7
2
2
3-min walk from Exit 5, Phloen Chit BTS Station
繼續閱讀
電話號碼
02-160-5672
開飯介紹
ร้านอิปปุโดะ ร้านราเมงชื่อดังต้นกำเนิดจากย่านฮากาตะ ในเมืองฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชู จุดเด่นของอาหาร อยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูซึ่งใช้เวลาเคี่ยวนานกว่า 18 ชั่วโมง และเส้นราเมงซึ่งเป็นเส้นที่ทำจากมือ มีความเหนียวนุ่มและบางเป็นพิเศษ
繼續閱讀
特色
休閒餐廳
營業時間
今日營業
10:00 - 22:00
星期一至日
10:00 - 22:00
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
相關文章
Ippudo เป็นร้านราเมงที่มีต้นกำเนิดมาจาก Hakata (เมือง Fukuoka) บนเกาะ Kyushu โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1985 และก็ได้กลายเป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในญี่ปุ่นเรื่อยมา สมกับชื่อของร้านซึ่งมีความหมายว่า single+wind+hall (เทียบกับสำนวนไทยก็ต้องบอกว่าเป็นคลื่นลูกใหม่) ที่ช่วยปัดเป่าภาวะถดถอยของธุรกิจราเมงใน Fukuoka ณ.ช่วงเวลานั้น อีกทั้งยังขยับขยายสาขาราวกับจะพัดพาเอารสชาติความอร่อยของ Hakata Ramen ให้ขจรไกลไปยังประเทศต่างๆอีกด้วย ปัจจุบันนี้ทั่วโลกมีร้าน Ippudo อยู่กว่า 150 สาขาในเมืองใหญ่ของกว่า 13 ประเทศ อาทิเช่น New York, Hong Kong, Sydney, London, Paris, Singapore…ฯลฯ ส่วนในกรุงเทพมหานครของเรานี้ก็มีอยู่ถึง 5 สาขาด้วยกัน คือที่ Central Embassy, Emporium, Central ปิ่นเกล้า, Silom Complex และ Terminal 21 ...โดยครั้งนี้เรามาลองที่สาขา Central Embassy นี่เองค่ะ****-Profile-****ผู้ก่อตั้ง Ippudo ขึ้นก็คือเชฟ Shigemi Kawahara – เจ้าของตำแหน่ง Ramen King ประจำปี ค.ศ. 2005 และผู้ชนะเลิศการแข่งขันในรายการ TV Champion Ramen Chef ถึง 3 สมัยซ้อนในช่วงปี ค.ศ. 1995-1998 จนได้รับการบันทึกชื่อไว้ใน The Ramen Hall of Fame เลยทีเดียว...ด้วยวิสัยทัศน์ของแบรนด์ที่ตั้งไว้ว่า “คิดค้น พัฒนาอย่างต่อเนื่องแต่คงความเป็น Ippudo” (To continuously innovate to remain true) – ราเมงของ Ippudo จึงมุ่งเน้นที่การใช้วัตถุดิบสดใหม่คุณภาพดี ปรุงด้วยขั้นตอนพิถีพิถันตามแบบฉบับราเมงญี่ปุ่นแท้ๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะคิดค้นพัฒนาสูตรอาหารเพื่อนำเสนอรสชาติใหม่ๆตลอดเวลา ...