นักรีวิวร้านอาหาร

"นิยามความอร่อยเกิดขึ้นใหม่ที่ร้านนี้" การทดลองชิมร้านนี้เกิดจากการที่เราเดิน งงๆ หาของกินที่อาคารสยามวัน ชั้นที่ 5 ขณะที่เดินๆอยู่ก็พบกับร้านอาหารภูไท สะดุดตาเพราะป้ายอาหารและราคาใหญ่เบ้อเริ่มที่หน้าร้าน เลยหยุดดู เห็นราคาแล้วพอไหวนะ ลุยเลยละกัน

บรรยากาศร้าน
เจ้าหน้าที่พาไปมุมที่มีชื่อว่า ภูกระดึง เก้าอี้สีสันสดใสนั่งสบายๆไม่มีพนักพิง บางทีหลังอาจจะพิงคนที่นั่งโต๊ะติดกันก็เป็นได้ หลังจากดูเมนูแล้ว คิดอยู่นานก็ตัดสินใจสั่งมาลองตามนี้เลย
เวลาที่ใช้ในการรอแต่ละจานก็พอเหมาะประมาณ 5-10 นาทีค่ะ 

สิ่งแรกที่ได้ทาน ก็คือ... น้ำดื่มนั่นเอง มีโลโก้ ภูไท ติดไว้ด้วยนะคะ ขวดนี้ 25 บาท

 

ส้มตำไทย : หลังจากชิมสิ่งแรกที่รู้สึกคือมะละกอและถั่วฝักยาวในส้มตำสดกรอบมากและรสชาดเปรี้ยวหวานเค็มกำลังดี แต่ความเผ็ดน้อยไปหน่อย จานนี้ราคา 65 บาท

 

มะละกอกรอบกำลังพอดี

 

แต่จากความลงตัวและความสดของวัตถุดิบมันทำให้เราได้มาตรฐานใหม่ของคำว่าส้มตำที่อร่อยในใจเลยล่ะ ทุกอย่างลงตัวมากอยากให้เพื่อนได้ลองเมนูนี้กัน

ผัดคะน้าไฟแดง : สิ่งที่สะดุดตาสำหรับจานนี้คือการรองจานด้วยใบตอง! แค่นี้ก็ชวนให้ลิ้มลองแล้ว ตัวผักคะน้าหั่นมาชิ้นพอดีคำน่ารับประทาน พอชิมเท่านั้นแหละ ต้องเรียกว่าผัดผักได้พอดีทั้งความสุกของตัวผักและรสชาด คำแรกที่กินจะพบว่าผักกรอบกำลังดีไม่มีเหม็นเขียว กลิ่นกระเทียม, น้ำมันหอยและพริกเข้ากันอย่างลงตัวจานนี้ไม่มีข้อติเลย จานนี้ราคา 75 บาท
ลาบปลานิลทอด : จานนี้ถือว่าเป็นทีเด็ดและประทับใจที่สุดทั้งรสชาติ หน้าตาอาหาร และราคา เพราะเสิร์ฟแบบจัดเต็ม ปลานิลทอดสุกกำลังดีหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ (ไม่ต้องแงะเอง) คลุกเคล้ากับเครื่องของลาบที่หอมข้าวคั่วและหอมแดง มีความเปรี้ยวและเค็มกำลังดีลงตัวเข้ากันกับปลาที่ไม่มีความคาวเลย และเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงเป็นแตงกว่าฝานบาง ขิงฝาน และใบบัวบกเข้ากันสุดๆ สำหรับจานนี้ขอแนะนำให้ลองชิมกันให้ได้ถ้าเข้าไปทานร้านนี้ จานนี้ราคา 185 บาท

จานใหญ่พอสมควร

 

 

ข้าวสวยมันปู : ร้านนี้มีข้าวให้เลือก 2 แบบคือข้าวเหนียวกับข้าวสวยมันปู เราเห็นข้าวสวยมันปูแปลกดีเลยสั่งมา จากรูปเค้าเสิร์ฟข้าวในแบบที่คาดไม่ถึงจริงๆ อัดมาเป็นกรวยสวยงาม (แต่ภาชนะรองรับเล็กไปนะ อิอิ) ต้องยอมรับว่าขนาดข้าวสวยยังอร่อยเลยอะ จานนี้ราคา 20 บาท

 

การบริการ พนักงานบริการดีมากค่ะ เราขอช้อนส้อมเพิ่มก็รีบจัดหาให้อย่างรวดเร็ว

สรุป กับข้าวสามอย่างสำหรับเราแล้วคุ้มค่าคุ้มราคา อร่อยทุกอย่าง แถมยังมีช้อนกลางใส่มาให้ในทุกจานที่สั่งด้วย ติดใจเลยล่ะ ต้องมีกลับมาที่ร้านนี้อีกครั้งอย่างแน่นอน

