อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-07-04
200 วิว
จินนี่มีโอกาสได้มาทำธุระแถวนี้เลยแวะไปทานโอโตยะสาขา J-Avenue ทองหล่อซอย 15 (ชั้น 2)พอขึ้นมาชั้น 2 แล้วเห็นหน้าร้านก็อึ้งไปเลยเจ้าค่ะ ประตูมี 2 ชั้น (ซุ้มประตู) สไตล์ญี่ปุ่นบรรยากาศ กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นพุ่งกระฉูด ซุ้มประตูด้านหน้าอันแรกจัดไว้เห็นป้ายชัดเจน ทั้งๆที่ไปตอนกลางวัน แต่กลับไม่ร้อนมีต้นไม้ร่มรื่นต้นใหญ่พาดผ่านด้านบน และพอผ่านประตูเข้าไปก็เจอสวนหย่อมเล็กๆให้ความรู้สึก เยือกเย็น และสงบดีเจ้าค่ะ (ถ้าเพียงแต่จะไม่มีเสียงรถตรงถนนและคนคุยกันจอแจชั้นล่างพอเข้าไปประตูกั้นชั้นที่ 2 เจอกรอบรูปใส่คำกลอนภาษาญี่ปุ่น กับโอ่งน้ำมันให้ความรู้สึกเย็นๆ แล้วก็กำแพงกั้นด้วยไม้ ให้ความรู้สึกดีเจ้าค่ะต่างจากโอโตยะสาขาอื่นตรงที่ ที่นี่มีครัวเปิดเจ้าค่ะ คึก
พอขึ้นมาชั้น 2 แล้วเห็นหน้าร้านก็อึ้งไปเลยเจ้าค่ะ ประตูมี 2 ชั้น (ซุ้มประตู) สไตล์ญี่ปุ่น
บรรยากาศ กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นพุ่งกระฉูด ซุ้มประตูด้านหน้าอันแรกจัดไว้เห็นป้ายชัดเจน ทั้งๆที่ไปตอนกลางวัน แต่กลับไม่ร้อน
มีต้นไม้ร่มรื่นต้นใหญ่พาดผ่านด้านบน และพอผ่านประตูเข้าไปก็เจอสวนหย่อมเล็กๆ
ให้ความรู้สึก เยือกเย็น และสงบดีเจ้าค่ะ (ถ้าเพียงแต่จะไม่มีเสียงรถตรงถนนและคนคุยกันจอแจชั้นล่าง พอเข้าไปประตูกั้นชั้นที่ 2 เจอกรอบรูปใส่คำกลอนภาษาญี่ปุ่น กับโอ่งน้ำ
มันให้ความรู้สึกเย็นๆ แล้วก็กำแพงกั้นด้วยไม้ ให้ความรู้สึกดีเจ้าค่ะ ต่างจากโอโตยะสาขาอื่นตรงที่ ที่นี่มีครัวเปิดเจ้าค่ะ คึกคัก และรู้สึกอิมแพ็คดีนะ
ด้วยความที่ไม่เคยทานโอโตยะสาขาที่มีครัวเปิดมาก่อน ครั้งนี้เลยนั่งเค้าน์เตอร์บาร์
เพื่อดูความสะอาด ชำนาญ และวิธีการทำอาหารคร่าวๆ ด้วยเจ้าค่ะ
เชฟทุกคนที่ทำอาหาร มีการใส่หมวกคลุมผม และหน้ากากปิดปากด้วย สะอาดดีค่ะ
เห็นเชฟหลายคนล้างมือทุกครั้งที่เปลี่ยนหม้อด้วยนะ สะอาดไหมล่าาาา ที่เก๋และให้กลิ่นอายญี่ปุ่นภายในร้านอีกอย่างคือ ภาพต้นซากุระประดับผนัง
มันเก๋ตรงที่แขวนติดกำแพงฝั่งที่ติดกระจก พอแสงส่องเข้ามาแล้วให้ความรู้สึกธรรมชาติมากๆ
