mayneemore的個人專頁

วันก่อนไปเดินเล่นที่เมอคิวรี่วิลล์ช่วงกลางวันมาค่ะไม่รู้จะกินอะไร สุดท้ายก็เดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่นอย่าง Sushi-Ooส่วนตัวเคยลองร้านนี้แค่หนเดียวที่สาขา The Street รัชดาซึ่งก็ไม่ประทับใจในรสชาติเท่าไหร่ แต่คิดเอาเองว่าคงเพราะเป็นสาขาใหม่ เชฟอาจยังมือไม่นิ่งวันนี้เลยลองมาซ้ำ ที่สาขาออริจินอลกันไปเลยจะได้รู้แน่ๆ ว่าตกลงร้านนี้รสชาติเป็นไง อร่อยหรือไม่อร่อยว่าแล้วก็จัดการสั่งชุดซูชิเซ็ทอาหารกลางวันมาค่ะ ในชุดจะมี ซูชิ 5 คำ และ กัปปะโรล 3 คำ เสิร์ฟพร้อมซุปและสลัดข้อดีของที่นี่คือหั่นเนื้อปลาให้ใหญ่ดีแต่เราไม่ชอบรสชาติข้าวที่นี่เท่าไหร่ เราว่ามันจืดไป กินกับปลาดิบแล้วมันจะเลี่ยน ไม่ส่งเสริมรสกันในชุดนี้ ซูชิที่เราประทับใจในรสชาติกลับเป็นกัปปะโรลเพราะเค้าใส่งาขาวมาด้วย ช่วยเพิ่มความหอมได้ดีมากส่วนน้ำสลัดที่เป็นไซด์ดิชก็รสแรงไปหน่อย เปรี้ยวโดด กินแล้วไม่สดชื่นเท่าที่ควรสรุปสำหรับ Sushi-Oo เราไม่ให้ผ่านอะค่ะความสดของปลาพอไปวัดไปวา ดีตรงเชฟหั่นปลาให้ชิ้นใหญ่แต่ก็มีบางชิ้นที่ติดเอ็น หรือส่วนที่เคี้ยวยากมาด้วย เลยไม่ปลื้มดีตรงราคาถูก แต่ถ้าให้เลือกได้ก็อาจจะไม่เลือกกินที่นี่อีก…查看更多

สวัสดีเพื่อนๆ ชาว OpenRice วันนี้ขอกลับมารีวิวที่ห้องอาหาร The Square โรงแรมโนโวเทล เพลินจิตกันอีกครั้งเพราะเดือนสิงหาคมนี้ ทางห้องอาหารจัดธีมอาหารน่าสนใจ ภายใต้ชื่อ Around the Continent: Taste of Asia & Middle East มีอาหารจากโซนเอเชียและตะวันออกกลางมาให้ลองชิมกันหลายอย่าง กับบุฟเฟ่ต์ดินเดอร์ในราคา 960++ บาท แถมมีโปรมา 2 จ่าย 1 กับบัตรเครดิตหลายอัน หารแล้วราคาต่อหัวอยู่ที่ประมาณ 560 บาทเท่านั้นเองค่ะเราเลยไปโดนมาอีกครั้ง ไปดูกันดีกว่าราคานี้มีอะไรน่าสนใจบ้างห้องอาหาร The Square อยู่ที่ชั้น 8 รร. โนโวเทล เพลินจิต ตัวโรงแรมอยู่ติดสถานี BTS เพลินจิตเลยค่ะ เดินทางสะดวกสำหรับช่วงเวลาให้บริการบุฟเฟ่ต์มื้อเย็นอยู่ระหว่างเวลา หกโมงเย็น - สี่ทุ่มเดินเข้ามาในไลน์อาหารก็เจอกับสฟิงซ์และอูฐน้อยยืนต้อนรับสร้างบรรยากาศกันอยู่ น่ารักดีค่ะมุมอาหารที่น่าสนใจมีทั้งอาหารญี่ปุ่น มุมชีส มุมสลัด มุมอาหารทะเล และอาหารตะวันออกกลางโดยส่วนตัวเราชอบอาหารอินเดียของที่นี่ เพราะรู้สึกว่ารสชาติดี กลมกล่อม กินง่าย ไม่เครื่องเทศจ๋าอาหารตะวันออกกลางก็ทำนองเดียวกันค่ะ รสชาติเข้มข้นกลมกล่อมแบบที่คนไทยกินได้ง่ายๆแม้จะเป็นธีมอาหารเอเชียและตะวันออกกลาง แต่ใครที่รักอาหารทะเลและอาหารฝรั่ง ที่นี่ก็ยังมี Seafood on ice พาสต้า พิซซ่าอร่อยๆ ให้เลือกทานกันได้เหมือนเดิมค่ะ มีพิเศษตรงเมนูพาสต้าที่สามารถเลือกซอสเป็นซอสแกงเขียวหวานแบบไทยได้ ถือเป็นเมนูฟิวชั่นที่เก๋ไก๋ดี แต่รสชาติออกจะเอาใจฝรั่งมากหน่อยนะคะเดินชมไลน์กันมานานแล้ว มาดูกันดีกว่าค่ะว่าวันนี้ผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเรากินอะไรเข้าไปบ้าง อิอิ เริ่มต้นด้วยเมนูเบาๆ ซุป สลัด และชีสวันที่ไปมีชีสให้เลือกทาน 4 ชนิด รสชาติผ่านทั้ง 4 ชนิดค่ะ ยิ่งกินกับมะกอกดองและผลไม้แห้งยิ่งฟินส่วนซุปเราชอบซุปข้าวโพดนะ กลมกล่อมดี สำหรับสลัด ผักก็หลากหลายตามมาตรฐานค่ะตามมาด้วยปลาดิบและซูชิค่ะ ปลาสดดี มุมนี้ตักไปหลายรอบเลย แฮ่...สำหรับซีฟู้ดบอกเลยว่าสดและน้ำจิ้มแซ่บมากกกกกกจานต่อมาเป็นอาหารอินเดียและตะวันออกกลางค่ะ อย่างที่บอกคือรสชาติถูกปากคนไทย อร่อยดี โดยเฉพาะแกงแกะค่ะ เราชอบเป็นพิเศษที่เก๋ที่สุดในไลน์และเป็นเซอร์ไพรส์สำหรับเราน่าจะเป็นอันนี้เลยค่ะ เฝอเวียดนามค่ะ รสชาติใช้ได้ไม่จัดจ้านนัก แต่มีซอสและเครื่องเคียงให้ปรุงเองได้ค่ะ เราชอบตรงที่มันไม่จำเจ ไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยวเหมือนทั่วๆ ไปกินอิ่มแล้ว มาดูขนมกันบ้างดีกว่าสำหรับไลน์ขนมของที่นี่ มีทั้งเค้ก มูส ขนมไทย ไอศกรีมโฮมเมด ผลไม้ให้ได้เลือกล้างปากกันชิลล์ๆส่วนตัวคิดว่าเชฟขนมที่นี่ทำขนมประเภทมูสได้ดีมากค่ะ เนื้อนุ่มเนียน รสกลมกล่อม โดยเฉพาะเมนูมูสนมสด และช็อคโกแล็ตทรีโอ ที่เป็นมูสรสช็อคโกแล็ตที่รสชาติเข้มข้นมาก และที่โดนใจสุดๆ ก็คือไอศกรีมโฮมเมดของที่นี่ ทำเป็นรสชาติผลไม้ไทย อย่างเสาวรสและลิ้นจี่ค่ะ อร่อยดีงามทั้ง 2 รส พร้อมท้อปปิ้งอย่างอัลมอนด์สไลซ์ตักได้ไม่อั้น ฟินฝุดๆสรุปสำหรับบุฟเฟ่ต์ธีม Around the Continent ของที่นี่นะคะ ถือว่าแปลกใหม่ มีอาหารหลากหลายที่เราไม่ค่อยเจอในไลน์บุฟเฟ่ต์ที่อื่นๆ ซึ่งอาหารอินเดียและตะวันออกกลางก็ทำออกมาได้ดี รสชาติเข้าถึงได้ไม่ยาก อาหารเอเชียก็อร่อยตามมาตรฐาน ส่วนซีฟู้ดหรืออาหารฝรั่งอื่นๆ ก็ยังมีให้กินเหมือนเดิม ไม่ได้หายไปการบริการก็เอาใจใส่ เก็บจานบ่อยดีมากค่ะ วันที่ไปเป็นวันอังคาร ลูกค้าไม่พลุกพล่านนัก ทำให้บรรยากาศร้านสบายๆ ดีอาหารที่กินไปคิดเทียบกับราคาแล้ว ก็ถือว่าคุ้มราคาเพราะรวมน้ำและซอฟท์ดริ้งแล้วถือเป็นบุฟเฟ่ต์ราคาไม่แรงอีกตัวเลือกนึงค่ะแต่ธีมอาหารเอเชียและตะวันออกกลางที่รีวิวนี้จะหมดสิ้นเดือนสิงหานี้แล้ว เดือนหน้าจะเป็นธีม New World เป็นอาหารอเมริกัน ออสเตรเลีย และบาร์บีคิวต่างๆยังไงลองสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกับทางโรงแรมได้เลยนะคะ …查看更多