หมายเหตุ ค่าเสียหายมื้อนี้สำหรับ 2 คนหมดไป 429 บาท  ร้านนี้มี service charge 10% ด้วยนะ และรับบัตรเครดิตถ้ายอด 500 บาท ขึ้นไป

เอาล่ะหลังจากชม+เก็บบรรยากาศภายในร้านเรียบร้อยแล้ว
มาดูที่รายการอาหารดีกว่า

สรุปอ่านจากส่วนประกอบที่เค้าบอกแล้วสั่งเลยละกัน
สั่งอย่าง งงๆ พิซซ่า 1 ถาด กับลาซานย่า อีก 1

สักพักพนักงานก็นำเครื่องปรุงมาให้ชุดใหญ่.....และบอกเราอีกว่าลาซานย่าใช้เวลานานนิดนึงนะครับ
เราเลยนั่งเล่นกินขนมฟรี ที่ทางร้านจัดมาให้ไปเพลินๆแปปเดียว (เร็วกว่าPizza HuTอีก) อาหารก็มาเราสั่งพิซซ่าสองหน้าคือหน้าฮาวายเอียนกับหน้าแมกซิกาน่า หน้าแมกซิกานาอร่อยมากออกแนวเผ็ดร้อนสไตล์แมกซิกัน
(เห็นพริกเป็นเม็ดๆเลย) ทำให้ไม่ค่อยเลียน ส่วนหน้าฮาวายเอียน ออกแนวเปรี้ยวสัปปะรดและเข้มข้นไปด้วยชีส

พิซซ่าร้านนี้ใช้วัตุถุดิบชั้นดีทำให้อร่อยมาก ติดใจพิซซ่าที่นี่มากๆเลยค่ะ

มาดูที่ลาซานย่าบ้างคำแรกที่ชิมโอ้อร่อยมากๆเลยค่ะความหอมมันของชีสกับแป้งเหลืองๆ(ไม่รุเรียกว่าอะไรใครทราบก็แชร์กันบ้างนะคะ)
และหมูสับผัดมะเขือเทศเข้มข้นเข้ากันได้อย่างลงตัวสุดๆ
ใครไม่เคยลองลาซานย่าอร่อยๆก้ขอให้ลองที่นี่เลยค่ะ

สรุปนะคะอาหารที่นี่จัดได้ว่าอร่อยมากค่ะ เยี่ยมทั้งพิซซา และลาซานย่าเลยล่ะ

บรรยากาศจัดว่าสุดยอดเลยร้านจัดได้เป็นสัดส่วนน่ารักดีค่ะ ร้านสะอาดเนี้ยบมากทั้งโต๊ะจานมีดส้อม
มีเคาเตอร์บาร์เสริมบรรยากาศด้วย
โต๊ะข้างๆเราเป็นคู่รักเปิดไวน์ดื่มกันหวานแหววเลยล่ะหุหุ

พนักงานบริการว่องไวและเป็นกันเองมาก
ตอนเราถามว่าถาดกลางขนาดเท่าไร เค้าเข้าไปยกถาดทั้งสามขนาดมาเทียบให้ดูเลยค่ะ ทุ่มเทจริงๆค่ะ

ท้ายสุดแล้วด้วยเรื่องราคา ตกคนละประมาณ 350 บาท นี่จัดว่าคุ้มเลยค่ะ
กับ รสชาดอาหาร การบริการที่ได้รับ

คอนเฟริมว่าใครได้มาทานร้านนี้ต้องประทับใจในบรรยากาศและรสชาดอาหารแน่นอนค่ะ ^^

ร้านสวยๆบรรยากาศดีๆต้องที่นี่เลย pizzeria da luigi
อยู่ตรง Sukhumvit 25 ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอโศก
เดินผ่านหลายรอบเห็นชื่อร้านอยู่ไกลๆ
พอหลายๆวันเข้าเลยตัดสินใจไปลองกันเล้ยเดินเข้าไปที่หน้าร้านอย่างกล้าๆกลัวๆ (ก็ร้านมันดูหรูๆอะ)
พนักงานก็ยิ้มเชิญชวนให้เข้าร้านทำให้เรากล้าเดินเข้าไปก็ยืนมองบรรยากาศในร้านสักพักนึง เค้าจัดร้านได้ดูหรูหราในสไตล์อิตาเลี่ยนตามฝาผนังมีผ้าพันคอของทีมดังในอิตาลี มั้ง ^^ และของประดับต่างๆสวยงามมีมุมเล็กๆให้นั่งอ่านหนังสือค่ะ หลังจากเราเข้าประจำที่แล้วก็รับเมนูมาแต่ว่า....
อ่านไม่ค่อยออกค่่ะ อ่านไปอ่านมาเริ่มงงกะชื่ออิตาลีเลยเรียกพนักงานมาถามพิซซ่าหน้าอะไรที่เค้านิยมสั่งกัน
พบว่าพนักงานไม่แข็งภาษาไทยอีก 0_0
แต่ทำให้ทราบข้อมูลว่าสั่งสองหน้าในถาดเดียวได้ด้วย

