วิดีโอ
อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2012-12-09
61 วิว
อารมณ์อยากกินโอโคโนมิยากิ (หลายคนรู้จักในชื่อ "พิซซ่าญี่ปุ่น") ไม่เข้าใครออกใคร ไป ๆ มา ๆ ก็มานั่งที่ร้าน Nanjya Monjya ซะแล้วร้านนี้ตั้งที่อยู่ที่โรงแรม The Asscott ชั้นล่าง เดินเข้าไปลึกหน่อย อยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี กับ สุรศักดิ์ แต่คนเขียนชอบไปลงที่สุรศักดิ์มากกว่า เดินย้อนกลับมาทางช่องนนทรีอีกประมาณนึง โรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่ มองเห็นไม่ยากร้านเปิดสองช่วง คือ ช่วงมื้อกลางวัน 11.30 - 14.30 น. และมื้อเย็น 17.30 - 22.30 น.เราไปถึงประมาณห้าโมงครึ่ง เป็นลูกค้าโต๊ะแรกพอดีไปถึงพนักงานก็จะถามว่านั่งโต๊ะเทปัน (โต๊ะที่มีกระทะอยู่ตรงกลาง) หรือเปล่าแน่นอนว่าเราก็ต้องเลือกโต๊ะเทปัน จะได้ทำโอโคโนมิยากิเอง เย้ไปนั่งก็สัมผัสได้ถึ
ร้านนี้ตั้งที่อยู่ที่โรงแรม The Asscott ชั้นล่าง เดินเข้าไปลึกหน่อย
อยู่ระหว่างสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี กับ สุรศักดิ์ แต่คนเขียนชอบไปลงที่สุรศักดิ์มากกว่า เดินย้อนกลับมาทางช่องนนทรีอีกประมาณนึง โรงแรมอยู่ติดถนนใหญ่ มองเห็นไม่ยาก
ร้านเปิดสองช่วง คือ ช่วงมื้อกลางวัน 11.30 - 14.30 น. และมื้อเย็น 17.30 - 22.30 น.
เราไปถึงประมาณห้าโมงครึ่ง เป็นลูกค้าโต๊ะแรกพอดี
ไปถึงพนักงานก็จะถามว่านั่งโต๊ะเทปัน (โต๊ะที่มีกระทะอยู่ตรงกลาง) หรือเปล่า
แน่นอนว่าเราก็ต้องเลือกโต๊ะเทปัน จะได้ทำโอโคโนมิยากิเอง เย้
ไปนั่งก็สัมผัสได้ถึงความร้อนจากกระทะที่พนักงานเปิดวอร์มไว้เรียบร้อย หน้าอุ่นเลย
นั่งได้สักพัก ก็มีลูกค้าญี่ปุ่นกลุ่มนึงมานั่งโต๊ะใกล้ ๆ กัน จะบอกว่าร้านนี้คนญี่ปุ่นมากินกันเยอะเหมือนกัน คราวนี้เรามาเป็นครั้งที่สามแล้ว
ว่าแล้วก็เปิดเมนู ร้านนี้เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นและเทปันยากิ เมนูก็จะมีตั้งแต่ข้าวปั้น ข้าวห่อสาหร่าย ตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่น แล้วก็มีอาหารกระทะร้อน และเทปันยากิแบบทำเอง (ก็มีกระทะอยู่ตรงหน้าแล้วนี่นา)
วันนี้สั่งโอโคโนมิยากิหน้าชีส กับ มนจะยากิหมู เป็นครั้งแรกที่จะได้กินมนจะยากิ ตื่นเต้นมาก ๆ
