ร้านรวยกุ้งเผา  เป็นร้านอาหารสไตล์บ้านๆมากๆครับ  ถ้วยทำเลที่ตั้งที่ไม่ได้อยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวเลย  และอยู่ห่างจากถนนสายหลักมากๆ  ทางเข้าร้านก็เหมือนขับรถเข้าไปในชุมชนริมมน้ำ ตัวร้านจะมีทั้งที่อยู่บนพื้นดินและที่อยู่ในที่ยื่นออกไปในแม่น้ำครับ  




เมนูของร้าน  รวยกุ้งเผาส่วนใหญ่ก็จะเป็นเมนูกุ้งและปลาแม่น้ำครับ



เมนูแรก  กุ้งเผา  ราคา  800  บาท

เป็นกุ้งขนาดกลางๆ  กินกันคนละตัวพอครับ ฮ่าๆๆๆ  ไม่เน้นเนื้อกุ้งครับ  เน้นเอามันตรงหัวมาคลุกข้าวกินจะดีกว่า ฮ่าๆๆๆๆ




เมนูที่สอง  กุ้งผัดน้ำมะขามเปียก  ราคา  180  บาท

ก็โออยู่นะครับ  ซอสน้ำมะขามเปียกไม่ค่อยถึงรสถึงเครื่องครับ  แต่รวมๆแล้วได้อยู่ครับ



เมนูที่สาม  ลูกชิ้นปลากรายฉ่า  ราคา  150  บาท


เมนูนี้เป็นเมนูโปรดของเจ้าของบล็อกเลยครับ  ลูกชิ้นปลากรายลูกใหญ่แต่ไม่ค่อยเหนียว  หนึบ  และเด้งเท่าที่ควร  รสชาติของผัดฉ่านี่ถูกใจเจ้าของบล็อกมากๆครับ  กินไปเหงื่อไหลไป  เผ็ด ร้อน  เค็มๆ  สุดยอดครับ




เมนูที่สี่  ต้มยำปลาคัง  180  บาท


ต้มยำหม้อนี้รสชาติถูกจริงเจ้าของบล็อกมากๆ  เผ็ด  เปรี้ยว  หอมพริกแห้งทอด  ใบผักชีใบเลื่อย  แล้วเป็นต้มยำแบบน้ำใสแบบที่เจ้าของบล็อกชอบอยู่แล้วด้วยครับ  




เมนูสุดท้าย  เมนูแก้เผ็ด  ไหลบัวผัดก้ามกุ้ง  ราคา  80  บาท


เมนูนี้สุดยอดครับ  กินเล่นๆเพลินเลยครับ  ความกรุบกรอบของไหลบัวมาผสมกับรสชาติเค็มๆ หวานๆ  ของเครื่องปรุงแล้วมีกลิ่นกุ้งจากเนื้อก้ามกุ้งที่ใส่มาด้วยทำให้เมนูง่ายๆแบบนี้ชนะเลิศครับ



ร้านรวยกุ้งเผา  อาหารโอเคนะครับ  อร่อยหลายอย่างเหมือนกัน  ถ้าใครอยากผจญภัยในสถานที่แปลกๆ  ใหม่ๆ  แวะมาที่ร้านรวยกุ้งเผาได้เลยนะครับ คริๆๆๆๆ

ร้านอาหารร้านที่สองในจังหวัดน่านในวันนี้เป็นร้านที่เลือกมาทานเป็นมื้อกลางวันครับ  จริงๆไม่ได้เลือกร้านนี้เป็นอันดับแรกนะครับ  ...  เป็นร้านที่เลือกมาเป็นอันดับท้ายๆเลยละ   แต่ร้านอันดับแรก  “ปิด”  ช่วงเวลาที่เราอยู่ในจังหวัดน่านพอดีครับ  เลือกร้านที่สองมาก็ดันลืมดูว่าเค้าเปิดเย็น  พอไปถึงร้านเห็นว่าร้านปิดเลยเคว้ง กลัวว่าคุณนายแม่กับหลานสาวจะหิวก็เลยเลือกร้านนี้มาเพราะอยู่ใกล้ๆกัน


เฮือน่าน   อ.เมือง  จ.น่าน


ร้านเฮือน่าน อยู่ทางไปสถานีขนส่งน่านและทางไปโรงแรมน่านน้ำทองครับ  แยกจากถนนใหญ่เข้าไปนิดเดียว  มองป้ายสูงๆทางซ้ายมือเอาไว้ครับ  ร้านเป็นตึกแถว  3  ชั้น  2 คูหา ห้องเกือบๆสุดท้ายก่อนทางเลี้ยวซ้ายไปโรงแรมน่านน้ำทองครับ



ที่บอกว่าร้านนี้เป็นตัวเลือกท้ายๆสำหรับเป็นร้านอาหารในมื้อกลางวันนี้เพราะร้านนี้เป็นร้านที่เมนูหลักเป็นอาหารเวียดนาม   ตอนที่หาร้านอาหารเจ้าของบล็อกก็คิดว่าควรจะทานอาหารเหนือมากกว่า แต่พอได้มากกินแล้วรู้สึกดีใจที่ร้านที่เลือกไว้ตอนแรกปิดเพราะประทับใจในการบริการและรสชาติอาหารมากครับ







ร้านเฮือน่านเป็นร้านอาหารเวียดนาม – อีสาน  และอาหารทั่วไปครับ  โดยแหนมเนืองที่เป็นเมนูเชิดหน้าชูตาของร้านนั้นเป็นแหนมเนืองเจ้าดังจากทางภาคอีสานครับ  เจ้าของบล็อกสั่งแหนมเนืองชุดใหญ่  ราคา  280  บาท  มีหมู  8  ไม้  แป้งห่อ  1  ตั้งใหญ่ๆ  ที่ต้องบรรยายถึงขนาดนี้เพราะ  “ลืมถ่ายรูปมา” คงเป็นเพราะทุกคนหิวมาก  ก็มันเลยเวลาทานข้าวกลางวันของที่บ้านเจ้าของบล็อกมานานแล้ว  พออาหารมาเสิร์ฟเป็นอย่างแรกก็เลยไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว ได้รูปตะกร้าผักตะกร้าใหญ่มาเป็นหลักฐานให้เห็นว่าสั่งแหนมเนืองจริงๆ  ตะกร้าผักใหญ่มากๆครับ  แถมผักในตะกร้าก็มีหลากหลายมาก  ที่สำคัญเป็นผักปลอดสารพิษด้วย






ข้าวปั้นอีสาน  (ไส้กรอกอีสาน)   ราคา  69  บาท


ก็อร่อยดีนะครับ  แต่ที่บ้านเจ้าบล็อกชอบไส้กรอกอีสานที่เปรี้ยวมากกว่านี้ครับ





ยำผักกูดกุ้งสด  ราคา  120  บาท


จานนี้อร่อยมากครับ  น้ำยำไม่แซ่บจนเกินไป  เป็นน้ำยำที่ไม่ใส่น้ำพริกเผา  แถมมีถั่วลิสงคั่วโรยหน้ามาด้วยให้ความแซ่บ  ความหอมมัน  สุดยอดครับ








กุ้งพันอ้อยชุดเล็ก  ราคา  150  บาท


กุ้งไม้ใหญ่ทีเดียว  ไม้นึงทานกันได้ 2 คนเลยครับ 






ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม  ราคา  89  บาท

อันนี้รสชาติอร่อยตามปกติครับ





ปอเปี๊ยะทอด  ราคา  89  บาท






นักเก็ตไก่ทอด  ราคา  79  บาท  

สั่งมาเป็นเมนูให้เด็กครับ  แต่เด็กหันไปกินเมนูถัดไป






ข้าวผัดเวียดนาม  ราคา  50  บาท







ร้านเฮือน่าน  เป็นร้านอาหารเวียดนามในจังหวัดน่านที่อร่อยใช้ได้  บริการดี๊ดีครับ   ระหว่างที่เจ้าของบล็อกนั่งทานก็เห็นลูกค้าอื่นมารับแหนมเนืองที่สั่งไว้ถุงใหญ่ๆหลายคนทีเดียวครับ