ที่โต๊ะ แต่ละโต๊ะเค้าจะมีไวน์จัดวางไว้ให้โต๊ะล่ะขวด
เผื่อใครอยากทานไวน์ไปพร้อมๆกับอาหาร ^^อ๊ะๆ แต่เราไม่ได้ทานไวน์หรอกนะ เพราะเพิ่งสอบภาษาเสร็จก็มาหาอะไรทานเลย
กำลังมึนๆได้ที่ ขืนทานไวน์ไปด้วยละก็ แย่แน่ๆ >.<

ติดตามอาหารที่เราสั่งมาได้ในภาคต่อ สไตล์อิตาเลี่ยนกับ pizzeria da luigi (2) นะคะ

อีกนิด ที่นี่เค้ามี facebook ด้วยนะคะ เผื่อใครอยากติดตามโปรโมชั่นของร้านนี้ ^^
http://www.facebook.com/pages/Pizzeria-da-Luigi/155654654495116

อากาศกำลังเย็น บรรยากาศรอบตัวกำลังดี
วันนี้จะขอนำเสนอร้านอาหารสไตล์คาวบอย ชื่อร้าน COWBOY CAFE แถวราชบุรี
เมื่อขับมาตามถนนและเห็นร้านไกลๆแวบแรกคือ โอ้.....
มันสมชื่อร้านจริงๆ ตกแต่งร้านสไตล์คาวบอยจริงๆ โดยร้านจะแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ
ส่วนร้านอาหารกับส่วนของร้านขายของฝากสไตล์คาวบอยตอนที่ไปถึงเป็นตอนใกล้ๆเที่ยงเริ่มมีคนมาทานเยอะละ ว่าแล้วก็หาโต๊ะเข้าประจำที่นั่งรอแปปเดียวก็มา
เสิร์ฟพร้อมกันสามเมนู ไล่ไปจากจานแรกของเรา

ซุปเอ็นหมูตุ๋นร้อนๆ เพิ่มความอุ่นให้กับร่างกายได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวจานนี้หอมเครื่องเทศหมูก็นุ่มมากน้ำซุปซึมเข้าไปในเนื้อหมูเลยทีเดียว
ในซุปมีพริกกับกระเทียมทุบโรยตัดความเลี่ยนได้เป็นอย่างดี
ชอบซุปมากอร่อยคล่องคอดี

จานต่อมาคือ BBQ ซี่โครงหมูเกือบถ่ายรูปไม่ทันแน่ะเป็นเมนูขึ้นชื่อของร้านนี้เลยค่ะ
เริ่มด้วยการตัดแบ่งมาซี่โครงนึง เลาะเนื้อออกมาทานง่ายมาก
เนื้อนุ่มซอส BBQ เผ็ดร้อน ก็อร่อยมากเข้ากันเป็นอย่างดี
เครื่องเคียงมีขนมปังกับมันฝรั่งบดเข้ากันกับเนื้อหมูมาก
อร่อยค่ะสมชื่อจริงๆ

อีกเมนูนึงทีชอบมากคือ......กุ้งกรอบเข้ากันกับมะนาวฝานและกะเพรากรอบราดด้วยน้ำสลัดเปรี้ยวๆ
อร่อยมากเหมาะเป็นเมนูทานเล่นค่ะ

หลังจากทานกันไปเหมือนเพื่อนๆจะยังไม่อิ่ม
เลยสั่งเพิ่มอีกเมนูคือข้าวผัดต้มยำรสชาติถึงเครื่องต้มยำมากเครื่องต้มยำมีการซอยมาอย่างละเอียด
ทานง่ายในส่วนของปลาหมึกกุ้งและปลาก็สดมากค่ะ
ขนาดอิ่มแล้วยังทานซะเยอะเลย

การบริการของร้านนี้รวดเร็ว
อาหารมาเร็วมากรอแปปเดียวเอง
บริการเติมน้ำดื่มให้เรื่อยๆ จัดว่าบริการรวดเร็วดีค่ะ

