้

จะมาถึงร้านได้ต้องเดินทะลุ The Wharf ไปก่อน อารมณ์ก็ประมาณพลาซ่าบ้านเรานี่แหละ มีร้านอาหาร ร้านขายของ รวมๆกันอยู่ หรือจะเดินเข้าทางถนนคนเดินข้าง Fisherman Village ก็ได้ แนะนำว่ามาตอนเย็นย่ำๆกำลังพระอาทิตย์ตกจะสวยมาก แต่ถึงจะกลางคืนแล้วก็ชิวดีไม่แพ้กัน นั่งบีนแบ็คริมหาดฟังเพลงไป ดูคู่รักโต๊ะข้างๆไป เห็นว่าบางวันมีโชว์ควงไฟให้ดูด้วยมีไฟสีเขียวจากเรือไดหมึกยาวทั้งหาดเลย ก็แปลกๆดี น่าจะดีกว่าหาดมืดๆ

เมนูที่เห็นคนนิยมสั่งกันก็จะเป็นน้ำมะพร้าวลูก ค็อกเทล และชิชา ราคาก็ค่อนข้างแพงหน่อย ถือว่ากินบรรยากาศก็คุ้มSamui Colada 240.- (แก้วหลัง) มีส่วนผสมของมาลิบู มิโดริ น้ำสัปปะรดและกะทิ รสชาติก็ออกรสของมิโดริ มากที่สุด ก็เฉยๆนะกินได้อยู่

Perfection of lychee 240.- (แก้วหน้า) ติดดอกจันยาวๆเลยว่า "Probably the best cocktail in the island" แล้วก็กาดอกจันอีกสามตัว จะทนไม่สั่งได้ไงไหว ซึ่งจริงๆลิ้นจี่กับค็อกเทลเป็นอะไรที่เข้ากันได้ดีอยู่แล้ว ใช้ลิ้นจี่กระป๋อง วอดก้า และซินนามอน รสชาติเปรี้ยวอมหวานของลิ้นจี่เด่นที่สุด ถือว่าถูกใจค่ะเหมาะเป็นร้านมานั่งชิวๆกับเพื่อนฝูง จิบเครื่องดื่มไปคุยกันไป มาสมุยทั้งที เราก็ต้องการบรรยากาศแบบนี้แหละเนอะ

ร้านเดิมหมูกะทะร้านนี้ตั้งอยู่ตรงเส้นถนนโฉลกรัฐ โดยร้านจะอยู่เยื้องๆกับร้านอีสานริมบึง ร้านเดิมหมูกะทะค่อนข้างหาง่ายค่ะ เพราะตัวร้านดูค่อนข้างโดดเด่น โดยตัวร้านจะมีสีแดงสดและมีตัวอักษรชื่อร้านบิ๊กเบิ้ม ซึ่งใครผ่านไปผ่านมาก็ต้องหันไปมอง

ร้านเดิมหมูกะทะเป็นร้านบุ๊ฟเฟ่ต์ที่มีค่าใช้จ่ายต่อหัวคนละ178บาท ซึ่งราคานี้รวมเครื่องดื่มแล้วค่ะ ส่วนไลน์อาหารภายในร้านนี้โดยส่วนตัวคิดว่าน้อยไปหน่อยเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆ ซึ่งที่นี้จะมีไลน์อาหารสดที่เป็นเนื้อสัตว์ก็คือ หมู ไก่ และซีฟู้ด โดยหมูก็จะมีประมาณ4-5ชนิด คือ หมูชิ้นหมัก หมูบด แฮม เบค่อน มันหมู ส่วนไก่ก็มีพอๆกันค่ะ มีไก่ชิ้นหมักเครื่องที่แตกต่างกันไปนาวๆ3-4ชนิด ส่วนซีฟู้ดก็จะมีหอยตลับ กุ้ง ปลาหมึก ซึ่งถือว่าน้อยมากๆสำหรับไลน์อาหารซีฟู้ด และอีกอย่าง เมนูกุ้งจะไม่ค่อยมาเติมซักเท่าไหร่ ส่วนอาหารอย่างอื่นก็จะมีพวกลูกชิ้น ปูอัด ผัก และมีอาหารที่ปรุงแล้วราวๆ5-6อย่าง เช่นยำ ผัดซีอิ้ว ไก่ทอด เฟร้นฟรายดิ์ สลัดบาร์

มีน้ำจิ้ม3ชนิดให้เลือกคือ น้ำจิ้มสุกี้แบบเผ็ดและแบบธรรมดา และน้ำจื้มซีฟู้ด

ส่วนของหวานก็จะมีไอศครีม2รส ขนมหวาน และผลไม้ตามฤดูกาล 3-4ชนิด

เครื่องดื่มก็จะมีน้ำอัดลมและน้ำผลไม้แบบให้ไปกดเองและน้ำเปล่าที่ฟรี

ส่วนพวกเครื่องดื่มแอลกอฮอร์ก็จะมีค่าใช้จ่ายเพื่มเติมค่ะ

เรื่องการบริการของร้านนี้ถือว่าบริการดีนะ มีการเข้ามาต้อนรับลูกค้าดี

เรื่องบรรยากาศและทำเลที่ตั้ง ร้านนี้ได้ทำเลดีค่ะ ตั้งอยู่ริมน้ำ บรรยากาศค่อนข้างดีใช้ได้

ส่วนเรื่องความคุ้มค่าโดยส่วนตัวคิดว่าไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ค่ะ ราคา178บาท ถือว่าราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับคุณภาพอาหารและความหลากหลายของอาหาร ส่วนเรื่องรสชาติส่วนตัวคิดว่าพอใช้ค่ะ รสชาติอาหารที่ปรุงค่อนข้างจะธรรมดา

สำหรับร้านนี้เป็นร้านหมูกะทะที่ลูกค้าค่อนข้างเยอะ ถ้าไปช่วงวันหยุดอาจจะหาที่นั่งได้ยากนิดนึงค่ะ

ถ้าจะให้พูดถึงร้านอาหารเช้าในสุราษฎร์ฯ เราก็มักจะนึกถึงแต่ร้านเดิมๆ ร้านเก่าแก่ที่คุ้นเคย บางคนเลือกที่จะนั่งร้านเดิมๆเพราะคิดว่ามันดีอยู่แล้ว ถูกปากและเคยชินกับมันก็เลยเลือกทานร้านเดิมที่คุ้นเคย

แต่โดยส่วนตัวมักจะแวะไปลองทานร้านใหม่ๆอยู่เสมอเมื่อมีโอกาส ซึ่งคิดว่าบางครั้งเราอาจจะเจอร้านที่เราถูกปากถูกใจใหม่ก็เป็นไปได้

ซึ่งวันนี้ ได้มีโอกาสมาลองติ่มซำร้านใหม่ในสุราษฎร์ฯ แต่จริงๆแล้วร้านนี้เค้าเปิดมาได้ซักพักนึงแล้วละค่ะ แต่เพิ่งจะมีโอกาสกลับบ้านแล้วได้มาลองซักที ซึ่งร้านที่ว่านั้นก็คือ "ร้านสุธารส ติ่มซำ" นั่นเอง

โดยร้านนี้จะตั้งอยู่ตรงถนนดอนนก เยื้องๆกับโรงเรียนเทศบาล5 ดูจากภายนอกลักษณะร้านตกแต่งได้ทันสมัยดี ดูฉีกจากร้านติ่มซำแบบเดิมๆที่เคยเห็นมา ร้านจะออกแนวโมเดิร์นหน่อยๆ บรรยากาศร้านโล่ง โปร่ง ดูไม่อึดอัด ตัวร้านค่อนข้างใหญ่ สามารรองรับลูกค้าได้มากกว่าร้อยคน

และมีที่จอดรถยนต์อยู่ด้านหลังร้าน เพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีที่จอดรถค่ะ ส่วนถ้าใครนำรถจักรยานยนต์มาก็สามารถนำมาจอดที่ด้านหน้าร้านได้เลย

คราวนี้เรามาพูดถึงเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าค่ะ

อาหารของที่นี่ไม่ได้มีเฉพาะแค่ติ่มซำตามชื่อร้านนะคะ แต่ร้านนี้ยังมีเมนูอาหารเช้าอีกมากมายหลายอย่างให้เลือกสรร อาทิเช่น ไข่กะทะ,บะกุ๊ดเต๋,ขนมปังหน้าหมู,ชุดอาหารเช้า,หมูสเต๊ะ,โจ๊ก,ข้าวหมูทอด,ซาลาเปาทอด,เกาเหลาเลือดหมู,มะระต้มกระดูกหมู,ขนมปังปิ้ง ฯลฯ เรียกได้ว่ามีเมนูอาหารเช้าอย่างครบครัน ใครไม่โดนอย่างใดก็โดนอย่าหนึ่งบ้างละ มันเยอะซะขนาดนี้

จากที่ดูคร่าวๆในเมนูก็เกือบยี่สิบกว่ารายการได้ละ นี่ยังไม่รวมติ่มซำที่มีกว่า40ชนิดอีกนะ😱😱😱(เยอะมากๆ)

