影片
特色
休閒餐廳
包場派對
慶祝紀念日
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
招牌菜
The Harbour Market ร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตลาดตามท่าเรือของประเทศในแถบยุโรปและอเมริกานี้ตั้งอยู่ในโครงการ Asiatique, the Riverfront ค่ะ ลักษณะร้านดูเผินๆจะเป็นแนวที่เน้นกิน-ดื่ม-hang out มีบาร์เครื่องดื่มตั้งโดดเด่นหน้าร้าน และตกค่ำมีดนตรีสดเล่นอีกด้วย ทำให้แว่บแรกแอบนึกว่าคงขายเครื่องดื่มและอาหารประเภทกับแกล้มเป็นหลัก ไม่ได้เน้นฝีไม้ลายมือทำอาหารซักเท่าไหร่รึเปล่า ...แต่ปรากฏว่าคิดผิดค่ะ เพราะที่จริงทางร้านวางคอนเซ็ปต์ร้านให้เป็น The Harbour Market Cuisine ..เน้นคุณภาพและความหลากหลายของอาหารกันแบบพิถีพิถันจริงจังทีเดียว**-ที่ตั้ง/บรรยากาศ-**แม้ว่าร้านจะชื่อ Harbour Market ทำให้นึกว่าน่าจะตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้ท่าเรือของทางโครงการ แต่ที่จริงแล้วร้านนี้หลบเข้ามาอยู่ด้านในหน่อยค่ะ คือตั้งอยู่ระหว่างโกดัง 5 และโกดัง 6 มีจุดเด่นที่เห็นได้ง่ายคือส่วนของบาร์เครื่องดื่มที่ทำเป็นรูปแบบของหอประภาคารสูงๆเห็นได้แต่ไกล ..สำหรับคนที่คิดว่าจะได้มานั่งทานอาหารแกล้มวิวแม่น้ำเจ้าพระยาอาจมีผิดหวังเบาๆ แต่ต้องขอบอกว่าตัวร้านนั้นออกแบบตกแต่งมาได้สวยงามดูดีมากๆจนดูว่าจะชดเชยเรื่องทำเลที่ตั้งไปได้เลยทีเดียวนะการตกแต่งร้านแบ่งเป็นโซน outdoor ด้านหน้าสำหรับคนที่อยากฟังดนตรีสดและสั่งเครื่องดื่มจากประภาคารที่ตั้งอยู่ข้างๆกัน ส่วนคนที่อยากทานอาหารแบบสงบๆในห้องติดแอร์เย็นๆก็ให้จับจองที่นั่งด้านในตัวร้านดีกว่าค่ะ โดยลูกค้าทั่วไปจะนั่งที่ชั้นล่าง ส่วนบนชั้น 2 จะเป็นห้อง VIP ที่น่าจะเหมาะกับคนที่ไปเป็นกลุ่มใหญ่และต้องการความเป็นส่วนตัว สไตล์การตกแต่งด้านในตัวร้านนั้นชวนให้นึกถึงบ้านสวยๆตามหมู่บ้านชาวประมงของทางแถบ Scandinavia จริงๆ ..มีเชือกอวนแขวนประดับอยู่อย่างมีศิลปะ เฟอร์นิเจอร์เป็นไม้และหนังให้ความรู้สึกอบอุ่นน่าสบาย โคมไฟทำเป็นรูปแบบของตะเกียงราวกับอยู่ในเรือ บันไดเวียนด้านหลังที่ให้ความรู้สึกแบบบ้านสมัยเก่า ...เป็นสไตล์ที่เราชอบเอามากๆเลยล่ะ**-เวลาเปิด-ปิด-**แม้ว่าเวลาเปิด-ปิดร้านอย่างเป็นทางการนั้นคือ 17.00 – 24.00 แต่สำหรับคนที่ตั้งใจมานั่งทานอาหาร (คือไม่ได้แค่มานั่งดื่ม) นั้นร้านจะพร้อมให้บริการจริงๆราว 6 โมงเย็นค่ะ ส่วนดนตรีสดจะเริ่มเล่นประมาณ 3 ทุ่มนะคะ**-เมนูที่ได้ลอง-**สำหรับเมนูอาหารของที่นี่จะมีหลากหลายทั้งอาหารไทยและอาหารตะวันตกค่ะ หลายๆเมนูก็จะใช้วัตถุดิบจำพวกอาหารทะเลให้สมกับชื่อร้าน โดยคัดสรรซีฟู้ดสดๆคุณภาพดีๆส่งตรงมาจากทะเลมหาชัยเลยทีเดียว นอกจากนั้นก็ยังมีอาหารไทยแนวๆสูตรตำรับโบราณที่ปรุงอย่างพิถีพิถัน อาหารฝรั่งแบบพาสต้า เบอร์เกอร์ ของทอดต่างๆก็มี เราเลยลองกันไปเบาะๆตามนี้ค่ะ●Harbour Fries (ราคา 165 บาท) – คือเฟรนช์ฟรายส์ที่ทอดมา 4 แบบ รูปร่างต่างๆกัน เสิร์ฟมาพร้อมซอสแบบมายองเนส ดูเผินๆนึกถึงสไตล์แบบ Belgian French Fries แต่มีการเติมกลิ่นรสของวาซาบิอ่อนๆให้เป็นสูตรเฉพาะของทางร้าน ทำให้ไม่รู้สึกเลี่ยน เปิดมาเมนูแรกนี่ก็อร่อยถูกใจเอามากๆแล้วค่ะ เพราะตัวเฟรนช์ฟรายส์เค้าทอดมาดี๊ดีกรอบนอกนุ่มใน ไม่มีเหี่ยวหรือแข็งโป๊กเลยซักชิ้น เสิร์ฟมาร้อนๆแถมโรยเกลือมาให้เสร็จ.. ทานเพลินสุดๆ●เมี่ยงปูฮาร์เบอร์ (ราคา 350 บาท) – เมนูที่ทางร้านภูมิใจนำเสนอ เนื้อปูมาเป็นก้อนๆสดหวานเนื้อแน่น ห่อผักสดๆกรอบๆกับเส้นหมี่ที่ให้มา ราดน้ำจิ้มแซ่บๆ ทานแกล้มกับถั่วและกากหมูที่ยกมาพร้อมกัน ฮู้ยยยย..ฟินนนน...สมกับเป็นเมนูเด่น จานนี้ให้ไปเลยห้าดาวค่ะ เมี่ยงปูนี้เป็นเมนูพิเศษที่ไม่ได้มีทุกวัน จะมีเฉพาะคืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น สำหรับวันอื่นถ้าอยากกินต้องโทร. ไปสั่งไว้ก่อนค่ะ อันนี้เข้าใจว่าคงเป็นเพราะปูเป็นวัตถุดิบราคาสูง แล้วก็ต้องทานสดๆถึงจะอร่อย ทางร้านคงกลัวว่าถ้าสั่งมาทุกวันอาจต้องมีเหลือทิ้งเยอะ ยังไงซะถ้าจะให้ชัวร์โทร.ไปถามก่อนเป็นดีที่สุดค่ะ● ถั่ว+กากหมู – ตัวนี้ที่จริงก็ไม่แน่ใจว่าเป็น complimentary ที่มีให้ทุกโต๊ะไม่ว่าจะสั่งอะไร หรือว่าให้มาเฉพาะโต๊ะที่สั่งเมี่ยงปูกันแน่ แต่เอาเป็นว่าถั่วคั่วใหม่ๆกับกากหมูเจียวใหม่ๆทั้งหอมและกรอบกริ๊บแบบนี้นี่จะทานเล่นเปล่าๆก็เพลินดีจะทานด้วยกันกับเมี่ยงปูที่ยกมาด้วยกันก็ฟินไปอีกแบบล่ะค่ะ●Spaghetti Carbonara(ราคา 280 บาท) –ซอสครีมหอมชีส เส้น al dente สู้ฟันนิดๆกำลังดี เคล้ากับเบคอนกรอบๆ แล้วท็อปด้านบนด้วยไข่แดงเยิ้มๆ โรย parmesan cheese หอมๆเตะจมูก ..จัดเป็น spaghetti carbonara ที่รสชาติเข้มข้นอร่อยใช้ได้เลยล่ะค่ะ สำหรับคนที่ชอบทานเมนูนี้อยู่แล้วบอกเลยว่าไม่ควรพลาด แต่ถ้าใครไม่ชอบกลิ่นชีสหรือกลัวจะเลี่ยน แนะนำให้จัดเมนูไทยๆของทางร้านน่าจะแจ่มกว่านะคะ● ชุดข้าวผัดปู หน้ากุ้งย่าง (ราคา 295 บาท) –จานนี้บอกได้คำเดียวว่าเลิฟเลย ข้าวผัดปูผัดมาหอมๆ ข้าวเรียงเม็ดกำลังสวยนุ่มหนึบ ใส่เนื้อปูมาให้เยอะพอสมควร แถมยังโปะมาด้วยไฮไลท์คือกุ้งย่างหอมๆตัวบิ๊กเบิ้มอลังการเนื้อแน่น