วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2013-02-03
93 วิว
เนื่องจากเรามีโอกาสได้เป็นผู้โชคดีได้ไปรวม ก๊วนชวนกิน ครั้งที่ 7 กับ Openriceคราวนี้ร้านที่เราได้ไปรวมทานกันคือ Wa Q Yakiniku ชั้น 4 โซน Food Passage สยามพารากอนค่ะ ร้านจะอยู่ค่อนข้างหลบมุม ต้องเดินเข้าไปด้านในสุดของ Food Passage ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือค่ะจากที่ได้คุยกับทีมงาน Openrice ทำให้ทราบว่าร้าน Wa Q Yakiniku เป็นร้านในเครือเดียวกับ Ai Japanese Village ค่ะ ดังนั้นเรื่องคุณภาพคงไม่ต้องสงสัยค่ะ ที่นี่จะมีอาหาร 2 แบบนะคะ 1) Yakiniku Buffet ราคา 499 บาท ไม่รวม service charge นั่งทานได้ 90 นาที ถ้าเพิ่มอีก 100 บาท เป็น 599 บาท จะสั่งเพิ่ม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, เนื้อใบพาย Australia, เนื้อสันนอก
คราวนี้ร้านที่เราได้ไปรวมทานกันคือ Wa Q Yakiniku ชั้น 4 โซน Food Passage สยามพารากอนค่ะ ร้านจะอยู่ค่อนข้างหลบมุม ต้องเดินเข้าไปด้านในสุดของ Food Passage ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือค่ะ
จากที่ได้คุยกับทีมงาน Openrice ทำให้ทราบว่าร้าน Wa Q Yakiniku เป็นร้านในเครือเดียวกับ Ai Japanese Village ค่ะ ดังนั้นเรื่องคุณภาพคงไม่ต้องสงสัยค่ะ
ที่นี่จะมีอาหาร 2 แบบนะคะ
1) Yakiniku Buffet ราคา 499 บาท ไม่รวม service charge นั่งทานได้ 90 นาที ถ้าเพิ่มอีก 100 บาท เป็น 599 บาท จะสั่งเพิ่ม หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์, เนื้อใบพาย Australia, เนื้อสันนอกวากิว, และหมูดำ ได้ค่ะ (ช่วงนี้มีโปรโมชั่นค่ะ Buffet ลด 100 บาทค่ะ)
2) A La Carte & Set Menu จะเป็นพวกเซ็ตข้าวนะคะ ไม่มี Yakiniku สอบถามจากทางร้าน เค้าว่าเคยมี Yakiniku แบบ A La Carte แต่พอลูกค้าสั่งไปสักจานสองจาน ทานแล้วติดใจ ก็จะเปลี่ยนใจเป็น Buffet ดีกว่า ตอนหลังทางร้านเลยไม่ทำ Yakiniku แบบ A La Carte ค่ะ
บรรยากาศในร้าน ตกแต่งเก๋ ๆ ดูเหมือนเป็นร้านสเต๊กมากกว่าร้านปิ้งย่างนะเราว่า ร้านก็นั่งสบายดี มีโต๊ะให้บริการมากพอสมควร มีทั้งโต๊ะเล็ก โต๊ะยาว คือว่าจะมาคนเดียว มาคนน้อย มาเป็นก๊วน ก็มีโต๊ะบริการเหมาะกับจำนวนคนค่ะ
ทุกโต๊ะจะมีเซ็ตเครื่องปรุงวางไว้เลยค่ะ มีน้ำซีอิ๊ว Yakiniku น้ำมะนาว พริกขี้หนู กระเทียมสับ