เล็งร้านนี้ไว้นานมาก ชอบกินขนมไทยเกือบทุกอย่างแล้วเห็นร้านนี้
เขาขายขนมไทยแต่ทำเป็นเหมือนร้านกาแฟ คาเฟ่ เลยอยากไปลองดู  พอนัดเพื่อนกินกุ้งก็เลยขอแวบไปร้านนี้กันหน่อย



ร้าน บ้านข้าวหนม
ตอนไปร้านกำลังปรับปรุงแต่เขาก็ไปเปิดตรงเลยไป 3 ห้อง
เดี๋ยวทำร้านเสร็จจะกลับไปลองใหม่อีกครั้ง

พิกัดร้านเราตาม google
มาได้ แต่ร้านอยู่ ตรงข้ามกับประปาเทศบาลนครบาลศรีอยุธยา

จอดรถข้างทางได้เลยค่ะ 


ร้านขนมไทยมีให้เลือกหลายอย่าง
ทั้งขนมใส่ไส้ ตะโก้ คุ้กกี้สิงคโปร์ ข้าวต้มมัด ขนมดอกอัญชัน เข้าไปเขาก็มีตะกร้าให้ใส่
หยิบๆ มาแล้วเอาไปคิดเงิน อยากจะกินไปทุกอย่าง




นอกจากขนมเขาก็มีไอติม ด้วย
อยากลองไอติมเขาเลยสั่งมา 2 อย่าง

= ไอติมหลงยุค 110 บาท=


ไอติมเป็น ชาไทย ไอติมเขาไม่หวานมาก ขมๆ
ปลายลิ้น ข้างบนโรยถั่วเขียว ฝอยทอง แล้วก็ทองม้วน ไอติมชาดี  ขมนิดๆ หอมๆ ชอบที่เขาโรยถั่วเขียวมาด้วย
กรุบ  ๆ กรอบๆดี





= ไอติมเปรี้ยวใจ 110 บาท=


มีไอติม 3 ลูก
เสาวรส มะนาว  แล้วก็ สตอเบอรรี่ เป็น
3 ลูก เปรี้ยวๆ สดชื่นดี ชอบเสาวรสสุด
เหมือนใส่นมเปรี้ยวด้วย
เขาจะราดซอสสตอเบอรรี่ กินตอนร้อนๆ ก็สดชื่นดี

มาถึงขนมมากมายที่หยิบใส่ตะกร้า 



= ตะโก้เผือก = 


อันนี้อร่อยดี มะพร้าวเค็มๆ มันๆ
เผือกกับกะทิ เหมือนมันรวมๆ กัน เผือกเขากวนเนียน อันนี้ชอบเลย


= หม้อแกงฟักทอง / หม้อแกง


เขาทำเป็นถาดเล็กๆ เนื้อหม้อแกงก็เนียนดี
แน่นนิดๆ ชอบหม้อแกงฟักทอง ไม่ได้หวานมาก


= ขนมดอกอัญชัน 


อันนี้เพิ่งเคยกินครึ่งแรก
ไส้เหมือนสาคูไส้หมู  แต่เป็นแป้ง ประมาณข้าวเกรียบ
แต่แป้งจะหนากว่า 


รอร้านเสร็จจะลองอีกที ขนมเขาไม่หวานมาก
อยากให้เขาทำเมนูออกมาเป็นจานๆ แต่ทำด้วยขนมไทย แล้วก็เอาขนมไทยแปลกๆ มาด้วย
ราคาก็สูงกว่าขนมไทยทั่วไปอยู่ค่ะ

อยากกินกุ้งแม่น้ำมาก ก็เลยรวบรวมพลพรรค
ผองเพื่อนขับรถไปกินกุ้งแม่น้ำที่อยุธยากัน ทริป นี้เพื่อกุ้งแม่น้ำกันเลยทีเดียว เรื่องกินพวกเราจริงจัง



เลือกร้านอยู่นาน สรุปมาร้านนี้แล้วกัน ร้านดังของเขาที่เราก็ไม่เคยไปกินเหมือนกัน





ร้าน ต้นน้ำ รีเวอร์วิว อยุธยา 



พิกัดร้านไม่ใช่เจ้าถิ่น ตาม google มาอย่างเดียวเลยค่ะเจ้า google แอบพาเข้าซอยหมูบ้านเล็ก ตามสไตล์


หน้าร้านมีที่จอดรดกว้างขวางอยู่

เป็นร้านริมแม่น้ำ ตอนไปน้ำขึ้น น้ำเยอะเลยค่ะ ตัวร้านมีทั้ง ส่วนที่เป็นแพ เรือ แล้วก็ริมฝั่ง เรานั่งแบบแพ ก็อาจจะมีโคลงเคลงหน่อยนิดๆ
ร้านไม่ได้เน้นตกแต่งอะไร 







เมนูที่สั่งไป เริ่มจากกุ้งกันก่อน พระเอกของงาน กุ้งเขาขายเป็นตัว มีหลายขนาด ตั้งแต่ขนาด 2.5ขีด ตกตัวละ 400 บาท ก็ไล่ขนาดกันไป
จนโตสุดเป็น 7 ขีด ตัวละ 1,400 บาท อยากเห็นกุ้งตัวใหญ่ๆ เราสั่งแบบตัวละ 500 บาท ตัวแบบ 3 ขีด 



กุ้งแม่น้ำ ตัวละ 3ขีด ตัวละ 500 บาท

แล้วกุ้งก็มาเสริฟ กุ้งเนื้อแน่นๆกับไข่กุ้งเยิ้มๆ กุ้งเขาเนื้อแน่นดีค่ะ ไข่ก็มันๆน้ำจิ้มเขายังไม่เด็ดมากเท่าไหร่ 
แต่แค่กุ้งกับข้าวสวยก็อร่อยแล้ว




ปลารากกล้วย 150B
ปลารากกล้วยตัวเล็กๆๆๆ
ตัวเล็กก็ทอดแล้วกรอบมาอีกแบบ ทอดมากรอบๆ แต่ว่าไม่ขมดีค่ะ เสริฟมากับ ซอสพริกอันนี้กินเล่นอร่อยดี

ห่อหมก 60B
ห่อหมกเขาทำนิ่มดีดี อันนี้อร่อยดีค่ะข้างล่างเป็นใบยอ  ชอบห่อหมกเขา



กะหล่ำปลีผัดน้ำปลา 80B
จานผักที่ต้องสั่งทุกทีที่นี่เขาหั่นกะหล่ำปลีมาเป็นชิ้นเล็กๆ รสชาติผัดมาดี แต่ว่า น้ำท่วมไปหน่อยโดยรวมชอบค่ะ รสชาติดี


ต้มยำกุ้งกุลา หม้อ 200B
อยากกินต้มยำน้ำใสกัน กุ้งให้มาเยอะเต็มหม้อเลย แต่ว่ารสชาติไม่เท่าไหร่ ไม่ได้เข้มข้นมาก กุ้งตัวกลางๆ
แต่เขาต้มมาจนแข็งไปหน่อย จานนี้เฉยๆ

ส้มตำไข่เค็ม 120B
จานนี้ชอบมาก เขาตำมาเข้าเนื้อ ถั่วลิสง เขาก็ตำมาหอมๆ ชอบส้มตำรสชาติประมาณนี้ อันนี้อร่อยจริง
ตำมาเข้าเนื้อสุดๆ 

หมึกกระเทียม 250B
ปลาหมึกสด เนื้อแน่นดีค่ะผัดมารสชาติดี
แต่เราชอบให้เขาทำมาแห้งๆ กว่านี้หน่อบ เนื้อปลาหมึกสดดี



เป็นร้านอาหารที่ราคาไม่ได้แรงมาก ถ้าไม่นับกุ้งแม่น้ำ
กุ้งแม่น้ำสด เนื้อแน่นดีค่ะ

ทริปหยุดเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา พาครอบครัวมาเที่ยวเมืองลิง ระหว่างเดินทางไปศาลพระกาฬ ต้องขอบคุณความหิวที่ทำให้บังเอิญได้มีโอกาสแวะทาน ร้านนี้ 