และหลายๆเมนูที่เราได้ลองไปในครั้งนี้ก็สะท้อนแนวคิดดังกล่าวออกมาได้อย่างชัดเจนค่ะ****-เมนูที่ได้ลอง-****ราเมงสไตล์ของ Ippudo นั้นเป็น Hakata Ramen มีความโดดเด่นที่น้ำซุปกระดูกหมู (Tonkotsu) ซึ่งทางร้านได้นำกระดูกจากส่วนต่างๆของหมูมาเคี่ยวเป็นเวลากว่า 15 ชั่วโมง จนได้ออกมาเป็นน้ำซุปสีขาวครีมนวล มีรสชาติกลมกล่อม และปรับระดับความเข้มข้นให้เข้ากับรสนิยมของผู้บริโภคในประเทศต่างๆทั่วโลก ส่วนเส้นราเมงที่ใช้นั้นมีทั้งแบบเส้นตรงเรียวบางและเส้นหยักเพื่อให้เข้ากับรสชาติของแต่ละเมนู โดยเป็นเส้นที่ทางร้านนวดเองด้วยมือแบบวันต่อวัน การันตีทั้งความเหนียวนุ่มและสดใหม่จากฝีมือของทีมเชฟที่ได้รับการถ่ายทอดเคล็ดลับมาจากเชฟ Shigemi Kawahara เองเลยทีเดียว นอกจากนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกระดับความนุ่มของการลวกเส้นได้ถึง 4 ระดับคือ Soft / Normal / Hard / Very Hard ซึ่งส่วนตัวเราชอบแบบ Hard เพราะรู้สึกว่ามีความสู้ฟันแบบ Al Dente กำลังดี เคี้ยวสนุก ไม่นุ่มหรือแข็งจนเกินไปน่ะค่ะ● Shiromaru Motoaji (ราคา S 150 บาท / R 200 บาท) – Tonkotsu Ramen ชามขาวกับน้ำซุปสูตร Original ของทางร้าน ซึ่งเป็นสไตล์ของ Hakata Ramen แบบดั้งเดิม น้ำซุปหอมกลมกล่อมเข้มข้นกำลังดี เส้นราเมงแบบเส้นตรงเรียวบางเป็นพิเศษ ใส่หมูชาชูที่ทำจากเนื้อหมูส่วนไหล่ซึ่งติดมันน้อย เสริมรสด้วยถั่วงอก เห็ดหูหนูคิคุราเกะ และต้นหอม บดกระเทียมสดใส่เข้าไปอีกหน่อยนี่คืออร่อยเป๊ะเว่อร์ ...เมนูนี้เราติดใจมาตั้งแต่ครั้งที่ได้ไปลองที่ญี่ปุ่น กลับมาลองที่สาขาในกรุงเทพฯก็ยังรักอยู่ เรียกว่าเป็นเมนูโปรดเลยล่ะค่ะ● Akamaru Shinaji (ราคา S 160 บาท / R 220 บาท) – ราเมงชามแดงที่ใช้น้ำซุป Tonkotsu เช่นเดียวกับเมนูที่แล้ว แต่เพิ่มรสชาติด้วย Miso Paste สูตรพิเศษของทางร้าน เสริมด้วยกลิ่นหอมๆของน้ำมันกระเทียมโคยุ และเลือกใช้เนื้อหมูส่วนท้องซึ่งติดมันเยอะกว่าเพื่อให้สมดุลกลมกลืนกับรสชาติที่เข้มข้นขึ้น ส่วนเส้นและเครื่องอื่นๆจะเหมือน Shiromaru Motoaji ค่ะ ส่วนตัวแล้วตอนที่ลองเมนูนี้ที่ญี่ปุ่นเรารู้สึกว่าน้ำซุปมีความเข้มข้นมากจนเลี่ยน ทำให้ไม่ปลื้มเท่าไหร่ แต่พอมาลองเมนูนี้ที่เมืองไทยกลับได้ระดับความเข้มข้นกลมกล่อมที่ทานกำลังสบาย อร่อยสูสีกับราเมงชามขาวแบบเลือกลำบากเลยทีเดียวนะ● Karaka-men (ราคา 230 