影片
8-min walk from Exit 2, Chit Lom BTS Station
繼續閱讀
特色
休閒餐廳
營業時間
星期一至日
10:00 - 22:00
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
相關文章
คนชอบชารู้ยัง? Simply W Café เป็นคาเฟ่ชาร้านแรก ๆ ในไทย ที่รวมชาสุด premium ไว้ที่นี่แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาบินไปกินไกลถึงอังกฤษ คาเฟ่ตกแต่งสไตล์เรียบหรู ให้ได้ดี่มด่ำกับบรรยากาศ และชารสเลิศ พร้อมเมนูขนมสุดพิเศษที่ได้ชิมเป็นต้องติดใจ สำหรับที่นี่เรียกได้ว่าครบครัน เอาใจสายคาเฟ่อย่างเรา ไม่ว่าจะมาทานขนมกับเพื่อน หรือจิบชาคุยงานกันเพลิน ๆ ครั้งนี้เราได้มาทานที่สาขาCentral World ซึ่งเป็นสาขาเปิดใหม่พิกัดร้าน: ร้านตั้งอยู่ชั้น 2 ตรงข้ามกับลิฟท์แก้ว (ออกจากลิฟท์มาเจอร้านเลยค่ะ)เวลาเปิด-ปิด : 10:00 - 22:00 น. (ตามเวลาห้าง)บรรยากาศร้าน : มีที่นั่งรองรับทั้งแบบโต๊ะกลม โซฟานั่งสบาย ๆ หรือนั่งบาร์ตกแต่งด้วยหินอ่อนดูหรูหรา นั่งจิบชาแบบชิว ๆ หลังเลือกที่นั่งแล้ว ก็เดินไปสั่งออเดอร์ที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลย มีแต่ขนมน่ากิน เราเลือกสั่งชาร้อนกับขนมที่จัดมาในจานแบบสวย ๆ เอาไว้ถ่ายรูปอวดเพื่อนซะหน่อย กินไรบ้างไปดูกัน- Caramel Thai Tea (185.-) เสิร์ฟมาหน้าตาน่าทาน เป็นเมนูมูสเค้กเนื้อนุ่ม รอบนอกตัวเค้กฉ่ำด้วยซอสชาไทยรสเข้มข้น สอดไส้ซอสคาราเมลหวานอ่อนๆ ที่ฐานเป็นบิสกิต ทานคู่กับไอศกรีมวนิลา อร่อยลงตัว- เอแคลร์มัทฉะถั่วแดง (75.-) เป็นเอแคลร์สูตรฝรั่งเศส ที่สอดไส้มัทฉะครีมอัดแน่น รสชาติเข้มข้น มาพร้อมกับถั่วแดงเนื้อเนียน ที่เนื้อแป้งด้านนอกบางนุ่ม ไม่หวานเกินไป แนะนำว่าต้องลอง - มาการองถั่ว (55.-) รสชาติต่างกับที่เคยทาน ปกติที่อื่นจะหวานมาก แต่ที่นี่ได้สัมผัสรสชาติของถั่ว และไม่หวานมาก อร่อยชิ้นเดียวไม่พอ - Lovely Lychee (185.-) มูสเค้กลิ้นจี่ เด่นที่กลิ่นลิ้นจี่สอดไส้แยมราสเบอรี่ไหลเยิ้มรสชาติออกเปรี้ยวทานกับไอศกรีมวนิลา ฟินมากเลยค่ะ มาถึงเครื่องดื่มขึ้นชื่อของร้าน อย่าง Very Berry Crush Teabags เป็นชาร้อนเสิร์ฟมาในกาลายเรียบเก๋ ชากลิ่นสตอเบอรี่ และบลูเบอร์รี่แบบจาง ๆ รสชาติละมุน แบบเบา ๆ ดื่มแล้วรู้สึกผ่อนคลายโดยรวมร้านนี้เหมาะสำหรับสายคาเฟ่ที่ชื่นชอบชา