ชื่อร้าน : ครัวคุณรุ่ง ลพบุรี

เวลาเปิด-ปิด : 11.00 – 23.00 น. ร้านเปิดทุกวัน

โทร. 036 741 741

การเดินทาง : ร้านอาหารตั้งอยู่ถนนนเรศวร ตามเส้นทางของถนนนเรศวร จะมองเห็นเขา วิวดีมากจริงๆ เดินทางมาตาม GPS ได้เลย จุดสังเกต ด้านขวาจะเป็นกรมรบพิเศษที่ 3 และค่ายเอราวัณ ขับตรงมาเรื่อย ๆ จะเจอร้านอยู่ซ้ายมือ ก่อนถึงเซเว่นคะ

ที่จอดรถ : ทางร้านมีที่จอดรถให้คะ ทั้งทางด้านหน้าร้าน และด้านหลังร้าน 

บรรยากาศร้าน :  ต้องบอกก่อนว่าบรรยากาศร้านค่อนข้างครบ มีทั้งด้านใน-ด้านนอก ด้านในตกแต่งเรียบหรู ดูดี มีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ ส่วนด้านนอก เป็นแบบ Open  เหมาะสำหรับช่วงเย็น บรรยากาศดี มีลมโชยตลอด นั่งทานข้าวชิลล์ๆ  มองเห็นภูเขา แต่หากใครที่มาเป็นกลุ่มอยากมีความเป็นส่วนตัว หรืออยากสังสรรค์ทางร้านมีห้อง VIP ไว้รองรับ ภายในห้อง VIP มีคาราโอเกะไว้บริการด้วยคะ มาประมาณ 5-6 คนขึ้นไป ทางร้านก็เปิดห้อง VIP ให้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย  แต่ถ้ามาช่วงเย็น แนะนำให้โทรจองก่อนจะดีกว่าค่ะ เพราะลูกค้าค่อนข้างเยอะ โซนด้านใน ตกแต่งเรียบหรู ดูดี โปร่ง สบาย ไม่มีกลิ่น ห้อง VIP รองรับลูกค้าได้ประมาณ 10-12 คน แต่หากมาเป็นกลุ่มตั้งแต่ 6 คนขึ้นไปทางร้านก็เปิดให้ใช้ห้อง VIP แล้วค่ะ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ภายในห้องมีคาราโอเกะไว้บริการด้วย

การบริการ : พนักงานแนะนำอาหารดีมากคะ พนักงานในร้านมีจำนวนเพียงพอกับจำนวนลูกค้า อาหารรอไม่นาน รวดเร็วทันใจ

อาหารของร้านจะเป็นสไตล์ฟิวชั่น มีทั้งไทย จีน อาหารทะเล เมนูมีให้เลือกหลากหลาย มาร้านนี้ครบจบทุกเมนู

ต้องขอชื่นชมเมนูทางร้านค่ะ  พอมาถึงเปิดเมนูถึงกับ โหยยย อยากจะสั่งทุกเมนู เพราะเมนูสวย และน่ากินมาก ดูง่าย มีรายละเอียดบอกครบทั้งชื่อเมนู ราคา ภาพประกอบ ชัดเจนมาก

ทุกคนมาด้วยความหิว ยิ่งเจอเมนูเข้าไปด้วยตายสนิท ชักช้าอยู่ใย มาดูว่าวันนี้เราลองสั่งอะไรมาทานบ้าง

เมนู/รสชาติ/ราคา

เริ่มด้วยเมนูแรก …เริ่มด้วย

หูฉลามน้ำแดง ราคา 285 บาท (5/5)

เสิร์ฟมาเป็นชามขนาดกำลังดี  เหมาะสำหรับทาน 2 ท่าน น้ำซุปข้น รสชาติกลมกล่อม มีกลิ่นหอม เสิร์ฟมาแบบร้อนๆ พูดได้ว่าเมนูนี้ซดจนหยดสุดท้าย อร่อยมากกก

เมนูนี้ต้องยกให้เป็นอีกเมนูเด็ดเลย  เมนู...
ข้าวอบสับปะรด  95-/150 บาท (5/5)
เมนูนี้ทางร้านมี 2 ขนาดให้เลือก ขนาดเล็ก-ใหญ่ ราคาตามลำดับค่ะ เรามากันครอบครัวเลยสั่งเป็นจานใหญ่ พอเสิร์ฟมาถึงกับอึ้งเพราะใหญ่มาก สับปะรดลูกใหญ่ สีสวย เสิร์ฟลงโต๊ะ พร้อมกับกลิ่นหอมของข้าวที่ถูกผัดมาสดๆ ร้อนๆ 
ข้าวอบสับปะรดถูกผัดมาด้วยเครื่องเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นกุนเชียง ไส้กรอก ปลาหมึก หมูหยอง เม็ดมะม่วง ฯลฯ ผัดมาได้อย่างลงตัว ทานไปเรื่อย ๆ ด้านล่างจะยิ่งรับรู้ได้ถึงรสชาติสับปะรดชัดเจน หากใครชอบเมนูนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว บอกเลยว่า ห้ามพลาด!

กุ้งแม่น้ำผัดผงกะหรี่ ราคา 245 บาท (4.5/5)

อีกเมนูที่เสิร์ฟมาจานใหญ่ มาพร้อมกับควันหอมฉุย ชวนทานสุดๆ กุ้งเป็นกุ้งผ่าครึ่งตัว ตอนที่ดูเมนูทางร้านบอกว่าทางร้านใช้แต่กุ้งสดเท่านั้น ไม่ใช้กุ้งแช่แข็ง  ส่วนตัวคิดว่าทางร้านใช้วัตถุดิบค่อนข้างดีมากในการปรุงอาหาร ทุกอย่างดูสดหมด เพราะว่าก่อนเดินเข้ามา แอบเห็นตู้ปลา กุ้ง อยู่ทางหน้าร้าน หากลูกค้าสั่งเมนูไหน ทางร้านก็จับกันสดๆ มาปรุงเป็นเมนูให้กับลูกค้าเลย ส่วนรสชาติของเมนูนี้ก็ทำออกมาได้ดี  รสชาติเข้าเนื้อกุ้ง รสชาติกลาง ๆ ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่

มาถึงเมนูปราบเซียน อย่าง ขาหมูฮ่องเต้ ราคา 245 บาท (5/5)

ตอนนี้ทางร้านมีโปรโมชั่นประจำเดือนนี้พอดี สำหรับขาหมู ฮ่องเต้ ลดราคาเหลือเพียง 195 บาท (เหมาะสำหรับ 4-6 ท่าน) เห็นราคาแล้วตาลุกวาว แต่ก็ไม่เท่ากับตอนพนักงานยกมาเสิร์ฟ เพราะอลังการดาวล้านดวงมาก ขาหมูใหญ่มาก เสิร์ฟมาพร้อมกับหมั่นโถวร้อน ๆ 
พอได้ทานคือมันดีมากอะแก  หมูนุ่มมาก หนังหมูแทบจะละลายในปากเลย แนะนำให้ทานคู่กับน้ำจิ้ม ขอบอกว่าทีเด็ดจริงๆ สำหรับเมนูนี้
แนะนำให้รีบไปนะคะ ช่วงโปรโมชั่น จัดว่าถูกมาก 

มาถึงเมนูต้มกันบ้าง สั่งเป็น ต้มยำกุ้งแม่น้ำ ราคา 245 บาท (4/5) 
เสริฟมาเป็นหม้อไฟ กุ้งเป็นกุ้งผ่าครึ่งตัวมา สีจัดจ้าน ดูเข้มข้น ทางร้านใส่กุ้งมาเยอะมาก ความสดไม่ต้องพูดถึงคะ เพราะอย่างที่บอกว่าทางร้านใช้วัตถุดิบดี จับกันสดๆ  เน้นคุณภาพ รสชาติออกไปทางเปรี้ยว อร่อย เข้มข้น แต่ถือว่าเป็นรสชาติทั่วๆไปคะ แต่แนะนำว่าสั่งมาทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ 

ตบท้ายด้วยเมนู ฟรี! 
ย้ำว่าฟรี เพราะทางร้านมีกิจกรรมให้ลูกค้าได้ร่วมสนุก เพียง Check in ที่ร้านคุณรุ่ง รับฟรี “หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส” มูลค่า 109 บาท

กติกาถือว่าง่ายมาก หลังจากเชคอินเรียบร้อยก็แสดงให้พนักงานดู แค่นั้นก็ได้ทานฟรีกันทุกโต๊ะแล้ว ^^

หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบชีส เสิร์ฟมา จานละ 4 ตัว หอยตัวใหญ่ถูกคลุมด้วยชีส ราดซอสมาด้วย แนะนำให้ทานตอนมาเสิร์ฟร้อนๆ ชีสกำลังเยิ้มพอดี อร่อยมากกกกก อยากจะเช็คอิน 2 รอบ 555+

โปรโมชั่นทางร้านไม่ได้มีเพียงเท่านี้ 
ทางร้านจะมีโปรโมชั่นทุกเดือนนะคะ เนื่องจากร้านเพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา ช่วงนี้โปรโมชั่นโหดมาก

อย่างโปรเดือนกุมภาพันธ์ ตามที่ได้รีวิวเมนูขาหมูฮ่องเต้ก็ลดราคาจากเดิม 245 บาทเหลือเพียง 195 บาท , เบียร์ช้าง 1 เหยือก ฟรี 1 เหยือก เห้ยคือดีอะ 
สรุปโดยรวมแล้ว ครัวคุณรุ่งเป็นร้านอาหารที่มีเมนูหลากหลาย ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพและความคุ้มค่า จะสังเกตว่าทางร้านตั้งราคาเท่ากันหมด เช่น เมนูปลา กุ้งแม่น้ำ ปลาหมึก ง่ายต่อการตัดสินใจ ราคาไม่สูง บรรยากาศดี  ประกอบกับรสชาติอาหารอร่อยทุกเมนู ร้านนี้เหมาะมาทานข้าวกับครอบครัว คนรัก หรือจะชวนเพื่อนมาฉลองวันเกิด หรือสังสรรค์ก็ได้หมด ตอบโจทย์คนชอบกินอย่างเราๆ แน่นอนค่ะ

http://www.umakemehungry.com/2016/08/classic-old-style-noodle-soup.html

While driving from Hua Hin to Cha-Am, we chanced by this Classic Old Style Noodle Soup by the side of the road. We wasn't sure of what to expect but we had decided to stop by with our car parked by the road side with cars passing by at high speed.I was surprised to see Caucasians around in the Old Style eating place despite thinking that such shop will be mostly for locals. Place was decent and quite down to earth with basic furnishings. To me, the place seemed to be a shelter or perhaps a perfect place for Rest Stop after long hours of driving.Again, we had "Cha Yen" (Thai Milk Tea). Milk Tea was rather sweet but I guess this is how Thai enjoyed their beverage. On a second thought, if the food is spicy, sweet beverage will help to neutralize the spiciness.Back at home, I'm not a fan of fish balls but over here in Thailand, I could not resist these bouncy and springy hand made fish balls. I do love them especially when they were dipped in the Chilli and fish sauce.For noodles, there will be a choice of clear or tomyam soup and special or regular size. Not only that, you can ge tto choose to have yellow or glass noodles.

This dish had totally got me! Perhaps, its the simplest yet best of all meal that I had! Hot & Soup Soup was really appetizing and how I wish I can have a bowl of it right in front of me now. The choice of my glass noodles have been massively covered by their use of ingredients. Slices of Char Siew, crunchy chips, beansprouts, minced pork meat and beautiful hard boiled eggs made up this favourite dish of mine. Garnishing like crispy fried pork lards, onion oil and spring onions were used to give the dish a tastier experience.We had the non spicy version as requested and had it done with the usual yellow noodles with chicken. Soup was sweet but I still prefer the Tom Yam Soup as it enlarges my appetite.

ร้านอาหารใน Entry นี้ยังอยู่ในเขต “บางตะบูน” นะครับ แถบนี้เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับ “นักกิน” กินมากินอาหารทะเลโดยเฉพาะ “ปู” ลังๆนี้ก็เลยมีร้านเปิดขึ้นมากมาย ร้านที่จะพาไปทานใน Entry นี้เป้นร้านเก่าแก่อยู่คู่บางตะบูนมานานแล้วครับและยังเคยได้ออกรายการ “คู่เลิฟตะลอนทัวร์” ด้วยครับ

ตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน สมุทรสงคราม

ร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ตั้งอยู่ในเขตตำบลคลองโคน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม การเดินทางไปร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ก็ไม่ยากครับ จากถนนพระราม 2 พอเลยทางแยกเข้าจังหวัดสมุทรสงครามมาแล้วจะมีทางเลี้ยวซ้ายซึ่งจะเป็นทางลัดไปชะอำได้ พอเลี้ยวเข้ามาก็ขับตรงไปเรื่อยๆ พอเลยทางแยกไปวัดเขายี่สารตรงมาประมาณเกือบๆ 3 กิโลเมตร จะเห็นร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ตั้งอยู่ทางซ้ายมือริมบึงน้ำก่อนข้ามสะพานเล็กๆครับ คิดว่าน่าจะเห็นง่าย สะดุดตาเลยเพราะเป็นร้านอาหารที่ตั้งอยู่โดดๆ เลยครับ

ตอนแรกที่เลือกร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ไม่รู้มาก่อนนะครับว่าร้านนี้ออรายการคู่เลิฟตะลอนทัวร์ แต่ไปทานเพราะว่าจะไปทานอาหารทะเลที่ “คลองโคน” ซึ่งเป็นแหล่งอาหารทะเลถูก ใกล้กรุงเทพฯ แต่ว่าวันที่ไปนั้นร้านอาหารในคลองโคนคนเยอะมากๆ ทุกๆ ร้านเลยครับ เจ้าของบล็อกก็เลยถอยออกมาแล้วขับรถเลยคลองโคนไปเรื่อยๆกะว่าอย่างมากที่สุดถ้าหาร้านกินไม่ได้ก็ยังมีร้านเก่า เจ้าประจำคือ “ครัวริมอ่าว” เป็นที่หมายสุดท้าย ขับรถเลยมาจากคลองโคนเรื่อยๆ พอเลยทางเข้าวัดยี่สารก็เจอร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ครับ เห็นร้านเงียบๆ บรรยากาศดี๊ ... ดี ... เลยตัดสินใจแวะเลยดีกว่า ลองเสี่ยงดูครับ แต่พอเห็นป้ายโฆษณาร้านเป็นภาพของพี่หนูแหม่ม สุริวิภา ก็ใจชื้นขึ้นมานิดนึงครับ คิดว่าร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน น่าจะอร่อยนะครับร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน เป็นร้านสไตล์บ้านๆ ครับ ตัวร้านเป็นอาคารกึ่งชั่วคราวทำด้วยวัสดุบ้านๆ ทอดยาวไปตามริมน้ำ รับลมเย็นๆ และความเย็นจากน้ำด้วยครับ สบายมากๆครับเมนูก็มีแผ่นเดียวหน้า - หลัง ง่ายๆเมนูแรกที่สั่ง ปลาหมอทะเลแดดเดียว ราคา 120 บาท


อาหารทะเลที่ร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ถูกแสนถูกครับ จานนี้ 120 บาท ดูซิครับ ปลาตั้ง 6-7 ชิ้น ปลาหมอทะเลเนี่ยะเค้าว่ากันว่าเลี้ยงเองไม่ได้นะครับ จะต้องจับเอาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่เป็นน้ำกร่อยและมีน้ำขึ้นน้ำลงครับ ร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน แล่เอาแต่เนื้อไม่ติดก้างเลยครับ เนื้อหนา นุ่ม มากๆ รสเค็มๆ มีมันในเนื้อปลานิดๆ กินกับข้าวสวยเปลืองข้าวมากๆครับ นี่แค่เมนูแรกก็ได้ใจไปเต็มๆเลยครับ เมนูนี้อร่อยมากกกกกกกกปลาดุกทะเลผัดฉ่า ราคา 120 บาท


