นักรีวิวร้านอาหาร

พอดีเราได้รับข้อมูลมาว่า ร้านเอสแอนด์พี กำลังมีโปรโมชั่นเป็นชุดข้าวแช่พร้อมข้าวเหนียวมะม่วง เซ็ตละ 295 บาท (จากปกติ 350 บาท)

แค่เห็นโปรโมชั่นก็หิวแล้วจ้า มันเหมาะกับหน้าร้อน + อากาศร้อนแบบนี้สุดๆเลย โดยส่วนตัวอยากลองรับประทานข้าวแช่มานานละ พอเจอแบบนี้พลาดไม่ได้เด็ดขาด! ภายในร้านของสาขานี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนเบเกอรี่ และ โซนสำหรับนั่งทานภายในร้าน 

แสงรอบๆดูสบายๆ

 

พอเราได้ที่นั่งก็สั่งชุดอาหารดังกล่าว และเหลือบไปเห็นโปรโมชั่นส่วนลดกาแฟบลูคับ สำหรับลูกค้า AIS ก็จัดไปด้วยเลยอย่าให้พลาดมีให้เลือก 4 เมนูด้วยกัน ทุกเมนูลดเหลือ 69 บาท
กาแฟเย็นบลูไอซ์ (ปกติ 85 บาท)
ลาเต้เย็น (ปกติ 100 บาท)
คาปูชิโน่เย็น (ปกติ 100 บาท)
คาปูชิโน่ร้อน (ปกติ 95 บาท)
โปรนี้มีถึงวันที่ 30 เมษายน 2559 นี้นะคะ

ระหว่างรออาหารที่สั่ง เห็นกระดาษรองจานน่ารัก ขอเก็บภาพไว้ละกัน ^^รอสักพักกาแฟก็มาเสิร์ฟค่ะ 
กาแฟเย็นบลูไอซ์ : สำหรับกาแฟเอสแอนด์พีต้องยอมรับว่าขึ้นชื่อเรื่องความเข้มของกาแฟและความหอมมันของนม ดื่มไปทีตาสว่างเลยทีเดียว แก้วนี้ราคา 69 บาท

หวานมันกำลังดี

 

ข้าวแช่: การสั่งข้าวแช่ที่นี่พนักงานจะถามก่อนว่าจะรับเป็นชุดข้าวแช่ดอกมะลิหรือดอกอัญชัน ดูในรูปก็ไม่ใหญ่นะ แต่พอมาเสิร์ฟนับว่าเป็นเซ็ตที่ใหญ่มาก!! คือดีนะที่ไปกับเพื่อนอีกคนไม่งั้นมีจุกแน่ ในเซ็ตจะประกอบไปด้วยข้าวแช่ดอกมะลิ (แน่นอนสิ) เครื่องเคียงข้าวแช่ประกอบด้วย กระปิทอด หมูฝอยหวาน พริกหยวกสอกไส้ปูจ๋า และ ไชโป้วหวาน และผักสดต่างๆ มาในรูปแบบสวยงามประดิษฐ์ประดอย มะม่วงที่มีการแกะสลัก ชุดนี้ถ้าเป็นชุดแยกปกติไม่รวมข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ราคา 225 บาท

ความคิดแรกที่เข้ามาคือ ปกติเค้ากินยังไงเนี่ย เหอๆ เพื่อนเราบอกว่าแช่ของทอดลงไปในข้าวเลย แต่เรากลัวเละเลยขอทานแบบจับของทอดมาห่อกับผักสดแล้วกินข้าวพร้อมน้ำกลิ่นมะลิเย็นชุ่มฉ่ำ แล้วตามด้วยเครื่องที่ห่อผักเมื่อกี้
ความรู้สึกแรกที่รับรู้ได้คือหอมมากและเครื่องเคียงก็อร่อยรสชาติเข้ากันทุกอย่างเลย (อร่อยทุกอย่างจริงๆนะ) ทานอย่างมีความสุขมาก ทีเด็ดของเครื่องเคียงจริงๆคือของทอดชิ้นใหญ่ซึ่งไม่ทราบจริงๆว่าคืออะไร ตามภาพ รู้แต่ว่าชอบรสชาติของมันมากที่สุดแล้ว และจานนี้ไม่ว่าจะจับคู่ผัดสดและของทอดอะไรก็แล้วแต่มันมีรสชาติที่เข้ากันหมดเลยหั่นให้เห็นภายใน ว่าเนื้อแน่นจริงๆ