บาท) –เป็นราเมงสูตรเผ็ดร้อนที่ได้จากการนำน้ำซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับมาเติม Spicy Miso เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และหมูสับ เส้นราเมงสำหรับชามนี้จะเป็นเส้นหยัก เพื่อให้เกี่ยวหมูสับติดเส้นขึ้นมาได้ง่ายๆ ส่วนหมูชาชูจะใช้เนื้อหมูส่วนท้องเช่นเดียวกับชามที่แล้วค่ะ● Clam Chowder Ramen (ราคา 260 บาท) – เมนูนี้เป็นการนำเอาซุปหอยลาย หรือ Clam Chowder สไตล์อเมริกันมาผนวกรวมเข้ากับราเมง โดยเส้นที่ใช้จะเป็นเส้นแบบหนา-เหนียว-นุ่ม ปรุงรสด้วยพริกไทยดำ ส่วนซุปเป็นซุป tonkotsu เข้มข้นที่ปรุงด้วยซอส Bechamel และ Truffle Oil ใส่หอยลาย (Asari Clam) , มันฝรั่งทอด, ไข่ยางตูม แล้วท็อปด้วย Parmesan Cheese ขูดมาพูนๆ ทานกับเบคอนแผ่นบางเฉียบกรอบกริ๊บที่พาดมากับขอบชาม ตอนจะทานทางร้านแนะนำให้คนผสมน้ำซุปกับชีสเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้รสชาติเข้มข้นหอมชีสยิ่งขึ้นนะคะทราบมาว่า Clam Chowder Ramen นี้แรกเริ่มเดิมทีเป็นราเมงที่ทำขึ้นเพื่อเสิร์ฟที่ Ippudo สาขา New York จากนั้นก็นำมาขายในงาน Tokyo Ramen Show ผลปรากฏว่าได้รับความนิยมกันล้นหลามจนที่ญี่ปุ่นต้องทำเป็นบะหมี่สำเร็จรูปออกมาวางขายใน 7-11 กันเลยทีเดียว สำหรับที่กรุงเทพฯเรานี้จะมีเมนูนี้ให้สั่งกันถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้เท่านั้น ถ้าใครอยากลองก็ต้องรีบหน่อยล่ะค่ะในแง่รสชาติเท่าที่ได้ลองดูนั้น น้ำซุปมีความครีมมี่หอมชีสมากทีเดียว เส้นก็หนาสู้ฟันสอดคล้องกันดีกับความข้นของน้ำซุป ถ้าใครชอบทานพาสต้าสไตล์ซอสครีมหรือพวก carbonara อยู่แล้วน่าจะถูกใจมากมาย ส่วนตัวเรารู้สึกว่าทานคำแรกๆอร่อยมาก แต่ให้ทานหมดทั้งชามคนเดียวคงไม่ไหวเพราะรสชาติออกจะหนักท้อง ทานไปทานมาชักเลี่ยน เหมาะกับจะสั่งเวลาพาเพื่อนมาช่วยแบ่งด้วย แต่ถ้าคนรักชีสก็คงซัดหมดได้สบายๆปลื้มปริ่มกันไปล่ะนะ● Ippudo Hakata Style Gyoza (ราคา 90 บาท) – เกี๊ยวซ่าชิ้นขนาดพอดีคำ แป้งบาง ไส้หมูรสดียัดมาแน่นใช้ได้ เสิร์ฟบน Hot Plate ร้อนจี๋ ทานเพลินแบบคีบกันรัวๆไม่กลัวปากพองเลยล่ะ● Aburi Salmon Roll (ราคา 3 ชิ้น 150 บาท / 6 ชิ้น 240 บาท) – เป็น Salmon Roll ชิ้นพอดีคำที่ sear ผิวมาเบาๆพอหอมๆ ปรุงรสด้วยซอสมาโย ไข่ mentaiko และท็อปด้วยไข่กุ้งโทมิโกะ อร่อยดีทีเดียวค่ะ● บาทานิคุ บัน (ราคา 80 บาท) – เป็นอีกหนึ่งเมนูที่นิยมที่ New York มากๆ – Pork Bun แป้งคล้ายหมั่นโถวนุ่มๆ ยัดไส้เนื้อหมูส่วนท้องที่ตุ๋นมานุ่มๆชุ่มน้ำซอส เห็นแล้วก็แอบนึกถึงเมนูขาหมูหมั่นโถวของจีน แต่มีเพิ่มเติมคือยัดไส้ผักกาดแก้วทามายองเนสมาใน Bun ด้วย ส่วนตัวถือว่าทานได้เพลินๆแต่ไม่ถึงกับว้าวนะ● Goma Q (ราคา 70 บาท) –แตงกวาญี่ปุ่นเนื้อเนียน – สด – กรอบ ราดซอสงาที่หอมกลิ่นน้ำมันงาจริงจัง ปรุงรสอ่อนๆพอให้สดชื่น เสิร์ฟมาเย็นๆ เป็นของว่างเบาๆที่ทานสลับกับอาหารจานอื่นๆได้ดีทีเดียว● Ippudo Chicken Nanban (ราคา 120 บาท) – Chicken Nanban นี้เป็นอาหารที่พบได้ทั่วไปในเมือง Miyazaki ค่ะ เป็นไก่ชิ้นขนาดย่อมๆ ชุบด้วย sugared vinegar ทอดมาจนหนังกรอบ เนื้อนุ่ม เสิร์ฟพร้อมมากับ Tartar Sauce ที่มีส่วนผสมของไข่ต้ม (ทั้งไข่แดงและไข่ขาว)บดละเอียด หัวหอม พริกไทยดำ มี lemon วางเคียงมาเพิ่มความสดชื่น ชิมดูรู้สึกว่าที่จริงแค่ทานไก่เปล่าๆก็อร่อยลงตัวแล้ว แต่พอมีซอส Tartar ให้จิ้ม มี lemon ให้ตัดเลี่ยน ก็ทำให้รสชาติหลากหลาย ทานได้ไม่เบื่อดี ชอบมากเลยล่ะ เห็นว่าเมนูนี้ได้รับความนิยมกันมากที่ฮ่องกงด้วยนะ ● Cheese Cake Kakigori (ราคา 170 บาท) – เมนูนี้เป็นอะไรที่ทำเอาเราทึ่งมากมาย คือไม่นึกไม่ฝันเลยว่าร้านราเมงจะทำขนมหวานออกมาได้เลิศขนาดนี้ งานนี้บอกเลยว่าร้านขนมหลายๆร้านต้องมีอายค่ะ …Kakigori ถ้วยนี้ประกอบด้วยเกล็ดน้ำแข็งที่เนียนละเอียดขั้นสุด มีความหอมและเนื้อสัมผัสแน่นๆแบบครีมชีสแทรกอยู่ในน้ำแข็ง ทำให้รู้สึกนุ่มนวล ทานคู่กับชีสเค้กก้อนนุ่มๆที่ฝังอยู่ด้านในได้อย่างลงตัว เมนูนี้เสิร์ฟ Strawberry Sauce ที่ทำจากสตรอว์เบอร์รี่สดเคียงมาให้ราดด้วย รสชาติเปรี้ยวหวานสดชื่นเห็นชิ้นสตรอว์เบอร์รี่แทรกอยู่ในซอสกันชัดๆเลย ฟินระเบิดระเบ้อ!!ในฐานะเชฟราเมงระดับแชมเปี้ยน คุณ Shigemi Kawahara เคยกล่าวไว้ว่าราเมงแต่ละเมนูที่เขาสรรค์สร้างขึ้นนั้นเปรียบเสมือน “A cosmos served in a bowl” ...คือทุกองค์ประกอบในชามต้องได้รับการออกแบบมาอย่างพิถีพิถันให้เข้ากันได้ มีความกลมกลืนกันทั้งน้ำซุป, เส้นที่เลือกใช้, toppings ต่างๆ และเครื่องปรุง ดุจดั่งเป็นจักรวาลเล็กๆอยู่ในชามราเมง ...มาวันนี้เมื่อธุรกิจเติบใหญ่ ทางร้านมีเมนูอาหารแตกไลน์ออกไปอีกมากมาย แต่ทุกจานก็ดูจะยังยึดมั่นตามหลักปรัชญาของเชฟผู้ก่อตั้งแบรนด์อยู่เช่นเดิม ถ้าอยากพิสูจน์ก็แวะไปลองกันได้ค่ะ
