Read full review
2012-03-28
57 views
วันนี้ขอพาไปรู้จักกับร้านอาหารน้องใหม่ของโรงแรม Aloft Bangkok ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในซอยสุขุมวิท 11 ที่ชื่อว่า “Crave” กันครับคำว่า "Crave" นั้นมีความหมายถึงว่า "ปรารถนา" หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การกระหาย ในบางสิ่งบางอย่างนั่นเองซึ่ง Concept นี้ติดตัวมาจาก character ของโรงแรม ที่เน้นถึงความทันสมัย กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่แฝงไปด้วยความขึ้เล่นอยู่ในตัวของมันเอง และไม่เน้นกฎระเบียบมากมาย โดยโรงแรมต้องการสื่อให้เห็นถึงการมาผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการเกินไป และที่บอกว่า Crave สื่อถึงความปราถนา ความกระหาย ดังนั้น การตกแต่งด้านในจึงเน้นโทนสีแดง ตัดกับสีของปูนเปลือย โดยตอนกลางคืนจะมีแสงไฟสีแดงสาดส่อง ภายในห้องอาหาร สื่อให้ถึง
คำว่า "Crave" นั้นมีความหมายถึงว่า "ปรารถนา" หรือพูดง่ายๆ ก็คือ การกระหาย ในบางสิ่งบางอย่างนั่นเอง
ซึ่ง Concept นี้ติดตัวมาจาก character ของโรงแรม ที่เน้นถึงความทันสมัย กลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่แฝงไปด้วยความขึ้เล่นอยู่ในตัวของมันเอง และไม่เน้นกฎระเบียบมากมาย โดยโรงแรมต้องการสื่อให้เห็นถึงการมาผ่อนคลาย ไม่เป็นทางการเกินไป และที่บอกว่า Crave สื่อถึงความปราถนา ความกระหาย ดังนั้น การตกแต่งด้านในจึงเน้นโทนสีแดง ตัดกับสีของปูนเปลือย โดยตอนกลางคืนจะมีแสงไฟสีแดงสาดส่อง ภายในห้องอาหาร สื่อให้ถึงความร้อนแรง น่าตื่นเต้น และน่าค้นหา ภายในห้องอาหารมี มินิบาร์ ที่ให้บริการเครื่องดื่มประเภท cocktail และ mocktail ครับ
ห้องอาหารแห่งนี้อยู่บนชั้น 8 ของตัวโรงแรม aloft ครับ ซึ่งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 11 แทบจะทุกมุมจะมีการตกแต่งโดยการแทรกสีแดงสด ซึ่งตัดกันดีกับ สีพื้นของห้องอาหาร ภายในพื้นที่มีการจัดโต๊ะที่นั่งแบบสบายๆ ไม่ดูอึดอัดจนเกินไป พื้นที่ตรงกลางของห้องอาหาร ซึ่งเชฟนั้นทำอาหารกันทั้งตรงส่วนนี้และในห้องครัวด้วยครับ
และจุดเด่นของที่นี่ ซึ่งอยู่ตรงทางเข้าห้องอาหาร ก็คือwine cellar ที่มีไวน์ให้เลือกหลากชนิดจากทั่วโลก ตาม concept "Wines of the World" ของโรงแรมในเครือ Starwood ครับ ความพิเศษของห้องอาหารนี้ก็คือ เจ้า Ipad นี่แหละครับ ด้วยความขี้เล่นอย่างที่บอกไว้เบื้องต้น ที่นี่เค้าจึงให้แขกสามารถเลือกไวน์จากเมนูไวน์ซึ่งเป็น iPad โดยสามารถเลือกสั่งเป็นแก้วให้พนักงานนำมาส่งให้ที่โต๊ะ หรือจะสั่งเป็นขวดนำกลับบ้านได้เช่นกัน โดยทางห้องอาหารบอกว่าราคาไวน์เริ่มต้นตั้งแต่ 490 บาทจนถึงหมื่นต้นๆ เลยทีเดียว
สำหรับอาหารมื้อนี้ขอเริ่มที่ เมนู Starter อย่าง "20 Minute Cured Salmon" เมนูนี้เป็นปลาแซลมอนหมักเครื่องเทศเสิร์ฟพร้อมแปะก๊วยและผักไมโครคลุกข้าวคั่วมะนาวและพริกกระเทียม ดูเพื่อสุขภาพดีเหมือนกัน ที่สำคัญน้ำซอสรสเผ็ดเปรี้ยวในสไตล์น้ำจิ้มแบบซีฟู้ด สะใจดีครับ
ตามมาด้วย "Seared Sea Scallop” หอยเชลส์ทอดเสิร์ฟกับแกงกรอบ ซึง่มาในรูปแบบใหม่แทนที่แกงจะข้นเป็นของเหลว แต่ที่นี่กลับทำให้เป็นแกงแบบแห้ง ดูแปลกตา และอร่อยดีด้วยนะครับ
จากนั้นต่อด้วย "Steamed Snow Fish" ปลาหิมะยัดไส้กุ้งนึ่งราดซอสเสฉวนพร้อมไข่นกกระทาและเนื้อปูโรยด้วยปลากรอบ มาในรูปแปลกตาที่นำปลาหิมะ มาในรูปแบบน้ำซุปเข้มข้นครับ
จากนั้นปิดท้ายด้วย "Jumbo Choux Cream" จัมโบ้ชูครีมสอดไส้ไอศครีมรสช็อคโกแลตคาลัวราดซอฟท์ครีมเสิร์ฟพร้อมอัลมอนด์คุ๊กกี้ เนื้อครีมของที่นี่เบามากๆ ครับ นุ่มลินดีด้วย ข้างในมีช็อคโกแลตสอดใส้แบบเย็นๆ ดีด้วยนะครับ
สำหรับร้านอาหารน้องใหม่แห่งนี้ ทำได้ดีทีเดียวครับ ทั้งการตกแต่งร้านอาหาร และหน้าตาของอาหารที่ได้เชฟมือดีมาสร้างสรรค์ อาหารที่เรียกได้ว่าเป็นศิลปะแขนงหนึ่งก็ว่าได้ครับ
Post