พนักงานจะเสิร์ฟส่วนผสมของทั้งสองอย่างใส่ชามมาอย่างสวยงาม ให้เรามาคลุกเคล้าและทอดเอง
ส่วนบนโต๊ะก็จะมีถาดวางน้ำมัน ซอส มายองเนส สาหร่ายป่น ปลาแห้ง เอาไว้เรียบร้อย
เริ่มจากโอโคโนมิยากิก่อนเลย เมื่อชามมา เราก็จัดการคลุก ๆๆ (อยากกินจนลืมถ่ายรูป TT)
บีบน้ำมันใส่กระทะ แล้วก็เทเลย พยายามทำให้เป็นกลม ๆ จะได้สวย ๆ
รอให้มันสุกสักพักแล้วก็กลับด้าน
ถ้ายังไม่สุกแล้วพลิก โอโคโนมิยากิจะแตก ไม่เป็นวงกลมนะ ทิ้งไว้ให้สุกแล้วก็ราดซอสโอโคโนมิยากิ มายองเนส โรยสาหร่ายกับปลาแห้งได้ตามชอบเลย
เมนูนี้อร่อยมาก
อยากบอกว่า โอโคโนมิยากิที่นี่ชิ้นไม่เล็กเลยนะ ถ้ากินคนเดียว ชิ้นนึงก็อิ่มเลยล่ะ
ต่อมาเป็นคิวของมนจะยากิแล้ว เสิร์ฟมาเป็นแบบนี้ (เริ่มนึกได้ เลยถ่ายรูปก่อน)
นี่เลย ลักษณะตอนเสิร์ฟ ลืมบอกไปว่า ในเมนูจะมีวิธีการทำทั้งสองอย่างให้เราอ่านและทำตาม อิอิมนจะยากิมีข้อต่างตรงที่จะมีส่วนที่เป็นน้ำเยอะ แต่ตอนทำต้องใส่ของแห้งลงไปก่อน ผัด ๆ ให้พอแห้ง แล้วทำหลุมตรงกลาง เทน้ำลงไป ผัด ๆ ให้เข้ากันแล้วจะแผ่เป็นแผ่นใหญ่ ๆ ค่อย ๆ ตัดกินด้วยพายอันเล็ก ๆ
แต่ที่เราทำไม่เป็นแบบนั้น TT พลาดตรงไหนไม่รู้ รู้สึกว่าเตาร้อนไป เลยไม่เป็นแบบในเมนูแถมยังแอบไหม้อีกต่างหาก (เลยไม่มีรูปนะ )
ถามเราเรารู้สึกว่าโอโนโคมิยากิอร่อยกว่า แต่ก็ว่าไม่ได้ เพราะเราทำมนจะยากิพัง ฮ่าฮ่าา บอกรสชาติไม่ถูกเลย มัวแต่ตกใจ
ราคาของทั้งสองอย่างนี้อยู่ที่ชามละประมาณ 300 บาท บวกลบตามชนิดของหน้า
ถ้าเราไม่สั่งน้ำอะไร ร้านจะบริการชาเขียวฟรี เป็นชาเขียวเย็น ขม ๆ หน่อย ไม่หวาน
ก่อนเช็คบิล ร้านจะเอาขนมมาเสิร์ฟ ฟรีเหมือนกัน เป็นเต้าฮวยฟรุตสลัด ถ้วยเล็ก ๆ คนละถ้วย หอมอร่อยมาก ๆ เลยล่ะ
ถึงจะบอกว่าสองอย่างข้างบนฟรี แต่ร้านนี้คิด ++ ด้วยนะ
ถึงคราวนี้จะไม่ได้กิน แต่คราวก่อน ๆ เคยสั่งเมนูที่ขึ้นชื่อของร้านนี้อีกเมนูคือ เต้าหู้อบชีสและไข่ปลาทาระกระทะร้อน เต้าหู้นิ่ม ๆ อบชีสหอม ๆ ราดซอสที่มีไข่ปลาทาระ และเสิร์ฟบนกระทะร้อน อร่อยจนต้องค่อย ๆ กินทีละคำเล็ก ๆ
บรรยากาศในร้านดูสะอาดสะอ้านดี มีดนตรีเบา ๆ พอให้ไม่เงียบเกินไป ถ้าคนเยอะเสียงก็อาจจะดังขึ้น แล้วแต่ช่วงที่ไป
ถ้าอยากเปลี่ยนบรรยากาศมาทำโอโคโนมิยากิกินเอง ร้านนี้เลย
โพสต์