และนอกจากจะมีเมนูอาหารเช้าอย่างที่ได้บอกไปแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูเครื่องดื่มกว่า20ชนิดด้วยกัน มีทั้งร้อนทั้งเย็น เช่น กาแฟโบราณ, โอเลี้ยง, ชาดำ ,ชาโบราณ ,ชาเขียว ,นมสด,โกโก้,โอวัลติน,นมชมพู,น้ำเก๊กฮวย,กระเจี๊ยบ,ตะไคร้ใบเตย,บ๊วย ฯลฯ

เป็นไงละ แค่เห็นเมนูของร้านนี้ก็ตกใจแล้วมั้ย คือมันเยอะมาก เยอะจนแอบคิดว่าต้องมาทานกี่ครั้งถึงจะจัดให้ครบได้ทุกเมนู

เอาละคราวนี้มาดูเรื่องรสชาติอาหารที่ได้ทานกันบ้างดีกว่า

-ติ่มซำ(15฿)

ติ่มซำของที่นี่ราคาก็ไม่แพงมากค่ะ ราคาก็ตกอยู่ที่เข่งละ15บาท ติ่มซำของที่นี่จะเป็นติ่มซำสูตรจากตรัง ซึ่งแน่นนอนว่าติ่มซำของตรังเป็นอะไรที่ขึ้นเชื่อเป็นอย่างมาก โดยติ่มซำของที่นี่อย่างที่บอกไปว่ามีมากกว่า40ชนิด วันนี้ได้ลองทานเบาๆแค่ไม่กี่อย่าง ซึ่งคิดว่าครั้งหน้าจะพยายามมาลองให้ครบ

โดยติ่มซำที่ได้ลองก็จะมี ขนมจีบ ซึ่งมีทั้งขนมจีบหมูและขนมจีบกุ้ง 1เข่งจะมีขนมจีบ3ลูก ขนาดไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป ตัวขนมจีบไม่แห้งเหมือนบางร้านที่แห้งจนทำให้ดูขนมจีบเล็กและลีบ ของที่นี่ชิ้นอวบๆซึ่งด้านในอัดแน่นไปด้วยหมูสับปรุงรสที่เป็นสูตรเฉพาะของทางร้านเอง สำหรับขนมจีบร้านนี้โดยส่วนตัวคิดว่ารสชาติดีค่ะ อร่อยมาก ชอบที่สุดในติ่มซำ

เมื่อทานขนมจีบก็ต้องมีซาลาเปา และแน่นอนว่าซาลาเปาของร้านนี้เค้าก็เด็ดไม่แพ้ขนมจีบเลย โดย1เข่งจะมีซาลาเปามาให้2ลูก ลูกไม่ได้เล็กจิ๋วนะคะ ซาลาเปาของที่นี่ลูกขนาดกลางๆแต่อัดแน่นไปด้วยไส้แสนอร่อย ซึ่งมีไส้ให้เลือกหลายรสหลายไส้ด้วยกันคือ ไส้หมูสับ ไส้ครีม ไส้หมูแดง สำหรับซาลาเปาของที่นี่อร่อยไม่แพ้ใคร แป้งนุ่ม ไส้แน่น ชอบมากค่ะ ทานเพลินๆอาจมีหมดไปหลายลูกแบบไม่รู้ตัว เพราะว่ามันอร่อยจริงๆค่ะ ส่วนติ่มซำอื่นๆที่ได้ลองก็จะมี แฮมพันเห็ดเข็มทอง ไข่ม้วนเต้าหู้ไข่ กระดูกหมูน้ำแดง ปลานึ่งซีอิ้ว และอีกอันนึงไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไรค่ะ ลักษณะคล้ายๆก๋วยเตี๋ยวลุยสวน แต่ไม่ใช่ จะเป็นแผ่นแป้งสีขาวห่อเห็ดหอมสับ แครอทสับ หมูสับและถั่วงอกไว้ด้านใน สำหรับเมนูติ่มซำโดยรวมที่ได้ลองทานถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ ทางร้านใช้วัตถุดิบที่ดีมาทำ อาหารที่ออกมาเลยอร่อยค่ะ

ส่วนเมนูอื่นๆที่นอกเหนือจากติ่มซำที่ได้ลองมีดังนี้

-ไข่กะทะ(30฿)

ไข่กะทะราคาเบาๆของร้านนี้อัดแน่นไปด้วยกุนเชียง หมูสับ และผักต่างๆอย่างครบเครื่อง รสชาติอร่อยถูกปากถูกใจ เหยาะพริกไทยลงหน่อยอร่อยจนวางช้อนไม่ลงเลยทีเดียว

-บะกุ๊ดเต๋(80฿)