มื้อนี้มากันหลายคนหมดไป 1617 บาท เฉลี่ยคนละ 260-300 บาท
สรุปร้านนี้เด่นที่การตกแต่งบรรยากาศร้าน สไตล์คาวบอยสมชื่อ นั่งของประดับร้านเพลินๆ ดีค่ะ
หลังร้านมีแปลงผักอยู่หลังร้านเห็นห่านเดินเรียงแถวดูน่ารัก ^^

ปล. เสียดายที่ร้านขายของฝากปิดเลยไม่ได้เข้าไปถ่ายบรรยากาศ
อาหารอร่อย บริการรวดเร็ว ราคากำลังดี เยี่ยมมาก

พอดี เอเต้ อยู่ในช่วงเปิดสาขาใหม่ที่ เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช แล้วกำลังมีโปรโมชั่น
ลดพิเศษ 30% ทั้งเมนูอาหาร เมนูไอศกรีม และเมนูครีเอชั่น หมดเขต 30 พฤศจิกายน 2554
ทางเราก็จัดไปอย่าให้เสีย

ไอศกรีม และเบเกอรี่ของที่นี่ จะเป็นแบบโฮมเมด
วัตถุดิบที่ได้จะมากจาก ฟาร์มโคนมปักธงชัย
เพราะฉะนั้นแล้ว ใครที่ชอบอาหารแบบโฮมเมด ห้ามพลาดเด็ดขาด

เมื่อเดินเข้าร้านจะเห็นไอศครีมให้เลือกหลายรสมาก
บรรยากาศในร้านตกแต่งออกโทนสีดำๆดูหรูหรา และมีที่นั่งให้เลือกหลายแบบ
ทั้งแบบโซฟาแบบเก้าอี้ธรรมดาแบบ(เก้าอี้ที่เป็นกลมๆนิ่มๆเรียกว่าอะไรไม่รู้) โต๊ะกระจก โต๊ะไม้

พอได้ที่นั่งปุ๊บ ก็จัดการสั่งอาหาร
ว่าแล้วก็มาดูเมนูที่เราสั่งมาเลยดีกว่ารูปแรกเป็นซุปหอมหัวใหญ่ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นซุปถ้วยเล็ก
แต่พอมาเสริฟตกใจค่ะ เค้ามาเต็มมีเบคอนกรอบอร่อยกับขนมปังกระเทียมชีสหอมมัน
ที่เด็ดที่สุดคือขนมปังที่ปิดอยู่บนถ้วยซุปอร่อยมากรสชาติคล้ายครัวซองแต่มีกลิ่นเนยหอมมาก
ส่วนตัวซุปนั้นเด็ดไม่แพ้กันหัวหอมแทบละลายในปาก
น้ำซุปใสแต่รสเข้มมีความเผ็ดของพริกไทยเล็กน้อย ชอบมากรูปที่สองจานแรกนับจากซ้ายเป็นไก่สเต๊ะไก่เนื้อแน่นและปิ้งได้กำลังดี
น้ำจิ้มสเต๊ะก็อร่อยมากเข้มข้นสุดๆจานนี้จัดว่า อร่อยมากทีเดียว
จานที่สองเป็นเกี๊ยวห่อชีสเกี๊ยวกรอบอร่อยดีค่ะ แต่ไส้ชีสน้อยไป
ทานไปแทบไม่ได้รสชีสเลย = =ไอศกรีมรูปแรก แพนเบรดหอมอร่อยเข้ากับกล้วยและไอศครีมที่มาพร้อมกันไอศกรีมรูปที่สองจุดเด่นอยู่ที่ ช็อกโกแลตลาวา(ไม่รุเข้าเรียกว่าอะไรอะ)
เสริฟร้อนๆพร้อมช็อกโกแลตที่ไหลออกมา ช็อกโกแลตออกขมแต่อร่อย
ไส้ก็ขมพอกันแต่มีรสของกล้วยหอมอยู่ด้วยทำให้มีความหลากหลายและลงตัวในรสชาติ
โดยรวมแล้วอร่อยมากค่ะรูปสุดท้ายไอศกรีมเยลลี่กับวาฟเฟิล^^เยลลี่อร่อยดี
วาฟเฟิลกรอบโดยรวมแล้วอร่อยดี แต่ตัวไอศกรีมรสรัมเรซิ่นเด่นกว่า^^

โดยรวมแล้ว ชอบร้านนี้ อาหารอร่อย อีกทั้งราคากับคุณภาพอาหารเหมาะสมกันดี