อ้อแล้วก็จะมีใบสั่งสำหรับ Buffet วางไว้พร้อมปากกาค่ะ จะสั่งเพิ่มก็เขียนใบสั่งส่งให้พนักงานได้ตลอดเลยค่ะ สะดวกดี ไม่ต้องกลัวพนักงานจะงงด้วย
ส่วนเครื่องดิ่มก็จะรวมอยู่ในเมนู Buffet นะคะ เติมได้ตลอดค่ะ เราสั่งเป็นชาเขียวเย็นไปค่ะ ชาเขียวที่นี่จะไม่ผสมไซรัปเลยนะคะ เป็นชาเขียวเพียว ๆ เลย ดีค่ะ เราชอบแบบนี้ แต่ถ้าใครชอบหวานเค้าก็มีไซรัปให้เติมได้ค่ะ ลืมถ่ายรูปเครื่องดื่มมาค่ะ มัวแต่ตะลึงกับอาหารที่ทยอยเสิร์ฟ มาดูอาหารกันค่ะ ขอเริ่มจากเมนู A La Carte ก่อนนะคะ
ทางร้านทำมาให้ชิม 3 อย่างค่ะ ได้แก่ ข้าวหน้าเนื้อ ข้าวหน้าแซลมอนเทอริยากิ และ ไก่คาราอาเกะ เนื่องด้วยพวกเรากว่าจะมากันพร้อมหน้าพร้อมตา กว่าจะเวียนกันถ่ายรูปจนครบ ก็ทำเอาอาหารทั้ง 3 อย่างเย็นแล้วค่ะ ดังนั้นพอชิมเลยทำให้รสชาติอาจจะไม่ดีเท่ากับตอนอาหารร้อน ๆ ค่ะ เลยต้องขออนุญาติรีวิวเฉพาะรูปลักษณ์เด่น ๆ นะคะ เรื่องรสชาติคงจะรีวิวได้นิดหน่อยเท่านั้นนะคะ ไว้ต้องหาโอกาสไปทานใหม่ จะได้มารีวิวได้อย่างเต็มรูปแบบค่ะ
ข้าวหน้าเนื้อ ใช้เนื้อแดงปนกับเนื้อติดมัน slide มาค่อนข้างหนา ทำให้ได้รสสัมผัสเวลาเคี้ยวมากกว่าปกติ ปรุงมากับหอมใหญ่และเห็ดหอม โดยมีขิงดองสีแดง ต้นหอมซอย งาขาวคั่วโรยหน้ามาค่ะ
ข้าวหน้าแซลมอนเทอริยากิ จะใช้ปลาแซลมอนชิ้นหนากับต้นหอมญี่ปุ่นราดซ๊อสเทอริยากิ โรยหน้าด้วยขิงดองสีแดง งาขาว และสาหร่ายค่ะ
ไก่คาราอาเกะ จะเป็นเนื้อไก่หมักแล้วไปชุบแป้งทอดค่ะ
มาดูอาหารในเมนู Buffet กันบ้างค่ะ ข้าวผัดกระเทียม ข้าวญี่ปุ่นผัดกระเทียมมาหอมดีค่ะ
กิมจิและมิโซะซุป รสชาติตามมาตรฐานค่ะ
ผักยำนามุรุ จะมีสามอย่างค่ะ อันแรกผักใบเขียวไม่แน่ใจว่าเป็นผักอะไร อย่างที่สองเป็นถั่วงอก อย่างที่สามเป็นแครอทค่ะ คลุกกับน้ำยำของร้านและโรยหน้าด้วยงาขาว รสชาติดีมาก ๆ ค่ะ ขนาดทานเนื้อย่างจนอิ่มก็ยังตักผักยำทานได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ
ต่อมาเป็นส่วนของเนื้อสัตว์ต่างๆ นะคะเซ็ตแรก เป็นเซ็ตเนื้อวัวค่ะ รูปแรกจะเป็นจานรวมเนื้อวัวที่ทางร้านจัดมาพิเศษให้พวกเราค่ะ ส่วนรูปต่อ ๆ มาจะเป็นที่พวกเราสั่งเพิ่มกันค่ะ จริง ๆ แล้วสั่งเยอะมากนะคะ แต่ยิ่งสั่งยิ่งงง จำไม่ได้ว่าเนื้ออะไรเป็นเนื้ออะไรเลยหยุดถ่ายค่ะ