 

ข้าวเหนียวมะม่วง : มะม่วงสุกชุ่มฉ่ำเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวมูล 2 สีและกะทิราด สำหรับจานนี้ต้องขอบอกว่ามะม่วงหวานกำลังดีเข้ากันกับความมันของข้าวเหนียวมูลกะทิ ไม่รู้จะบรรยายอย่างไร แต่รับรองว่าทานได้ไม่มีเบื่อแม้จะอิ่มข้าวแช่แล้วก็เถอะ ชุดนี้ถ้าเป็นชุดแยกปกติไม่รวมข้าวแช่ ราคา 125 บาท

หวานฉ่ำกำลังดี

 

ถ่ายจากแอพอาหาร ซูมเฉพาะมะม่วงน้ำดอกไม้

 

การบริการ ในช่วงแรกพนักงานดูงงๆ นิดหน่อยตอนเราถามถึงโปรโมชั่นชุดข้าวแช่กับข้าวเหนียวมะม่วง แต่ไม่เป็นไรค่ะ ให้อภัยกันได้ อาจจะเป็นเพราะยังไม่ค่อยมีใครสั่งเมนูนี้มั้ง ช่วงเวลาที่ใช้ในการรออาหารปรมาณ 5-10 นาที เวลากำลังพอเหมาะ

สรุป การได้ทานข้าวแช่อย่าง งงๆ ไม่รู้ว่าทานได้ถูกวิธีไหม รอบนี้ทำให้ได้รับรู้ถึงความอร่อยที่แท้จริงของข้าวแช่ทรงเครื่องเต็มรูปแบบ ต้องยอมรับคนไทยเก่งมากที่คิดเมนูนี้ออกมา ติดใจมากๆอยากกลับไปทานอีกสักครั้ง ในส่วนของข้าวเหนียวมะม่วงก็เข้ากันสุดๆ สมแล้วที่จัดโปรโมชั่นคู่กัน

หมายเหตุ ค่าเสียหายมื้อนี้สำหรับ 2 คนหมดไป 400 บาท ร้านนี้มี service charge 10% ด้วยนะ ส่วน Vat. รวมอยู่แล้วในค่าอาหารย้ำกันอีกที เทศกาลข้าวแช่-ข้าวเหนียวมะม่วงน้ำดอกไม้ ของ S&P เริ่มตั้งแต่ วันนี้ - 31 พ.ค. 59
ใครอยากลองทานต้องรีบเลยนะคะ เพราะเค้าไม่ได้ขายตลอดทั้งปี มีเป็นช่วงเทศกาลเท่านั้น

"นิยามความอร่อยเกิดขึ้นใหม่ที่ร้านนี้" การทดลองชิมร้านนี้เกิดจากการที่เราเดิน งงๆ หาของกินที่อาคารสยามวัน ชั้นที่ 5 ขณะที่เดินๆอยู่ก็พบกับร้านอาหารภูไท สะดุดตาเพราะป้ายอาหารและราคาใหญ่เบ้อเริ่มที่หน้าร้าน เลยหยุดดู เห็นราคาแล้วพอไหวนะ ลุยเลยละกัน

บรรยากาศร้าน
เจ้าหน้าที่พาไปมุมที่มีชื่อว่า ภูกระดึง เก้าอี้สีสันสดใสนั่งสบายๆไม่มีพนักพิง บางทีหลังอาจจะพิงคนที่นั่งโต๊ะติดกันก็เป็นได้ หลังจากดูเมนูแล้ว คิดอยู่นานก็ตัดสินใจสั่งมาลองตามนี้เลย
เวลาที่ใช้ในการรอแต่ละจานก็พอเหมาะประมาณ 5-10 นาทีค่ะ 

สิ่งแรกที่ได้ทาน ก็คือ... น้ำดื่มนั่นเอง มีโลโก้ ภูไท ติดไว้ด้วยนะคะ ขวดนี้ 25 บาท

 

