更多
2015-10-29
1710 瀏覽
วันนี้จะพาไปกินร้านอาหารที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงกันอีกร้านหนึ่งนะคะ นั่นก็คือร้านครัวเจ๊ง้อนั่นเองค่ะ ซึ่งการไปครั้งนี้ก็เป็นการติดต่อจากเอเจนซี่เจ้าหนึ่งค่ะ โดยเราก็เงื่อนไขเหมือนเดิมว่าขอรีวิวตามจริง ซึ่งทางเอเจนซี่โอเคและคุยกับทางร้านแล้วทางร้านก็โอเค ก็เลยได้ไปกินกันค่ะ โดยไปกันที่สาขาสี่พระยานะคะ แผนที่ก็ตามนี้เลยค่ะวันนั้นโชคดีค่ะทางเอเจนซี่บอกว่าเจ๊ง้ออยู่ด้วย ก็เลยได้มีโอกาสกินฝีมือจากต้นตำรับ รวมทั้งได้พูดคุยกับเจ๊ง้อด้วยนะคะ เอารูปเจ๊ง้อมาเปิดตัวก่อนเลยค่ะ (เดี๋ยวจะเล่าที่มาที่ไปของร้านอาหารครัวเจ๊ง้ออีกครั้งนะคะ)หากท่านใดเอารถไปเหมือนเรา แนะนำให้เอารถไปจอดที่ลานจอดรถใต้ทางด่วนนะคะ (เราไปโดย google map ซึ่งผิดจุดด้วยค่ะ เลยต้องโท
ที่นั่งชั้นบนจะแบ่งออกเป็นสองฝั่งนะคะ ฝั่งด้านในก็จะมีที่นั่งแบบรวมๆ กันตามภาพนี้เลยค่ะ
นอกจากเมนูที่บอกราคาเป๊ะๆ แล้ว พวกปูหรืออื่นๆ ก็จะมีการคิดราคาตามน้ำหนักด้วยนะคะ
ก่อนจะไปถึงอาหารแต่ละจาน เรามารู้จักที่มาที่ไปของร้านอาหารครัวเจ๊ง้อกันดีกว่านะคะ เจ๊ง้อมีชื่อจริงว่า ณชนก แซ่อึ้งค่ะไม่แน่ใจว่าทราบกันมั้ยคะว่าเจ๊ง้อ ณ ปัจจุบัน อายุ 77 ปีแล้ว..ขอบอกว่าตอนรู้อายุที่อึ้งมากค่ะ เพราะเจ๊ง้อดูดีมากๆ ไม่เหมือนคนอายุ 77 ปีเลยค่ะ แล้วก่อนหน้าที่จะเปิดร้านอาหาร เจ๊ง้อเปิดร้านตัดเสื้อผ้าทำผมก่อนค่ะ แต่การมาเปิดร้านอาหารก็เนื่องด้วยลูกค้าของเจ๊ง้อได้กินอาหารฝีมือเจ๊ง้อแล้วก็ชอบมาก และขอให้เจ๊ง้อเปิดร้านอาหาร จนในที่สุดเจ๊ง้อก็เลยเลือกเปิดร้านอาหารในที่สุดค่ะ ซึ่งตอนเริ่มเปิดร้านอาหารก็ตอนอายุ 62 ปีแล้วค่ะ เพราะฉะนั้นก็เปิดมาได้ 16 ปีแล้วนะคะ ซึ่งปัจจุบันก็มีด้วยกันทั้งหมด 11 สาขาค่ะ
เมนูแรกที่มาค่ะ ผัดผักบุ้งไฟแดง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของร้านครัวเจ๊ง้อเลยค่ะ ต้องบอกก่อนว่า เราเคยกินครัวเจ๊ง้อครั้งหนึ่งแล้วที่สาขาอื่น และสั่งเมนูนี้เช่นกันค่ะ แต่ขอบอก (อีกเช่นกัน) ว่ามันต่างจากรอบนี้มากๆๆ รอบนี้ผัดมาได้ถึงเครื่อง รสจัดเท่าที่ผัดผักบุ้งจะทำได้ ผักบุ้งก็ยังคงความกรอบอยู่ คือ อร่อยเลยค่ะ (ผิดจากคราวก่อนหน้านี้ที่เรางงมากว่ามันอร่อยตรงไหน ทำไมใครๆ ถึงสั่ง คิดดูแล้วกันค่ะว่าต่างกันขนาดไหน) แต่เจ๊ง้อบอกว่า ที่จริงแล้วรสชาติควรต้องเหมือนกัน เพราะทุกสาขาจะได้เรียนเหมือนกัน แต่อาจจะเป็นได้ว่าคนทำอาจจะทำแบบไม่สม่ำเสมอ ทำให้ต่าง แต่ขอยืนยันว่าต่างมากค่ะ กินอาหารรอบนี้ (โดยฝีมือเจ๊ง้อเองเลยในหลายๆ เมนู) บอกได้เลยว่า เข้าใจเลยค่ะว่าทำไมร้านนี้ถึงได้มีชื่อเสียง เพราะอร่อยจริงๆ ค่ะ