จานนี้ก็ราคาถูกอีกแล้วครับ พอรับจานนี้มาน้ำตาแทบไหล เพราะตามหาปลาดุกทะเลผัดฉ่าหน้าตาแบบนี้มานานแสนนานครับ แบบที่ผัดกับน้ำพริกแกงแล้วมีน้ำมันขลุกขลิกๆ ถูกใจที่สุดครับ เอาช้อนตักน้ำผัดฉ่าชิมก็แทบจะร้องไห้ เพราะเป็นรสชาติที่ชอบเลยครับ เผ็ดจี๊ดดดดดดด แซ่บมากกกกกก หอมเครื่องสมุนไพร ใบมะกรูด กระชาย พริก พริกไทยอ่อน ทั้งเผ็ดทั้งร้อน เนื้อปลาก็ชิ้นใหญ่มากๆ เอาไปทอดพอสะดุ้งน้ำมัน ให้เนื้อตึงๆ อยากจะสั่งมาอีกจานแต่คนขับรถห้ามเอาไว้ ฮ่าๆๆๆ ..... จานนี้เต็มสิบ ให้เต็ม 100 เลยครับต้มยำปลาทู ราคา 100 บาท


ราคา 100 บาทเท่านั้น พระเจ้า .... อะไรมันจะถูกขนาดนั้น ปลาทูก็สดมากๆ ไม่เหม็นคาว เนื้อแน่น ตัวใหญ่ เนื้อปลาทูหวาน มันมากๆ รสชาติของต้มยำก็เปรี้ยว เผ็ด ได้ถูกใจจริงๆครับ หอมกลิ่นเครื่องสมุนไพรมากๆ จานนี้นอกจากจะแทะปลาทูจนเหลือแต่ก้างหมดทุกตัวแล้ว ยังซดน้ำต้มยำจนเกือบจะแห้งถ้วยอีกด้วย .... อร่อยมากกกกปูม้านึ่งแกะ ราคา 480 บาท


ไม่ค่อยได้ทานปูนะครับ เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบแกะสัตว์ทะเลทุกชนิด (เพราะกลิ่นจะติดมือ) แต่ชอบมาทานปูนึ่งที่คลองโคนกับบางตะบูนมากๆ เพราะทางร้านเค้าแกะให้เรียบร้อยเลย แอบสงสัยนิดนึงเพราะปูม้านึ่งแกะที่ร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน ไม่มีกระดองครับ อย่างที่สองคือเนื้อตรงกรรเชียงแกะมาเรียบร้องไปหรือเปล่า ดูเหมือนเป็นกรรเชียงปูนึ่งเลยนะครับ ..... แต่ .... ความสดนี่ต้องยกนิ้วให้เลยนะครับ สด เนื้อแน่น เต็มปากเต็มคำมากๆ ถึงเป็นการเอากรรเชียงปูมานึ่งก็ถือว่าเป็นกรรเชียงปูเกรดดีเชียวครับ .... ที่สำคัญน้ำจิ้มเด็ดมากกกกก เปรี้ยว เผ็ด .... สุดยอดดดดดดดร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน คลองโคน เป็นร้านอาหารแบบบ้านๆ บรรยกาศดี๊ .... ดี รสชาติจี๊ดจ๊าด ถูกใจมากๆ คุณภาพของอาหารทะเลก็สดมากๆ ถ้าแวะมาแถวๆบางตะบูนอย่าลืมชื่อ ร้านตะลอนทัวร์ครัวป้าทิน บางตะบูน นะครับ

Chubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ร้านอาหารข้างทางในเพชรบุรีใน entry นี้ลองฟังชื่ออาจจะงงๆนะครับเพราะร้านนี้ได้ยินชื่อมาหลายที่มากๆ เจ้าของบล็อกก็เข้าใจผิดไปตั้งแต่แรกเหมือนกันว่าร้านดั้งเดิมเค้าอยู่ที่หัวหิน .... แต่ไม่ใช่ครับ ร้านแรก เจ้าเก่าดั้งเดิมเค้าอยู่เพชรบุรีนี่เองครับ ร้านที่หัวหินนั่นเป็นร้านที่สองครับ ร้านที่เจ้าของบล็อกไปกินมานี้เป็นสาขาที่สามอยู่ในเพชรบุรีนี่เองครับ

ข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง เพชรบุรี

ร้านข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง เพชรบุรี ตั้งอยู่หน้าวัดกำแพงแลง อ.เมือง จ.เพชรบุรี นี่เองครับ การเดินทางไป ร้านข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง ไปไม่ยากครับ จากถนนเพชรเกษมแยกเข้าตัวเมืองเพชรมาไกลนิดนึงครับ จากถนนเพชรเกษมวิ่งตรงเข้าตัวเมืองเพชรบุรีจนถึงสวน 60 พรรษา เพชรประชาร่มเย็นก็เลี้ยวขวา แล้วมาเลี้ยวซ้ายอีกทีหน้าเขาวัง จากนั้นวิ่งตรงๆบนถนนราชวิถีไป 2 สี่แยกไฟแดง ไปเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงที่สองตรงสำนักงานเหล่ากาชาด วิ่งตรงไปเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงข้างหน้า วิ่งตรงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี ผ่านวัดใหญ่สุวรรณารามทางขวามือ พอผ่านวัดไตรโลกทางซ้ายมือให้เตรียมติดไฟแดงเลี้ยวขวาที่แยกไฟแดงข้างหน้าได้เลย วิ่งมาตามถนนโพธิ์การ้องเรื่อย วัดกำแพงแลงอยู่ทางขวามือ ร้านข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง เพชรบุรี อยู่ตรงข้ามประตูทางเข้าวัดกำแพงแลงเลยครับร้านข้าวมันไก่ลมหวน เปิดขายมากกว่า 30 ปี แล้วนะครับ (คาดว่า) ต้นตำหรับมาจากสาขาแรกที่อยู่ข้างโรงหนังเพชรบุรีรามา กลางตลาดเมืองเพชรบุรี ลองหาข้อมูลในอินเตอร์เนทดูเห็นว่ามีสาขาที่อยู่ในจังหวัดเพชรบุรีถึง 3 สาขา นอกจากสาขาที่หัวหินซึ่งโด่งดังมากๆ คือสาขาข้างโรงหนังเพชรบุรีรามา สาขาตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ และสาขาตรงข้ามวัดกำแพงแลงข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง เป็นร้านโล่งๆ ด้านหน้าเป็นที่ประกอบอาหารถัดไปข้างหลังเป็นที่นั่ง วันที่เจ้าของบล็อกไปลองชิมบ่ายกว่าๆมากแล้วคนขายยบอกว่าเหลือแต่เข้ามันไก่เท่านั้นซึ่งเป็นเมนูหนึ่งเดียวที่เจ้าของบล็อกอยากชิมก็เลยตกลงสั่งมาชิมครับข้าวมันไก่ (เนื้อ+หนัง) ราคา 35 บาท


เจ้าของบล็อกว่าข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง ขายถูกกว่าสาขาที่หัวหินอีกนะครับ ฮ่าๆๆ เจ้าของบล็อกจำได้ว่าข้าวมันไก่ 1 จานเท่าๆกันปริมาณที่สาขาหัวหินน้อยกว่านี้จนเห็นได้ชัดครับ ไก่ที่สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง ก็หั่นชิ้นใหญ่กว่า หนังก็ให้เยอะกว่าด้วย แต่รสชาติโดยรวมเจ้าของบล็อกก็ว่าธรรมดาๆนะครับ ไม่ได้โดดเด่นไปกว่าเจ้าอื่นๆเลย เจ้าของบล็อกเห็นว่า “เป็นข้าวมันไก่ที่โอเค รับประทานได้” เท่านั้นครับ แต่จริงๆแล้วเจ้าของบล็อกก็ยังไม่เจอข้าวมันไก่เจ้าไหนๆที่ “อร่อยมากกกกกก” จนถึงขั้นมาบอกต่อว่า “ห้ามพลาด” นะครับ .....ตุ๋นมะระซี่โครงหมู


ถ้าพูดถึงรสชาติจัดว่าดีมากทีเดียวครับ น้ำซุปหวานกระดูกหมู มีรสขมนิดๆจากมะระ ชิ้นกระดูกหมูกับมะระก็เปื่อยแทบละลายในปาก ..... แต่เจ้าของบล็อกชินกับต้มมะระกระดูกหมูที่น้ำใสมากๆ ไม่มีเยื่อเลือดมาเจือปนครับ ตุ๋นมะระซี่โครงหมูถ้วยนี้เจ้าของบล็อกก็เลยได้แต่ชิมให้รู้รสชาติครับ
ข้าวมันไก่ลมหวน สาขา 3 หน้าวัดกำแพงแลง เพชรบุรี นับเป้นร้านอาหารที่ขึ้นชื่อของเมืองเพชรอีกร้านที่ถ้ามาเที่ยวเมืองเพชรบุรีแล้วน่าจะมาชิมนะครับ