ส้มตำไทย : หลังจากชิมสิ่งแรกที่รู้สึกคือมะละกอและถั่วฝักยาวในส้มตำสดกรอบมากและรสชาดเปรี้ยวหวานเค็มกำลังดี แต่ความเผ็ดน้อยไปหน่อย จานนี้ราคา 65 บาท

 

มะละกอกรอบกำลังพอดี

 

แต่จากความลงตัวและความสดของวัตถุดิบมันทำให้เราได้มาตรฐานใหม่ของคำว่าส้มตำที่อร่อยในใจเลยล่ะ ทุกอย่างลงตัวมากอยากให้เพื่อนได้ลองเมนูนี้กัน

ผัดคะน้าไฟแดง : สิ่งที่สะดุดตาสำหรับจานนี้คือการรองจานด้วยใบตอง! แค่นี้ก็ชวนให้ลิ้มลองแล้ว ตัวผักคะน้าหั่นมาชิ้นพอดีคำน่ารับประทาน พอชิมเท่านั้นแหละ ต้องเรียกว่าผัดผักได้พอดีทั้งความสุกของตัวผักและรสชาด คำแรกที่กินจะพบว่าผักกรอบกำลังดีไม่มีเหม็นเขียว กลิ่นกระเทียม, น้ำมันหอยและพริกเข้ากันอย่างลงตัวจานนี้ไม่มีข้อติเลย จานนี้ราคา 75 บาท
ลาบปลานิลทอด : จานนี้ถือว่าเป็นทีเด็ดและประทับใจที่สุดทั้งรสชาติ หน้าตาอาหาร และราคา เพราะเสิร์ฟแบบจัดเต็ม ปลานิลทอดสุกกำลังดีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (ไม่ต้องแงะเอง) คลุกเคล้ากับเครื่องของลาบที่หอมข้าวคั่วและหอมแดง มีความเปรี้ยวและเค็มกำลังดีลงตัวเข้ากันกับปลาที่ไม่มีความคาวเลย และเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเป็นแตงกว่าฝานบาง ขิงฝาน และใบบัวบกเข้ากันสุดๆ สำหรับจานนี้ขอแนะนำให้ลองชิมกันให้ได้ถ้าเข้าไปทานร้านนี้ จานนี้ราคา 185 บาท

จานใหญ่พอสมควร

 

 

ข้าวสวยมันปู : ร้านนี้มีข้าวให้เลือก 2 แบบคือข้าวเหนียวกับข้าวสวยมันปู เราเห็นข้าวสวยมันปูแปลกดีเลยสั่งมา จากรูปเค้าเสิร์ฟข้าวในแบบที่คาดไม่ถึงจริงๆ อัดมาเป็นกรวยสวยงาม (แต่ภาชนะรองรับเล็กไปนะ อิอิ) ต้องยอมรับว่าขนาดข้าวสวยยังอร่อยเลยอะ จานนี้ราคา 20 บาท

 

การบริการ พนักงานบริการดีมากค่ะ เราขอช้อนส้อมเพิ่มก็รีบจัดหาให้อย่างรวดเร็ว

สรุป กับข้าวสามอย่างสำหรับเราแล้วคุ้มค่าคุ้มราคา อร่อยทุกอย่าง แถมยังมีช้อนกลางใส่มาให้ในทุกจานที่สั่งด้วย ติดใจเลยล่ะ ต้องมีกลับมาที่ร้านนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน

หมายเหตุ ค่าเสียหายมื้อนี้สำหรับ 2 คนหมดไป 429 บาท  ร้านนี้มี service charge 10% ด้วยนะ และรับบัตรเครดิตถ้ายอด 500 บาท ขึ้นไป

มาพารากอน นึกอยากทานขนมหวาน
ร้านแรกๆเลยที่นึกถึง ก็คงต้องเป็นร้าน After You
ตั้งอยู่ี่ชั้น G คนยังเยอะเหมือนเคย
ต้องบอกก่อนเลยว่า นาทีนี้ คงไม่มีมีใครไม่รู้จัก ^_^

รอบนี้เราลองสั่ง Matcha Toast มาดูบ้างจานนี้ เราแอดกล้วยหอมเข้าไปเพิ่มด้วย
ราคาอยู่ที่ Matcha Toast ราคา 195.- , Banana ราคา 10.-ขนมปังยังคงอร่อยเหมือนเดิม
ไอศกรีมชาเขียว รสชาดกำลังพอดีไม่หวานจนเกินไป นุ่มลิ้น
กล้วยหอมก็เข้ากับ Matcha Toast แก้เลี่ยนได้ในบางจังหวะ