และขนมที่ตกแต่งน่าตาน่าทาน รสชาติดีนอกจากสาขาน้องใหม่อย่าง Central World แล้ว ยังมีอีก 4 สาขาในกรุงเทพ คือ สยามพารากอน, La Villa พหลโยธิน, เซ็นทรัลลาดพร้าว และเซ็นทรัลพระราม 9 ส่วนใครที่หาที่นั่งรอก่อนขึ้นเครื่อง ร้านนี้มีสาขาที่สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินสมุยด้วยนะใครสะดวกสาขาไหน แวะไปลองทานดูนะคะ
繼續閱讀
ไปช็อปปิ้งที่ CTW ช็อปเหนื่อย ๆ ก็ต้องหาร้านแวะนั่งพัก ไปทีไรจะต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะกินอะไรดี แต่ไปคราวนี้ไม่ต้องคิดเพราะเรามีเวาเชอร์จาก Openrice ใกล้หมดอายุแล้วต้องรีบใช้ด่วน ๆมุ่งหน้าไปที่ชั้น 2 ร้าน Simply W กันเลย สาขานี้เราเคยมาทานครั้งนึงละ ชอบบรรยากาศของร้านนะ ตกแต่งเรียบ ๆ แต่สวยดี ตัวร้านโปร่ง ที่นั่งก็นุ่มนิ่มน่านั่งจัดแจงเลือกเครื่องดื่มและขนมเรียบร้อย ชำระเงินแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะ เดี๋ยวทางร้านจะนำมาเสิร์ฟให้อุปกรณ์มาก่อนเลยเราสั่งลาเต้ร้อนไซส์ใหญ่ 120 บ. แก้วใหญ่จริงไรจริง กาแฟผสมนม จิบแล้วไม่ขมจนเกินไปนักน้องสั่งคาปูชิโน่เย็นไซส์เล็ก 105 บ.เป็นกาแฟผสมนมเช่นกัน แต่รสจะเข้มกว่าลาเต้หน่อย2 คนเลือกแซนวิชกันคนละชิ้น ของเราเลือกหม่ำแซนวิชไส้ไก่ 105 บ. ทางร้านจะนำขนมปังไปปิ้งให้กรอบ ไส้ไก่จะเป็นส่วนอกไก่ ปรุงรสด้วยเกลือนิดหน่อย แลดูเฮลทตี้ดีนะของน้องเลือกสั่งแซนวิชทูน่า 105 บ. ไส้ทูน่าเยอะใช้ได้ ชิ้นนี้จะปรุงรสมามีรสชาติมากกว่าไก่แต่เท่าที่ชิมแล้วแอบชอบไก่มากกว่านิดหน่อยจ้ามื้อนี้จ่ายเพิ่มแค่ 25 บ. ต้องขอบคุณ OpenRice & Simply W ที่เอื้อเฟื้อเวาเชอร์ให้กับสมาชิกด้วยค่าสำหรับร้านนี้แนะนำเลย ถ้าเดินเมื่อย ๆ อยากแวะหาที่นั่งพักสบาย ๆ จิบชา-กาแฟกินขนมแล้วละก้อ มาร้านนี้ไม่ผิดหวังค่า
繼續閱讀
นัดเจอเพื่อนแถวนี้ค่ะเลือกเป็นคัปเค้ก 1 ชิ้น + เครื่องดื่ม 1 แก้ว■ คัปเค้กช้อค 1/5เนื้อเค้กช้อค แต่งบัตเตอร์ครีมสีนวล โปะด้วยหัวใจฟองดองขาว-แดงเนื้อเค้กอย่างแข็งเลยค่ะ ทานแล้ว โอ้ว นี่หรือคือเค้กในร้านดัง ผิดหวังมากค่ะ ตัวครีมก็แข็งโป๊ก ซึ่งเป็นความเกลียดส่วนตัวค่ะ เกลียดเค้กที่ใช้ครีมแข็งๆ มาแต่งหน้า (ใครชอบครีมแข็งๆ ต้องขออภัยด้วยค่ะ)■ ชาร้อน 3/5เลือกชา ดาร์ลีจิง ค่ะ ก็มาตรฐานชาร้อนนะคะ ชาดาร์ลีจิงหอมชื่นใจดีค่ะ
