นักรีวิวร้านอาหาร

ร้านนี้มาทานบ่อยเหมือนกันครับค่อนข้างชอบทีเดียว
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ร้านนี้เป็นร้านชาบูชาบูสไตล์ไต้หวัน เพราะจะมีความแตกต่างจากแบบญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นน้ำจิ้มปอนสึกับน้ำจิ้มงา ชาบูสไตล์ไต้หวันจะเป็น ซีอิ๊วกับน้ำส้มสายชู และน้ำพริกเผานะครับ จากประสบการณ์พบว่าเพื่อนหลายคนไม่คุ้นกับสไตล์ไต้หวันและออกไปในแนวไม่ชอบ
"ลักษณะร้าน"
เป็นห้องกระจก โต๊ะเป็นแบบเคาน์เตอร์บาร์ แต่ละคนจะมีหม้อแยกส่วนตัว โต๊ะเก้าอี้จะล๊อคไว้กับพื้น ไม่สามาถขยับได้ (เก้าอี้หมุนได้) เคาน์เตอร์มีสองฝั่งหันหน้าเข้าหากัน มีช่องตรงกลางเป็นพื้นที่พนักงานที่คอยให้บริการ"เมนูอาหาร"
โดยหลักก็จะเป็นชาบูให้สั่งเป็นเซต ใน 1 เซตจะมีเนื้อ 1 จน และผัก 1 ชุด ราคาตั้งแต่ 180-300 ขึ้นกับชนิดของเนื้อ 1 เซตสำหรับ 1 คนเท่านั้น ปริมาณ 1 คนอิ่มถึงอิ่มมากๆ แต่ถ้าใครจะแชร์กัน คนที่เพิ่มต้องเสียค่าน้ำซุป 40 บาทนะ"รสชาติชาบู"
วันนี้ผมสั่งเซตหมูธรรมดาครับ เนื้อหมูที่ได้ สวยมีมันแทรกกำลังดี คิดว่าเป็นเนื้อหมูสันคอ คุณภาพจัดว่าดี นุ่ม การสไลด์ขนาดกำลังดี ความหนาก็ถูกต้อง ชุดผักปริมาณค่อนข้างมาก ผักดูคัดมาแบบมีคุณภาพดีครับ ที่พิเศษคือจะมี เผือก มะเขือเทศ และก็ซี้ชวงฉ่าย(ไม่แน่ใจคนอื่นเรียกเหมือนกันไหม) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาบูไต้หวัน ให้ต้มด้วย ผมว่ามันช่วยเพิ่มรสชาติน้ำซุปนะ
พูดถึงน้ำซุปเองเป็นรสกลมกล่อมแบบบางๆ ใสๆครับ พอต้มไปเรื่อยๆ ทานกับน้ำจิ้มนิดนึง ผมว่าอร่อยลงตัวเลยนะ
น้ำจิ้มอย่างที่บอกไปเป็นซีอิ้ว น้ำส้ม พริกเผา ทีเด็ดคือน้ำพริกเผานี่ล่ะครับ ผมว่าอร่อยมาก บางทีก็เอาเนื้อจิ้มแต่พริกเผากินเลยละ แนะนำว่าให้ใส่กระเทียมต้นหอมเยอะๆเลย ขอเพิ่มได้เต็มที่ครับอีกอย่างที่สั่งเพิ่มคือ ลูกชิ้นกุ้งทอด ให้รีบสั่งจะต้องรอเค้าทอดใหม่นิดนึง เสิร์ฟแบบทอดมาใหม่ ร้อนปากพองมาก ข้างในกุ้งเน้นๆแบบรู้สึกได้ครับ"สรุป"
อร่อย แบบรสไม่ต้องจัดจ้านมาก แบบรู้สึกว่าสุขภาพดี ทานร้อนๆ ได้กินผักเยอะ สบายกระเพาะ เพราะปกติเรามักทานรสจัดทุกมื้อ ราคาผมว่าโอเคแล้ว อิ่มมากเหมือนไปกินบุฟเฟ่ต์ด้วยซ้ำนะ ดังนั้นถ้าชอบชาบูสไตล์ไต้หวัน มาเหอะ!ปล. มีข้อเสียบางอย่างนะครับ
- โต๊ะเก้าอี้แบบฟิกซ์ทำให้นั่งไม่ถนัดเลย
- ระหว่างทาง เห็นคนฝั่งตรงข้ามตลอด บางคนอาจไม่ชอบ
- เคาน์เตอร์แบบนี้ ไปเกิน 3 คน คุยกันไม่รู้เรื่องต้องมีคนหลุดวงเมาท์แน่ๆ

