ไปเที่ยวกันมั้ย...ย...ย จะไปก็รีบไป...ป...ป
ไม่ได้จะชวนมาร้องเพลงกินตับของพี่เท่ง แค่จะบอกว่าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อน มีโอกาสดี ได้ไปแอ่วเมืองเชียงใหม่มาเจ้า (แอ๊บสำเนียงเหนือด้วยนะจ๊ะ) แม้ฟ้าฝนจะไม่ค่อยเป็นใจ เพราะฝนตกตลอดทุกเย็น แต่ดิฉันก็ได้ไปตะลอนหาของอร่อยๆ จากแดนไกลมาฝากชาว OpenRice กันด้วย กับร้านอาหารฝรั่งเศสใหม่ล่าสุด กลางเมืองเชียงใหม่นาม Le Beaulieu @ Chiang Mai
คุ้นชื่อกันใช่ม๊า...หลายคนน่าจะรู้จักร้าน Le Beaulieu ในซอยวัฒนากันเป็นอย่างดีเพราะเป็นร้านดังร้านเด็ดสุดไฮโซที่ต้องจองคิวกันเลยทีเดียว โดย Le Beaulieu @ Chiang Mai ก็มีเชฟ Herve Frerard ดูแลความอร่อยอยู่เช่นเดียวกัน แต่จะบริหารงานโดยคุณ ชลาลักษณ์ บุญนาค ผู้ซึ่งไปทานอาหารที่ Le Beaulieu กรุงเทพฯ จนติดออกติดใจ กลายเป็นขาประจำ และสนิทสนมกับเชฟจนส่งเชฟจากรีสอร์ตในเชียงใหม่ของตัวเองไปเรียนรู้สูตรอาหารฝรั่งเศส เพื่อมาเปิดขายที่ Hill Lodge Resort ที่หางดง ในนาม Le Beaulieu Cuisine by Chalaluck Bunnag แต่เนื่องจากรีสอร์ตอาจจะไกลตัวเมืองไปนิด เธอเลยมาเปิด Le Beaulieu @ Chiang Mai ณ ใจกลางเมืองเชียงใหม่ ที่หมู่บ้านเชียงใหม่แลนด์ ซอย 7 ให้ขาประจำชาวเชียงใหม่ได้มาลิ้มความอร่อยแบบฝรั่งเศสแท้ๆ โดยไม่ต้องเดินทางไกลนัก
บ้านหลังนี้ล่ะค่ะที่จะนำความอร่อยมาให้กับพวกเรา
เดินเข้าไปในบ้านกันดีกว่า สังเกตโลโก้คุ้นตา
ด้วยการตกแต่งบ้านสไตล์โคโลเนี่ยล ตัวอาคารสีส้มแสดตัดกับเครื่องเรือนและเสาสีไม้โอ้ค จึงทำให้ที่นี่ดูอบอุ่นมากเชียวค่ะ ในสไตล์ร้านอาหารเล็กๆ ชิลล์ๆ แบบ Bistro โดยเฉพาะเมื่อผสานกับภาพวาดดอกไม้สีสันสดใสที่ตกแต่งไว้โดยรอบก็ยิ่งทำให้รู้สึกผ่อนคลาย วันนี้ดิฉันเลือกนั่งโต๊ะด้านใน เพราะว่าอากาศไม่ค่อยเป็นใจ แม้ด้านนอกจะเก๋ไก๋น่านั่งไม่แพ้กัน
บรรยากาศที่นั่งด้านนอก
โต๊ะเก้าอี้ไม้สุดชิลล์ บรรยากาศริมสวน
เดินเข้ามาภายในบ้าน พบบรรยากาศอบอุ่นและเตาผิงยักษ์
การตกแต่งภายในสุดโคโลเนียล เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก
ภาพวาดดอกไม้สวยๆ ที่แขวนอยู่โดยรอบ สร้างบรรยากาศโรแมนติก
นอกจากความสวยงามของภาพวาดแล้วที่นี่ยังสร้างความโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วยการบรรเลงเปียโนสดจากคุณบุ๊ค คีตวัฒนะ ทุกคืนวันพฤหัส-ศุกร์ อีกด้วย
ทานอาหารฝรั่งเศสเคล้าเสียงเปียโน โรแมนติกสุดๆ
มาถึงอาหารกันบ้าง การันตีด้วยชื่อเชฟ Herve ขนาดนี้ เรื่องรสชาติความเป็นอาหารฝรั่งเศสแท้ๆ คงไม่ต้องพูดถึง เริ่มเรียกน้ำย่อยกันก่อน ด้วย Homemade Foie Gras Terrine เทอรีนตับห่านเสิร์ฟคู่กับขนมปังบริออชท์พร้อมซอสพีช รสอมเปรี้ยว จาน Complimentary จานนี้หายวับไปในหนึ่งคำเลยค่ะ แหะๆ
เมนูสุดเก๋
แค่จานเรียกน้ำย่อยก็เลิศแล้ว
ขนมปังร้อนๆ รองท้องกันก่อน
และเนื่องจากทาง Hill Lodge Resort มีแปลงผักสดเป็นของตัวเอง (ส่งขายให้ Tops Supermarket ด้วยนะเออ) ทำให้จานเด็ดจานแรกที่คุณนุศรา ผู้ดูแลร้าน Le Beaulieu @ Chiang Mai แห่งนี้ แนะนำให้กับเรา คือ Hill Lodge Chef Salad (180 บาท) โดดเด่นด้วยความสดกรอบของผักสลัดทานคู่กับทูน่า ไข่ต้ม และเดรสซิ่งแบบฝรั่งเศส แต่ที่โดนใจดิฉันสุดๆ ก็ตรงที่จานนี้เสิร์ฟคู่มากับแป้งอบสอดไส้บลูชีส ทานอุ่นๆ หอมอร่อยจนเคลิ้มไปเลยทีเดียว