繼續閱讀
ขอบคุณทางร้านที่ให้โอกาสได้เข้าไปทำเวิร์คช็อปชาและการจับคู่ชากับขนมค่ะกิจกรรมวันนั้นเป็นไปอย่างสนุกสนานและได้ความรู้อีกด้วยเพื่อนๆร่วมกิจกรรมทุกท่านก็น่ารักเป็นอย่างยิ่ง ประทับใจมากๆค่ะเวิร์คช็อป Afternoon tea by Simply W เริ่มต้นด้วยการเล่าถึงประวัติความเป็นมาของร้านถ้าใครยังจำแบรนด์ Whittard of shellsea ได้ล่ะก็ นั่นล่ะค่ะ เค้าเปลี่ียนชื่อมาชาที่เราได้ดูวิธีการชงและได้ชิมรสชาติ ได้แก่ ชาร้อน Earl Grey กลิ่นหอมมากค่ะเป็นชาดำ tea master บอกว่ารสชาติของชาเป็นเรื่องของรสนิยมการดื่มค่ะ ดังนั้นไม่มีผิดไม่มีถูกนะคะ บางคนชอบชารสขม แต่บางคนชอบชารสอ่อน ก็แล้วแต่ชอบเลย จะเพิ่มนมหรือน้ำตาลก็ได้นะ แต่เราขอชิมแบบออริจินัลเลยทีเดียวชาตัวแรกนี้ทางร้านเลือกจับคู่กับขนมแบบอบ พวกเบเกอรี่ พาย ไส้คาวค่ะ เสิร์ฟมา 3 ชิ้น ได้แก่พายผัก - ไส้ผักอร่อยมากค่ะ ให้ความรู้สึกไม่เหมือนผัก ทานง่าย ใครไม่ชอบกินผักขอให้ลองพายไส้กรอก - ตอนแรกคิดว่าเป็นไส้กรอกธรรมดา แต่โอ๊ะ...ไส้กรอกในพายอร่อยมากค่ะ กินหมดง่ายๆเลยครัวซองต์ใส่แฮม - ครัวซองต์เนื้อดี ผกสด แฮมอร่อย มีมายองเนสเพิ่มรสชาติด้วยรู้สึกว่าชาตัวแรกนี้เหมาะจริงๆที่จะกินกับขนมแบบไส้คาว ด้วยความที่ชามีกลิ่นที่ค่อนข้างแรง แต่พอกินกับของคาว อืม...เข้ากันดีแฮะชาตัวที่ 2 English Breakfast เป็นชาที่ผสมระหว่างชาเคนย่า ซีลอน และอัสสัม ที่สุดของชาทั้งนั้นเลยค่ะทางร้านจับคู่ชาตัวนี้กับ ขนมเค้กหวานๆที่เรียกว่า Opera Cake โอเปร่า เค้ก - บอกก่อนว่าเค้กที่นี่เราว่าไม่หวานมากนะ คนที่ไม่ชอบกินหวานมากต้องชอบค่ะ โอเปร่าเค้กนี่เข้มข้นรสช็อกโกแลตมาก แอบมีกลิ่นกาแฟเบาๆ หลายคนกินไม่หมดชิ้น เพราะให้มาชิ้นใหญ่คนละ 1 ชิ้น แต่เรากินหมดคนเดียวจ้า 555 อร่อยมากกกกกกชาตัวสุดท้าย เป็นชาชงสำเร็จรูป ภาษาอังกฤษเขาเรียกว่า Instant Tea ร้านบอกว่าหลายคนซื้อไปเพราะชงสะดวก มีรสชาติให้เลือก วันนี้เราได้ชิม Pink Lemonade เป็นชาที่มีรสแบบชามะนาว แต่เก๋ที่มีสีชมพูตามชื่อ เค้าว่ามันสกัดมาจากชาดำนะ เหมาะจะกินเป็นชาเย็น