ไปทานกัน 2 คน ช่วงก่อนเที่ยง
ต้องบอกเลยว่า อิ่มมากๆ จนสามารถงดมื้อเที่ยงไปเลย >.<

เรื่องคิวนั่งโต๊ะ รอไม่นานเท่าไหร่ค่ะ
พนักงานบริการดี รวดเร็ว
เรื่องราคาก็เหมาะสมกับคุณภาพของขนมที่ได้รับ
บรรยากาศของร้าน เปิดโล่งไปหน่อย

ค่าเสียหายรอบนี้เลขสวย 108 บาท ค่ะ

ฉลองวันเกิดกันทั้งที ต้อง ไอศกรีมเค้กเท่านั้น
พูดถึงไอศกรีมเค้ก ที่แรกที่เรานึกถึงเลยก็ต้องเป็น Swensen's

แต่เราไม่ได้ทานที่ร้านหรอกค่ะ ซื้อกลับมาบ้านแทน
ที่ร้านเค้าก็จะจัดใส่กล่องให้
แล้วมี ดรายไอซ์ ช่วยรักษาความเย็นไม่ให้ไอศกรีมเค้กละลายไอศกรีมเค้ก ของเราในวันนี้คือ ม็อคคา พาราดิโซ่
ขนาด 2 ปอนด์ ราคา 595 บาทเป็นไอศกรีมรสมอคค่า อัลมอนด์ ฟัดจ์
ข้างล่างสุดเป็นสปอนจ์เค้กวานิลลา
ขอบด้านข้างของตัวไอศกรีมเค้กเป็นเกล็ดอัลมอนด์ขนาดใหญ่ (กรุบๆดีเวลาทาน ^^)
หน้าเค้กด้านบนมีแผ่นช็อกโกแลต และเชอร์รี่เคลือบช็อกโกแลต

เค้กก้อนนี้ทานกัน 11 คน ^^ นะคะ เฉลี่ยแล้วประมาณคนละ 55 บาท
ไม่แพงหรอกค่ะ สำหรับความสุขในครอบครัว

ช่วงเช้าๆ ตอนสายๆ อากาศร้อนมาก
เราเลยต้องหาสถานที่ที่นั่งอ่านหนังสือ แบบเย็นๆซะหน่อย
นึกออกอยู่ที่นึงคือ TK Park @ Central World
แต่ก่อนเราจะขึ้นไปอ่านหนังสือ ก็ขอดื่มนมสักขวดก่อนดีฝ่า ว่าแล้วก็ตรงดิ่งไปที่ ร้าน Hokkaido Milk ก่อนเลย
ของสาขาCentral World จะตั้งอยู่ที่ ชั้น 7
อยู่ใกล้ๆกับ Melt Me ลองสังเกตดูดีๆนะคะ หาไม่ยากหรอกในตู้จะมีนมให้เลือกอยู่หลายรส ขวดนึงราคา 45 บาท
ถ้าเป็น ฮอกไกโดพุดดิ้ง ราคา 40 บาทชอบนมของที่นี่ตรงที่ไม่มีกลิ่นคาว และเป็นสูตรของ Hokkaido
แต่มีกลิ่นหอมของรสต่างๆ เช่น นมกล้วย นั่นเอง
นมของที่นี่ถือว่าราคาไม่แพงนะคะ ถ้าเทียบกับคุณภาพที่ได้รับแล้ว

ตอนนี้มีโปรโมชั่นอยู่ค่ะ เผื่อใครสนใจอยากทานนมรสชาดแบบฮอกไกโด*1G ซื้อนม 2 ขวด แลกซื้อ ฮอกไกโดฟรุตต้า ในราคาเพียง 15 บาท จากราคาปกติ 85 บาท
**2G ซื้อนม 3 ขวด แลกซื้อ ฮอกไกโดพุดดิ้ง ในราคาเพียง 15 บาท จากราคาปกติ 40 บาท
***3G ซื้อนม 4 ขวด แลกซื้อ ตุ๊กตา Hokkaido Kid ในราคาเพียง 350 บาท จากราคาปกติ 850 บาท