อาหารอร่อย “ห้ามพลาด” อีกอย่างหนึ่งเมื่อพูดถึงเมืองเพชรบุรีก็คือ “ผัดไทยท่ายาง” ด้วยความเก่าแก่นับสิบๆปีและรสชาติที่อร่อยเข้มข้นถูกปากนักชิม ก็เลยกลายเป็นของดีของเด็ดเมืองเพชรที่แทบทุกคนต้องเคยมาชิม แต่เจ้าของบล็อกพลาดร้านผัดไทยท่ายางซะทุกทีที่เดินทางไปเที่ยวหัวหินด้วยต้องแยกออกจากทางหลักที่จะไปหัวหินเข้าอำเภอท่ายางเจ้าของบล็อกก็เลย “ข้าม” ไปซะทุกที ตอนนี้ร้านผัดไทยท่ายางมาเปิดสาขาใหม่ที่ถนนโพธิ์การ้อง ใกล้ๆวัดกำแพงแลงครับ ถึงแม้จะต้องแยกเข้าตัวเมืองเพชรบุรีมาแต่ว่าใกล้แหล่งท่องเที่ยวคือวัดกำแพงแลงก็ถือว่าหยวนๆพอที่จะพยายามไปได้ อิอิอิ

ผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง เพชรบุรี

การเกินทางมาร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง ก็ไม่ยากไม่ง่ายครับ จากถนนเพชรเกษมแยกเข้าตัวเมืองเพชรมาไกลนิดนึงครับ จากถนนเพชรเกษมวิ่งตรงเข้าตัวเมืองเพชรบุรีจนถึงสวน 60 พรรษา เพชรประชาร่มเย็นก็เลี้ยวขวา แล้วมาเลี้ยวซ้ายอีกทีหน้าเขาวัง จากนั้นวิ่งตรงๆบนถนนราชวิถีไป 2 สี่แยกไฟแดง ไปเลี้ยวขวาที่สี่แยกไฟแดงที่สองตรงสำนักงานเหล่ากาชาด วิ่งตรงไปเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกไฟแดงข้างหน้า วิ่งตรงข้ามสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี ผ่านวัดใหญ่สุวรรณารามทางขวามือ พอผ่านวัดไตรโลกทางซ้ายมือให้เตรียมติดไฟแดงเลี้ยวขวาที่แยกไฟแดงข้างหน้าได้เลย วิ่งมาตามถนนโพธิ์การ้องนิดเดียว เล็งซอยโพธิ์การ้อง 4 เอาไว้ (เป็นซอยที่ 2 ทางขวามือ) เลี้ยวเข้าซอย ขับตรงๆไปนิดเดียวครับ ร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง อยู่เป็นร้านแรกสุดกำแพง สามารถจอดรถได้ทางซ้ายมือจำนวนหนึ่ง แล้วก็ขับเลยร้านไปอีกนิดก็จะมีที่จอดรถอีกที่นึงครับร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง เป็นร้านอาหารที่เปิดภายในบริเวณบ้าน แต่ไม่ใช่เปิดแบบตามมีตามเกิดนะครับ ทางร้านทำร้านแบบจริงจังเลยครับ ตัวร้านจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนนะครับ ส่วนแรกจะเป็นร้านกาแฟอยู่ฝั่งหนึ่ง อีกส่วนจะเป็นร้านอาหารอยู่อีกฝึ่งหนึ่งแต่อยู่ในอาณาเขตบ้านหลังเดียวกันมีที่จอดรถกั้นเท่านั้นครับ ถ้าที่นั่งทางฝั่งร้านอาหารเต็มก็สามารถไปนั่งที่นั่งที่ร้านกาแฟได้ครับ เปิดเวลา 08.30 – 15.00 น. ครับตัวร้านอาหารก็เป็นแบบครัวเปิดไทยๆ กว้างขวาง ใหญ่โต สะอาดสะอ้านดีมากครับ มีป้ายบอกราคาอาหารชัดเจนเจ้าของบล็อกสั่งผัดไทยทะเล ราคา 60 บาท

ผัดไทยรวมมิตรทะเลที่ร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง ใส่เครื่องทะเลมาเยอะใช้ได้ครับ กุ้ง 2-3 ตัว ปลาหมึก 4-5 ชิ้น ของทะเลก็สดไม่เหม็นครับ รสชาติของผัดไทยถ้าให้เทียบกับผัดไทยในกรุงเทพฯ ผัดไทยของร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง จะออกแบบบ้านๆครับ เครื่องไม่เยอะเหมือนผัดไทยในเมืองกรุง สีของผัดไทยจะเข้มกว่า รสจะออกหวานๆ เค็มๆ ไม่ออกรสเผ็ด มีมะม่วงสับมาแทนมะนาวครับ เจ้าของบล็อกชอบรสชาติของผัดไทยท่ายางนะครับ ยิ่งถ้าเอาผักที่ให้มาคลุกๆรวมกับเส้นแล้วถือว่าอร่อยเลยทีเดียวอีกจานนึงเป็น วุ้นเส้นผัดไทย ราคา 40 บาท


จานนี้ไม่ค่อยถูกใจเจ้าของบล็อกครับ หน้าตาไม่ค่อยน่าทาน อาจจะเป็นเพราะเลือกเส้นผิดก็ได้นะครับ ปริมาณที่ให้มาก็ดูน้อยไปนิดเมื่อเทียบกับราคาครับร้านผัดไทยท่ายาง สาขา 2 ถนนโพธิ์การ้อง เป็นร้านอาหารจานเดียวที่มีเมนูหลากหลายแลละเท่าที่อ่านๆมาหลายๆที่มีเมนูอร่อยเยอะทีเดียว โอกาศหน้าเจ้าของบล็อกจะสั่งอย่างอื่นมาลองทานบ้างครับ

Chubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ข้าวแช่แม่นิดสะพานดำ

เช้าแช่เจ้านี้ได้ลายแทงมาจากพี่ชายกางครับ สำหรับการเดินทางไปร้านข้ามแช่แม่นิด สะพานดำ จากถนนเพชรเกษมให้วิ่งตรงเข้าตัวเมืองเพชรบุรี วิ่งตรงมาถึงสวน 60 พรรษา เพชรประชาร่มเย็นเลี้ยวขวาแล้วเลี้ยวซ้ายอีกทีเพื่อเข้าถนนราชวิถี วิ่งตรงมาเรื่อยๆจนเจอสะพานข้ามแม่น้ำเพชรบุรี ทางขวาจะเห็นสะพานทางรถไฟเป็นสะพานเหล็กมีสีดำ (เป็นที่มาของฉายาข้าวแช่แม่นิดครับ) ก่อนที่จะข้ามสะพานให้เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลียบแม่น้ำเพชรบุรี ลอดใต้สะพานดำ ขับตรงไปอีกนิดจะเห็นเพิงร้านค้าอยู่ทางขวามือเลียบริมแม่น้ำเพชรบุรีไปเรื่อยๆ ร้านข้าวแช่แม่นิดสะพานดำอยู่ร้านเกือบๆสุดท้ายก่อนจะถึงวัดไชยสุรินทร์ครับเจ้าของบล็อกชอบปลาผัดหวานและลูกกะปิของร้านข้าวแช่แม่นิดสะพานดำมากกว่าเจ้าอื่นๆที่เคยกินมาครับ ปลาผัดหวานของร้านข้าวแช่แม่นิดสะพานดำมีรสไม่หวานแหลม เนื้อปลาไม่จับกันเป็นก้อนแข็งเหมือนเจ้าอื่น และมีกลิ่นปลาย่างหอมๆอยู่ด้วยครับ ส่วนลูกกะปิก็มีรสที่ไม่เค็มมากครับ กินกับข้าวแช่ได้รสชาติที่พอดีๆเจ้าของบล็อกชอบพี่เจ้าของร้านมากที่สุดครับ ดูท่าทางพี่แกจะดุนะครับ แต่จริงๆแล้วฮาเอาเรื่องทีเดียว ครั้งแรกๆที่ไปเกิดอาการเกร็งๆเหมือนกันครับ จะสั่งจะขออะไรก็กระมืดกระเมื้ยนมาก พอไปหลายๆครั้งแล้วได้รู้ว่าพี่แกฮาจริงครับ
ของอร่อยเมืองเพชรยังไม่หมดเท่านี้นะครับ ติดตามกันต่อไปเรื่อยๆนะครับChubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ร้านอาหารในเส้นทางไปหัวหินที่จะมาแนะนำใน entry นี้เป็นร้านอาหารที่เคยไปทานมาแล้ว (หลายรอบด้วย) ครับ ก็เลยถ่ายรูปมาไม่เยอะเลยถือโอกาสเอา 2 ร้านมารวมกันใน entry นี้ครับ แต่ทั้ง 2 ร้านก็เป็นร้านชื่อดังของเพชรบุรี แขกไปใครมาก็ต้องแวะมาทานที่ 2 ร้านนี้เสมอ