วันนี้มีลาภปากค่ะ พอดีเจ้านายซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาฝากจากห้องอาหารจีน Summer Palace โรงแรมอินเตอร์คอนติเนทอล กรุงเทพ  ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่นี่มีขนมไหว้พระจันทร์ด้วย แบบว่า..ถ้าพูดถึงขนมไหว้พระจันทร์ก็จะนึกถึงโรงแรมอื่นๆ ที่เคยอ่านกระทู้รีวิวบ่อยๆ มากกว่า  เพราะไม่เคยอ่านรีวิวขนมไหว้พระจันทร์ของที่นี่ ดังนั้น ไหนๆ วันนี้ก็ได้ขนมมากินฟรีแล้ว เราเลยขอทำรีวิวสักหน่อยค่ะขนมไหว้พระจันทร์ของทาง Summer Palace บรรจุมาในกล่องกระดาษพิมพ์ลายภาพวาดสไตล์จีนสวยงาม ดูเรียบหรู แต่ก็ดูเอื้อมถึงง่าย (ไม่แน่ใจว่ามีกล่องที่หรูหราไฮโซกว่านี้มั้ยนะคะ)เปิดกล่องออกมาก็จะเจอกับกล่องเล็กหลากสีสันที่ใส่ขนมไหว้พระจันทร์เอาไว้ แบบนี้ที่ได้มามี 3 สีนะคะ แต่ละสีจะเป็นคนละรสชาติกัน สีฟ้า - ไส้ทุเรียนไข่เค็มสีเขียว - ไส้ใบเตยงาดำสีชมพู - ไส้คัสตาร์ดไข่เค็มเปิดกล่องเล็กออกมาจะเจอกับห่อขนมไหว้พระจันทร์ บนห่อจะติดสติ๊กเกอร์บอกรสชาติไส้เอาไว้ชัดเจนค่ะราคาขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่จะอยู่ที่ชิ้นละ 150 บาท (แม้จะไม่ได้ซื้อมาเองแต่ก็แอบไปหาข้อมูลมาค่ะ แหะๆ)แต่ถ้าสั่งเป็นกล่องจะได้ลดราคาลงมาเล็กน้อย อย่างกล่องนี้ 8 ชิ้น ราคา 988 บาทค่ะสำหรับรสชาติของขนมไหว้พระจันทร์ที่นี่ถือว่าทำได้ดีทีเดียว แป้งด้านนอกบาง ไส้แน่นเต็มคำ รสชาติโดยรวมไม่หวานจัดไส้ที่ชอบที่สุดคือ คัสตาร์ดไข่เค็ม โดดเด่นด้วยรสไข่เค็ม เนื้อคัสตาร์ดสีส้มเข้มมากกว่าเจ้าอื่นๆ ที่เคยเห็นและเคยกิน เนื้อคัสตาร์ดแน่นหนึบ ชอบตรงที่รสไม่หวานมาก เค็มๆ มันๆ เหมือนจะเน้นรสไข่เค็มมากกว่ารสคัสตาร์ด แต่กินมากๆ จะรู้สึกเลี่ยนได้ง่ายกว่าทั่วไปรองลงมาเป็น ใบเตยงาดำ อันนี้ชอบที่ความเป็นไทยจ๋าของรสชาติไส้ คือปกติจะเห็นร้านอื่นทำแต่ชาเขียวถั่วแดงให้ดูญี่ปุ่นๆ อินเตอร์ๆ แต่ที่นี่เลือกทำรสใบเตยกับงาดำ ซึ่งก็เข้ากันได้ดี แต่รสใบเตยออกจะเหมือนกาละแมรสใบเตยไปนิด (ด้วยเนื้อสัมผัสที่หนึบมากเลยทำให้คิดถึงกาละแม) แต่รสชาติงาดำด้านในอร่อยดีงามมาก (คล้ายไส้ในของบัวลอยงาดำ) ใครต้องการความแปลกใหม่ แนะนำไส้นี้ค่ะสุดท้าย ทุเรียนไข่เค็ม ด้วยความที่ไม่ค่อยชอบกินทุเรียนกวนเป็นทุนเดิม ก็เลยทำให้ไม่ถูกปากรสนี้เท่าไหร่ แต่จริงๆ รสชาติโดยรวมก็ทำได้ดีนะคะ ไม่หวานเลี่ยน และกลิ่นไม่ได้เหม็นมาก มีไข่เค็มมาตัดเลี่ยนเบาๆถือว่าเป็นตัวเลือกสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์ที่ดีอีกร้านหนึ่งนะคะสำหรับ Summer Palace ราคาไม่แพงเกินไป หีบห่อสวยงาม ชิ้นใหญ่คุ้มราคา รสชาติปานกลางถึงดี และมีรสชาติที่แตกต่างจากร้านอื่นด้วยยังไงลองซื้อมาชิมกันได้ค่ะ อาจจะไม่ถึงกับว้าว แต่ก็ไม่น่าจะผิดหวังกัน…查看更多

วันก่อนเดินพารากอนเพลินๆ เกิดหิวน้ำ จำได้ว่าเห็น OpenRice ทำกิจกรรมที่ร้านคอฟฟี่เวิร์ลสาขาใหม่ ดูไฮโซกว่าเดิม ก็เลยชวนคุณแฟนมานั่งชิลล์ๆ กินกาแฟกันที่นี่ค่ะ ร้าน Coffee World Gold เป็นสาขาใหม่ของคอฟฟี่เวิร์ลที่พรีเมี่ยมขึ้นกว่าเดิม ที่สำคัญมีเมนูของหวานและอาหารว่างเกร๋ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย ร้านตั้งอยู่ชั้น G ชั้นเดียวกับ Food Court อยู่ด้านหลังซูเปอร์มาร์เก็ตเลยค่ะ บรรยากาศจะออกแนวลอฟท์ดิบๆ ดูมีสไตล์กว่าคอฟฟี่เวิร์ลปกติ แถมยังนั่งได้เรื่อยๆ ไม่ไล่ลูกค้า (เห็นบางโต๊ะเหมือนมาติวหนังสือกัน) ลูกค้าพลุกพล่านประมาณนึงค่ะ คาดว่าถ้าช่วงพีคๆ คนอาจเต็มได้โม้มานาน มาดูเมนูที่เราได้ชิมวันนั้นดีกว่าค่ะ เมนูแรก เป็นเครื่องดื่มของเราเอง คาเฟ่ มอคค่า (115 บาท) เป็นมอคค่าร้อนรสกลมกล่อม เราชอบมาก เพราะเป็นคนกินกาแฟไม่เก่งเท่าไหร่ อันนี้สัดส่วนกาแฟกับช็อคโกแล็ตลงตัวพอดี เสิร์ฟมาพร้อมกับวาฟเฟิลกรอบ 2 ชิ้น กินเพลินๆถัดมาเป็นเครื่องดื่มของแฟน คาราเมล เฮเซลนัท เฟรปเป้ (165 บาท) เป็นกาแฟคาราเมลปั่นใส่น้ำเชื่อมเฮเซลนัท เสิร์ฟมาในโหลแก้วน่ารักๆ กาแฟหอมมากๆ วิปปิ้งครีมก็อร่อย แฟนปลื้มสุดๆเมนูถัดมาขอรองท้องหนักๆ ด้วย แฮม แอนด์ ชีส แพนเค้ก (195 บาท) สั่งมาเพราะแฟนชอบกินแพนเค้กค่ะ แพนเค้กชิ้นโต 2 ชิ้น สอดไส้มาด้วยเบค่อน แฮม และชีส พร้อมผักสลัดอีกเล็กน้อย จานนี้รสชาติธรรมดา เนื้อแพนเค้กออกจะกระด้างไปหน่อย แต่ได้มายองเนสและเนยกระเทียมเสิร์ฟคู่กันมาช่วยไว้ คือส่วนตัวเราชอบเนยกระเทียมของที่นี่มาก รสชาติถูกจริต เสียดายแพนเค้กยังไม่ฉ่ำพอ จานสุดท้าย เป็นเมนูที่ดูจืดชืดไร้รสชาติ แต่อร่อยเกินคาดสุดๆ ค่ะ มัชรูม ครีม เครป (195 บาท)  เครปสอดไส้เห็ด เสิร์ฟพร้อมซอสครีมขาว พอราดซอสแล้วกินรวมกัน รสชาติคล้ายสปาเก็ตตี้ครีมเห็ดสุดๆ ดิฉันปลื้มปริ่มมาก เข้มข้นโดนใจ เลิฟจานนี้มากสรุปมื้อนี้หมดไป 670 บาท แอบแพง แต่ก็ถือว่าเปิดประสบการณ์กินอะไรใหม่ๆ ชอบเครปกับกาแฟ แต่คงมากินได้ไม่บ่อยนัก แหะๆ การบริการก็เฉยๆ ค่ะ แต่ถ้าสั่งอาหารเป็นจานๆ อาจต้องรออาหารสักพักนะคะ…查看更多