ชงเสร็จใส่น้ำแข็งเหมาะกะอากาศบ้านเราสุดๆชานี้เสิร์ฟพร้อมกับ ทาร์ต สตรอเบอร์รี่ รสชาติไม่หวานมาก สตรอเบอร์รี่เปรี้ยวหวาน สด อร่อยมากเช่นกันค่ะชิ้นนี้สิ้นสุดกับกิจกรรมเวิร์คช็อปในครั้งนี้ ได้ความรู้เรื่องชาแล้วยังได้กินของอร่อยอีกต่างหาก บอกตัวเองไว้แล้วว่าต้องมาร้านนี้อีกให้ได้ เพราะมีเค้กน่ากินอีกหลายตัวที่อยากกิน 555 เครื่องดื่มช็อกโกแลตก็ยังไม่ได้ลอง ต้องจัดซะหน่อยละค่ะสุดท้ายแล้วขอใส่ภาพเครื่องดื่มที่ได้ลองก่อนเริ่มกิจกรรมมาให้ดูหน่อยค่ะ นอกจากชาเค้าก็มีกาแฟ ช็อกโกแลตด้วยค่ะ
繼續閱讀
ครั้งแรกเลยที่ได้ไปร่วมกิจกรรมกับทาง Openrice และ Opensnap .... แถมเป็นกิจกรรมดีๆ ได้รับสาระเกี่ยวกับชา แถมยังได้ชิมชา และขนมแสนอร่อยจากทางร้าน Simply W อีก ขอบคุณมากๆ นะคะที่ให้โอกาสในการไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ชื่อกิจกรรม : Workshop Afternoon Tea by Simply Wสถานที่ : ร้าน Simply W, Central World (ชั้น 2)เวลา : 15.00 - 17.00 น. (โดยประมาณ)พื้นที่ตั้งร้าน :Simply W ตั้งอยู่ชั้น 2 ของห้างเซ็นทรัลเวิลด์ แยกราชประสงค์ ถ้าขึ้นมาจากลานกลางขึ้นมาแล้วเลี้ยวซ้ายไปทางเดียวกับร้าน Krispy Kream ค่ะ ร้านจะอยู่ทางขวามือ ถ้ามองจากอีกมุมของร้าน จะอยู่ใต้ร้านฮาเก้นดาซพอดิบพอดีเลยค่ะบรรยากาศในร้าน :ร้านตกแต่งแนวเรียบๆ ดูสบายตา ไม่หวานจนหนุ่มๆไม่กล้าเข้า แต่ก็ไม่ได้ดูเข้มจนสาวๆกลัว เป็นการตกแต่งด้วยโทนสีทั้งเข้มและอ่อนลงตัวกับทุกเพศทุกวัยค่ะ เท่าที่เห็นจะมีกลุ่มเพื่อนนัดทานขนมกัน และบางกลุ่มน่าจะเป็นกลุ่มคนทำงานที่ใช้พื้นที่นี้เป็นจุดนั่งคุยงานกันแบบไม่เป็นทางการเกี่ยวกับร้าน :แต่เดิมร้าน Simply W คือร้านชา Whittard of Chelsea แต่โดยพื้นฐานของ Whittard จากประเทศอังกฤษซึ่งเป็นประเทศต้นฉบับจะไม่มีร้านที่เป็นแนวคาเฟ่แบบนี้ เพราะเน้นเรื่องการส่งวัตถุดิบชาเป็นหลัก ทางบริษัท Tea The Cha จำกัด ผู้นำเข้าชา Whittard จึงเปลี่ยนชื่อร้านชา Whittard ที่เคยใช้มากว่าสิบปีเป็น Simply W ที่ยังคงใช้ชา Whittard เป็นหลักอยู่ค่ะ ... ชื่อเปลี่ยน ชาไม่เปลี่ยน (ชื่อบริษัททำให้ทราบว่าเน้นเรื่องชาเป็นหลักจริงๆค่ะ เพราะ Tea ในภาษาอังกฤษ และ The ในภาษาฝรั่งเศส ต่างก็แปลว่าชา และคำสุดท้าย Cha ก็เป็นการสะกดคำภาษาอังกฤษทับศัพท์ภาษาไทยเลย ดังนั้นชื่อบริษัทนี้แปลได้ว่า ชา ชา ชา นั่นเอง)กิจกรรม Workshop วันนี้ : กิจกรรมวันนี้เน้นการให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องชา โดย Tea Master ของ Simply W ค่ะ เราเลยได้รู้จักทั้งประเภทของชา สี กลิ่น และระยะเวลาที่เหมาะสมสำหรับการชงชาแต่ละประเภท แต่ที่สำคัญที่สุดเลย พวกเราทุกคนได้ชิมชาแต่ละประเภทที่ Tea Master ได้นำมาแนะนำให้รู้จัก ทานคู่พร้อมกับขนมที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำที่ไหนแน่นอน เพราะทาง Simply W มีเชฟส่งตรงมากจากประเทศฝรั่งเศสเป็นผู้ดูแลเรื่องขนมต่างๆภายในร้านค่ะ แถมยังคัดสรรวัตถุดิบอย่างดีจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อลูกค้าทุกท่าน (บริษัทฯนี้เป็นผู้ดูแลและบริหารร้าน Fuchonด้วย ไว้ใจได้เรื่องขนมแน่นอนค่ะ) ช่วยส่งเสริมให้การทานชามื้อนั้นมีความสุขมากขึ้นจริงๆค่ะ ^^ความรู้ด้านชาที่ได้รับ จาก Tea Master :ชาแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ได้แก่- Traditional Tea : ชาแบบดั้งเดิม (ชาดำ) ที่ไม่มีการผสมอะไรอย่างอื่นเข้าไป เป็นชาเพียวๆค่ะ เช่น Earl Grey, English Breakfast เป็นต้น- Flavor Tea : ชาที่มีการผสมกลิ่นและรสชาติเพิ่มเติมเข้าไป แนวชาอโรม่าและชาผลไม้ต่างๆ รสชาติจะอ่อนกว่าชาแบบดั้งเดิม ทำให้ง่ายต่อคนที่เริ่มดื่มชา เช่น ชาพีช, ชากุหลาบ เป็นต้น- Fruit&Herbal Tea : ชากลุ่มนี้น่าจะเหมาะกับคนที่แพ้คาเฟอีน เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มเลียนแบบชาก็ว่าได้ เพราะจะไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีนเลยค่ะ มาจากธรรมชาติ เช่น Very Very Berry Tea ของ Whittard ที่มีขายในร้าน Simply W ซึ่งเป็นการนำผลไม้มาผ่านกรรมวิธีแบบการชงชาให้ได้เครื่องดื่มออกมาค่ะ- Instant Tea : ชาที่สะดวกที่สุดไม่ลำบากกับการชงเลย เพราะว่าเป็นชาสำเร็จรูปที่เพียงแค่ผสมกับน้ำร้อนหรือน้ำอุณหภูมิปกติก็ดื่มได้ทันที เลยเป็นชาที่ได้รับความนิยมสูงที่สุดชาที่วันนี้นำมาร่วมกิจกรรม :Earl Grey : ชากลุ่ม Traditional Tea ที่มีรสกลางๆ สำหรับชากลุ่มเดียวกัน เหมาะสำหรับเป็นชาหลังอาหาร สำหรับแก้ว 12 ออนซ์ใช้ชาเพียง 1 ช้อนชา (ประมาณ 2-3 กรัม) ก็พอแล้วค่ะ (แนะนำให้ใช้ที่กรองชานะคะ) ทิ้งไว้ 1-2 นาที โดยไม่ต้องขนหรือไปทำอะไรเลย ปล่อยให้แก้ววางอยู่นิ่งๆค่ะ จากนั้นก็นำที่กรองชาออกก็จะได้ชาเอิร์ลเกรย์รสชาติแบบพอดี ไม่ฝาด .. ถ้าใครอยากเสริมรสชาติก็สามารถเพิ่มเลมอนสไลด์ลงไปในถ้วยชาได้ค่ะ (หรือจะอมแผ่นเลมอนแล้วค่อยดื่มชาตามก็ได้ค่ะ).... ชาเอิร์ลเกรย์ถ้วยนี้ทานคู่กับขนมอบประเภทแนวขนมคาวหน่อยค่ะ พวกครัวซองก์แฮมชีส, โรลไส้กรอก, และพายผัก ขนมทุกชิ้นทางร้านทำเองและมีขายจริงในร้านนะคะ แป้งขนมหอมและไม่แข็ง ไส้กรอกไม่ใช่ไส้กรอกแป้ง ส่วนพายผักนี่แนะนำเพราะติดอับดับขายดีของขนมในร้านเลยค่ะ ไม่รู้สึกถึงรสผักเลยEnglish Breakfast : ชาถ้วยที่สองจะเข้มมากว่าถ้วยแรก เป็นชาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศอังกฤษ เป็นชาที่ได้จากการผสมชาถึง 3 ชนิดเข้าด้วยกัน ได้แก่ชาเคนย่าที่ให้สีที่สวย, ชาซีลอนที่ให้กลิ่นหอม, และชาอัสสัมที่ให้รสชาติที่ดี ชาวอังกฤษจึงนิยมดื่มในช่วงเช้าของวันเพื่อเพิ่มความแจ่มใสกระปรี้กระเปร้าให้กับช่วงเวลาเริ่มต้นของวัน แต่ด้วยความที่เป็นชาเข้ม เวลาชงจึงใช้ช้าน้อยกว่าชาเอิร์ลเกรย์ แค่ครึ่งช้อนชาหรือ ¾ ช้อนชาก็พอแล้วค่ะ (สำหรับแก้ว 12 ออนซ์นะคะ) (ยังแนะนำให้ใช้ที่กรองชานะคะ) ทิ้งไว้ในน้ำร้อนประมาณ 1-2 นาที ก่อนจะยกที่กรองชาออก ถ้าใครชอบแบบเข้มๆเลยควรใช้วิธีการเติมชาให้มากขึ้นค่ะ การทิ้งใบชาไว้ในน้ำร้อนนานเกินไปจะทำให้รสฝาดของชาออกมา .... ชาอิงลิชเบรกฟาสต์ถ้วยนี้ ด้วยความที่เป็นชาเข้ม จึงเหมาะกับการทานคู่กับของหวาน เพราะจะช่วยตัดเลี่ยนของหวานได้ดี และของหวานเองก็จะช่วยลดความเข้มของชาที่ดื่มเข้าไปด้วยเช่นกันค่ะ ถ้วยนี้พวกเราเลยได้ทานคู่กับ Opera Cake ที่ในเนื้อเค้กแต่ละชั้นก็มีรสชาติที่แตกต่างกันไปทั้งช็อกโกแลต ดาร์กช็อกโกแลต และกาแฟ (ขนมชิ้นนี้ได้ชื่อว่า Opera Cake เพราะเปรียบได้กับการชมโอเปร่าที่จะมีการแสดงเป็นองค์ๆ เหมือนที่แต่ละชั้นมีความแตกต่างกัน)Pink Lemonade : ถ้วยสุดท้ายเป็นชาประเภท Instant Tea เป็นชาสำเร็จรูปที่มาในรูปแบบผงค่ะ ผสมรสชาติทุกอย่างมาเรียบร้อย