โอวทึ้งนายกี๋ ข้างวัดโคก

ทางไปร้านนี้ค่อนข้างจะสลับซับซ้อนซะหน่อย สำหรับผู้ที่ไม่คุ้นทางในตัวเมืองเพชรบุรีนะครับ แรกเลยเราก็ใช้ถนนเพชรเกษม วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ฉีกซ้ายออกมาไม่ต้องเข้าตัวจังหวัดเพชรบุรีนะครับ พอเลยเขาวังมาก็ให้วิ่งคู่ขนานเลยครับ เพราะถนนเพชรเกษมช่วงนี้จะไม่มีไฟแดงไฟเขียว ถนนเส้นรองที่วิ่งมาตัดจะต้องเข้าวงเวียนในทางคู่ขนาน แล้วลอดใต้ถนนเพชรเกษมไป ..... โดนด้วยตัวเองมาแล้วคราบบบ ยูเทิร์นไกลมากกกกกกก พอเห็นโรงพยาบาลเพชรรัตน์ก็เลี้ยวซ้ายได้เลยครับ วิ่งตรงตามถนนบันไดอิฐไปเรื่อยๆ ผ่าถนนคีรีรัถยา แล้วมาเลี้ยวซ้ายเข้าถนนราชดำเนินครับ ตรงนี้แหละครับที่บอกว่าลำบากนิดนึงครับ ถนนราชดำเนินช่วงนี้จะมีเกาะกลางถนนทางฝั่งไป วิ่งรถได้ 2 เลน นอกเกาะวิ่งไปได้ 1 เลน วิ่งสวนมา 2 เลน ครับ ร้านโอวทึ้งนายกี๋ อยู่ไม่ไกลจานตรงนี้แล้วแนะนำให้วิ่งซ้ายสุดในเกาะกลางถนนครับ ตรงหน้าวัดฝั่งนี้จะมีที่จอดรถได้ หรือจะไปจอดในวัดก็ได้ครับ ถ้าที่จอดรถฝั่งนี้เต็มให้ตรงไปกลับรถมา แล้วจอดฝั่งโรงเรียนอรุณประดิษฐ์ได้อีกครับ ฝั่งตรงข้ามก็มีวัดอีก 1 วัด น่าจะเข้าไปจอดรถได้เหมือนกัน ร้านอยู่ตรงข้ามโรงเรียนอรุณประดิษฐ์เลยครับโอวทึ้ง นายกี๋ อยู่คู่เมืองเพชรบุรีมากว่า 60 ปีแล้วนะครับ เริ่มแรกคุณเตี่ยของคุณเขมรินทร์ได้ทดลองเคี่ยวน้ำตาลเพื่อขายกับลอดช่องผลปรากฏว่าหวานแต่ไม่หอม เมื่อเอาน้ำตาลโตนดมาเคี่ยวแทนได้ผลลัพธ์ที่ทั้งหวาน ทั้งหอม คนจึงเริ่มติดใจตั้งแต่นั้นโอวทึ้ง นายกี๋ เป็นของหวานราคาย่อมเยาครับ จากเครื่องที่มีอยู่มากกว่า 10 อย่าง ถ้าใส่ 1-2 อย่าง ราคา 20 บาท ใส่ 3 อย่าง ราคา 25 บาท ใส่มากกว่า 4 อย่าง คิดราคาพิเศษไปเลย เจ้าของบล็อกก็ยังไม่เคยใส่เกิน 3 อย่างนะครับ เพราะแค่ 3 อย่างก็จะล้นแก้วแล้วครับ อิอิอิสึ่งหนึ่งที่เจ้าของบล็อกไม่ชอบเลยก็คือน้ำตาลข้นเค้าเคี่ยวจนเหนียวเกินไปครับ เมื่อน้ำตาลข้นโดนน้ำแข็งปุ๊บมันจะเกาะกันเป็นก้อนๆครับ ทำให้ไม่ได้ความหวานของน้ำตาลข้นอย่างเต็มที่ น้ำตาลที่เกาะกันเป็นก้อนๆเมื่อกินก็จะมีรสหวานเกินไปครับ แต่ไม่ปฎิเสธความหวานหอมของน้ำตาลข้นและความสดใหม่และหอมของกะทิที่ใส่มาครับ สรุปคือเจ้าของบล็อกไม่ปลื้มครับ