คุณนุศราและเชฟ ผู้ให้คำแนะนำสำหรับจานอร่อยของเราในวันนี้
Hill Lodge Chef Salad จานนี้พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง
ล้างปากด้วย Soup of the day ที่จะเปลี่ยนไปทุกๆ วัน วันนี้เป็นซุปหัวหอมค่ะ French Onion Soup, Baked croutons & Comte cheese แม้สีอาจจะดูเข้มไปสักนิด แต่ความหอมหวานกลมกล่อมน้ำซุปเข้ากันได้ดีกับขนมปังอบชีสก็องเต้ทำให้จานนี้อร่อยแบบไม่ธรรมดา
ซุปหัวหอมสไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ
จานหลักของเราวันนี้เป็นน้องเป็ดค่ะ Baked Crispy Duck Leg Confit (690 บาท) ขาเป็ดอวบๆ อบกรอบเสิร์ฟคู่กับมันฝรั่งและเห็ด เนื้อเป็ดเปื่อยกรอบ ยิ่งทานคู่กับบัลซามิคชั้นดีที่ราดแต่งจานมาด้วยแล้วนี่ หยุดไม่อยู่จริงๆ ค่ะ
ขาเป็ดกรอบมากและไม่เหนียวเลย
จานต่อมาต้องถูกใจ Foie Gras Lovers เป็นแน่แท้ค่ะ เพราะอร่อยขึ้นสวรรค์กันไปเลยทีเดียวกับ Panfried Soulard Duck Liver, Poached pear & raspberries in Port wine ตับห่านชิ้นโตนุ่มแสนนุ่ม จากตลาดการเกษตรชื่อดัง Soulard ราดซอสพอร์ทไวน์ ผสานรสเปรี้ยวของลูกแพร์และซอสราสแบร์รี่
ตับห่านนุ่มๆ ผสานความเปรี้ยวของซอส และความสดของผัก
โปรดสังเกตความหนาของตับห่าน
ล้างปากกันด้วยขนมหวานที่แค่เห็นหน้าตาก็ตกหลุ่มรักแล้ว Traditional Millefeuille with Caramel Ice Cream (250 บาท) มิลฟิลย์กรอบๆ สอดไส้สตอร์เบอร์รี่และกีวี่ ผสานความหอมหวานเย็นสดชื่นของไอศกรีมคาราเมล ตัดเลี่ยนด้วยซอสราสพ์เบอร์รี่ที่วาดมาเป็นรูปต้นสนน่ารัก และ Apple Tart Vanilla Ice Cream (230 บาท) ทาร์ตแอ๊ปเปิ้ลอบซ้อนกันหลากหลายชั้นรสอมเปรี้ยวเข้ากันดีกับไอศกรีมวานิลลาหอมๆ ซอสลวดลายหัวใจล้อมรอบ อร่อยเด็ด
ชอบการแต่งจานของจานนี้มากค่ะ
ดูกันชัดๆ ว่าขนมพันชั้นของที่นี่สอดไส้อะไรไว้บ้าง
แอปเปิ้ลทาร์ตจานนี้ก็น่ารักน่าชิมไม่แพ้กัน
ไอศกรีมวานิลลาข้างบน หอมอร่อยสุดๆ เข้ากันดีกับรสเปรี้ยวๆ ของแอปเปิ้ล
สำหรับเครื่องดื่มของที่นี่ก็เด็ดดวงไม่แพ้อาหาร เพราะได้บาร์เท็นเดอร์มือดีอย่าง “ป๋าสมพงศ์” ที่หลายคนคุ้นเคยกันดีเพราะเคยประจำอยู่ในโรงแรมระดับ 5 ดาวในกรุงเทพมานานหลายสิบปี วันนี้ได้ลองชิม Blue Margarita ประทับใจสุดๆ หวานเปรี้ยวลงตัว หอมเลมอน รสชาติกลมกล่อม ดื่มสวยๆ ได้ชิลล์เลยค่ะ หรือสำหรับคอไวน์ ที่นี่ก็มีให้เลือกหลากหลายทั้งโลกเก่าและโลกใหม่ ราคา ตั้งแต่ระดับขวดละ 700 ถึง 13,000 บาท หรือจะสั่งมาดื่มเป็นแก้วก็เริ่มต้นที่ 150 บาทเท่านั้นค่ะ
บลูมากาเร็ตต้า พร้อม ป๋าสมพงศ์ ผู้อยู่เบื้องหลังความอร่อย
เห็นแล้วเปรี้ยวปากกันใช่ม้าาาา
ไวน์แดงแจ่มๆ เข้ากันดีกับจานหลักของเรา
คราวนี้ออกจะแหวกแนวสักหน่อย มาเที่ยวเชียงใหม่แต่แอบปลื้มร้านอาหารฝรั่งเศสซะงั้น ^^ แต่ขอคอนเฟิร์มว่าเลิศจริงอะไรจริงค่ะ จะเป็นนักท่องเที่ยวหรือชาวเมืองเชียงใหม่เองก็มาทานอาหารฝรั่งเศสอร่อยๆ ของที่นี่ได้ ทานเป็นคอร์สๆ ราคาไม่โหดร้ายเกินไป เมื่อเทียบกับความอร่อยแล้ว คุ้มที่จะแลกจริงๆ ค่ะ (ขอแอบกระซิบว่าทานที่เชียงใหม่ราคาถูกกว่าที่เมืองกรุงด้วยนะเออ)