วันนี้มีร้านอร่อยริมทางแถวบ้านมาแนะนำอีกแล้วค่ะ ชื่อร้าน เมี่ยงปลาหมุน เหม่งจ๋ายร้านนี้เป็นร้านบ้านๆ อยู่ริมถนน ตรงข้ามธนาคารไทยพาณิชย์ เหม่งจ๋ายเค้าจะตั้งร้านช่วงเย็นๆ ประมาณ 5-6 โมงเย็น แล้วก็ขายไปจนดึก ประมาณ 4-5 ทุ่มค่ะสภาพร้านก็จะมีเตาย่างปลาด้วยการหมุนๆๆๆ ส่วนโต๊ะจะเป็นโต๊ะเก้าอี้พลาสติกธรรมดานี่ละค่ะหน้าตาเตาเผาปลา ปลาเรียงตัวกันอย่างสวยงาม น่ากินม๊ายยยยยยยยมาร้านปลาเผา ก็คงจะสั่งเมนูอื่นใดไม่ได้นอกจากปลาเผาค่ะเจ้าของร้านเดินมารับออร์เดอร์เอง บอกว่าปลาเผามี 2 ไซส์ คือ ขนาดตัวละ 250 บาท กับ 280 บาทเราก็เลยจัดตัวใหญ่มาเลยค่ะ 280 บาทปลาเผาที่นี่ใช้ปลาทับทิม สดฉ่ำ เผามาได้พอดีมากค่ะ ไม่แห้งเกินไปแต่ที่เลิฟสุดๆ คือไม่มีกลิ่นคาว กลิ่นดิน แบบที่ปลาแม่น้ำส่วนใหญ่จะมีกัน แสดงว่าปลาสดมากสำหรับชุดเมี่ยงปลาเผา จะเสิร์ฟมาพร้อมกับตะกร้าผัก มีผักกาดหอม ผักกาดขาว ผักชีลาว และโหระพาพร้อมกับเส้นหมี่ลวก และน้ำจิ้ม 2 แบบค่ะน้ำจิ้มสีเขียวเป็นน้ำจิ้มซีฟู้ด รสชาติแซ่บเว่อร์ เปรี้ยวเผ็ดกลมกล่อมค่ะ ส่วนอีกแบบเป็นน้ำจิ้มหวานๆ ใส่ถั่วลิสงคั่ว อันนี้เราไม่ค่อยชอบเท่าไหร่สำหรับน้ำจิ้มนั้น ถ้าหมดก็สามารถเรียกน้องพนักงานมาเติมได้เรื่อยๆ นะคะเวลาจัดเป็นคำ กินแบบเมี่ยงครบสูตร รสชาติดีมาก นัวฝุดๆนอกจากเมี่ยงแล้ว ทางร้านก็มีอาหารอีสานทั่วไปด้วยนะคะวันนี้เราสั่งส้มตำปูปลาร้ามาค่ะ (60 บาท)แต่ส้มตำจานนี้รสชาติไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ กินแล้วไม่ฟิน อีกเมนูที่คุณแฟนสั่งมากินคือ หอยแมลงภู่อบ (90 บาท)อบมาในหม้อแบบกุ้งอบวุ้นเส้น โปะโหระพามาเพียบบบบคุ้ยๆ ใบโหระพาออก เราก็จะได้พบกับน้องหอยแมลงภู่ตัวน้อย แบบนี้หอยตัวเล็กไปหน่อยค่ะ แต่ก็สดดี เอาไว้กินให้หายอยากได้ กลิ่นโหระพาที่อบมาก็ช่วยให้หอมขึ้นสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ แม้จะเป็นร้านข้างถนน แต่การบริการก็ดีในระดับนึงเลยค่ะเจ้าของร้านแข็งขัน รับออร์เดอร์เอง อัธยาศัยดี พนักงานก็บริการโอเค มาเติมน้ำจิ้มให้โดยไม่ต้องเรียกเลยส่วนรสชาตินี้ ตัวเมี่ยงเอาอร่อยมาก เราประทับใจและคิดว่าคุ้มราคา แต่เมนูอื่นๆ ยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ค่ะการเดินทางอาจลำบากสักหน่อยถ้าไม่มีรถ ส่วนคนที่มีรถก็สามาราถจอดรถได้ริมถนนค่ะ…查看更多

แอบเอารูปรีวิวค้างสต็อกมารีวิวซะหน่อยค่ะจริงๆ ร้านนี้ไปมาตั้งแต่คริสต์มาสปีที่แล้ว (ซึ่งขณะนี้อีกไม่กี่เดือนก็จะคริสต์มาสปีนี้แล้ว แหะๆ)ร้านแซ่บอีลี่ หลายคนคงรู้จักจากการเดี่ยวไมโครโฟนของพี่โน้ส อุดม กันดีอยู่แล้วว่า เป็นร้านส้มตำของลูกสาวคุณตัน ภาสกรนที เพื่อนซี้ต่างวัยของพี่โน้สเค้า คอนเซปท์ของร้านจึงออกแนววัยรุ่นกิ๊บเก๋ ชิคๆ คูลๆ กว่าร้านส้มตำทั่วไป ร้านแซ่บอีลี่สาขานี้อยู่ชั้นใต้ดินของห้างสีลมคอมเพล็กซ์ หลังจากปิดปรับปรุงใหม่ก็มีร้านอาหารเริ่ดๆ มาเปิดมากมาย ซึ่งแซ่บอีลี่ก็เป็นหนึ่งในนั้นบรรยากาศโดยทั่วไปในร้านค่อนข้างแคบ มีโต๊ะไม่มากนัก ถ้าเป็นตอนเย็นๆ คนจะเยอะมาก ต้องรอคิวกันเลยทีเดียว แต่วันนี้เราไม่ต้องรอนานก็ได้โต๊ะค่ะ ส่วนตัวแล้วเราค่อนข้างชอบการนำผ้าถุง ผ้าลายต่างๆ มาวางรองโต๊ะ สร้างสีสันนะคะ แม้แต่ทิชชู่ยังมีดีไซน์ ดูใส่ใจดีค่ะมาว่ากันด้วยเรื่องอาหารบ้างดีกว่า เริ่มที่เครื่องดื่มเปิดดูเมนูปุ๊บ เราก็สะดุดกับชื่อเครื่องดื่มชนิดนี้เลยค่ะ หน่อบี่ 45 บาทถามพนักงานดูถึงได้รู้ว่ามันคือชาผสมกับกาแฟ ไม่รู้เป็นเครื่องดื่มโบราณหรือพื้นบ้านแถวไหน แต่ก็อร่อยแปลกดีค่ะชอบตรงที่เค้าเสิร์ฟมาในโหลเล็ก น่ารัก ส่วนน้องอีกคนที่ไปด้วยกัน สั่ง น้ำใบเตยคอลาเจนมาทานเป็นน้ำใบเตยหวานๆ หอมๆ แต่ใส่สิ่งที่เหมือนวุ้นมาด้านบน คิดว่าคงเป็นคอลาเจนในสูตรของร้านไม่ได้ช่วยเรื่องรสชาติ แต่ก็เป็นการสร้างความน่าสนใจให้กับเมนูธรรมดาๆ ได้ดีค่ะแล้วข้าวเหนียวของเราก็มาที่นี่มีเสิร์ฟทั้งข้าวเหนียวขาวและข้าวเหนียวดำเลยนะคะชอบมากๆ เพราะเราเป็นคนชอบทานข้าวเหนียวดำ เพราะชอบรสสัมผัสความหนึบและกรุบกรอบของเมล็ดข้าวเหนียวดำ แถมยังมีรสหวานกว่าด้วย แต่เนื่องจากเป็นของหายาก ไม่ได้เสิร์ฟกันทั่วไป ที่ีนี่เลยคิดราคาข้าวเหนียวดำที่ 45 บาทเลยค่ะ เทียบกับข้าวเหนียวขาวปกติราคา 20 บาทแล้วก็โหดเอาเรื่องเลยทีเดียวและแล้วอาหารจานแรกของเราก็มาค่ะ พล่ากุ้ง 129 บาทพล่ารสชาติเข้มข้นดีทีเดียว แต่เราว่ารสพริกเผาเด่นไปหน่อย กุ้งสดกรอบเด้งดึ๋ง แต่ปริมาณแอบน้อยไปหน่อยค่ะต่อมาเป็น คอหมูย่างจิ้มแจ่วคอหมูที่นี่รสชาติเหมือนนำไปหมักน้ำผึ้งเลยค่ะ หวานหอมอร่อย เนื้อคอหมูก็มีมันแทรกสวยงาม น้ำจิ้มแจ่วก็กลมกล่อมด้วยน้ำมะขามเปียกค่ะ จานนี้ทุกคนลงความเห็นว่าอร่อยมาถึงจานพระเอกของวันนี้กันบ้าง ตำปูปลาร้าคลั่กๆส้มตำที่นี่เป็นสูตรที่ไม่เคยเห็นที่ไหน เพราะเค้าตำมาแบบแห้งๆ ไม่มีน้ำเจิ่งเลยแถมรสชาติความแซ่บก็เคลือบมาได้ทั่วเส้นมะละกอทุกเส้น สุดยอดมากจานนี้รสชาติแซ่บนั่วแบบข้างทางสุดๆ ปลาร้ามาเต็มวันที่เราไป โต๊ะข้างๆ เป็นครอบครัวนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น สั่งส้มตำแบบคลั่กๆ มา กินกันไปร้องไห้ไป เห็นแล้วสงสารเลยค่ะต่อด้วย ลาบเป็ดพริกคั่ว 98 บาทจานนี้รสชาติโอเค แต่เค้าทำลาบมาแฉะไปหน่อย เราชอบลาบเป็ดแบบแห้งๆ กว่านี้ ก็เลยเฉยๆ กับจานนี้ค่ะสุดท้าย ต้มแซ่บไก่ย่างเห็ดรวมคอลาเจน 94 บาทจานนี้ใส่คอลาเจนอีกแล้ว ตอนเสิร์ฟเค้าจะแยกคอลาเจนมาให้เราใส่เองนะคะใส่ลงไปคนๆ แป๊บเดียวคอลาเจนก็จะละลายหายไป เพราะโดนความร้อนของน้ำซุปเมนูนี้ไก่ย่างที่ใส่มาอร่อยดีค่ะ แต่น้ำซุปรสชาติแปลกๆ มีกลิ่นเครื่องเทศอะไรสักอย่างที่เราไม่ค่อยคุ้นเคยทำให้ซดซุปได้ไม่คล่องคอเท่าที่ควรวันนี้มากัน 3 สาว ค่าเสียหายก็เท่าที่เห็นในบิลนี้เลยค่ะสรุปสำหรับร้านแซ่บอีลี่ ในความเห็นเราคิดว่าเป็นร้านส้มตำที่เก๋ไก๋ดีค่ะ บรรยากาศชิคมาก แต่เนื่องจากร้านเล็กเลยแออัดไปหน่อย พนักงานอาจบริการได้ไม่ทั่วถึงนักเพราะคนเยอะ และเก็บโต๊ะ เก็บจานช้าไปบ้างแต่ถามเกี่ยวกับเมนูก็สามารถตอบได้ ก็โอเคระดับนึงค่ะราคาสูงตามสถานที่ตั้ง แต่ก็ไม่โหดร้ายนักรสชาติก็แซ่บดี โดยเฉพาะส้มตำ ชอบมาก แต่เมนูอื่นก็มีอร่อยบ้างไม่อร่อยบ้างปนๆ กันไปร้านนี้ถ้าจะไปซ้ำ ก็เพราะส้มตำนี่ละค่ะ …查看更多

เคยได้ยินชื่อเสียงความอร่อยของร้าน ชาบู ชาบู นางใน มานานค่ะ แต่ไม่มีโอกาสไปลองชิมซะที เนื่องจากร้านแต่ละสาขาอยู่ไกลบ้านเราทั้งนั้นแต่หลังจากได้ข่าวว่า ชาบู ชาบู นางใน มาเปิดสาขาใหม่ที่เอกมัย ก็เลยได้ฤกษ์ดี ไปชิมซะหน่อยการเดินทางก็ไม่ยาก ลงบีทีเอสปุ๊บ ขึ้นพี่แท๊กมาซอยเอกมัย 12 ค่ะ เข้าซอยมาลึกพอสมควร เลยร้าน Coffee Bean, Vanilla Garden มาสักพัก มองขวาไว้ก็จะเจอป้ายร้าน เลี้ยวเข้าซอยไปโลด ร้านจะเป็นลักษณะเหมือนเอาบ้านเก่ามาทำร้าน บ้านสีขาว ดูอบอุ่นๆ ดีค่ะแต่ว่าที่นั่งก็จะมีไม่เยอะ ถ้าช่วงไหนคนเยอะก็อาจต้องรอคิวกัน (แต่เราไปช่วงบ่ายๆ วันธรรมดาเลยไม่ค่อยมีคนค่ะ)โต๊ะเก้าอี้เรียบง่าย นั่งสบายค่ะวันนี้เรามาจัดเต็มก็สั่งบุฟเฟ่ต์เลยค่ะ หัวละ 349 บาท (ไม่รวมน้ำและขนม แต่ก็ไม่บวก Vat, Service Charge เพิ่ม)ซึ่งในราคานี้ก็จะสั่งได้ทั้ง เนื้อวัว เนื้อหมู สันคอ สามชั้น กุ้ง หมึก เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวปลา ลูกชิ้นปลาต่างๆ และชุดผัก ซึ่งทุกอย่างที่ว่ามาคุณภาพดีมาก ใช้ของดี สด อร่อยจริงๆด้วยความที่เป็นคนที่คลั่งไคล้การกินเนื้อมากๆ จึงประทับใจเนื้อที่นี่เป็นพิเศษค่ะทางร้านสไลด์เนื้อมาได้บางดีมาก เหมาะกับการกินชาบูสุดๆ แถมยังไม่ใช่เนื้อแช่ฟรีซ มีเกร็ดน้ำแข็งติดให้กวนใจด้วยเอาเนื้อจุ่มลงน้ำซุปเดือดๆ 10 วินาที เอาขึ้นมาจุ่มกับน้ำจิ้ม ขอบอกอร่อยเหาะ ซึ่งน้ำจิ้มของทางร้านก็มีให้ครบมากๆ ทั้งน้ำจิ้มพอสีรสเปรี้ยว (แนะนำให้ใส่ไชเท้าฝนผสมพริกขึ้หนูเข้าไป เด็ดมากกกกก)หรือจะจุ่มกับไข่ดิบ สไตล์ญี่ปุ่นทางร้านก็มีไข่ให้เช่นกันหรือถ้าใครไม่ชอบเผ็ดก็แนะนำน้ำจิ้มงา รสชาติหวานๆ หอมๆ นวลๆ ก็จะได้ฟิลไปอีกแบบนอกจากเนื้อวัวแล้ว เนื้อหมูของทางร้านก็เด็ดไม่แพ้กันในจานนี้เป็นชุดรวม มีทั้ง หมูสันคอ หมูสามชั้น และหมูสันนอกสามชั้นที่นี่นุ่มฝุดๆ แทบจะละลายในปาก สำหรับกุ้งกับหมึก แม้จะไม่ใช่กุ้งแม่น้ำตัวใหญ่โตอะไร แต่กุ้งสดมากค่ะ กินเพลินเลยปลาหมึกก็สดเช่นกัน กินหนวดหมึกซะ คอเรสเตอรอลพุ่งทีเดียว แฮ่...เหล่าซีฟู้ดเมื่อลงหม้อ มาพร้อมเกี๊ยวกุ้ง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดของทางร้านเลยเพราะเกี๊ยวอร่อยมากกกกก เกี๊ยวแป้งบาง ไส้แน่น สัมผัสได้ถึงเนื้อกุ้งเป็นตัวๆ เลยรสชาติเข้มข้นดีค่ะ เราว่าคล้ายเกี๊ยวกุ้งแบบดีๆ เลยด้วยซ้ำจานนี้เป็นลูกชิ้นปลาแบบรวมๆ กันมา คุณภาพดีทุกแบบค่ะ เนื้อเด้ง ไม่ผสมแป้งเยอะติดใจเกี๊ยวปลา และฮือก๊วยเป็นพิเศษค่ะแกงค์นี้ส่วนข้าวผัดกระเทียมก็อร่อยหอม ไปกันได้ดีกับรสชาติชาบู แต่เราไม่ได้ติดใจอะไรกับข้าวกระเทียมเป็นพิเศษนะคะ (คือไม่เน้นข้าวนั่นเอง อิอิ)ชุดผัก มีผักหลากหลายดีค่ะ ชอบตรงมีข้าวโพดกับป๊วยเล้งให้ด้วย (ที่อื่นไม่ค่อยมีในบุฟ)ผักก็สดอร่อย ไม่มีเก่า ไม่มีเหม็นสุดท้ายปิดท้ายมื้อด้วยเมนูของหวานที่เด็ดสุดๆ ของทางร้าน นั่นคือ ไอศกรีมสับปะรดอลังกาลดาวล้านดวงมากเพราะเสิร์ฟมาในลูกสับปะรดเลยทีเดียว เก๋มากแต่ไม่ใช่แค่แพ็คเกจจิ้งเท่านั้นที่เริ่ด รสชาติก็เริ่ดด้วย เป็นไอศกรีมเชอร์เบทไม่ผสมนมรสชาติออกเปรี้ยวๆ เหมือนโยเกิร์ต หอมอร่อยสุดๆ สำหรับร้าน ชาบู ชาบู นางใน ต้องขอบอกว่าเป็นร้านชาบูอีกร้านที่คุณภาพดี ใช้ของสดสะอาด ซุปรสชาติดี น้ำจิ้มโดนใจคนไทยราคาไม่แรงมาก และพนักงานบริการดีมากคุณเจ้าของร้านสุดหล่อเดินบริการถามไถ่ลูกค้าตลอดๆ วันไหนมีโอกาสจะพาเดอะแกงค์กลุ่มใหญ่ไปถล่มที่ร้านอีกแน่นอนค่ะ…查看更多

หลังจากที่เดินดูไลน์อาหารกันไปแล้วก็มาดูกันดีกว่าว่า มื้อนี้เราตักอะไรมากินบ้างขอออกตัวก่อนนะคะว่า ถ่ายรูปมาไม่ครบทุกอย่าง เพราะอาหารเยอะมากจริง เริ่มต้นด้วยอาหารเบาๆ ซีซาร์สลัด Seared Tuna และสลัดอื่นๆ อีกเล็กน้อยแต่ที่ติดใจที่สุดเห็นจะเป็นแซลมอนรมควันเสิร์มพร้อมผักร็อคเก็ตแซลมอนหอม อร่อย นุ่ม รสชาติเค็มกำลังพอดี อันนี้กินไปหลายแก้วเลย ต่อด้วยอาหารทะเลบนน้ำแข็งปรุงสุกมาอยู่แล้ว ตักมากินได้เลยทุกอย่างสดใช้ได้ ติดใจหอยนางรมและหอยแมลงภู่เป็นพิเศษ เนื้อหวานฉ่ำมากยิ่งพอได้จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดสุดแซ่บด้วยแล้ว บอกเลยว่า ฟิน!ซูมให้เห็นกันชัดๆ ว่าหอยนางรมตัวโตและฉ่ำขนาดไหนแล้วก็ต่อด้วยของปิ้งย่างกุ้งแม่น้ำแม้จะตัวไม่ใหญ่มาก แต่มันเยิ้มฝุดๆ ค่ะ หอยตลับก็เคี้ยวหนึบ กินเพลินหลังจากเดินตัวของคาวอยู่ 4-5 รอบ ก็มาถึงคิวของหวานกันบ้างของหวานที่นี่อร่อยกว่ามาตรฐานบุฟเฟ่ต์ทั่วไประดับนึงค่ะมีเค้กให้เลือกหลากหลายพอควรแถมยังมีไอศกรีม พุดดิ้ง ผลไม้ และขนมไทยน่ารักๆ ไว้ใหอร่อยกันด้วยเค้ก 2 ตัวนี้เด่นสุดในไลน์แล้ว เค้กช็อคโกแล็ตเจ้มจ้นพอควร ไม่หวานเกิน แต่ไม่ถึงขนาดเป็นฟัดจ์นะคะส่วนชีสเค้กนี่เนื้อเข้มข้นสะใจที่สุด ชีสเต็มๆ คำ เลิฟมากเค้กช็อคโกแล็ตใส่ป๊อบปี้ซีดด้วย รสชาติคล้ายเค้กช็อคโกแล็ตด้านบน แต่มีแท็กเจอร์กรุบๆ เพิ่มขึ้น ชอบตรงมีช็อคโกแล็ตประดับด้านบนแอแคลร์ อันนี้ไม่ได้หยิบมาชิม แต่ติดใจเค้กพุดดิ้งของที่นี่มาก เนื้อนุ่มเนียนหอมฉ่ำเนย ไม่หวานเลี่ยน ถ้าใครไปทานแนะนำให้ลองเลยค่ะวุ้นสายรุ้ง ไม่ได้ชิมเช่นกันแต่อันนี้สิเด็ดจริง มูสเลม่อนสีฟ้าแก้วนี้ รสชาติเลอค่ามากมูสเนื้อเบานุ่มเนียน เพิ่มรสเปรี้ยวด้วยเลม่อน ตัดรสอีกนิดด้วยบลูเบอร์รี่ซอสอร่อยมว๊ากกกกกกกก กินไป 2 แก้ว ชิวๆ แม้ตอนนั้นจะอิ่มมากแล้วก็ตามสุดท้ายเป็นเครื่องดื่มที่เราสั่งวันนั้นค่ะ เป็นม็อคเทลทั้ง 2 แก้ว แต่อันนี้จะไม่รวมอยู่ในบุฟนะคะโมฮิโต้สำหรับบุฟเฟ่ต์ทะเล๊ ทะเลของเราในวันนี้จะมีให้อร่อยกันทุกค่ำวันจันทร์ - พฤหัสค่ะส่วนโปรมา 2 จ่าย 1 จะหมดสิ้นเดือนตุลานี้แล้ว ยังไงจะไปชิมกันก็ลองโทรไปจองที่นั่งและสอบถามบัตรเครดิตที่ร่วมรายการกันก่อนได้ค่ะด้วยราคา 500 นิดๆ จากที่ได้ชิมไปวันนี้ก็ต้องบอกว่าคุ้มมากจริงๆ …查看更多

วันนี้มีบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มมาแนะนำกันอีกแล้วค่ะ แถมยังเอาใจคนที่ชอบอาหารทะเลอย่างเราเป็นที่สุดกับโปรโมชั่น Shellfish Harvest ที่ห้องอาหาร The Square รร. โนโวเทล เพลินจิตเป็นบุฟเฟ่ต์มื้อค่ำ กุ้ง หอย ปู ไม่อั้น ในราคา 880++ บาท แต่มีโปรมา 2 จ่าย 1 กับบัตรเครดิตหลายบัตรดังนั้น ราคาต่อหัวก็จะเหลือเพียง 514 บาทเท่านั้น เริ่มสนใจกันแล้วใช่มั้ยคะ ตามมาดูเลยดีกว่าว่าคุ้มแค่ไหนห้องอาหาร The Square อยู่ที่ชั้น 8 ของโรงแรม เดินทางง่ายมากเพราะโรงแรมอยู่ติดบีทีเอส เพลินจิต เลย ภายในห้องอาหาร บรรยากาศหรูหราโอ่โถง การตกแต่งสไตล์โมเดิร์นไลน์อาหารกว้างขวางอลังกาลเช่นกัน เดินตักกันเพลินมาเริ่มต้นมื้อกันด้วยพระเอกของวันนี้กันเลยดีกว่าค่ะ ไลน์อาหารทะเลมีอาหารทะเลให้เลือกหลากหลาย ทั้งหอยนางรม หอยเชลล์ หอยแมงภู่ตัวโตๆ หอยแครง หอยตลับ ปูม้าต้ม และที่สำคัญกุ้งแม่น้ำตัวไม่ใหญ่ไม่เล็กเราอยากกินอะไรก็ตักไปส่งให้เชฟปิ้งกันสดๆ บนเตาถ่านได้เลย ให้อารมณ์บาร์บีคิวริมทะเลฝุดๆคุณภาพวัตถุดิบดีงาม สดอร่อยตัวโตทุกสิ่งอย่างต่อด้วยไลน์อาหารปรุงสำเร็จ มีหลากหลายเช่นกันวัตถุดิบที่นำมาใช้ทำอาหารในไลน์ก็ยังคงเป็นอาหารทะเลเป็นหลักเช่นกันแต่ก็จะมีหมูมีไก่เสริมทัพมาด้วย ขอบอกว่า รสชาติดีทุกเมนูต่อด้วนไลน์อาหารญี่ปุ่น มุมโปรดของหลายๆ คน (รวมทั้งเราด้วย )ปลาดิบสดดีค่ะ โดยเฉพาะแซลมอน เนื้อเด้งดึ๋งๆ เลยทีเดียว ส่วนซูชิก็มีหลากหลายหน้าให้เลือก ละลานตากันเลยทีเดียวเบรคสักหน่อยกับมุมสลัดและโคลด์คัทส์มุมนี้ต้องขอชมว่าหลากหลายกว่าบุฟเฟ่ต์โรงแรมในระดับราคานี้มากพอสมควรทั้งโคลด์คัทส์ที่หลากหลาย ชีส ผักสดต่างๆและก็ยังมีสลัดทะเลๆ ให้เลือกตักเพิ่มเติมด้วย มี Seared Tuna Salad ด้วยนะ อีกเมนูที่โดดเด่นของที่นี่ เราขอยกให้พิซซ่าโฮมเมดค่ะ อบจากเตากันสดๆ มีหลากหลายหน้าให้เลือกอร่อยกัน คุณเชฟใส่ชีสมาให้อย่างจุใจทีเดียวหรือใครที่ชอบเมนูเนื้อๆ เน้นๆ ก็มีแฮมชิ้นยักษ์ไว้บริการด้วยแต่ถ้าใครรักสุขภาพ ก็เลือกทานปลานึ่งซีอิ้ว เนื้อหวานๆ สดๆ กันได้เช่นกันอาหารอีกประเภทที่อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อสำหรับที่นี่ คือ อาหารอินเดียค่ะมีแกงกะหรี่ให้เลือกอยู่ประมาณ 3 อย่าง อร่อยทุกอย่าง กลิ่นเครื่องเทศไม่แรงเกิน รสชาติกลมกล่อม ถูกใจเรามากส่วนมุมอาหารไทยก็มีเมนูอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากมากอย่าง ม้าฮ้อ ให้ลองชิมกันด้วยม้าฮ้อเป็นถั่วผัดรสหวาน เหมือนไส้สาคูไส้หมู กินคู่กับสับปะรดชิ้นพอดีคำ แต่มื้อบุฟเฟ่ต์สุดคุ้มของเรายังไม่หมดเท่านี้ค่ะ ติดตามภาค 2 กันต่อไปได้เลยว่า เรากินอะไรไปอีกบ้าง อิอิ …查看更多

หลังจากอิ่มมื้อกลางวันที่ คินนิจิกันไปแล้ว แกงค์สาวๆ อย่างเราก็มุ่งหน้ามาชิวกันกับของหวานที่้ราน Little Spoon อโศกกันค่ะเนื่องจากครั้งที่แล้วเรามาแล้วค่อนข้างประทับใจ วันนี้เลยพาเพื่อนมากินกัน จะได้กินได้หลากหลายกว่าเดิม อิอิร้านเป็นคาเฟ่น่ารักๆ เล็กๆ อยู่บนชั้น 2 ของร้านขายโคมไฟ ตกแต่งด้วยไม้ ดูเรียบ แต่ก็มีโต๊ะเก้าอี้ที่นั่งสบาย เหมาะกับการกินกาแฟ กินขนม และเม้าธ์มอยกันมุมนี้สำหรับใครที่มาคนเดียว เหมือนบาร์นิดๆโซฟาใหญ่ที่ถูกจองเต็มตลอดๆมุมนี้มีของกระจุกกระจิกตั้งโชว์และวางขายด้วยค่ะมาดูเมนูที่พวกเรากินกันบ้างดีกว่า หลังจากไปเกาะขอบตู้อยู่นาน เราก็ได้เค้กติดมือมา 1 ชิ้นเป็นสตอเบอร์รี่ชอร์ทเค้ก ราคาประมาณ 100 บาทครีมสดเนียนแน่นสะใจ สตอเบอร์รี่ที่แทรกมาก็ชิ้นใหญ่ดีค่ะ แต่กินไปนานๆก็อาจรู้สึกเลี่ยนได้ต่อด้วยเมนูสุดเก๋ Chocolate Affogato (150 บาท)เป็นไอศกรีมวานิลลาทำเป็นรูปน้องเจี๊ยบน้อย เสิร์ฟพร้อมช็อคโกแล็ตร้อนเวลาจะกินก็ต้องเอาช็อคโกแล็ตมาราดไปบนไอศกรีม แบบนี้...เป็นเมนูที่ตื่นตาตื่นใจ และน่ารักมาก แต่ปกติเมนูนี้จะเสิร์ฟคู่กาแฟเอสเพรสโซ่ขมๆ มาบวกกับความหวานของไอศกรีมวานิลลาก็จะลงตัวพอดีแต่วันนี้เราสั่งเป็นช็อคโกแล็ตร้อน ซึ่งทางร้านใช้ช็อคโกแล็ตที่ไม่ดาร์กเท่าไหร่ รสชาติโดยรวมก็เลยหวานเกินไป เราเลยไม่ประทับใจเมนูนี้เท่าไหร่ค่ะเมนูสุดท้ายที่สั่งมา วาฟเฟิลไอศกกรีมชาเขียว+กล้วย (ราคาประมาณ 200 บาท)จริงๆ เมนูมีชื่อที่ไฮโซกว่านี้ แต่จำไมได้แล้วค่ะ มื้อนี้เราชอบเมนูนี้ที่สุดนะคะเพราะวาฟเฟิลที่นี่ชิ้นใหญ่เนื้อนุ่ม กรอบนอกนิดๆ กำลังดี ไอศกรีมชาเขียวก็เข้มข้นโดนใจมากทานคู่กัวิปปิ้งครีมและกล้วยแล้ว อร่อยเข้ากันพอดีมื้อนี้หมดไปคนละประมาณ 100 บาม แต่ก็อิ่มอร่อย (และเกือบเลี่ยน) กันไปมากเลยทีเดียววันหลังถ้ามีโอกาสจะไปลองเมนูอื่นๆ ของที่นี่อีกค่ะ เมนูเยอะมาก และส่วนใหญ่ก็อยู่ในเกณฑ์อร่อยดีค่ะเสียดายตรงที่ร้านเล็กไปหน่อย เวลาคนเยอะๆ ก็อาจจะอึดอัดและไม่มีที่นั่งได้ค่ะ…查看更多

