1
0
0
以上資料只供參考, 請與餐廳確認詳情
招牌菜
ร้านนี่จะให้ดีต้องไปวันอาทิตย์ เพราะทั่นจะได้นั่งกินเค้กจิบกาแฟชมวิวถนนคนเดินวันอาทิตย์ของเชียงใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ถนนคนเดินท่าแพ ร้านนี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ร้าน ที่คุณจะชมวิวในมุมสูงได้ จึงนำมารีวิวไว้ ร้านนี่มีนามกรว่า...Kaffe 151 (ตัวเลขเติมท้ายเป็นเลขที่อาคาร)ร้านนี่ตั้งอยู่ตรงหัวมุมของแยกตรงข้ามอนุสาวรีย์สามกษัตริย์พอดี อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงเรียนยุพราชพอดี หรือติดอาคารไปรษณีย์...จะเห็นตัวตึกสามชั้นสีเหลืองตัดกับสีน้ำตาลเข้มสไตล์คลาสิกได้อย่างชัดเจนแต่เดิมร้านนี่เคยเป็นโรงพิมพ์ขนาดเล็ก ที่สาวเหนือเห็นมาตั้งแต่สองทศวรรษก่อน(บอกอายุแก่ทันใด)เพราะเคยเป็นนักเรียนอาชีวะเชียงใหม่(อยู่ตรงข้ามโรงเรียนยุพราช)เลยเดินเตร่ผ่านไปมาบ่อย แม้จะมีถนนคนเดินก็ยังเป็นร้านโรงพิมพ์ จนอดคิดไม่ได้ว่า ทำเลทองได้เปรียบแบบนี้ ถ้าทำเป็นร้านอาหารชมวิวจากชั้นบน จะเลิศเพียงใด...ไม่คิดว่าไม่กี่ปีต่อมา จะกลายเป็นร้านกาแฟจริงๆตามที่คาดเดาเอาไว้บริเวณภายนอกร้าน เป็นเก้าอี้ยาวนั่งไม้ เคยเดินผ่านมาจะเห็นพวกนักท่องเที่ยวฝรั่งชอบมานั่งกันมากกว่า (ไม่รู้ทำไมชอบนั่งสูดมลพิษรถยนต์เมืองไทยกันนักหว่า แต่ถ้านั่งสูบบุหรี่ก็อีกเรื่อง แถมร้านนี่มีบริการเบียร์ด้วย ซึ่งพวกขี้เหล้าหลวง มักจะชอบนั่งบริเวณนี่ ด้วยเสียงรถยนต์ผ่านไปมาก็ช่วยกลบเสียงพูดคุยโวกเวกได้หน่อยส่วนด้านในก็มีแอร์เย็นๆ และบรรยากาศเงียบสงบ แต่ที่นั่งมีแค่ 3 โต๊ะเท่านั้น และดูเป็นลักษณะโต๊ะที่นั่งเพียงชั่วเวลาสั้นๆ...หากใครที่ต้องการนั่งยาวๆจนตูดบาน ต้องอัญเชิญขึ้นชั้นสองนะครัช...แต่ก่อนจะไปชั้นสอง เราต้องสั่งอาหารกันที่หน้าเคาน์เตอร์เสียก่อนเมื่อเลือกเค้กและเครื่องดื่มได้ ก็เช็คบิลจ่ายเงิน รอรับอาหารไปด้วยเลย...จากนั้นก็ไปเลือกที่นั่งกันให้ตูดบานโลดมาชมบรรยากาศบนชั้นสองกันนะครัช (ลืมถ่ายให้ดูบันได ว่าบันไดที่นี่ใหญ่และชันขนาดไหน ต้องใช้ความระวังสุดๆในการเดินขึ้นมา และถ้าใครตัวสูงเกิน 180 ซม. ควรระวังหัวของทั่นด้วย เพราะเพดานระหว่างบันไดนั้นต่ำ)ชั้นสองจะติดกระจกไว้รอบทิศทาง ทำให้เห็นวิวได้ 360 องศา ติดแอร์เย็นพอสมควร ไม่ถึงกับฉ่ำจนหนาวสั่นการตกแต่งที่เห็นเด่นชัดคือ ฝาผนังห้องสีเทา ตัดกับรูปดอกไม้สีหลากกลีบ คล้ายศิลปะกึ่งนามธรรม contract กับเฟอร์นิเจอร์หวายทีนี้มีชุดโซฟานั่งสบายแบบเหลือเฟือ ปลั๊กมีให้เสียบพร้อม ใครพกโนคบุคมาก็เสียบเล่นได้ทั้งวันเลย (นั่งสบายชนิดว่าอิฉันเคยเพลียหลับยาวไปเลยนะเออ)ด้านเคาน์เตอร์นั่งเดี่ยว จะเป็นมุมที่หันหน้าเข้าหาอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ แต่ก็เป็นด้านที่โดนแดดยามบ่ายส่องมาเช่นกัน แต่ไม่ต้องห่วง เพราะทางร้านมีม่านกั้นไว้...ส่วนมุมที่นั่งดีที่สุดของชั้นนี่เห็นจะเป็นตรงด้านมุมโค้งที่เห็นสี่แยกถนนได้...ไม่ค่อยชัดนัก เพราะดันมีพวกสายไฟบังสักนิแต่ถ้าไม่วอรี่เรื่องสายไฟมาก ก็ชมวิวได้โอเคน่าเสียดายที่ถ่ายรูปชั้นสามออกมาไม่สวย เพราะส่วนนี่จะเปิดให้บริการก็ต่อเมื่อแขกล้นร้านเท่านั้น ถ้าแขกมีโต๊ะเพียงพอ ส่วนตรงนี้จะปิดไป (แถมยังปิดแอร์อีก เลยอากาศอบอ้าวมาก) แต่มุมชมวิวบนชั้นสามนี่แหละ ที่สวยที่สุด เพราะไม่มีสายไฟมาบดบัง (เสียดายวันที่ไปถ่าย แม้จะเป็นวันอาทิตย์ แต่เป็นเวลาเพิ่ง 5 โมงเย็น คนยังไม่เยอะพอ แต่สาวเหนือต้องกลับบ้านก่อน)สำรวจการตกแต่งร้านกันเรียบร้อยแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า ทางร้านมีเมนูอะไรให้เจี๊ยะกันบ้างรีวิวร้านนี่ สาวเหนือไปหลายรอบนะค่ะ เลยอาจจะเห็นมีเมนูเยอะ เพราะรวบรวมมาจากหลายวัน ไม่ได้สั่งกินทั้งเซทภายในวันเดียวเริ่มต้นด้วยกาแฟก่อนล่ะกัน ร้านนี่ใช้กาแฟแบรนด์ดอยช้าง ดิฉันสั่งเป็น กาแฟดอยช้างเย็น(ขวา)มาลองเจิมดู...ดื่มแล้วรู้สึกรสชาติขมนำแบบกาแฟ แต่มันเปรี้ยวตามนี่ด้วยนี่ซิ เป็นรสชาติที่แปลกดี...แต่คงไม่ขอสั่งอีกดีกว่าถ้ากลับไปอุดหนุนใหม่ รู้สึกไม่ค่อยถูกลิ้นนักส่วนด้านซ้ายเป็น สตอเบอรี่ สมูธตี้ คุณเพื่อนสาวเหนือเป็นคนสั่ง เลยขอลองชิม...ก็เปรี้ยวจี๊ดเย็นขึ้นหัวเลย แต่รสเปรี้ยวไป ยังไม่ถูกลิ้นสาวเหนืออยู่ดีพออีกวัน ลองเปลี่ยนมาผสมสองผลไม้ในแก้วเดียวอย่าง กีวี แอปเปิ้ล สมูธตี้ ...พบว่าลงตัวกว่า รสชาติไม่เปรี้ยวมาก มีความหวานหน่อยๆ ได้กากผลไม้เต็มๆด้วย ก็โอเคกับแก้วนี่เลยแต่เครื่องดื่มสุดโปรดจริงๆของอิฉัน (และคงโปรดสำหรับสาวๆหลายทั่น)เห็นจะเป็นชานมไข่มุก แบรนด์สิงโตโจรสลัด Cha la la ที่มีสาขาเดียวในเชียงใหม่ คือร้านนี่เท่านั้น รสชาติชานมหวานกำลังพอดี ส่วนไข่มุกก็หนึบหนับ ราคาเริ่มต้นที่ 35 บาทปิดท้ายเป็นเมนูของหวานค่ะ ร้านนี่ไม่มีอาหารหนักหรือคาวนะค่ะเรนโบว์ เครป ส่วนแยมราดหน้าเครปเป็นสตอเบอรี่ (นี่ต้องพยายามเทเนื้อสตอเบอรี่ไหลไปอยู่ตรงกลางนะเนี่ย ถ่ายภาพจะได้งาม(มั่ง?)