Chubby Lawyer Café ………………….. ร้านอร่อย ............. ตามใจฉัน

ที่สตูลโรตีเป็นที่นิยมกันมาก ทานได้ทั้งวันทั้งมื้อเช้า สาย บ่าย เย็น ค่ำ
กินเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวานก็ได้ ร้านโรตีก็หาทานได้ง่ายมากมีอยู่ทั่วทุกหนแห่ง
คราวนี้จะพามารู้จักกับร้านบาราโรตี ร้านอาหารยามเช้าในอ.ละงูกันค่ะ
ร้านนี้เป็นร้านอาหารอิสลาม อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากท่าเรือปากบารา (ประมาณ 1 กม.)
เปิดตั้งแต่ 6 โมงเช้า ปิดช่วงบ่ายขึ้นอยู่กับว่ามีลูกค้ามั้ย (บางทีเลทไปถึงบ่าย 2 นู่น)ร้านนี้ถึงจะชื่อบาราโรตีแต่อาหารที่ร้านไม่ได้มีแต่โรตีนะคะ มีเมนูให้เลือกทานเพียบค่า
มุมนี้เป็นมุมข้าวยำปักษ์ใต้และโรตีด้านนี้เป็นข้าวมันไก่-ข้าวหมกไก่-ข้าวราดแกงต่าง ๆมุมเครื่องดื่มที่นั่งภายในร้านที่นั่งด้านนอก มีหลายมุมหลายโซนดี
ทั้งร้านมีที่นั่งประมาณ 20 โต๊ะนะคะ ถือว่าเยอะพอสมควรค่ะเมนูของที่ร้านเยอะมาก ทั้งเมนูอาหารเช้า , อาหารจานเดียว , อาหารตามสั่ง , โรตี , กาแฟ ฯลฯ
อ้อ รับทำข้าวกล่องด้วยค่ะสำหรับใครที่มาทานที่ร้าน เวลาสั่งอาหารก็จะมีใบรายการให้เลือกแบบนี้ค่ะ
เขียนจำนวนเมนูที่ต้องการและเบอร์โต๊ะลงไปแค่นี้ก็เรียบร้อยระหว่างรออาหารมาเสิร์ฟก็นั่งเล่นเน็ตไปเพลิน ๆ ที่ร้านมีไวไฟให้ใช้ฟรีด้วยค่า พาสเวิร์ดอยู่บนโต๊ะนี่แหละ เริ่ดเริ่มจากเครื่องดื่มกันก่อนเลยนะคะ มาสตูลไม่กินชาชักนี่ก็เหมือนมาไม่ถึง
ก๊ะหนาบเจ้าของร้านมาสาธิตการชงชาชักให้ดูกันเลยส่วนคนเสิร์ฟสาวสวยก็เป็นลูกสาวนะคะชาชักร้อน-เย็น , กาแฟเลือกได้ตามชอบค่า เราได้ชิมทั้งชาร้อนและชาเย็นนะ
ส่วนตัวชอบชาร้อนมากกว่าเพราะเข้มข้นและหวานน้อยกว่าแบบเย็นค่ะไข่ลวกก็มีนะคะเหยาะซีอิ๊วพริกไทยนิดหน่อย ซดร้อน ๆ อาหย่อยเริ่มจากเมนูอาหารจานเดียวกันนะคะ
ข้าวหมกไก่ ข้าวหุงมาไม่นิ่มเละ ร่วนดี น้ำจิ้มรสหวาข้าวมันไก่มีน้ำจิ้ม 2 แบบ + ราดซีอิ๊วดำมาด้วย
เมนูนี้เราว่าโอเค มาตรฐานทั่วไปค่ะเมนูกับข้าวต่าง ๆ ทั้งผัดเนื้อแดง แกงตอแมะห์ (ตูมิห์) แกงส้ม
สามารถทานคู่กับข้าวสวย ข้าวมัน หรือโรตีก็ได้ทั้งนั้น
แกงตอแมะห์เป็นอาหารพื้นเมืองของจ.สตูล เป็นแกงปลา เน้นความหอมของเครื่องเทศ รสอมเปรี้ยวนิด ๆข้าวเหนียวปลาเค็ม ข้าวเหนียวของที่ร้านจะเป็นข้าวเหนียวหุงกับหัวกะทินะคะ
ทานคู่กับปลาเค็มจะมีความหอมและมันของกะทิ คล้าย ๆ กินข้าวเหนียวมูนนั่นแหละข้าวยำ เมนูนี้คนชอบผักน่าจะชอบ ของที่ร้านนี้จะใส่เกสรบัวมาด้วย
ข้าวยำราดน้ำบูดูให้ทั่ว คลุกเคล้าให้เข้ากันก็ทานได้เลย
เราเป็นคนชอบทานข้าวยำอยู่แล้วนะ ของที่ร้านนี้ก็อร่อยถูกปากจ้ามาถึงเมนูโรตีกันบ้าง
เวลาเสิร์ฟจะเสิร์ฟโรตี 1 แผ่น กับน้ำตาล , นมข้นหวาน และแกงถั่วเหลือง
เราจะเลือกทานแบบคาว หรือแบบหวานก็ได้
โรตีแป้งนุ่มอ่ะ ชอบ ทานกับนมข้นหวาน+น้ำตาลนี่อร่อยอยู่แล้ว ส่วนแกงถั่วเหลืองรสจะไม่จัดออกมัน ๆโรตีไข่ดาวนี่พึ่งเคยเห็น ทานเป็นอาหารคาวแหละนะ หลัก ๆ ก็มีโรตี + ไข่ดาว + แกงถั่วเหลือง
คล้าย ๆ เมนูเมื่อกี้แต่ไม่มีนมข้นหวานและน้ำตาล มีไข่ดาวมาแทนโรตีมะตะบะ เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มและอาจาด
โรตีมะตะบะของร้านนี้ขอแนะนำเลยนะคะ อร่อยมาก กลมกล่อม
ชอบที่เค้าทอดมาไม่มันไม่เยิ้มด้วยอ่ะ มันเลยไม่เลี่ยนโรตีกล้วยหอม เสิร์ฟพร้อมกับน้ำตาลและนมข้นหวาน
โรตีกับกล้วยสำหรับเราเข้ากันอยู่แล้วอ่ะนะ ที่ร้านเค้าทอดมาได้ดีด้วยไง
แป้งไม่หนามาก กรอบนอกนุ่มใน กินร้อน ๆ ฟินนนนโรตีกรอบก็ดีงามไม่แพ้กัน กรอบ และไม่มันเยิ้ม ชอบอีกหล่ะ
มื้อนี้กินไปกี่แคลฯก็ไม่รู้ หุ ๆ รู้แต่ว่าอร่อยกินใหญ่เลย 555
ตอนนี้ก็มานั่งออกกำลังกายชดใช้กรรมที่กินไปอยู่งับ เจอของอร่อยอดใจไม่ไหวเนอะใครผ่านไปแถวท่าเรือปากบาราลองเผื่อเวลาช่วงเช้า ๆ ก่อนลงเรือไปหลีเป๊ะแวะทานอาหารที่ร้านดูค่ะ
อร่อยดีงามหลายเมนูเลย แนะนำโรตีหลากหลายรูปแบบ และข้าวยำค่า

ได้เวลาอันสมควรแล้ว ขอรีวิวร้านกาแฟที่แพร่แบบละเอียดๆ (ทำแค่บางร้านนะคะ แหะๆ) หลังจากที่ทำรีวิวแบบรวมๆ ทั้งหกร้านมาแล้วที่นี่ (คลิกเพื่ออ่าน)
สำหรับร้านนี้ก็เป็นร้านแรกที่ได้ไปลองเลยนะคะกับร้านอภิ (API) ค่ะ
พิกัดร้านนะคะ อยู่ก่อนถึงพระธาตุช่อแฮประมาณ 1 กม.ค่ะ ตอนเราไปเราใช้โทร.ถามทางเอาจากทางร้านเพื่อความชัวร์อีกทีค่ะ
facebook ร้านนะคะ
https://www.facebook.com/apibyapi/
เบอร์โทรศัพท์
061-5496647
เปิด 9.30-18.00 น.
หน้าตาหน้าร้านค่ะ ซึ่งสำหรับที่จอดรถของร้าน สามารถจอดที่ริมถนนหน้าร้านก็ได้ หรือจะเลี้ยวไปจอดที่จอดรถข้างๆ ร้านก็ได้นะคะ อยู่ติดกับร้านเลยค่ะ แต่ติดกับฝั่งที่เลยร้านไปนะคะที่นี่จะมีที่นั่งทั้งโซนเอาท์ดอร์และในห้องแอร์ค่ะ แต่อากาศเยี่ยงนั้น ห้องแอร์แน่นอนค่ะ แหะๆในร้านมีอะไรตกแต่งกระจุ๊กกระจิ๊กน่ารักๆ เต็มเลยนะคะวิธีการสั่งให้สั่งและชำระเงินที่เคาน์เตอร์ให้เรียบร้อย จากนั้นก็รอที่โต๊ะได้ค่ะ ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะตอนที่เราไปคนน้อยหรือเปล่า พนักงานก็มาเสิร์ฟให้นะคะ ซึ่งขนมของร้านนี้ทำเองทั้งหมดนะคะ และแต่ละสัปดาห์ก็จะมีเปลี่ยนเมนูของขนมไปบ้างค่ะ เพราะฉะนั้นไปแต่ละสัปดาห์ก็จะเจอเมนูที่ไม่เหมือนกันนะฮับภายในร้านนะคะ น่านั่งป๊ะหละ เราไปถึงตอนสิบโมงค่ะ คนเลยยังไม่ค่อยมี แต่พอนั่งสักพักก็เริ่มทยอยกันมาแล้วค่ะโฉมหน้าของเจ้าของร้านค่ะ ชื่อ คุณเบล อภิสิทธิ์นะคะ (ที่มาของชื่อร้านก็สองพยางค์แรกนั่นเอง)หลังจากพูดคุยสักพัก เราก็สั่งเครื่องดื่มและขนมมาค่ะ เป็นนมน้ำผึ้งปั่นราคา 50 บาท และขนมเค้กใบเตยเนยสด ราคา 60 บาทนะคะ (รับแต่เงินสด ไม่รับบัตรเครดิตค่ะ)ตัวนมน้ำผึ้งปั่นอร่อยมากค่ะ ปั่นมาละเอียดและหอมน้ำผึ้ง (แต่แถบนั้นขายน้ำผึ้งกันเยอะค่ะ น่าจะเป็นแหล่งเค้าเลยแหละ) ส่วนตัวเค้ก ตัวเนื้อเราชอบละเอียดและฉ่ำกว่านี้ค่ะ แต่กับราคา 60 ได้แบบนี้ก็ถือว่าโอเคแล้วค่ะสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ บรรยากาศดี เครื่องดื่มอร่อย ขนมวันนั้นยังไม่โดนสุดๆ แต่ก็ใช้ได้ค่ะ สำคัญคือราคาเป็นมิตรมากๆ ค่ะ ถ้าใครจะไปพระธาตุช่อแฮ ก็ลองแวะร้านนี้ดูนะคะ เราว่าเป็นจุดแวะพักที่ดีเลยแหละค่ะ