繼續閱讀
“Ippudo” ราเมงแชมเปี้ยนชื่อดังจากโตเกียวที่ได้รับรางวัล 3 สมัยซ้อน นำโดยเชฟชิกามิ คาวาฮารา ที่มีต้นกำเนิดจากย่านฮากาตะ เมืองฟูกุโอกะ เกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี คศ. 1985 ความโดดเด่นของ Ippudo Ramen อยู่ที่น้ำซุปกระดูกหมูหรือทงคตสึ ซึ่งใช้เวลาในการเคี่ยวนานกว่า 15 ชั่วโมง และเส้นราเมงที่ใช้การนวดมือยิ่งการันตีความเหนียวหนุ่มของเส้นได้อีกทางวันนี้ได้รับเชิญมาร่วม Tasting ที่ร้าน Ippudo ซึ่งอยู่ชั้น 3 ของห้าง Central Embassy ร้านจะตกแต่งเป็นสไตล์ญี่ปุ่นแบบโบราณ มีพื้นที่กว้างขวาง และมีห้องส่วนตัวให้นั่งด้วย วันนี้เราได้นั่งส่วนห้องส่วนตัวก็ดู Private ดีเหมือนกันค่ะ พอเข้าร้านจะ พนักงานจะทักทายเป็นภาษาญี่ปุ่นกันอย่างพร้อมเพรียงระหว่างนั่งรับประทานอาหาร ถ้าได้ยินเสียงทักทายเป็นระยะ ก็แปลว่ามีลูกค้าเข้าร้านมาใหม่แล้วอีกนี่เองเกี๊ยวซ่าสไตล์ฮากาตะ (90 บาท) เป็นเกี๊ยวซ่าแบบดั้งเดิม แป้งบางกรอบนอกนุ่มใน สอดไส้ด้วยหมูปรุงรส เสิร์ฟบนกระทะจานร้อน พร้อมน้ำจิ้มเกี๊ยวซ่ารสเปรี้ยว เราชอบนะคะเมนูนี้ แป้งบางกรอบแต่ตัวใส้ไนมีความชุ่มฉ่ำ เหยาะน้ำจิ้มรสเปรี้ยวนิด ๆ เพิ่มรสชาติคาราคาเมง (Small 180 Regular 230 บาท ) คาราคาเมงจะเป็นราเมงเส้นแบบหยัก เพื่อให้เวลาสูดราเมงขึ้นมาจะสามารถเกี่ยวตัวหมูสับที่อยู่ในน้ำซุปขึ้นมาด้วย สำหรับสูตรนี้จะเอาใจคนชอบรสจัด จะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูสูตรต้นตำรับและมิโซะรสเผ็ด มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์แบบป่น และหมูสับ ที่นี่สามารถเลือกความแข็งของเส้นได้ 4 แบบ คือ Soft Normal Hard และ Very Hard ซึ่งถ้าคนชอบเส้นกรุบ ๆ หน่อยสามารถเลือกสั่งเน้นไปทาง Hard ซึ่งพอโดนน้ำซุปร้อน ๆ ก็จะมีความนิ่มนิดนึง เราชอบนะคะเส้นมีความกรุบนิด ๆสำหรับสูตรนี้จะเป็นหมูชาชูส่วนท้องจะเหมาะสำหรับคนชอบติดมัน ถ้าใครชอบหมูไม่ติดมันจะต้องเลือกเป็น ชิโรมารุ โมโตอาจิ ซึ่งเป็นสูตรดั้งเดิมของ Ippudo จะเป็นหมูส่วนไหล่ จริง ๆ ถ้าเลือกสลับชนิดหมูได้ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย แหะ ๆๆๆบาทานิคุนบัน (80 บาท) เป็นสูตรดั้งเดิมมาจาก Ippudo