บะกุ๋ดเต๋ของร้านนี้ได้ยินมาว่าเค้าใช้เครื่องยาจีนอย่างดีที่สั่งมาจากหาดใหญ่ รสชาติที่ออกมาเลยอร่อยกลมกล่อม

ส่วนใหญ่ที่ได้ลองทานบะกุ๊ดเต๋เราจะเห็นแต่กระดูกหมู แต่สำหรับร้านนี้มีทั้งกระดูกหมู หางหมู เรียกได้ว่าจัดเต็มมากๆ โดยเนื้อหมูของที่นี่มีการตุ๋นจนเปื่อยกำลังดี เวลาทานจะไม่เหนียวแต่อย่างใด ส่วนตัวคิดว่าเมนูนี้อร่อยดีค่ะ น้ำซุปหอมรสชาติเข้มข้น ซดคล่องคอมากๆ เมนูนี้อร่อยไม่แพ้ร้านดังหลายๆร้านเลยค่ะ

-ชุดอาหารเช้า(หมูทอด,ฮอดดอก,ไข่ดาว,ขนมปังปิ้ง)(50฿)

ชุดอาหารเช้าชุดนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่าสมราคามากๆถ้าหากใครได้สั่ง เพราะราคาของชุดนี้แค่50บาทเท่านั้น แต่ได้ทานของอร่อยๆคุณภาพดี ไม่ว่าจะเป็นฮอดดอกชิ้นแน่นๆ5ชิ้น หมูทอดที่หมักเครื่องมาเป็นอย่างดีแล้วนำมาทอด ไข่ดาว1ฟอง ขนมปังปิ้งชิ้นโต และผักสดที่ให้มาในจานเพื่อให้จานนี้มีสารอาหารครบ5หมู่

เรียกได้ว่าชุดนี้อร่อยคุ้มค่าสมราคาจริงๆค่ะ (จานเดียวจบ) -มะระต้มกระดูกหมู(50฿)

เมนูเพื่อสุขภาพ เมนูนี้แค่ได้ยินชื่อก็อย่าเพิ่งร้องยี้ไปก่อน เพราะต้มมะระของที่นี่ไม่ได้ขมอย่างที่คิด น้ำซุปมีการเคี่ยวมาเป็นอย่างดี รสชาติจึงหวานอร่อย หมูที่อยู่ในถ้วยก็นุ่มมากๆ อร่อยดีค่ะ -โจ๊กหมูใส่ไข่(40฿)

โจ๊กเนื้อเนียนมากๆ รสชาติอร่อย หมูสับนุ่มเด้งดึ๋งดั๋ง ใส่ไข่มาด้วย ทานร้อนๆอร่อยที่สุด ปลื้มมากค่ะสำหรับเมนูนี้

ทานอาหารกันแล้วก็ต้องมีเครื่องดื่ม โดยเครื่องดื่มที่สั่งมาก็คือ -ชาเย็น(25฿)

ชาไทยสีส้มรสชาติเข้มข้น หวานมันกำลังดี เมนูนี้อร่อยค่ะ

สำหรับเรื่องรสชาติอาหารโดยรวมของร้านนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่อาหารรสชาติอร่อยไม่แพ้ร้านใดเลยทีเดียว วัตถุดิบในการนำมาใช้ปรุงอาหารค่อนข้างสดและสะอาด ส่วนตัวคิดว่าร้านนี้เป็นอีกหนึ่งร้านที่สามารถเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเพื่อต้อนรับชาวต่างชาติได้

เพราะที่ร้านมักจะมีลูกค้าชาวต่างชาติอย่างมาเล สิงคโปร์ แวะเวียนกันมาทานอยู่เป็นประจำ

เรื่องการบริการ ที่ร้านบริการดีมากๆค่ะ มีพนักงานค่อนข้างเยอะ เพียงพอสำหรับคอยให้บริการลูกค้าได้อย่างทั่วถึง

ราคาอาหารกลางๆ ไม่แพงจนเกินไป บางอย่างถือว่าถูกมากๆเมื่อเที่ยบกับรสชาติและปริมาณ

ร้านนี้ถือเป็นอีกหนึ่งร้านใหม่ที่ได้ลองแล้วประทับใจ และคิดว่าครั้งหน้าถ้ามีโอกาสจะแวะมาใหม่ เพราะอาหารของที่นี่เค้าอร่อยจริงอะไรจริง

ถ้าหากใครมีโอกาสได้แวะมาเยือนสุราษฎร์ธานี หากกำลังมองหาร้านอาหารช้าอร่อยๆ ร้านนี้น่าจะเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับคุณค่ะ