3
2
0
電話號碼
02-639-6584
02-236-1171
02-233-4100
開飯介紹
ชองกี่หมูสะเต๊ะ เป็นร้านหมูาะเต๊ะที่ติดกับร้านข้าวหมูแดงสีมรกต ในซอยสุกร1 โดยสามารถสั่งเข้าทานในร้านข้าวหมูแดงสีมรกตได้ เมนูนั้นจะมีแค่ หมูกับตับสะเต๊ะเท่านั้น ราคาไม้ละ 8 บาท 繼續閱讀
附加資料
(ตรอกโรงหมูเก่า หลังโชว์รูมยนตรกิจ) การเดินทางขึ้นรถไฟใต้ดินมาลงที่สถานีหัวลำโพง ออกทางออกโรงแรมบางกอกเซ็นเตอร์แล้วเดินตรงไป ข้ามสะพานผดุงกรุงเกษม แล้วเดินไปทางซ้ายเข้าถนนตรีมิตร มอง 7-11 ทางซ้ายเอาไว้ ตรงนั้นจะเป็นซอยสุกร 1 ต้องเดินเข้าซอยไป 100 เมตร ร้านอยู่ตรงโค้งพอดี ติดกับร้านข้าวหมูแดงสีมรกต
營業時間
今日營業
09:00 - 17:30
星期一
09:00 - 14:00
星期二至日
09:00 - 17:30
付款方式
Cash
座位數目
10
其他資料
到會服務
座位數目 (露天)
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
招牌菜
ตับสะเต๊ะ หมูสะเต๊ะ
食評 (5)
ร้านนี้เป็นร้านที่กินตั้งแต่เด็ก อย่านับเลยครับว่าตั้งแต่ไม้ละกี่บาท แต่ปัจจุบัน 2555 ราคาอยู่ที่ไม้ละ 6.50บาท ขนมปังสองแผ่น 15บาท แผ่นเดียวแผ่นละ 8บาทการเดินทาง : จากถนนพระรามสี่ ข้ามคลองผดุงกรุงเกษมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนไตรมิตร และเลี้ยวซ้ายซอยแรกเข้าซอยสุกรที่อยู่ทางซ้ายมือ ร้านจะอยู่ทางขวามือถัดจากร้านข้าวหมูแดงสี่มรกตมีที่จอดรถประมาณสองคัน(ฟรี) แต่แนะนำให้หาที่จอดก่อน(วัดไตรมิตรหรือละแวกนั้น)แล้วค่อยเข้าไปที่ร้านเมนู : หมูสะเต๊ะ, ขนมปัง, น้ำต่างๆบรรยากาศ : ร้านมีประมาณ 9-10โต๊ะ เป็นโต๊ะกลมซะ2 ที่เหลือโต๊ะเหลี่ยม บรรยากาศโดยรวมดูโล่ง สะอาดในระดับปานกลาง ร้านนี้และร้านข้าวหมูแดงข้างๆสามารถสั่งข้ามร้านและนั่งกินในร้านได้ หน้าร้านมีชื่อชัดเจน หมูหมักเข้าเนื้อ รสนี้เหมือนสมัยกินตอนเด็กๆ ขนมปังชิ้นหนา..แต่ต้องรีบกินหน่อย เย็นแล้วจะแข็งขึ้น น้ำจิ้มรสชาตินี้อร่อยโดนใจเจ้าของรีวิว จุ่มกันชัดๆ 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
ร้านหมูสะเต๊ะดั้งเดิม เก่าแก่ ในซ.สุกร 1 อยู่ ติด ๆ กับร้าน ข้าวหมูแดงสีมรกต เจ้าดัง สามารถนั่งกิน ร้านข้าวหมูแดง แล้วสั่งหมูสะเต๊ะเข้ามาทานได้นะครับ ส่วนตัว ลองชิมแล้ว ก็โอเค อ่ะครับ แต่รู้สึกหมักมากลิ่นเครื่องหมักอ่อนไปหน่อย รสชาติออกจืด ๆ หมูไม่มีมัน แต่เนื้อก็ออกแข็ง ๆ น่ะครับ ไม่แน่ใจว่าปกติเป็นแบบนี้รึป่าว น้ำจิ้มก็ โอเคครับ โดยรวม ๆ ก็โอเคครับ 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