สาขานิวยอรค์ซึ่งขึ้นอันดับ Best Seller เป็นแป้งบันเนื้อเนียนนุ่ม จะคล้าย ๆ แป้งซาลาเปา แต่จะมีความนุ่มกว่านึ่งมาแบบร้อน ๆ สอดไส้ด้วยหมูสามชั้นหมักซอส ผัดกาดแก้ว และซอสครีมมายองเนส ตัวเนื้อหมูจะนิ่มและหอมกลิ่นซอส ผักกาดแก้วสดดี มีซอสครีมมายองเนสเพิ่มรสชาติเราชอบเลยค่ะ เมนูนี้แซลมอนโรลย่าง (3 ชิ้น 150 6 ชิ้น 240 บาท) เมนู Best – Seller ระดับโลกอีก 1 เมนู เป็นแซลมอนสไลด์แบบบางปรุงรสด้วยเมนทาอิโกะซอส สูตรเฉพาะของ Ippudo ไข่เมนไทโกะ และโรยด้วยไข่กุ้งโทมิโกะ เมนูนี้เราไม่ได้ลองชิมนะคะสำหรับเมนูแนะนำ ซึ่งจะมีตามฤดูกาลจะมีถึงแค่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น คือ ราเมงซุปครีมหอยลาย (260 บาท) เป็นเมนูแบบฟิวชั่น ที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของนิวยอรค์กับญึ่ปุ่น จะเป็นเส้นราเมงแบบแบน ราดมาด้วยซุปแบบครีม โรยด้วยชีสก้อนกลม ๆ เวลารับประทานจะต้องคลุกชีสให้ทั่วน้ำซุป เพื่อให้น้ำซุปมีความหอมและกลมกล่องของชีส จะอารมณ์คล้าย ๆ สปาเกตตี้คาโบนารา เป็นการผสมผสานที่ลงตัวดีค่ะ จะโรยด้วยมันฝรั่งทอดหั่นลูกเต๋าทอดมาแบบหอม ๆ กรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมหอยลาย และเบคอนทอดชิ้นยาวแบบกรอบ ๆ แต่เราว่าเส้นราเมงแบบแบนทำให้ใช้ตะเกียบคีบยากไปหน่อย ใช้ส้อมหมุนเหมือนเวลารับประทานสปาเกตตี้ดูจะเข้าที่กว่า สมเป็นเมนูฟิวชั่นจริง ๆ ค่ะโกมาคิว (70 บาท) จะเป็นแตงกวาญี่ปุ่นหั่นมาแบบชิ้นหนาพอดีคำ เสิร์ฟมาแบบสด ๆ ราดด้วยซอสน้ำมันงาสูตรดั้งเดิมของ Ippudo เราไม่ได้ลองชิมนะคะเมนูนี้ แต่สมาชิกชมว่าอร่อยค่ะ บอกว่าจะไม่เหม็นเขียวแบบแตงกวาบ้านเราไก่ทอดนัมบันอิปปุโดะ (120) เป็นเมนู Best-Sell ของสาขาฮ่องกง เป็นไก่ไร้กระดูกชุปแป้งทอดมาแบบกรอบ ราดด้วยนัมบันซอส ซึ่งเป็นซอสรสหวาน เสิร์ฟพร้อมเลมอนบีบให้ทั่วไก่ทอดจะเพิ่มรสเปรี้ยวผสานกันอย่างลงตัว จะมีทาร์ทาร์ซอสเสิรฟ์มาคู่กัน สำหรับจิ้มเพิ่มรสชาติ ตัวทาร์ทาร์ซอสจะมีส่วนผสมของมายองเนส ไข่แดง ไข่ขาว หัวหอม พริกไทยดำ ตัวซอสจะมีความมัน ๆ หอม ๆ อร่อยดีค่ะปิดท้ายด้วยของหวาน Strawberry Cheescake Kakigori (170 บาท) น้ำแข็งใสชีสเค้กแบบเนียนนุ่มละลายในปาก ราดด้วยซอสสตอเบอร์รี่ผสมเนื้อรสหวาน ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว เมนูนี้หมดอย่างรวดเร็วจริงๆ แหล่ะค่ะสุดท้ายต้องขอบคุณทีม Ippudo มาก ๆ นะคะ ที่ดูแลต้อนรับอย่างดี