ในรูปแรก ดอกกุหลาบตรงกลางเป็นลิ้นวัวหมักเกลือค่ะ เราไม่เคยทานลิ้นวัวค่ะ แต่ก็ลองทานดูมันจะหยุ่นๆ เหนียว ๆ นิดนึงค่ะ ถัดมาจะเป็นเนื้อสันใน สันนอก เนื้อลาย เนื้อสันนอกวากิว และเนื้อใบพายค่ะ
พระเอกของร้านนี้อยู่ที่เนื้อสันนอกวากิว และเนื้อใบพาย แต่ที่เราชอบที่สุดคงต้องเป็นเนื้อสันนอกวากิวค่ะ เนื้อจะแทรกมันทำให้เนื้อนุ่มมาก ๆ ทานแล้วเหมือนละลายในปากได้เลย สั่งทานเบิ้ลอีกหลายจานเลยค่ะ ถ้าใครชอบทานเนื้อวัว อยากให้ลองมาทานเนื้อวากิวที่นี่ค่ะอร่อยมาก ๆ
เซ็ตที่สอง เป็นเซ็ตซีฟู้ดค่ะ มีกุ้งแม่น้ำ ปลาแซลมอน ปลาหมึก และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ทุกอย่างสดนะคะ กุ้งตัวโตพอประมาณค่ะ ปลาซอลมอนก็ชิ้นใหญ่หั่นมาหนาดีค่ะ แต่เวลาปิ้งย่างต้องหมั่นกลับค่ะ เพราะมันติดตะแกรงง่ายมาก ปลาหมึกก็ชิ้นใหญ่ดีค่ะ ที่เราชอบคงเป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ค่ะ สด ใหญ่ อร่อยค่ะ
เซ็ตที่สามเป็นเซ็ตหมู จะมีไส้กรอกญี่ปุ่น เบคอน เนื้อหมู และหมูดำคุโรบูตะค่ะ เบคอนจะหั่นมาค่อนข้างบางค่ะ แต่ก็ทำให้สุกเร็วดีค่ะ เนื้อหมูและไส้กรอกญี่ปุ่นก็รสชาติธรรมดาค่ะ ส่วนหมูดำคุโรบูตะอร่อยดีค่ะ กรุบ ๆ เนื้อแน่นยิ่งปิ้งให้เกรียมนิดนึงยิ่งอร่อยมากค่ะ รูปในเซ็ตนี้รูปที่ 4 ถัดจากเบคอน จะเป็นเนื้อไก่นะคะ เค้าม้วนและหั่นมาดูดีเชียวค่ะ
หลังจากดูรูปเนื้อดิบ ๆ กันไปแล้วก็มาดูภาพที่เตาระหว่างที่เราปิ้งย่างกันนะคะ ถ่านไฟแรงดีค่ะ มีที่ดูดควันที่เตาเลย อ้อแล้วก็พวกผัก จะมีเห็ดออรินจิ ฝักทองปิ้งแล้วทานกับน้ำจิ้มก็อร่อยดีค่ะ ส่วนผักกาดหอมเอาห่อกับเนื้อย่าง หมูย่างทานก็อร่อยดีค่ะ
พอทานกันจนอิ่มก็ได้เวลาของหวานค่ะ เป็น Ice Cream of the day ค่ะ สำหรับวันที่ทานเป็นรสชาเขียวค่ะ ไอศครีมของร้านนี้ เป็น Home Made Ice Cream ค่ะ เนื้อไอศครีมจะเหนียวข้นกว่าร้านอื่น ๆ ค่ะ ส่วนรสชาติชาเขียวก็หอมดีค่ะรวม ๆ แล้วสำหรับ Buffet Yakinuki ร้านนี้ถูกใจมากค่ะ โดยเฉพาะเนื้อสันนอกวากิว หมูดำคุโรบูตะ และหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ ดังนั้นถ้าใครจะมาทานเราแนะนำให้เพิ่ม 100 บาทค่ะ เพือ่จะได้ทานเนื้อดี ๆ ที่อร่อยมากๆ ค่ะ
สุดท้ายคงต้องขอบคุณ Openrice ค่ะที่ให้โอกาสเราได้มาชิมอาหารอร่อย คุณภาพดี ๆ แบบนี้ค่ะ
โพสต์