เพียงแค่ผสมในน้ำร้อนหรือน้ำเย็นแล้วคนให้เข้ากัน ก็พร้อมดื่มได้ทันที รสชาติเหมือนชามะนาวแต่น้ำจะเป็นสีชมพูน่ารัก เหมาะกับสาวๆ เลยค่ะ (เคล็ดลับการชงแบบเย็น แนะนำว่าให้ละลายผงชาในน้ำร้อนนิดหน่อยแล้วค่อยเติมน้ำเย็นค่ะ เพราะผงชาละลายในน้ำร้อนได้ดีกว่า) ..... ชารสชาติอมเปรี้ยวหวาน ทานคู่กับ strawberry Tart เป็นมื้อว่างยามบ่ายที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้ร่างกายได้ดีจริงๆค่ะ สำหรับชาแบบสำเร็จรูปแบบนี้เป็นชาเบาๆที่สามารถใช้เป็นเครื่องดื่มเสริมความสดชื่นให้ร่างกายได้ตลอดทุกเวลาค่ะ ... สำหรับชาประเภท Instant ของทางร้านมีให้เลือกถึง 8 รสด้วยกัน ได้แก่ Pink Lemonade (รสชาติเหมือนชามะนาวแต่น้ำสีชมพู), Lemon&Lime (ตัวนี้ขายดีมากค่ะ), Cranberry&Raspberry (รสชาติเปรี้ยวหน่อยเพิ่มความสดชื่น), Blackcurrant&Elder Flower, Dreamtime ซึ่งเป็นการผสมกลิ่นจากแอพริคอท น้ำผึ้ง และวานิลา (ได้กลิ่นหอมหวาน), Turkish Apple ตัวนี้ได้ความสดชื่นจากกลิ่นแอปเปิ้ลหอมๆ, Lychee&Mango (ขายดีในต่างประเทศมากค่ะ ต่างชาติชอบอะไรที่เป็นกลิ่นของมะม่วง), Mango&Passionfruit (ตัวนี้ก็ขายดีในต่างประเทศเช่นกันค่ะ) ความประทับใจจากกิจกรรม : ครั้งแรกเลยกับการได้ร่วมกิจกรรมนอกสถานที่แบบนี้ร่วมกับสมาชิก Opensnap และ Openrice ท่านอื่นๆ นอกจากจะได้ความรู้เกี่ยวกับชา ได้ชิมชาและขนมอร่อยๆ ยังได้รับการดูแลที่ดีจากทั้งผู้บริหาร แบรนด์เมเนเจอร์ และ tea master จากทางทีเตชา และทีมงานของ Openrice และ Opensnap ก็ดูแลสมาชิกทุกท่านอย่างดีเช่นเดียวกันค่ะ ไปครั้งแรกก็ไม่ทำให้รู้สึกเก้อเขินแต่อย่างใด ^^ .... แถมของที่ระลึกจากทางร้าน Simply W ยังน่ารักถูกใจคนชอบทานชาและกาแฟอย่างเรามากๆค่ะ สรุปเลยคือ ร้านน่ารักๆ กับบรรยกาศสบายๆ จะนัดไปเดทกับหนุ่มหรือสาว จะนัดไปนั่งคุยงาน หรือไปสังสรรค์กับเพื่อนก็ถือเป็นจุดพบปะที่ดีค่ะ เดินทางสะดวก เครื่องดื่มดี ขนมอร่อย พนักงานทุกท่านยิ้มแย้มแจ่มใสพร้อมให้คำแนะนำ ดีครบสูตรแบบนี้จะไม่ลองไปสักครั้งเหรอคะ?? ... ส่วน Openrice และ Opensnap ถ้ามีโอกาสขอแกรนด์ไปร่วมกิจกรรมด้วยอีกนะคะ (ขอกันดื้อๆออกสื่อแบบนี้เลย อิอิ)
繼續閱讀