繼續閱讀
ร้าน ippudo เป็นร้านราเมงชื่อดังที่มีถิ่นกำเนิดจากเมือง ฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ร้านได้ขยายสาขาไปหลายแห่งทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทยด้วย โดยในประเทศไทยเองได้มีถึง 2 สาขาแหนะ สำหรับร้าน ippudo ที่ได้ไปทานเป็นสาขา Central Embassy โดยตัวร้านตั้งอยู่บนชั้น3 ของห้างค่ะปกติร้าน ippudo จะมีการนำเสนอเมนูใหม่ๆทุกๆ3เดือน โดยได้มีโอกาสไปทานเมนูใหม่สำหรับช่วงเดือน กรกฎาคม-เดือนกันยายน โดยเมนูใหม่สำหรับช่วง3เดือนนี้จะเป็นเมนูอาหารทานเล่นแบบญี่ปุ่น ซึ่งไม่ใช่ราเมงแต่อย่างใด โดยเมนูพิเศษที่ว่าจะมีด้วยกัน3เมนู ดังนี้1.Lasangna Gyoz (150฿)เมนูนี้จะเป็นเกี๊ยวซ่าต้ม ผสมกับซอสมะเขือเทศและชีสแล้วนำไปอบ ออกแนวลาซานญ่า ตอนทานก็ใช้ตะเกียบคีบเกี๊ยวซ่าจะมีชีสเยิ้มๆเหนียวๆยืดๆ รสชาติของเมนูนี้อร่อยถูกปากมากๆ2.Spider Roll (150฿)เมนูนี้จะเป็นโรลโดยด้านในเป็นปูนิ่มทอดกรอบและผักตรงตัวโรลด้านนอกมีชุบเกล็ดเทมปุระ และโรยด้วยไข่กุ้ง ทานคู่กับซอสมานองเนสสูตรของทางร้านรสชาติจัดจ้านอร่อยเข้ากันเป็นอย่างดี โดยเมนูนี้ราดซอสตกแต่งมาแบบไยแมงมุมด้วย สมกับชื่อสไปเดอร์จริงๆ3.Spicy Salmon Roll (150฿)เมนูนี้เป็นโรลที่ด้านในเป็นแซลมอลสดราดซอสสไปซี่มายองเนสด้านบนวางด้วยผักชี เมนูนี้ก็อร่อยดีค่ะ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยเน้นข้าวเท่าไหร่ 4.สำหรับเมนูราเมง เป็นราเมงที่ขายตั้งแต่วันที่24 มิถุนายน แล้ว เมนูนี้คือTokushima Ramen (240฿) เป็นราเมงหมูชามโต ที่ใส่ไข่ดิบมาในชามด้วย และนอกจากจะมีหมูสามชั้นชิ้นโตๆในชามแล้วยังมีหน่อไม้นิ่มๆรสชาติอร่อยอีกด้วย สำหรับชามนี้น้ำซุปเข้มข้นอร่อยดีค่ะ เส้นราเมงเหนียวนุ่มทานคู่กับน้ำซุปที่คนกับไข่ดิบเข้ากันมากโดยส่วนตัวคิดว่าเมนูอาหารที่ได้ทานรสชาติอร่อยใช้ได้ โดยเฉพาะพวกเมนูเกี๊ยวซ่าและโรล ชอบมากๆการบริการของที่นี่ดีมากๆค่ะ ร้านน่านั่ง บรรยากาศดี มีโซนห้องส่วนตัวเหมาะสำหรับรองรับที่มากันเป็นกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัวด้วยค่ะสำหรับร้านนี้ไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไมเค้าถึงมีสาขามากมายทั่วโลก เพราะของเค้าดีจริง