นัดกับเพื่อนสาวสมัยมหาวิทยาลัยมาเม้าธ์มอยอัพเดทชีวิตค่ะ แต่เนื่องจากอยู่ในช่วงสิ้นเดือนเหมือสิ้นใจ และมีเพื่อนบางคนกำลังลดน้ำหนักรักษาสุขภาพกันอยู่ด้วย คิดไปคิดมาเลยมาลงเลยที่ร้าน คินนิจิ นี่ล่ะค่ะร้านคินนิจิเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ข้าวหน้าต่างๆ แถมยังมีเมนูสลัดแบบมิกซ์แอนด์แมตช์เองตามใจเรา ที่สำคัญราคามิตรภาพ เอาใจวัยนักศึกษา เพราะเป็นร้านที่อยู่ในบริเวณ U-Center ซึ่งอยู่บริเวณหอในของนิสิตจุฬาเริ่มกันด้วยเมนู สลัดวาซาบิ (59 บาท)ผักสลัดสดกรอบดี น้ำสลัดวาซาบิจี๊ดจ๊าดถึงใจ กินกันเพลินเลย แป๊บเดียวเกลี้ยงต่อมาเป็นเกี๊ยวซ่ายำเกี๊ยวซ่าทอดกรอบราดด้วยน้ำยำรสแซ่บ แต่ไม่จัดจ้านนเกินไป ไส้เกี๊ยวซ่าก็อร่อยค่ะ กินเพลินมาที่จานหนักๆ กันบ้าง ข้าวหน้าไก่ทอดคาราเกะไก่ชิ้นโต ทอดมาได้สุกฉ่ำ น้ำราดก็อร่อยไม่หวานเลี่ยน รสชาติข้าวก็หุงมาได้พอดี จานนี้เราปลื้มสุดในมื้อนี้ค่ะต่อด้วยเมนูข้าวอีกจาน เห็นว่าเป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ข้าวหน้าแซลมอนรมควันแซลมอนรมควันชิ้นโตราดหน้ามาด้วยมายองเนส เพื่อนๆ ลงความเห็นกันว่า จานนี้ถ้าเป็นแซลมอนรมควันเพียวๆ โดยไม่ต้องราดน้ำน่าจะอร่อยกว่านี้ เพราะรสชาติของน้ำราดมันกลบรสของแซลมอนรมควันไปซะหมดต่อด้วยเมนูยออดฮิตกันบ้าง แคลิฟอร์เนียโรลเมนูนี้อร่อยตามมาตรฐาน แป๊บเดียวหายเกลี้ยงเช่นกันมาที่ของกินเล่นอีกสักจาน โอโคโนมิยากิพิซซ่าญี่ปุ่นที่นี่อร่อยเข้มข้นใช้ได้ค่ะ ชิ้นก็ใหญ่กำลังดี กินกันเพลินๆจานสุดท้ายที่มาถึง คือ แซลมอนซาชิมิ ค่ะจานนี้เรารอกันนานมาก รอจนงงว่าทำไมได้ช้า เพราะคนในร้านน้อยมาก จนสุดท้ายทวงไป แล้วก็ค้นพบว่า คุณแม่ครัวลืมทำให้ จานนี้ทางร้านก็เลยแถมให้ฟรีไม่คิดเงินเพื่อเป็นการขอโทษที่ต้องให้รอนานค่ะถือว่าใส่ใจลูกค้าและแก้ปัญหาแบบได้ใจลูกค้าไปเต็มๆ ค่ะสำหรับมื้อนี้หารกันแล้วไม่ถึง 150 บาท ถือว่าถูกและคุ้มมาก แต่อาหารก็อาจจะไม่ได้เลิศเลอแบบร้านใหญ่ราคาแพงนะคะ ยังไงก็มาลองกันได้แบบไม่เจ็บตัวมากค่ะ…查看更多

สำหรับคนกรุงยุคใหม่ที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโดหรือพาร์ทเม้นต์กันมากขึ้น การเลี้ยงสัตว์ดูจะเป็นสิ่งที่หลายคนไม่สามารถทำได้ทำให้กระแสคาเฟ่สัตว์เลี้ยงมาแรงมากขึ้นในช่วงปีสองปีที่ผ่านมาและสำหรับทาสแมวอย่างเราเองที่ใช้ชีวิตอยู่ในคอนโด การไปเยือนคาเฟ่แมวสักแห่งก็เปรียบเหมือนเม็กกะแห่งคนรักแมวเลยทีเดียว (แอบเว่อร์เล็กน้อย 555)ล่าสุดเราก็ไปค้นพบคาเฟ่แมวแห่งใหม่ล่าสุด ณ โครงการ Tree Square ทาวน์อินทาวน์ ชื่อร้าน Kitty Kat Cafe เป็นร้านขนาดหนึ่งห้อง ไม่ใหญ่โต แต่ก็น่ารักดีค่ะบรรยากาศภายในร้าน เน้นตกแต่งด้วยคิตตี้ตามชื่อร้าน โต๊ะนั่งส่วนใหญ่เป็นสีขาว และเป็นโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ยๆ กับเบาะรองนั่งสไตล์ญี่ปุ่น จะได้ใกล้ชิดกับน้องแมวได้ แต่ว่าถ้าใครนั่งพื้นลำบากทางร้านก็มีโต๊ะที่นั่งห้อยขาไว้บริการอยู่โต๊ะ 2 โต๊ะด้วยค่ะและเนื่องจากเป็นคาเฟ่แมว อาหารที่บริการภายในร้านก็จะไม่ใช่อาหารหนักๆ ส่วนใหญ่จะเน้นเครื่องดื่มและเค้กง่ายๆ ซะมากกว่ามาดูกันก่อนว่ามีอะไรให้กินบ้าง วันนี้เราสั่ง ชาร้อน 1 กาค่ะ เนื่องจากไปตอนค่ำแล้ว แถวฝนตก ก็เลยขอเครื่องดื่มอุ่นๆ หน่อยชาที่นี่ใช้เป็น Twining ซองๆ นะคะส่วนคุณแฟนสั่ง ชาเขียวปั่นชาไม่หวานมาก แต่รสชาติไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ค่ะ ไม่ค่อยมีรสชา หรือนมเท่าที่ควรแล้วก็สั่งเค้กมาชิมอีกหนึ่งชิ้น เป็นบานอฟฟี่ค่ะตกแต่งจานมาได้เก๋ไก๋สมเป็นคาเฟ่แมวจริงๆ ค่ะ เพราะมาเป็นรูปคิตตี้เลยส่วนเรื่องรสชาติ ต้องขอบอกว่าผิดหวังมากทีเดียว เพราะบานอฟฟี่ที่นี่ไม่ใช้ครีมสด ตัวคาราเมลก็เหมือนเป็นวุ้นเจือคาราเมล เรียกว่าเป็นบานอฟฟี่ที่รสชาติพลาสติกมาก แต่ก็เทียบกับราคาแค่ 60-70 บาทแล้วก็คงต้องทำใจอะค่ะหลังจากเฟลไปกับเค้กของที่นี่ เราก็หันมาสนใจน้องแมวดีกว่าที่ร้านนี้จะมีน้องแมวให้เล่นอยู่ประมาณ 7 ตัวค่ะ แต่เนื่องจากตอนที่ไปร้านเพิ่งเปิดได้เดือนกว่าๆ น้องแมวก็เลยยังไม่ค่อยคุ้นคนเท่าไหร่แถมเรายังไปถึงตอนทุ่มนึง ซึ่งเป็นเวลาที่ทางร้านเพิ่งให้อาหารเหล่าน้องเหมียว น้องแมวก็เลยหลับกันแทบทุกตัวเบยจ้าชอบลายตัวนี้มากส่วนตัวนี้ก็นอนแผ่เป็นคนเลย ตลกดีแต่เนื่องจากมาตอนให้อาหาร ก็เลยได้ให้อาหารน้องด้วยที่นี่ให้อาหารเป็นเนื้อไก่ฉีก ไฮโซมว๊ากแล้วสักพักพลพรรคแมวในร้านก็เริ่มตื่นมาเล่นกับเรามากขึ้นค่ะทางร้านมีของเล่นหลากหลายไว้ให้เราเอาไว้หลอกล่อน้องๆ ได้อย่างตัวนี้ หน้าตาโหดเหี้ยมดูไร้อารมณ์ แต่ขี้เล่นมากเลยแต่น้องตัวขาวนี่ เรียบร้อยมาก นอนนิ่งๆ ตลอดไม่ค่อยซนหรือลุกมาเล่นเท่าไหร่มีโมเม้นท์ที่ทุกตัวมารุมกันเล่นของเล่นที่เป็นรางลูกแก้วอันนี้ด้วย น่าร๊ากกกกแต่ช็อตที่ประทับใจเราที่สุดของวันคือตอนที่น้องตัวนี้วิ่งอย่างคึกคักมายืนบนตักเราทาสแมวอย่างดิฉันฟินเบยยยยย >.<สำหรับร้านนี้คงต้องบอกว่า ถ้ามีโอกาสก็อยากไปอีกค่ะ ไปเล่นกับน้องแมว เพราะจริงๆ ก็น่ารักกันทุกตัวพอคุ้นๆ กันหน่อยแล้ว น้องๆ ก็มาเล่นด้วย และไม่ได้มีท่าทางดุหรือรำคาญเลยสำหรับราคาเครื่องดื่มและเค้กถือว่าถูกมาก แต่ถ้าจะให้ดีอยากให้ปรับปรุงคุณภาพเค้กให้ดีขึ้นจะคิดราคาแพงขึ้นอีกหน่อยเราก็ยังรับได้นะ เพื่อให้ประสบการณ์การมานั่งคาเฟ่แห่งนี้เพอร์เฟ็คมากขึ้นสำหรับการบริการ พนักงานน่ารักมากค่ะ เราไปนี่เกือบจะปิดร้านอยู่แล้ว แต่ก็ไม่มีท่าทางรำคาญหรือไล่แขก แถมก่อนกลับคุณเจ้าของร้านยังเข้ามาถามด้วยว่าสนุกมั้ย เป็นไงบ้าง ถือว่าเอาใจใส่ดีมากค่ะ…查看更多

หลังจากประทับใจกับซูชิปลาไหล เราก็ต่อเนื่องความฟินด้วยเมนู Dragon Roll (140 บาท)ดราก้อนโรลคือมากิโรลปลาไหล สอดไส้ด้วยอะโวคาโก้ ชีส และแอสพารากัส โรยมาด้วยไข่แซลมอน ปิ๊งๆ วิ๊งๆจริงๆ เมนูนี้หาได้ตามร้านซูชิร่วมสมัยทั่วไป แต่เราว่าที่นี่ทำรสชาติมาได้ลงตัวมากๆ ได้รสชาติหลายสัมผัสในคำเดียว ความหอมนุ่มเจือรสหวานของปลาไหล (ที่เหนือชั้นกว่าร้านทั่วไปอยู่แล้ว) ผนวกกับข้าวซูชิหวานเปรี้ยว เพิ่มความละมุนด้วยชีสและอะโวคาโดเนียนๆ ทั่วปาก บอกได้คำเดียวว่า ฟินน้ำตาไหล เบรคกันสักหน่อยกับเมนูของย่าง ท้องปลาแซลมอนย่าง (280 บาท)ทางร้านเสิร์ฟมาเป็นไม้ สไตล์อิซาคาย่าค่ะ เสิร์ฟคู่กับไชเท้าฝน และเลม่อนความโดดเด่นของเมนูนี้อยู่ที่ความกรอบของหนังปลาแซลมอนที่ผสานความนุ่มและมันของเนื้อแซลมอนส่วนท้องและเนื่องจากเป็นแซลมอนย่างเกลือรสชาติเลยค่อนข้างเค็มค่ะ ตัดรสด้วยเลม่อนได้ประมาณนึง แต่เราว่าจานนี้เค็มกว่าที่ควรไปหน่อยต่อกันที่เมนูเบาๆ อีกสักจาน ไข่หวานเซนเรียว (80 บาท)อีกหนึ่งเมนู Signature ของร้าน (เพราะเอาชื่อร้านมาตั้งชื่อเมนูทีเดียว แถมหน้าตาเก๋ไก๋ มีชื่อร้านเบิร์นมาบนเนื้อไข่ด้วย)ปกติไม่ค่อยชอบกินไข่หวานเท่าไหร่ เพราะมันหวานเกิน แต่ที่นี่ไม่หวานเลี่ยนค่ะ รสชาติเนียนๆ นวลๆ กลมกล่อม แต่เนื้อไข่ไม่ถึงขนาดเป็นเนื้อคัสตาร์ดนะคะถือว่าอร่อย แต่เราว่ายังไม่ถึงขนาดเมพหลังจากอาหารล็อตแรกที่สั่งหมดไป เราก็ยังคงไม่หนำใจ เลยหันไปคว้าเมนูในสายพานมาชิมบ้างจานแรกเป็น โรลปูนิ่มทอด (210 บาท)ประทับใจกับชิ้นปูนิ่มก้ามโตๆ ของจานนี้มาก และก็ไม่ใช่มีดีที่หน้าตาเท่านั้น ความอร่อยกลมกล่อมของเมนูนี้ก็ไม่เป็นสองรองใครปูนิ่มสดๆ ไม่มีกลิ่นคาว ทอดมากรอบได้ที่ พันมาในโรลซูชิ เพิ่มรสชาติด้วยมายองเนส ขอบอกว่าเป็นเมนูพื้นๆ ที่อร่อยฝุดๆพอกินคำนี้เข้าไป เราขอฟันธงว่า ร้านนี้เด่นเรื่องซูชิโรลมากๆ จริงๆ ทำได้ลงตัวสุดๆและเนื่องจากเอ็นกาวะคำที่แล้วเป็นเอ็นกาวะแบบเผาไฟ คราวนี้เราเลยหยิบเอ็นกาวะสดๆ มาลองชิมเทียบกันดูค่ะ Engawa Nigiri (210 บาท)รสก็ยังคงอ่อนกว่าที่เคยกินอยู่ดีค่ะ เนื้อปลาไม่ค่อยกรุบกรับเท่าไหร่ด้วย แต่จะว่าไม่สดก็ไม่น่าใช่นะคะเพราะเนื้อปลาเนียน และไม่เละหรือขาดเลย (เคยไปกินที่ร้านดังร้านอื่นยังมีแอบเละ แอบขาดด้วยนะ)ก็เลยกลายเป็นซูชิที่รสชาติไม่เด่นเท่าที่ควรในมื้อนี้หลังจากเผด็จศึกซูชิบนสายพานไป 2 จาน เราเลยหันมาสั่งซูชิจากพ่อครัวแบบสดๆ ใหม่ๆ ต่อเซ็ทหลังเริ่มด้วยของแพงอย่าง ซูชิเนื้อย่าง (480 บาท)ที่เห็นลายสวยๆ นี่ยังไม่ใช่วากิวนะคะ (ถ้าวากิวก็จะราคาประมาณ 700 บาท/2 คำ) แต่ถึงจะไม่ใช่วากิวแต่ขอบอกว่านุ่ม ฟิน น้ำตาไหล ได้เช่นกัน เพราะเนื้อย่างทำมาได้ลุกกำลังดี เนื้อแทบจะละลายในปากแบบไม่ต้องเคี้ยวคือเคี้ยวข้าวยังยากกว่าเคี้ยวเนื้ออ่ะค่ะ คนรักเนื้ออย่างเราฟินเวอร์!อีกคำที่ขอสั่งมาทดสอบความสดก็คือซุชิบ้านๆ อย่าง Salmon Sushi (80 บาท)เชฟหั่นแซลมอนมาชิ้นใหญ่กำลังดี แม้จะไม่ใช่ส่วนพุงแต่ลายก็สวยงามประมาณนึง แต่รสชาติความสดรสว่าดีแต่ยังไม่สุดอะค่ะปิดท้ายมื้อแบบฟินนาเร่ของจริงกับ O-toro Sushi (280 บาท/คำ)เป็นโอโทโร่คำที่สองในชีวิตค่ะ เชฟหั่นชิ้นเนื้อปลามาได้อลังกาลมาก ยาวล้ำข้าวมาเยอะมากๆสังเกตลวดลายหินอ่อนอันสวยงามที่แทรกอยู่ก็จะรู้ได้ว่า ได้ของดีและสดจริงๆ รสชาติพอนำเข้าปากก็หอมมัน ละลายในปาก อร่อยเว่อร์สมกับเป็นราชันย์แห่งซูชิจริงๆ ค่ะคำนี้ประทับใจมากกว่าที่เคยกินมาก่อนหน้านี้มากๆ (คราวที่แล้วเจอส่วนที่ติดเอ็นมาด้วย แอบเหนียวค่ะเลยไม่ประทับใจ)สรุปว่าฟินกันไปกับจานนี้ขอสรุปความประทับใจกับร้าน Sen-ryo Sushi นะคะรสชาติ - ความสดอยู่ในระดับดีเกือบดีมาก ขอหักคะแนนตรงที่เมนูบ้านๆ อย่างแซลมอนหรือเอ็นกาวะยังไม่สามารถทำให้เราประทับใจได้เท่าที่ควรค่ะ แค่เมนูพวกโรลมากิ อร่อยเว่อร์ลงตัวแบบที่เรียกได้ว่าเพอร์เฟ็กท์การบริการ - บริการดี สุภาพ เติมน้ำชาให้ตลอดๆ โดยไม่ต้องเรียก แต่ตอนรับออร์เดอร์ไม่ได้แนะนำอะไรโต๊ะเราเท่าที่ควร อาจเพราะเป็นโต๊ะแรกที่มา พนักงานยังไม่พร้อมทำงานเท่าไหร่ เพราะโต๊ะหลังๆ ที่มาทาน ตอนรับออร์เดอร์ พนักงานจะแนะนำว่าวันนี้มีปลาอะไรเข้าใหม่ จานไหนแนะนำ ลองอันโน้นมั้ย อันนี้มั้ย มากกว่าโต๊ะเราค่ะ (หรือเค้าอาจจะเห็นว่าไปกันแค่ 2 คนก็ได้ เลยไม่ได้แนะนำมาก)ราคา - จริงๆ มื้อนี้หมดไป 3000 บาท เป็น Service Charge + VAT ซะ 400 กว่าบาท ราคาโดยรวมก็ถือว่าสูงค่ะ แต่ก็คุ้มค่า แต่ก็ไม่ได้แพงกว่าร้านซูชิระดับนี้ร้านอื่นๆ เลย บางเมนูอาจจะถูกกว่าด้วยซ้ำค่ะสรุปว่าเป็นร้านซูชิที่ดีแต่ก็ยังไม่ใช่ร้านที่ดีที่สุดในความคิดเราค่ะ (ซึ่งก็จะต้องไปลองร้านอื่นๆ กันต่อไป หาเรื่องกินนั่นเอง แฮ่.... )…查看更多