กลับมานำเสนอความอร่อยกันอีกครั้ง อาทิตย์นี้จะไปตามเส้นทาง MRT แต่เนื่องด้วยเวลาที่มีจำกัด ก็เลยได้แวะแค่ไม่กี่สถานีเองสถานีปลายทางของเราในวันนี้อยู่ที่ "สถานีหัวลำโพง"“หัวลำโพง” ชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ และสถานีรถไฟต้นทางหลักของประเทศไทยและยังอยู่ใกล้ย่านธุรกิจการค้าที่สำคัญของชาวไทยเชื้อสายจีน ในละแวกนี้มีร้านอาหารขึ้นชื่อหลายร้านเลยทีเดียว"ชองกี่" ร้านนี้ขายแต่หมูสะเต๊ะ และตับสะเต๊ะ ซึ่งขายกันมายาวนานกว่า 70 ปี อยู่ในซอยตรอกโรงหมูหรือซอยสุกร 1 ถ้ามาจากทางรถไฟใต้ดิน ลงสถานีหัวลำโพง เดินลัดเลาะคลองผดุงกรุงเกษมมาอีกนิดร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดไตรมิตรฯ ข้างๆ ร้าน "สีมรกต" ร้านขายข้าวหมูกรอบ-หมูแดงเจ้าดังของย่านนี้นั่งประจำโต๊ะเรียบร้อย เค้าก็เสิร์ฟน้ำจิ้มและอาจาดให้คนละชุดสำหรับน้ำจิ้มนั้นสามารถเติมได้ แต่อาจาดรู้สึกว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มน้ำจิ้มที่นี่สีเข้ม แต่ไม่เผ็ด"หมูสะเต๊ะ" ไม้ละ 6 บาท อาจดูเหมือนว่าแพงกว่าร้านอื่นแต่เค้าใช้เนื้อหมูตรงส่วนสันนอก หมักกับเครื่องเทศสูตรพิเศษ ชิ้นใหญ่และเนื้อหนากว่าพลาดไม่ได้กินหมูสะเต๊ะทีไร ต้องสั่ง "ขนมปังปิ้ง" กรอบๆ นุ่มๆ ด้วย มากินคู่กับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ อร่อยดี 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
วันนี้เป็นวันพักผ่อน ได้มีโอกาสออกไปสูดอากาศวันว่างๆกับเขาบ้าง อิอิเลยนึกขึ้นได้ว่ามานั่งกินหมูสะเต๊ะดีกว่าเพราะว่า ไม่ได้กิน มานานแล้ว แต่จะว่าก็ว่า หมูสะเต๊ะที่ไหนๆ ก็มีขายกันทั้งนั้น มันก็เป็นหมูไม้สีเหลืองแค่นั้นก็ เรียกว่าหมูสะเต๊ะแล้ว จริงไหม ^^ แต่สำหรับผม ... มันไม่ใชนะสิครับ เพราะว่า ปกติผมไม่ชอบกินหมูสะเต๊ะเลย ตอนเด็กจำได้ว่า เวลามีกินเลี้ยงในโอกาสต่างๆ ไม่ว่าจะโอกาสไหนที่บ้านผมจะต้องมีหมูสะเต๊ะ แต่ผมเองไม่ใยคิดที่จะกินมันเลยถึงกินก็กินแค่ไม้สองไม้ น้ำจิ้มกินนิดเดียวแล้วก็ทิ้งมัน นั่นเป็นเหตุผลที่ผมจำเป็นต้องมากิน หมูสะเต๊ะที่ร้านนี้ ที่ชื่อว่า ร้าน "ชองกี่"ทำไมผมถึงชอบนักชอบหนา??เพราะอย่างแรกเลย ผมประทับใจกับร้านหมูสะเต๊ะที่ให้รายละเอียดเกินกว่าชิ้นหมูสะเต๊ะกับตับสะเต๊ะปิ้ง แต่ ร้านนี้ให้คามพิถีพิถันในเรื่องของน้ำจิ้ม อาจาด และ น้ำจิ้มสะเต๊ะ ครั้งหนึ่งผมได้มีโอกาสถามกับคนปรุงน้ำจิ้มร้านนี้ ถึงสูตรความอร่อย ซึ่งเป็นธรรมดาอยู่แล้วที่มันเป็นสูตรลับเฉพาะร้าน แต่ ก็ได้ทราบว่า ได้มีเครื่องเทศหลายชนิด ซึ่งเป็นไปได้ว่า(ในความคิดของผม) ต้นทุนเครื่องเทศอาจจะแพงกว่า หมูสะเต๊ะเสียด้วยสิ 5555 (ในความคิดผมเองอีกนั่นแหละ) เพราะทุกครั้งที่ผมได้ลองชิมน้ำสะเต๊ะ สิ่งแรกที่ผมได้รับรู้ในรสชาตินั่นคือ ความกลมกล่อม คือรสชาติที่เป็นกลาง ไม่มีรสไหนเกิน ทุกอย่างกลมกล่อม และทุกอย่างบดรวมกันอย่างดี ยิ่งเมื่อได้กินกับขนมปังปิ้ง แล้ว เข้ากันได้ดีทีเดียว ถ้าถามเรื่องหมูสะเต๊ะ ตรงนี้ผมถูกใจ เพราะปกติ หมูสะเต๊ะ ที่อื่นจะมีรสเข้มข้น บางทีก็อาจจะจัดจ้าน (สำหรับความชอบส่วนตัวของท่านอื่น) ซึ่งบางท่านอาจจะชอบทานแต่หมูสะเต๊ะแค่นั้นก็เกินพอ ไม่ต้องจิ้ม ก็กินได้เอร็ดอร่อย แต่ สำหรับร้านนี้ ถ้าคุณอยากได้รสชาติที่่ครบ คุณต้อง ทานหมูสะเต๊ะ + น้ำจิ้มสะเต๊ะ + น้ำจิ้มอาจาด + ขนมปัง + จิ้มน้ำสะเต๊ะ ฉะนั้น จะไม่มีส่วนไหนขาดกัน เพราะ ทุกครั้งที่คุณมานั่งร้านนี้ คนเสริฟ จะตักน้ำจิ้มสะเต๊ะและน้ำจิ้มอาจาดให้คุณก่อนเลยอันดับแรก ส่วน หมูสะเต๊ะนั้น กำลังย่างร้อนๆพร้อมเสริฟ์ตามมาอีกทีนึง หรือคุณ จะสั่งขนมปังปิ้งเพิ่มก็ตามความจุของกระเพาะ ก็ไม่ว่ากัน ส่วนราคา นั้นก็ไม่แพง ไม้ละ 5 บาท แต่ถ้าวันไหนคุณ หิวมากและบอกกับเถ้าแก่ร้านว่า ผมสามารถทานได้ 100 ไม้ เถ้าแก่เค้าก็จะรับคำท้า หากคุณทานได้ 100 ไม้จริง กินฟรี!!! แต่ถ้าไม่หมด คุณต้องชำระเงินนะครับ 5555 และนี่ก็เป็นกิตติศัพท์อย่างนึง ที่ทำให้ร้านนี้เป็นที่รู้จักและเลื่องชื่อลือชา ด้วยโปรโมชั่นสุดโหด 100 ไม้ไม่คิดตังค์ แต่ต้องนั่งกินในร้านให้เห็นนะเออ .... เอาเป็นว่า ผมแนะนำ "ร้าน ชองกี่หมูสะเต๊ะ" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของ ชาวโอเพ่นไรซ์ด้วยแล้วกันนะครับ ^^ เพราะเรื่องราวดีๆ มีไว้แบ่งปันจริงไหม ^^ 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)
ร้านนี้อยู่แถววัดไตรมิตครับ ซอย สุกร อยู่ตรงข้ามกับวัดเลย พอดีวันนั้นผมไปที่วัดไตรมิตกับเพื่อนๆครับ และจากนั้นก็ไปหาอะไรกินแถวนั้น ผมเคยได้ยินอยู่ว่ามีร้านหมูสเต๊ะดังๆแถววัดไตรมิตเลยลองมาเดินหาดู แล้วก็เจอ ....มาง่ายมากในซอย สุกรเลย ถามคนแถวนั้น ไม่มีใคร ที่ไม่รู้จักร้านนี้...วันนั้นหิวมากสั่งกันมา 20 ไม้ และเพิ่งเห็นว่าที่นี่ไม่ได้ให้หมูชิ้นเล็กๆนะคับ แต่เนื้อหมูมันหนามาก มาพร้อมกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและอาจาด รสชาดน้ำจิ้มก็อร่อยใช้ได้เลยคับ และใครที่ชอบหมูเนื้อหนาๆ ก็ต้องที่นี่เลย ผมแนะนำ!!!! ภายในร้านเป็นคูหา 2 ตึกติดกันเปิดโล่ง มีโต๊ะประมาณ 20 โต๊ะน่าจะได้ ในร้านไม่ได้มีการตกแต่งอะไรคับ คงไว้ซึ่งความเก่า (ไม่ได้เก่ามาก แต่เป็นสไตล์แบบร้านที่เปิดมานาน เก่าแก่ไรงี้คับ) ร้านนี้เป้นร้านเก่าแก่ในย่านนี้นะคับ เปิดมานานมาก ย่านนี้เค้ารู้จักกันดีในนาม ชองกี่ 繼續閱讀
(以上食評乃用戶個人意見 , 並不代表OpenRice之觀點。)