繼續閱讀
คราวที่แล้วตอนมาทานร้านนี้ลูกชายหลับพอดีค่ะ เลยไม่ได้ทานด้วย วันนี้เลยพามาทานอีกรอบ สำหรับร้าน Ippudo สาขา Central Embassy ชอบสาขานี้เพราะร้านมันสวยมาก เป็นสัดส่วน ร้านที่ Empourim จะดูเปิดโล่ง ๆ และก็คนเยอะมากค่ะ หน้าร้านสวยมาก เหมือนเป็นร้านขายเสื้อผ้า ไม่ใช่ร้านอาหาร ตั้งอยู่ข้าง ๆ shop New Balance ค่ะนอกจากเมนูราเมนเลื่องชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีเมนูข้าวต่างๆ อีกด้วย ลูกชายเราชอบทานข้าว เลยสั่งข้าวมาค่ะข้าวหน้าซัลม่อนราดไข่ เมนูทานง่านเหมาะกับเด็ก ๆ เสริฟมาบนกะทะร้อน ต้องระวังนิดนึงนะคะ มาแรก ๆ ร้อนมาก เพราะถ้าใครอยากทานแบบข้าวผสมกับไข่ ให้ผัดได้เลยค่ะ ราเมนของคุณแฟน มีโปรของ AIS Serenadeได้เบอร์เกอร์แถมฟรีมาด้วย อันนี้เบอร์เกอร์หมูค่ะ ส่วนอันนี้เบอร์เกอร์กุ้งจ้าชาเขียวเย็น ๆ รสเข้มข้น เป็นแบบ refill เติมให้ตลอดเวลาค่ะ บรรยากาศในร้านมีทั้งโต๊ะนั่งเป็นสัดส่วน กั้นเป็นช่องๆ ไม่รบกวนโต๊ะข้างๆ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กมา หรือคู่รักที่ต้องการความเป้นส่วนตัว แต่ถ้ามาคนเดียว ก็มีที่นั่งที่บาร์ให้ และสำหรับครอบครัวใหญ่จะมีโต๊ะยาวอยู่ตรงกลางด้วยค่ะ พนักงานบริการดีมาก ๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส ขออะไรก็ได้เร็วค่ะ
繼續閱讀
หลังจากคราวก่อนที่ได้กินราเมนไป มีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับลูกค้าที่มียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป จะได้รับโืรินิคุบันฟรี ในคราวหน้า เราก็เลยแวะมาใช้โปรโมชั่นกันซะหน่อยดีกว่าชาเขียวเย็นอันนี้เป็นโทรินิคุบันที่ได้ฟรี เนื้อไก่นุ่ม ซอสก็อร่อย ตัวบันก็นุ่มดีทีเดียวจานนี้เป็นข้าวแซลมอนเทปปัน ทงคตสึของคุณแฟน เป็นข้าวปลาแซลมอนเทอริยากิน เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน ตอนเสิร์ฟมาไข่จะยังไม่สุกดีนัก พนักงานแนะนำให้รีบคลุกให้เข้ากันก่อนที่ไข่จะไหม้ ดูแล้วท่าทางจะอร่อยทีเดียวอันนี้เป็นบันกุ้ง ได้มาจากโปรของมือถือ รับฟรี เมื่อสั่งราเมน ของเราก็ยังคงเป็นอะคะมารุ สเปเชี่ยล ที่มาพร้อมไข่ ชาชู และสาหร่าย รสชาติอร่อยเหมือนเคย รสชาติน้ำซุปเข้มข้นดีทีเดียว เส้นก็นุ่ม หมูชาชูก็อร่อย โดยรวม รสชาติ อร่อยเหมือนเคยราคา ก็ยังคงคิดว่าแพงไปนิดเหมือนเดิม
繼續閱讀