影片
更多
2012-05-03
12 瀏覽
หวานๆ รอบจัดซ้ำค่ะ เนื่องจากได้รับแจ้งจากทาง Openrice ว่าร้าน Let’s Sweet จะปิดปรับปรุงร้านในช่วงเดือนพฤษภาคม ผึ้งน้อยจึงรีบไปจัดการเคลียร์คูปองเงินสดในมือให้เรียบร้อยในเดือนเมษายนซะเลยอากาศที่ร้อนอย่างไม่น่าเชื่อทำให้อยากทานของเย็นๆอย่างมากมาย เป้าหมายเดิมของเราค่ะ สยามแสควร์เวิ้งโรงหนังลิโด้ฝั่งด้านในสยามฯนั่นเอง เมื่อมาถึงเป้าหมาย เจอป้ายแจ้งก่อนถึงบันไดเนื้อหาประมาณ “ขออภัย น้ำแข็งหมด จะมีน้ำแข็งอีกครั้งประมาณบลาๆๆ” ดูเวลาแล้วอีกเกือบๆชั่วโมงค่ะ ...อะ ไม่เป็นไร ทานขนมกับไอศกรีมก็ได้นี่เนอะ ที่นั่งฝั่งไกลแดดเต็มเอี๊ยด ผึ้งน้อยเลยกระเด็นมานั่งฝั่งใกล้แดดเช่นเดิม (ยังมีที่นั่งที่ไม่โดนแดดเหลือค่ะ แค่รู้สึกว่าแสงมันจ้าไปห
เนื่องจากได้รับแจ้งจากทาง Openrice ว่าร้าน Let’s Sweet จะปิดปรับปรุงร้านในช่วงเดือนพฤษภาคม ผึ้งน้อยจึงรีบไปจัดการเคลียร์คูปองเงินสดในมือให้เรียบร้อยในเดือนเมษายนซะเลย
อากาศที่ร้อนอย่างไม่น่าเชื่อทำให้อยากทานของเย็นๆอย่างมากมาย
เป้าหมายเดิมของเราค่ะ สยามแสควร์เวิ้งโรงหนังลิโด้ฝั่งด้านในสยามฯนั่นเอง
เมื่อมาถึงเป้าหมาย เจอป้ายแจ้งก่อนถึงบันไดเนื้อหาประมาณ “ขออภัย น้ำแข็งหมด จะมีน้ำแข็งอีกครั้งประมาณบลาๆๆ” ดูเวลาแล้วอีกเกือบๆชั่วโมงค่ะ ...อะ ไม่เป็นไร ทานขนมกับไอศกรีมก็ได้นี่เนอะ
ที่นั่งฝั่งไกลแดดเต็มเอี๊ยด ผึ้งน้อยเลยกระเด็นมานั่งฝั่งใกล้แดดเช่นเดิม (ยังมีที่นั่งที่ไม่โดนแดดเหลือค่ะ แค่รู้สึกว่าแสงมันจ้าไปหน่อยเท่านั้น)
หลังจากเดินไปสั่งอาหารอย่างรวดเร็วก็กลับมานั่งเล่นเน็ตรอคะ แน่นอนว่าใช้ Wi-fi ฟรีของทางร้านเช่นเดิมแอบเสียใจที่มารอบสองก็ยังไม่ได้ทานขนมคู่กับไอศกรีมชอคโกแลตอยู่ดี ...หมดอีกแล้ว...(T^T)
รออาหาร(ขนม)นานมาก ระหว่างนั้นก็มีพนักงาน(รึเปล่า หรือเจ้าของ อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ) เดินมาถามว่าออเดอร์แล้วรึยัง ผึ้งน้อยแอบงงเลยล่ะค่ะ หลังจากนั้นก็รออีกพักใหญ่ๆ รู้สึกแปลกๆเลยลองหันไปมองโต๊ะของสองสาวใหญ่ที่มาหลังผึ้งน้อยดู ปรากฏว่าเค้าได้ของที่สั่งแล้วค่ะ เท่านั้นนั่นแล โรงปฏิกรณ์ที่ร้อนได้ที่จากแดดภายนอกก็แทบจะระเบิดเลยทีเดียว คราวนี้โวยค่ะ ซึ่งข้อแก้ตัวคือ “ขอโทษครับ คงวางออเดอร์สลับกัน” ...ป๊าด เซ็งค่ะ
หลังจากการรอคอยอันยาวนานนนนนนนน ก็ได้มา 1 เมนูเปิดตัวสำหรับวันนี้
Banana Choco French Toast (129 บาท)
และตามมาไม่ห่างกันนัก กับ Yummy Strawberry Nutella (169บาท)
ทั้ง2เมนูเลือกเสิร์ฟคู่กับไอศกรีมชาเขียวค่ะ
พอเริ่มลงมือทาน ทางฝั่งแพนเค้กไม่มีปัญหา แต่ทางฝั่งโทสสิคะ ทานคำแรกก็งงๆว่ามีใส่น้ำผึ้งด้วยแต่ไม่มีชอคโกแลตราดมา ...