ส่วนจานนี้เป็นจานหนึ่งที่ประทับใจมากๆ กันทั้งโต๊ะเช่นกันค่ะ คือ กระเพาะปลาสดน้ำแดงค่ะ สำหรับเรานี่คือไฮไลท์ที่สุดของมื้อนี้ เราเคยกินแต่กระเพาะปลาแห้งค่ะ แต่นี่คือการกินกระเพาะปลาสดครั้งแรกของเรา ซึ่งขอบอกว่ามันนุ่มละมุนลิ้นมาก เวลาที่ตัวกระเพาะปลาสัมผัสกับลิ้นนี่ เหมือนได้ลูบผิวเด็กอ่อนน่ะค่ะ บอกไม่ถูกมันละมุนมาก อร่อย ตัวน้ำซุปก็เข้มข้นค่ะ เป็นเมนูหนึ่งที่เชียร์เลยว่าให้สั่งมากินนะคะ อร่อยจริงๆ
เมนูแรกนะคะ กับยำส้มโอค่ะ ตัวรสไม่ได้จัดมาก ออกแนวละมุนผู้ดี แต่ที่สำคัญคือ ตัวส้มโออร่อยมากกกกกกกกกกกก แล้วก็ไม่ได้ย่อยๆ ส้มโอให้เป็นเล็กๆ แบบบางเจ้า แต่มาเป็นชิ้นแบบตามภาพค่ะ ซึ่งเราชอบค่ะ เราว่าอร่อยดี แต่ควรสั่งมาเป็นจานแรกๆ ค่ะ ด้วยความที่รสจะไม่จัดเท่าอาหารอย่างอื่น ทำให้ถ้ากินอย่างอื่นที่รสจัดๆ มาก่อน จะทำให้เหมือนว่าจานนี้จืดไป แต่ที่จริงไม่นะคะ
เมนูคาวปิดท้ายอีกอันนะคะ เป็นอีกเมนูที่เจ๊ง้อแนะนำค่ะ ยำหมูดำนะคะ (ใส่กระเทียมโทนด้วย) คือ ด้วยความที่เป็น “ยำ” (ที่ไม่ใช่ยำใหญ่หรือยำส้มโอ) เราเลยคาดหวังไว้ที่รสจัดจ้านน่ะค่ะ แต่กลับกลายเป็นแบบรสไม่ได้จัดจ้านง่า แต่ตัวหมูนุ่มเวอร์มากค่ะ เรากับเพื่อนอีกคนไม่ชอบ แต่เพื่อนอีกคนที่ไม่ชอบยำส้มโอกลับชอบยำจานนี้มากกว่าค่ะ
โดยสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เป็นร้านหนึ่งที่ได้กินแล้วประทับใจมากค่ะ มีจานพีคๆ หลายจานเลยค่ะ และรสชาติแตกต่างจากครั้งแรกที่เราเคยกินที่สาขาอื่นแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยค่ะ แม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่จานที่อร่อยๆ ทั้งหลายนี่คุ้มค่าคุ้มราคามากค่ะ เป็นอีกร้านที่ได้กินแล้วอยากพาแม่ไปกินมาก เพราะคิดว่าแม่น่าจะชอบ (แต่ห้ามให้แม่เห็นราคา ฮา ต้องเป็นคนสั่งแล้วแอบจ่ายตังค์อย่างเดียวค่ะ แหะๆ) ซึ่งเราคิดว่า ถ้ามีโอกาสได้กินฝีมือเจ๊ง้อจริงๆ (แบบที่เรากิน) บอกได้เลยว่า คุณจะเข้าใจว่าทำไมร้านนี้ถึงได้มีชื่อเสียงค่ะ
ปิดท้ายด้วยรูปสาขาต่างๆ ของครัวเจ๊ง้อนะคะ
張貼