ตัวแยมไม่เปรี้ยวบาดปากนัก รสหวานกำลังพอดี เครปเนื้อนิ่มไม่เหลว รสชาติหวานปานกลางส่วนอีกอันเป็น เค้กกาแฟดอยช้าง 65 บาท...ตอนสั่งมีแอบกลัวว่า รสชาติจะเปรี้ยวแบบเครื่องดื่มหรือเปล่าหว่าปรากฎว่า...กลับชอบแฮะ เนื้อเค้กนุ่ม โดยเฉพาะชอบครีมซอสกาแฟฉาบหน้าเค้ก ได้รสชาติขมของกาแฟและความหวานข้นจนรู้สึกบาดคอเข้มข้น (อิฉันไม่ถูกกับของเปรี้ยวค่ะ แต่ถ้าของหวานบาดคอนี่อีกเรื่องปิดท้ายชุดใหญ่ด้วย ฟรุต วาฟเฟิลฟรุตวาฟเฟิลจัดเต็มที่สุดเท่าที่เคยกินวาฟเฟิลที่อื่นมา ตัววาฟเฟิลกรอบเล็กน้อย ดูผิวตรงเปี๊ยะ ไม่ย่นอ่อนแรงเหมือนวาฟเฟิลร้านอื่น แต่เนื้อดูน้อยไปนิด รสชาติหวานนุ่มกำลังพอดี เหยาะซอสช็อกโกแลตพอหน่อยๆ(จริงๆอยากให้ใส่เยอะกว่านี่นะ) จัดเต็มมาด้วยแอปเปิ้ลแดงฝาน ซอสสตอรเบอรี่ผลน้อย และกล้วยเหยาะคาราเมลหั่นแว่นเรียงอย่างสวย จิ้มกินกับวิปปิ้งครีมที่เหยาะซอสสตอรเบอรี่ปิดท้าย[สรุปโดยรวม ถ้าใครมาเที่ยวถนนคนเดินท่าแพเชียงใหม่ โดยเฉพาะถ้าอยู่บริเวณอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อยากถ่ายรูปวิวมุมสูง ถ้าชั้นสองดูสายไฟบังไป ก็ขึ้นไปถ่ายชั้นสามแล้วลงมานั่งกินกาแฟต่อที่ชั้นสองก็ได้ค่ะ (เพราะชั้นสามจะเปิดก็ต่อเมื่อไม่เหลือโต๊ะชั้นสองแล้ว)เพราะนี่เป็นร้านตรงจุดนี่จุดเดียวจะได้ชมวิวมุมสูงถนนคนเดิน(แถวประตูท่าแพจะมีร้านสตาร์บัค ที่ถ่ายมุมประตูท่าแพได้อีกร้าน)ส่วนใครที่ชอบทำงานเป็นแนวกลุ่มมนุษย์ติวกวดวิชาจิ้มโนคบุค ก็ไม่ต้องไปรบกวนร้านฟาส์ตฟู้ดที่ไหนให้เป็นดราม่า มาร้านนี่อย่างเดียวนั่งได้นาน ไวไฟแรงครบ แต่ห้ามเอาอาหารจากที่อื่นเข้ามาทานด้วยเท่านั้น เซอร์วิสมายส์ดี ส่วนอาหารนั้นสาวเหนือชอบสมูธตี้ผลไม้กับชาไข่มุกมากกว่ากาแฟ แต่ดันชอบเค้กกาแฟของร้านนี่ซะงั้นร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 2 ทุ่ม มีเบียร์ แต่ขายตามเวลาที่กำหนด ร้านไม่มีที่จอดรถ ต้องไปวัดดวงหากันเองตามละแวกข้างทางของถนนคนเดิน ใครได้ไปเที่ยวถนนคนเดินวันอาทิตย์ อย่าพลาดได้ไปกินเค้กจิบกาแฟ ถ่ายวิวมุมสูงของถนนคนเดินก่อนเป็นที่ระทึก ด้วยประการทั้งปวง
繼續閱讀