อร่อยแบบว่าเคลิ้มสุดๆ● ชุดข้าวผัดกากหมู เนื้อเค็ม/หมูหวาน (ราคา 230 บาท) –เมนูนี้สามารถเลือกได้ว่าจะเอาเป็นเนื้อเค็มหรือหมูหวาน ซึ่งเราเลือกไปเป็นอย่างหลังค่ะ อันที่จริงฟังดูวัตถุดิบก็ธรรมดาๆ ไม่เร้าใจเท่าไหร่ แต่สั่งมาเพราะพนักงาน (หรือจะเป็นคุณเจ้าของร้านซะเองก็ไม่ทราบ) ที่มาดูแลที่โต๊ะเรานั้นแนะนำเมนูนี้อย่างภาคภูมิใจว่าเป็นสูตรเด็ดของคุณย่า ซึ่งพอลองแล้วปรากฏว่าอร่อยตาโตเลยล่ะค่ะ กากหมูที่นี่ทอดกรอบๆใหม่ๆวันต่อวัน นำมาผัดกับข้าวใส่เนื้อหมูย่างหั่นลูกเต๋ามาก็หอมอร่อยอยู่แล้ว ยิ่งได้รสหวานของหมูฝอยที่โรยมายิ่งเข้ากั๊นเข้ากัน เรียกว่าถึงวัตถุดิบจะไม่ไฮโซ แต่ฝีมือดีมีสูตรเด็ดแบบนี้ก็กลายเป็นเมนูเด่นไปได้เลยล่ะ ฟินระเบิดระเบ้อ..● เส้นใหญ่มันกุ้ง กุ้งย่าง (ราคา 295 บาท) –จานนี้แค่ดูเมนูก็นึกอยู่แล้วว่ามันจะต้องอร่อยแน่ๆ แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะ เส้นใหญ่ผัดมันกุ้งมาฮ้อม-หอม ใส่เนื้อปลาหมึกสดๆวงใหญ่ๆ ผัดมาดีไม่อมน้ำมันมาก ท็อปด้วยกุ้งย่างตัวใหญ่ตู้มมม.. ปลื้มปริ่มสุดๆบอกเลย● ชุดก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ พร้อมน้ำซุป (ราคา 220 บาท) –เป็นก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่นอกจากจะผัดไก่ใส่มากับเส้นแล้ว ยังมีไก่ย่างท็อปมาให้อีกทั้งขาเพื่อให้ดูสมราคา ในแง่รสชาตินั้นก็จัดว่าโอเคอยู่ แต่มันเทียบระดับความฟินกับเมนูอื่นๆที่ผ่านมาไม่ได้น่ะค่ะ เลยทำให้ดูหมองไปนิดนะสำหรับเครื่องดื่มนั้นมีทั้งเบียร์ วิสกี้และไวน์หลายแบรนด์ให้เลือก รวมไปถึงค็อกเทลสูตรต่างๆและน้ำอัดลม-น้ำผลไม้ ..แต่ถามหา mocktail ไม่ยักมีค่ะ งานนี้เลยสั่งเป็นโค้กกันไป ได้ยินในกลุ่มบ่นเบาๆว่าทำไมไม่มีมะนาวฝานใส่ให้ด้วยนะ...เอ่ออ..นั่นสิ..**-การบริการ-**สำหรับประสบการณ์ที่เจอต้องบอกว่าบริการที่นี่ดีงาม ดู service mind มาเต็มมากๆทั้งการต้อนรับและแนะนำเมนูต่างๆ แต่เคยเจอบางคนบ่นเหมือนกันว่าอาหารที่นี่ช้า รอนาน ซึ่งอันนี้คิดว่าคงเป็นเพราะเค้าทำอาหารแต่ละจานแบบพิถีพิถันจริงๆน่ะค่ะ โต๊ะเราอาจโชคดีที่ไปกันเร็ว ลูกค้ายังไม่เยอะ ร้านไม่ยุ่ง ก็เลยไม่เจอปัญหานี้นะคะโดยรวมแล้วก็เป็นอีกร้านที่ปลื้มปริ่มโดนใจทั้งในแง่ของบรรยากาศ บริการ และรสชาติของอาหาร ส่วนราคาที่ลงนี้รวม VAT แล้ว แต่ยังไม่ได้รวม Service Charge อีก 10 % นะคะ ถ้ามาเดินเที่ยวที่ Asiatique แล้วอยากหาร้านอาหารอร่อยๆทานกันซักมื้อก็ลองแวะมาได้ค่ะ
繼續閱讀