วันนี้เลือกเมนู Gyokai Tsukemen ไซส์ใหญ่ไปเลย สั่งด้วยความรวดเร็วแบบเลือกมาจากบ้าน เพราะว่าเป็นคนชอบกิน tsukemen มาก พอดีสายตาเหลือบไปเห็นป้ายโปรโมชั่นสุดคุ้ม Like page และ Check in ได้สิทธิ์ 2 เด้ง ลด 10% แล้วยังฟรีเกี๊ยวซ่าอีก แหม่…เชคอินรัวๆเลยครับ ตามป้ายบอก โปรโมชั่นถึง 31 ก.ย. 58
แต่เอาจริงๆน่าจะหมดเขต 30 กันยายน 58 นะครับ เชื่อว่าคงไม่มีใครได้ไปกินในวันที่ 31 กันยายน และทางร้านคงหาทางเปิดไม่ได้ (ฮาาาา)รอซักพัก ของฟรีมาแล้ว เกี๊ยวซ่าย่าง (75 บาท) จำนวน 5 ตัว เป็นแบบทอดกรอบที่ด้านล่างด้านเดียว ด้านบนเป็นแบบนึงมา (นึกถึงเกี๊ยวซ่าฮาจิบังก็ได้) ไส้เกี๊ยวออกเค็มและหวานอ่อนๆ มีกลิ่นต้นหอมออกมาไม่แรงเกินไป แป้งจะหนากว่าฮาจิบัง แต่ก็ไม่ได้หนานะ ไม่มันน้ำมันด้วย อร่อยดีครับ สำคัญที่ฟรีด้วยยิ่งอร่อยเลยGyokai Tsukemen (200 บาท ไซส์ใหญ่) ชามใหญ่เส้นมาเยอะเลย พร้อมกับหมูชาชู 4 แผ่นใหญ่ ที่เส้นมีโรยผงปลาแห้งมาให้ด้วย กลิ่นหอมเลย หน้าตาดีมากๆ– เส้นมีขนาดใกล้เคียงกับอุด้ง ที่นี่ลวกมาจะแข็งนิดนึงครับ (เดาว่าตั้งใจนะ) แล้วก็มีความหนึบอยู่หน่อยนึง
– หมูชาชูหอมดี รสชาติใช้ได้ จุ่มในซุปที่กลิ่นปลารุนแรง ยังมีกลิ่นหอมของหมูออกมาแบบรู้สึกได้ แต่เราว่าเนื้อมันแห้งไปหน่อย อยากให้นุ่มกว่านี้
– ส่วนตัวซุปในถ้วยเสิร์ฟแบบร้อนไม่มาก สามารถจุ่มทานได้ทันทีไม่ต้องกลัวลิ้นพอง น้ำซุปรสชาติเข้มข้น รสและกลิ่นหลักเป็นกลิ่นปลาครับ ด้วยว่าเป็นซุปที่เคี่ยวกับผงปลา เลยมีความข้นจากผงปลาด้วย กลิ่นปลาแห้งหอมฟุ้งในปากเลยทีเดียว อร่อยอีกละเนี่ย

Shio Tonkotsu Ramen (200 บาท) ราเมงซุปกระดูกหมู รสเกลือ ที่ร้านนี้เค้าเคี่ยวซุปกระดูกหมูถึง 14 ชั่วโมง คุณพระ!! และมีความพิเศษที่ให้ทานกับ เลมอนสไลซ์ และน้ำมันกุ้งแห้ง ชามนี้ของเพื่อน เค้าว่าอร่อยดีครับ แปลกใหม่ กินไปแล้วมีกลิ่นเลม่อน แปลก แต่ก็อร่อยครับ ส่วนในกานั้นเป็นน้ำซุปปลาครับ เวลาที่ทานไปเรื่อยๆจนหายร้อน สามารถเติมซุปปลาลงไปเพิ่มได้อีก แล้วรสก็จะเปลี่ยนเหมือนได้กินอีกเมนูเลย ลูกเล่นเยอะมาก ปรบมืออออ!!สรุปรวมว่า เราชอบเมนู Tsukemen ร้านนี้นะ ราเมงอย่างอื่นก็น่าจะอร่อยด้วยเหมือนกัน แต่จริงๆเราเคยทานที่อร่อยลงตัวมากกว่านี้หน่อย แต่มันอยู่ที่ญี่ปุ่นน่ะสิ