1
0
0
The nearest BTS station is Thong lor. Take exit 1, walk toward Sukhumvit Soi 53. Turn right into Soi Sukhumvit 53, then walk down about 150 meters. Bo.lan is just on your right handside. Turn right into our small pathway. 繼續閱讀
電話號碼
02-260-2962
開飯介紹
Bo.lan is founded on the belief that the best Thai restaurants should be found In Thailand. With that in mind the two chefs Duangporn Songvisava and Dylan Jones started Bo.lan. The name Bo.lan comes from Chef Duangporn’s nickname Bo and the second half of Dylan’s name Lan. It is also a play on the Thai word for vintage or ancient, which sounds the same but is spelt slightly different. Bo.lan prides itself for working closely with local farmers and feels that it has a social responsibility to the local community. Bo.lan advocates the use of bio diversified produce and this is reflected in the ever-changing menu. Bo.lan is constantly trying to lessen its environmental impact with the goal of achieving a zero carbon restaurant by 2018. 繼續閱讀
獎項殊榮
米芝蓮一星餐廳 (2018-2020), 2013-2020年亞洲最佳餐廳
特色
家庭親子
慶祝紀念日
營業時間
今日營業
18:00 - 23:00
星期一至日
18:00 - 23:00
付款方式
Visa Master AMEX Cash Others
其他資料
米芝蓮餐廳
泊車
電話訂位
座位數目 (空調)
前往餐廳網站
http://www.bolan.co.th
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
食評 (1)
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ได้รับโอกาสสุดพิเศษ ไปร่วมดินเนอร์จับคู่เบียร์กับอาหาร  (ฺ Beer Paring ) ที่น่าประทับใจมากๆ ค่ะ  ถือเป็นการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในโลกของ Craft Beer และอาหารไทย ได้อย่างน่าจดจำDinner ครั้งนี้จัดโดยผู้นำเข้าคราฟท์เบียร์  "Beervana"  และร้านอาหารไทยที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอย่าง "โบลาน" (Bo.lan)รีวิวนี้ขอโฟกัสไปที่เรื่องอาหารนะคะ เนื่องจากส่วนตัวยังไม่เชี่ยวชาญเรื่อง craft beer และไม่อยากเขียนเชียร์เครื่องดื่มมึนเมาให้ชาว Openrice ที่เป็นเยาวชนค่ะ  ร้านโบลาน มีความเป็นมาที่น่าสนใจไม่น้อยค่ะ  ร้านก่อตั้งขึ้นในปี 2552 โดยคุณโบ ดวงพร และคุณดิลลัน โจนส์  คุณโบจบการศึกษาด้านโภชนศาสตร์จากออสเตรเลีย และมีประสบการณ์ทำงานในร้านอาหารไทยมาก่อน ได้รับยกย่องให้เป็นเชฟหญิงที่ดีที่สุดในเอเชียเมือปี 2556 ส่วนคุณดิลลันเริ่มต้นอาชีพเชฟในประเทศออสเตรเลีย บ้านเกิด  และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ด้านอาหารจากลอนดอน จนหลงรักอาหารไทย และเริ่มก่อตั้งร้านอาหารไทย โบลาน ร่วมกันคุณโบ ในที่สุด ปรัชญาของโบลาน คือใช้วัตถุดิบที่มีในประเทศไทย อาหารจะปรับเปลี่ยนวัตถุดิบตามฤดูกาล โดยจะเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดเท่านั้น เพื่อคงไว้ซึ่งการปรุงและรสชาติแบบไทยไทย และรักษาวัฒนธรรมทางอาหารไทยเอาไว้สืบไปปัจจุบันร้านตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 53 เข้าซอยไปประมาณ 100 ม. ร้านอยู่ขวามือ ( ย้ายจากสุขุมวิท 26 เดิม )บรรยากาศ แสงไฟ และเฟอร์นิเจอร์แบบไทยๆ  กลมกลืนไปกับเซทติ้งบนโต๊ะอาหาร ที่ถูกจัดเตรียมไว้สำหรับ private dinner ในค่ำคืนนี้ได้อย่างงดงามและลงตัวมากค่ะ  รายการอาหารสำหรับค่ำคืนนี้ค่ะ แบ่งออกเป็น 6 คอร์สด้วยกัน  โดยแต่ละคอร์สจะจับคู่กับเบียร์ 1 ชนิด จาก Stone Brewing Co. (เป็น craft beer ที่สุดยอดมากจากอเมริกา แต่ละตัวจะมีกลิ่นหอมเฉพาะที่แตกต่างกันไป )คอร์สแรกจะเป็นเบียร์ Stone Delicious IPA  ดื่มเรียกน้ำย่อยค่ะ เป็น  free flow เติมได้ไม่อั้นเริ่มคอร์สที่สองกันด้วยอาหารเรียกน้ำย่อยพอดีคำ  "Bolan Amuse Bouche"   หน้าตาอาจจะฟิวชั่น แต่รสชาติไม่ฟิวชั่นค่ะ จัดว่าเป็นรสชาติไทยแท้ๆ   คำแรกเป็นพล่าปลาหมึก รสชาติจัดจ้านแบบไทยแท้ เผ็ดเปรี้ยวโดดเด่นมาก ไม่ต้องเอาใจฝรั่งกันเลยทีเดียว  ซึ่งตรงจุดนี้ขอชื่นชมที่สามารถสร้างความประทับใจตั้งแต่คำแรก  เพราะแขกส่วนใหญ่ของร้านและแขกในงานวันนั้นเป็นฝรั่งเกือบทั้งหมด  แต่ทางร้านไม่ได้ตัดทอนรสชาติอาหารไทยให้ผิดเพี้ยนเพื่อชาวต่างชาติ อย่างที่ร้านอาหารไทยที่มีลูกค้าเป้าหมายเป็นต่างชาติทำคำที่สองเป็น น้ำพริกปลาย่าง คำนี้ไม่ค่อยโดดเด่นค่ะ  รสชาติธรรมดาไม่มีอะไรให้น่าจดจำคำที่สามเป็น เนื้อแกะคลุกเม็ดผักชีและยี่หร่าทอด ราดน้ำยำถั่วตัด  เนื้อแกะมีกลิ่นนิดหน่อย คอร์สที่สาม เป็นขนมจีนน้ำเงี๊ยวแบบเหนือ+ของแนม   จานนี้ให้อารมณ์แบบทานเป็นซุป ในมื้ออาหารฝรั่งค่ะ วัตถุดิบสด ขนมจีนทานง่ายไม่มีกลิ่น  ตัวน้ำเงี๊ยวรสกลมกล่อมไม่จัดจ้าน พอทานพร้อมเครื่องเคียงทุกอย่างจะได้รสชาติที่ลงตัว คอร์สที่ 4 เป็นกับข้าว 5 อย่าง เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยออร์แกนิค มีให้เลือกทั้งข้าวขาวและข้าวกล้องค่ะจานแรกเป็นยำมะเขือยาวย่างใส่กุ้งใหญ่ และไข่ออร์แกนิคยางมะตูม  โดยรวมรสชาติดี กลมกล่อม ทานคู่กับไข่ยางมะตูมและกุ้งแห้งป่นแล้วอร่อยมาก  มีตินิดเดียวตรงที่มะเขือย่างน่าจะมีกลิ่นหอมของผิวที่ถูกไฟย่างจนไหม้นิดๆ ได้เด่นชัดกว่านี้ และกุ้งใหญ่นั้นค่อนข้างแข็งและแห้งไปนิดนึงค่ะกับข้าวจานที่สองเป็น แสร้งว่าปลา แนมด้วยตับไก่ย่าง ปลาฟู และผักพื้นบ้านเกษตรอินทรีย์ตัวแสร้งว่าออกเปรี้ยวโดดไปเล็กน้อย ส่วนปลาฟูเหนียวและชืดเกินไป ตับไก่สุกกำลังดี ส่วนผักพื้นบ้าน present ได้สวยงามน่าทาน และน่าชื่นชมในความพยายามจานที่ 3  "งบปลา"  จานนี้ทำได้ดีมากๆ ค่ะ มอบดาวให้ล้านดวง  (งบปลาจะคล้ายๆ กับห่อหมก) รสชาติเข้มข้น จัดจ้าน แต่ลงตัว รสสัมผัสของปลาและกะทิแสนนุ่มนวล ทานแล้วได้กลิ่นของเครื่องเทศหลักอย่างกระชาย ผสานกับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของใบตองที่่ใช้ห่อ  ยิ่งทานกับข้าวกล้องร้อนๆ เข้ากันอย่างที่สุดกับข้าวจานต่อมาเป็น "หมูผัดน้ำพริกกุ้งแห้ง"  หมูชิ้นโตผัดกับน้ำพริกกุ้งแห้งและหอมเจียว  ผัดมาได้ดีทีเดียวค่ะ แห้งกำลังดี แต่เนื้อหมูยังคงความชุ่มฉ่ำอยู่ เครื่องเคราอย่างหอมเจียวและกุ้งแห้งใส่มาแบบไม่ยั้ง รสชาติก็แสนจะกลมกล่อม อร่อยมากๆ ค่ะจานนี้ ปิดท้ายกับข้าวสำรับนี้ด้วย  "แกงจืดฟักไก่มะนาวดอง" อาจจะดูธรรมดาไปนิด แต่ก็ช่วยทอนความเผ็ดร้อนของกับข้าวจานอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี  ฟักนิ่มได้ที่ น้ำแกงรสละมุน หอมมะนาวดองชัดเจน  ถือว่าไม่มีอะไรให้ติค่ะคอร์สที่  5 เป็นของหวานล้างปาก "Palate Cleanser"  วันนี้ทางโบลาน เสิร์ฟเป็น "ทับทิมกรอบ" ค่ะpresentation ทำได้ดี เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง  แต่ส่วนตัวเราค่อนข้างผิดหวังในรสชาติโดยรวม  น้ำเชื่อมหวานมากๆ ส่วนน้ำกะทิที่พนักงานเสิร์ฟราดลงด้านบนเมื่อยกมาเสิร์ฟ น่าจะเค็มมันมากกว่านี้  เมื่อคนน้ำเชื่อมและน้ำกะทิรวมกันแล้ว รสชาติยังไม่ลงตัวค่ะ  คอร์สสุดท้าย"Petiti fours"  หรือ ขนมหวานไทยอย่างแห้ง 4 ชนิดค่ะ  ได้แก่ทอฟฟี่ถั่วกะทิ ข้าวเกรียบว่าว วุ้นกรอบ และกระยาสารท   โดยรวมเป็นขนมที่เฉยๆ สำหรับคนไทยอย่างเรามาก  แต่จัดวางมาได้สวยงาม น่าสนใจ น่าจะเป็นที่ถูกใจของผู้ร่วมงานที่เป็นต่างชาติไม่น้อยค่ะเป็นอันปิดมื้ออาหารที่น่าตื่นเต้นนี้ไปอย่างประทับใจ  craft beer กับอาหารไทยชั้นเลิศ ส่งเสริมกันได้อย่างลงตัวจริงๆ ค่ะ  ราคาสำหรับอาหาร 6  คอร์ส และเบียร์ 6 ชนิด อยู่ที่ 3400 บาท/คน    อาจจะรู้สึกว่าราคาสูงอยู่ซักหน่อย แต่เมื่อเทียบกับการได้ลิ้มลองเครื่องดื่มคุณภาพเยี่ยม และอาหารไทยระดับเชฟยอดเยี่ยมของเอเชีย อย่าง โบลาน บวกกับการบริการระดับ 5 ดาว  ก็ถือเป็นสิ่งที่คุ้มค่าไม่น้อย 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)