ก็คิดว่าชอคโกแลตคงเป็นไส้ล่ะมั้ง กะว่าจะเปิดไส้ถ่ายรูปมาโชว์เพื่อนๆซะหน่อย โช๊ะ ไม่มีค่ะ ไม่มีชอคโกแลต งงเป็นไก่ตาแตกไป 3 วิ ว่าแล้วก็รีบยกมือถามคุณครู เอ๊ย ถามพนักงานร้านทันทีค่ะสรุปว่าทำมาผิด เค้าก็เลยยกกลับไปทำมาใหม่ (แอบเสียดายของเหมือนกันนะคะ)
ระหว่างรอการแก้ไขเมนูที่พลาด เรามาดูเมนูที่ไม่มีปัญหากันก่อนดีกว่าค่ะ
อันว่าชอคโกแลตกับสตรอเบอร์รี่นั้นย่อมคุ่กันได้อร่อยเลิศอยู่แล้ว (ตำราเล่มไหนเนี่ย) เมนูนี้จึงใช้เวลาไม่นานก็หายแว๊บไป (โดยส่วนตัวว่าเมนูในรีวิวที่แล้วอร่อยกว่านิดหน่อยเพราะมีโยเกิร์ตค่ะ)ติตรงที่สตรอเบอร์รี่ชิ้นบางมากๆจนไม่สมดุลกับความหนาของแป้งแพนเค้กค่ะ
จากนั้นเมนูโทสเวอร์ชั่นแก้ไขแล้วก็ถูกยกมาเสิร์ฟค่ะ
คราวนี้ปาดชอคโกแลตมาด้านบนเห็นชัดเจน
ข้อสังเกตเล็กๆ
– รีบทำเกินไปจนตัวขนมปังยังไม่ได้ที่ ออกจะยังเป็นขนมปังนุ่มๆอยู่เลย
– โทสชิ้นที่วางตั้งอยู่ไม่มีชอคโกแลต
จานนี้เป็นจานที่เสียดายอย่างแรงที่ไอศกรีมชอคโกแลตหมดค่ะ
คิดว่าถ้าเอาชอคโกแลตกับกล้วยหอมมาใส่เป็นไส้กลางน่าจะอร่อยกว่านี้ค่ะ พอทาหน้าอย่างเดียวแล้วมันเลยอร่อยแค่แผ่นบน แผ่นล่างก็เนยๆ ไม่ปลื้มเท่าไหร่ (ผึ้งน้อยก็ไม่ได้จะทานแยกแผ่นกันนะคะ แต่หั่นแล้วมันหลุดออกจากกันเองค่า)
สรุปว่ารอบนี้ไม่ปลื้มทั้งอาหารและการบริการเท่าครั้งแรกค่ะ แจกแจงรายละเอียดตามนี้เลยค่ะ
บรรยากาศ – การตกแต่งร้านน่ารักแต่ร้อนมากค่ะ แอร์ไม่เย็นเลย สงสัยจะสู้อากาศนอกร้านไม่ไหว ทางร้านน่าจะติดม่านซักหน่อยก็จะดีค่ะ
การบริการ – ช้าาาาามากกกกก แต่ข้อดีคือรับผิดชอบดีค่ะ
รสชาด – ยังไม่ปลื้มถึงขีดสุด ไส้และเครื่องมีปริมาณน้อยไม่สมดุลกับความหนาของแป้ง ทั้งแพนเค้กและโทส
ยังไงก็เอาใจช่วยนะค่ะ เปิดร้านหลังปิดปรับปรุงแล้วจะแวะเวียนไปเยี่ยมค่ะ
張貼