แล้วจะบอกให้ว่า ขนาดกรอบไม่เท่ากัน กลับทำให้สะดุดตาและรู้สึกอยากเห็น
ตรงต้นด้านล่างของซากุระมากขึ้นอีกด้วย สวยมั่กมากเจ้าค่ะ อีกหนึ่งอย่างที่พิเศษเลยทีเดียวคือ เมนูอาหารกลางวันที่นี่ จินนี่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย
มีสะดุดตาที่เมนูโฮตาเตะ (หอยนางรม) ทอดซอสเจ้าค่ะ เซ็ตนี้มาเสิร์ฟพร้อมไก่ทอด โฮตาเตะทอด มันฝรั่ง มะเขือม่วง ผักหั่นฝอยทานแกล้ม
มีเครื่องเคียง 2 ชนิด เป็นผักดองกับฟักต้ม และซุปมิโสะที่อัดแน่นด้วยเต้าหู้ วากาเมะและเห็ดเจ้าค่ะ
ตัวหอยโฮตาเตะกรอบนอก(ส่วนที่เป็นแป้ง) นุ่มหอยด้านใน แป้งที่นี่เค้าเป็นเอกลักษณ์
ไม่เหมือนที่อื่นๆเจ้าค่ะ รู้สึกว่า กรอบ แต่ยังมีความนุ่มๆ อยู่ลึกๆ (อธิบายยากแฮะ)
ทานพร้อมซอสที่ราดมากับข้าวสวยญี่ปุ่นร้อนๆ อื้อหืออออ อร่อยเหาะเจ้าค่ะ อร่อยจนหยุดไม่ได้ เลยได้สั่งของหวานมาตบท้าย ทั้งๆที่อิ่มจนไม่รู้จะอิ่มอย่างไรแล้ว
ก็จัดไป สลัดเต้าหู้เย๊นเย็นเมนูนี้ มาพร้อมเต้าหูเย็นๆ นุ่มๆ หวานและแทบจะละลายในปาก
ประกบข้างด้วยสาหร่ายวากาเมะ ผัก และมะเขือเทศหั่นเต๋า โรยด้วยงาหอม และที่เห็นขาวๆก็คือ
ปลาชิราซุ (ภาษาอังกฤษคือ Whitebait คล้ายๆ ปลาข้าวสารบ้านเรา) เท่านั้นยังไม่พอ ราวกับจะกระทุ้งพุงให้แตกตาย เมเนเจอร์เดินมาถามว่า เครื่องดื่มที่มาในเซ็ต
กลางวัน รับเป็นชา หรือกาแฟดี? กรี๊ดดด จินนี่ลืมเผื่อพื้นที่พุงไว้ดื่มน้ำ แต่เขาเอามาให้
เลยได้ชาเย็นๆมาแก้วนึง
ทานมื้อนี้แล้ว อาหารเย็นจินนี่ขอบายไปวันนึงเลยเจ้าค่ะ อิ่ม และอร่อยมว๊ากกก
ถ้าใครจะไปชมบรรยากาศ ทานอาหารอร่อยๆ ลองโทรไปจองได้เจ้าค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลด้านล่างตามเว็บโอโตยะเจ้าค่ะ
เบอร์โทรติดต่อ Tel : 02-712-6827 Fax : 02-712-6828
เวลาเปิด-ปิด
11.00 น.-23.00 น. (วันอาทิตย์ ปิด 22:00 น.) ( ออเดอร์สุดท้ายเวลา 22.30 น. )
การจอง
จองห้องได้ทุกวัน ห้อง Private 4 ห้องๆละ 10 ที่นั่ง ห้องเล็ก 3 ห้องๆละ 4 ที่นั่ง
ข้อมูลเพิ่มเติม
มีบริการ ชา-กาแฟ 11.00 น.-14.00 น. ยกเว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และ นขัตฤกษ์
โพสต์