หลังจากเห็นกระแสความแรงของเครือร้านซูชิ Sen-ryo Sushi ที่เข้ามาเปิดที่เมืองไทยได้สักพัก เราก็ทนความอยากปลาดิบไม่ไหว ไปลองของที่ร้านนี้มาจนได้ค่ะร้านเซนเรียวซูชิ เป็นเครือร้านซูชิสายพานระดับพรีเมี่ยม มีสาขาอยู่ทั้งในญี่ปุ่นและฮ่องกงสำหรับสาขาในไทย เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อประมาณเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตั้งอยู่ที่ Nihonmura Mall ชั้น G ซึ่งเป็นห้างใหม่เพิ่งเปิดในซอยทองหล่อ 13 อยู่ข้างๆ กับโครงการ Nihonmura เดิมเลยค่ะ แต่อันนี้จะเป็นตึกมี 3-4 ชั้นมีที่จอดรถอยู่ใต้ตึก แต่ที่จอดค่อนข้างน้อย เราโชคดีไปถึงตั้งแต่ประมาณ 11 โมง ก็เลยมีที่จอด แต่ตอนจะกลับประมาณบ่ายกว่าๆ ที่จอดก็เต็มแล้วค่ะบรรยากาศด้านหน้าร้าน ใหญ่โตสังเกตเห็นง่ายเพราะร้านติดกับฝั่งที่เป็นถนนบรรยากาศภายในร้านก็จะคล้ายๆ ร้านซูชิสายพานทั่วไป คือมีสายพานซูชิอยู่กลางร้าน มีโต๊ะนั่งรอบๆแล้วก็จะได้เห็นพ่อครัวทำงานอยู่ในครัวเปิดด้านหน้าอีกด้านเป็นกระจกโค้งๆ เห็นวิวภายนอกโต๊ะโซนนี้จะไม่ติดกับสายพาน แต่ก็สามารถสั่งกับพนักงานได้ตลอดๆ อยู่แล้วซูชิบนสายพานจะวนมาให้ดูเรื่อยๆ เราไปถึงตอนร้านเพิ่งเปิด เชฟก็จะทำซูชิบนสายพานออกมาไม่กี่อย่าง ทำมาเฉพาะเมนูพื้นๆ ที่ขายดี อย่างแซลมอน เอ็นกาวะ กุ้งหวานมาดูกันดีกว่าว่าวันนี้เรากินอะไรไปบ้างเริ่มกันที่ซุปร้อนๆ เอาไว้ซดแก้เลี่ยนตัวเราสั่งซุปหอยชิจิมิ (80 บาท)เป็นซุปมิโสะแต่ใส่หอยตัวเล็กๆ เพิ่มรสชาติความเข้มข้น ตัวซุปอร่อยดี แต่หอยเล็กๆ ยังแอบมีทรายอยู่บ้าง เลยแอบเฟลนิดหน่อย ณ จุดนี้แฟนสั่ง ซุปมิโสะ (60 บาท)ซุปมิโสะที่นี่รสชาติไม่เหมือนที่อื่น ไม่รู้เพราะเค้าใส่สาร่ายอีกแบบหรืออะไร แต่จะแอบมีรสเปรี้ยวนิดๆ เหมือนต้มผักดองอยู่ด้วย รสชาติโอเค แต่เราไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ค่ะมาถึงซูชิกันบ้าง เซ็ทแรกที่สั่งไปเชฟใส่รวมกันมาให้ในจานเดียวมีน้ำจิ้มพอนสึมาให้ด้วยสำหรับจิ้มเอ็นกาวะเปิดประเดิมด้วยเมนูที่ถือเป็น Signature ของทางร้าน เพราะส่วนใหญ่ซูชิไข่แซลมอนที่เคยเห็นที่อื่นจะทำมาเป็น Gunkan Sushi ที่มีสาหร่ายพันมารอบ แต่ที่นี่ทำเป็นนิกิริก็เลยต้องจัดซะหน่อยค่ะ Ikura Nigiri (280 บาท)ไข่แซลมอนใสปิ๊งสดแบบแตกเปรี๊ยะๆ ในปาก รสชาติแห่งท้องทะเลอบอวลไปทั่ว หอมคลุ้งอยู่ในปากมากๆ เริ่มต้นได้น่าประทับใจค่ะ Seared Engawa Nigiri (140 บาท) เอ็นกาวะวันนี้เราสั่งเป็นแบบเผาและโรยด้วยพริกไทยดำรสชาติความหอมฉ่ำโดนใจ แต่คำนี้เรารู้สึกว่ามันยังไม่น้ำตาไหลเท่าที่เคยกินที่อื่น (Shori Sushi)มาถึงคำสุดท้ายในจานนี้ Unagi Nigiri Sushi (140 บาท)ขอบอกว่าเป็นปลื้มกับคำนี้มาก เป็นซูชิปลาไหลที่อร่อยที่สุดที่เคยกินมา สัมผัสได้ถึงความสดของเนื้อปลา ไม่มีเศษก้างเล็กๆ มากวนใจ หอมกลิ่นควันไฟเผาอวลอยู่ในชิ้นปลา จริงๆ ตอนแรกแอบกลัวว่าจะอร่อยมั้ยเพราะมันไม่มีน้ำซอสหวานๆ ราดมาเหมือนที่เคยกินที่อื่น แต่ที่นี่ความหวานได้แทรกซึมอยู่ในเนื้อปลาแล้ว บอกเลยว่า ฟิน!แต่ช้าก่อน มื้อนี้เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายเมนูความอร่อยที่ยังไม่ได้รีิวิว ตามไปอ่านกันต่อในรีวิวต่อไปได้เลยจ้า... …查看更多

แอบไปชิมอาหารทะเลร้านดังแห่งเมืองมหาชัย "ครัวคุณตุ่ม" เป็นร้านที่เคยเห็นรีวิวของเพื่อนๆ ใน OpenRice มานานมากแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้ลองไปชิมสักทีค่ะ ร้านนี้อยู่ใกล้กับวัดเจษฯ ซึ่งเป็นที่เลื่องลือเรื่องลอดช่องน้ำกะทิหอมๆครัวคุณตุ่มเป็นร้านที่เน้นความสดอร่อยของอาหารอย่างเดียวจริงๆ เพราะบรรยากาศพื้นบ้านมาก ไม่มีวิวสวยงามใดๆ ให้ชื่นชม มองจากด้านหน้าร้านอาจรู้สึกว่าร้านเล็กและแคบ แต่จริงๆ ไม่ใช่เลยค่ะ ร้านแบ่งเป็นหลายโซน และมีโต๊ะรองรับลูกค้าเยอะมากๆ บรรยากาศภายในร้านก็เลยค่อนข้างแออัด แต่ว่ารสชาติและความสดของอาหารทะเลก็อร่อยสมคำร่ำลือจริงๆระหว่างรออาหารพนักงานก็นำน้ำจิ้มมาเสิร์ฟให้ก่อนเลยค่ะ 3 อย่างน้ำปลาพริก น้ำจิ้มซีฟู้ด และน้ำปลาพริกใส่หอมซอย ซึ่งอร่อยยยยยยยมว๊ากกกกกกเริ่มด้วยจานผักเบาๆ ยอดมะระผัดน้ำมันหอยรสชาติทั่วไป ไม่โดดเด่น แต่ก็ไม่แย่ค่ะ ยอดมะระอ่อนดี และจานใหญ่มากกกต่อด้วย ปลากระพงทอดน้ำปลาปลาตัวใหญ่เฟ่อร์ ทอดมากรอบดี น้ำปลาหอม แต่ราดมาไม่เยอะเท่าไหร่ยำมะม่วง สำหรับกินคู่กับปลาทอด แอบหวานไปนิดส์ เราเลยฟินกับการเอาปลากระพงไปจิ้มกับน้ำปลาพริกใส่หอมซอย ขอบอกว่าฟินมว๊ากกกกกแต่เมนูที่ทำให้เราฟินที่สุดในวันนี้ คือ แกงส้มปลาแป้นตัวโตรสชาติเข้มข้น ซึ่งเป็นแกงที่ไม่ได้กินมาหลายปีแล้วตั้งแต่ยายเสียไป เป็นรสชาติที่ทำให้คิดถึงบ่านเกิดจริง...จริง (ทำเสียงแบบนักพากษ์ทีวีแชมป์เปี้ยน)ปลาแป้นเนื้อนิ่มและหวานมาก รสชาติแกงส้มก็เข้มข้นสุดๆ อร่อยแรงงงงง เสียดายที่ในแกงส้มไม่ใส่ผักอื่นมาให้เลยนอกจากใบมะกรูดแต่ที่ต้องตกใจก็คงเป็นราคาปูเนื้อนึ่ง วันนี้สั่งมาตัวนึง ใหญ่มากพอสมควร สนนราคาตัวละ 1,140 บาท กินซะหายอยากไปเลยจ้าาาา T^Tน่ากินมั้ยจ๊ะ เนื้อหวานๆ ก้ามล่ำๆแต่นอกจากปูแล้ว ราคาอาหารจานอื่นก็ปกตินะ อยู่ในเกณฑ์ถูกด้วยซ้ำ แถมอาหารก็รอไม่นานเลย การบริการเป็นระบบดี ที่ถูกใจที่สุดคือมีลอดช่องวัดเจษฯ เจ้าดังให้กินปิดท้ายมื้อแบบฟรีๆ ด้วย ถือว่าใจสุดๆแม้จะเป็นของแถมแต่ก็ต้องบอกว่าเป็นลอดช่องที่อร่อยมากที่สุดแห่งนึง น้ำกะทิหอมสุดๆ ส่วนตัวลอดช่องก็อร่อยหนึบสรุปว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปกินอีกแน่นอน แต่คราวหน้าจะไปลองกินเมนูอื่นบ้าง อย่างกุ้งผัดพริกขี้หนูกับปลาทูต้มมะดัน แฮ่... …查看更多