...ปลาหมึกต้มหวาน เมนูเด็ดจังหวัดปัตตานี...
ตูปะซูตง เมื่อพูดถึงชื่อนี้หลายคนอาจจะสงสัยและมึนงง แต่หากพูดว่า ปลาหมึกต้มหวานหรือปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียว หลายคนก็คงอ๋อ...กันเป็นแถว ตูปะซูตง เป็นชื่อของปลาหมึกต้มหวาน เมนูเด็ดจังหวัดปัตตานี ปลาหมึกกล้วยยัดไส้ข้าวเหนียวนำไปต้มใส่น้ำตาลมะพร้าวและกะทิ กินเป็นของหวานหลังมื้อหลักหรือกินเป็นของว่างก็ได้ จะว่าเป็นอาหารคาวก็ไม่ใช่อาหารหวานก็ไม่เชิง รสชาติจะเป็นยังไงคงต้องไปหาชิมกันดู หรือจะนำสูตรจากสมาชิก OpenRice ไปลองทำกินเองที่บ้านก็ดีไม่น้อย
ตูปะซูตง เป็นภาษาถิ่นมาลายู ตูปะ (หรือ ตูป๊ะ, ตูปัต) หมายถึง ข้าวต้มใบกระพ้อ มีลักษณะเป็นข้าวเหนียวห่อใบกระพ้อแล้วนำไปต้มคล้ายข้าวต้มมัด, ซูตง หมายถึง ปลาหมึก เมื่อรวมกันจึงหมายถึงปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียวต้มหวานนั่นเอง
เมนูตูปะซูตงนี้จะใช้ปลาหมึกกล้วยเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งปลาหมึกกล้วยนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีโอเมก้า 3 สูงมาก โดยโอเมก้า 3 มีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลในร่างกาย ถึงแม้ว่าในปลาหมึกจะมีโคเลสเตอรอลอยู่ด้วยก็ตาม แต่โอเมก้า 3 จะควบคุมไม่ทำให้โอเมก้าสูง สำหรับคนญี่ปุ่นที่นิยมรับประทานปลาดิบรวมถึงปลาหมึกดิบ บอกว่า “Eat Squid Stay Young” คือกินปลาหมึกแล้วจะดูอ่อนวัย โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้ดูเปล่งปลั่ง เต่งตึง ไม่เหี่ยวย่น ทั้งนี้ทั้งนั้นการรับประทานอาหารแต่ละอย่างก็ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ถ้ากินเยอะเกินไปก็อาจให้โทษต่อร่างกายได้เช่นกัน
ขอทิ้งท้ายด้วย สูตรตูปะซูตง ปลาหมึกยัดไส้ข้าวเหนียวต้มหวาน ของคุณ Karuna Lo เจ้าของเพจเฟสบุค ภาชน์ข้าวของ Karuna Lo และเป็นทั้ง OpenRicer ที่น่ารักของเราด้วย หากใครทำตามสูตรนี้แล้วอย่าลืมนำมาแชร์ให้เราได้ดูกันบ้างนะ
วัตถุดิบและเครื่องปรุง
1. ปลาหมึกกล้วยสด 1 กก
2. น้ำตาลมะพร้าว 1 1/2 แว่น
3. กะทิแยกหัวหาง 1/2 กก
5. เกลือ 2 ช้อนชา
6. ตะไคร้ทุบและหั่นเป็นท่อน 3 ต้น หรือใบเตย 3 ใบ (มัดรวมกัน)
7. ข้าวเหนียวแช่น้ำ 3-5 ชั่วโมง 200 กรัม
8. ผงปรุงรสเล็กน้อย
9.ไม้กลัด
ขั้นตอนการทำ
1. ล้างข้าวเหนียวและแช่ทิ้งไว้ 3-5 ชั่วโมง (ถ้าแช่นานเวลาต้มจะสุกไวขึ้นและข้าวก็นุ่มกว่า) หลังจากแช่ข้าวเหนียวได้ที่แล้วเทใส่ตะกร้าตาถี่ให้สะเด็ดน้ำพักไว้ (เก็บน้ำแช่ข้าวเหนียวไว้ล้างปลาหมึกเพื่อดับกลิ่นคาว)
2. ล้างปลาหมึกด้วยน้ำซาวข้าวลอกหนังและแยกหัวและตัว ปากและตาตัดทิ้ง พักให้สะเด็ดน้ำ
3. เทหัวกะทิใส่กระทะตามด้วยข้าวเหนียวปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาลมะพร้าวครึ่งแว่น ผัดให้ข้าวดูดซึมหัวกะทิพอแห้งๆไม่ต้องถึงกับข้าวสุก ตักออกมาพักให้เย็น
4. นำข้าวที่ผัดกับกะทิที่เย็นแล้วมาตักกรอกและยัด ๆ ใส่ตัวปลาหมึกให้แน่น (แต่อย่าให้แน่นมากเวลาต้มตัวปลาหมึกจะแตก)
5. นำหนวดปลาหมึกมายัดปิด ใช้ไม้กลัดโดยเสียบจากด้านข้างให้ทะลุไปถึงอีกด้านเพื่อไม่ให้ข้าวเหนียวล้นออกมาเวลาต้ม
6. นำน้ำตาลมะพร้าวมาสับและใส่กระทะลงไปเคี่ยวใช้ไฟอ่อนๆและหมั่นคนจนเป็นสีน้ำตาลไหม้ตามภาพ (เวลาต้มเคี่ยวจะได้หอมกลิ่นน้ำตาลและสีเข้มสวยแต่อย่าให้ถึงกับไหม้นะคะจะเหม็นไหม้และขม) ค่อย ๆ เทกะส่วนหางลงไป คน ๆ ให้เข้ากันตามด้วยตะไคร้หรือใบเตยปรุงรสด้วยเกลือและผงปรุงรสเล็กน้อย
7. พอกะทิเดือดค่อย ๆ วางปลาหมึกลงไปจนหมดไม่ต้องคนเพราะกลัวส่วนหัวจะหลุด ถ้าน้ำกะทิไม่ท่วมปลาหมึกเติมเล็กน้อยปิดฝาและต้มเคี่ยวไฟอ่อน ๆ ไปจนน้ำงวดและข้าวสุก ปิดไฟ
8. นำปลาหมึกมาตัด ๆ เป็นชิ้น ๆ พร้อมราดน้ำซอสที่เหลือในหม้อเล็กน้อย
เสร็จแล้วเสิร์ฟแบบนี้หรือหั่นเป็นชิ้นตามชอบกันเลย
อ้างอิง: เพจเฟสบุค ภาชน์ข้าวของ Karuna Lo l www.pattanilocal.go.th/hotel3/view.php?album_id=26 l www.bansuanporpeang.com/node/27183 l http://forum.thaiza.com/teen/ประโยชน์ของปลาหมึก/420737/