1
0
0
Telephone
02-264-0247
Good For
Business Dining
Casaul Dining
Additional Information
จากถนนรัชดาภิเษก ผ่านแยกอโศก ตรงมาทางคลองเตย จะเห็นอาคารเลครัชดา อยู่ตรงข้ามศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ร้านเดอะคัพ อยู่ชั้น 3 ในอาคารเลครัชดา
Opening Hours
Today
11:00 - 18:00
Mon - Sat
11:00 - 18:00
Sun
Closed
Payment Methods
Visa Master AMEX Cash
Number of Seats
80
Other Info
Parking
Corkage Fee
Reservation
Tax Invoice
Above information is for reference only. Please check details with the restaurant.
Signature Dishes
Rosted Beef Rosted Pork สลัดปูนิ่ม
Review (1)
Level4 2016-05-23
327 views
รีวิวนี้ จะพามาสัมผัสกับอาหารอร่อยสไตล์อังกฤษแท้ ๆ กันบ้างกับร้านที่เปิดมายาวนานกว่า 36 ปี และยังคงยืนหยัดในรสชาติดั้งเดิมทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่ม พร้อมกับเพิ่มเติมในส่วนผสมของความเป็นไทยและรสจัดจ้านเพื่อเป็นทางเลือกในบางเมนู ให้ทันสมัยถูกปากคนยุคปัจจุบันได้มากขึ้นด้วยกับร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room กันครับร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room ตั้งอยู่ที่ชั้น 3 อาคารเลครัชดา ถ.รัชดาภิเษกสำหรับคนที่ขับรถส่วนตัวหรือมาแท็กซี่ ถ้ามาจากแยกอโศกมุ่งหน้าไปยังนานา พอเจอแยกอโศกให้เลี้ยวซ้ายเข้า ถ.รัชดาภิเษกเพื่อมุ่งหน้าไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ์ตลอดทางซ้ายมือจะผ่าน ซ.สุขุมวิท 16 และอาคารสำนักงานต่าง ๆเมื่อถึง อาคารเลครัชดา ซึ่งจะอยู่ตรงกันข้ามกับบึงสวนเบญจกิตติจะสามารถเห็นป้ายโลโก้ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Roomได้อย่างชัดเจนเลยครับส่วนคนที่มา BTS หรือ MRT แนะนำว่าลงสถานีอโศกแล้วเดินออกกำลังกายมาสักประมาณ 600 เมตรหรือต่อรถแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาก็สะดวกเช่นกันครับเมื่อเข้ามายังอาคารเลครัชดาแล้ว ขึ้นบันไดเลื่อนไปยังชั้น 3 เลยครับร้านจะอยู่ด้านหน้าของอาคาร สังเกตป้ายโลโก้ร้านได้เลยครับมีติดบอกอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร(ถ้ามองจากหน้าอาคาร ตัวร้านจะอยู่ยื่นแยกออกมาจากตัวอาคารเลยครับ)(แอบบอกว่าภาพนี้ถ่ายจากมุมหลังร้านครับ ผมขึ้นบันไดผิด 555) บรรยากาศภายในร้าน เน้นการตกแต่งโทนสีครีม น้ำตาลดูอบอุ่นและเป็นทางการเล็กน้อย มีมุมต่าง ๆ ให้เลือกนั่งได้ตามอัธยาศัยรอบร้านอาหารเป็นกระจกใส มองเห็นวิวทิวทัศน์ ไม่ทึบ ไม่อึดอัดครับซึ่งสามารถนั่งกินอาหาร พูดคุยกันชิล ๆ พร้อมมองวิวทะเลสาบเบญจกิตติได้อย่างเพลิดเพลินจนอาจจะลืมเวลากันเลยครับ ด้วยความที่ดูเป็นทางการนั้น ทำให้ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Roomมีโอกาสได้ต้อนรับ ผู้หลัก ผู้ใหญ่ ระดับผู้นำของประเทศไทยรวมถึงบรรดาผู้มีชื่อเสียงในแวดวงธุรกิจ วงการบันเทิง ด้วยครับอย่างไรก็ตาม อ่านคำบรรยายพร้อมดูภาพบรรยากาศรวม ๆ ของร้านแล้วก็อย่าเพิ่งกลัว และเกร็ง ที่จะต้องมากินนะครับ เพราะสามารถแต่งตัวสบาย ๆ เสื้อยืด กางเกงยีนส์ ได้เลย หรือจะแต่งหล่อแต่งสวยมาให้เข้ากับบรรยากาศร้านก็ยิ่งเยี่ยมยอดเลยครับ(บรรดาขนมเค้ก ขนมต่าง ๆ และน้ำสลัดสำหรับซื้อกลับบ้านได้)เข้าสู่เรื่องราวของอาหารกันดีกว่าครับด้วยความที่ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room นั้นเน้นอาหารสไตล์อังกฤษแบบออริจินัลและตะวันตกเป็นหลักทำให้อาหารจานหลักนั้นใหญ่และปริมาณค่อนข้างเยอะเมื่อเทียบกับราคาอาหารแล้ว ถือว่าคนกินอย่างเรา ๆค่อนข้างคุ้มเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเป็นคอร์สมากินคนเดียวหรือจะสั่งจานหลัก จานสลัด จานกินเล่น มาแชร์กันในกรณีมากันหลายคนก็ไม่ผิดอะไรครับ แต่ถ้าใครคิดเมนูไม่ออกว่าจะกินอะไรในแต่ละวัน/สัปดาห์ ทางร้านก็จะมีเมนูคอร์สให้สั่งได้เลยเช่นกันครับสำหรับรสชาติของตัววัตถุดิบที่ร้านนำมาใช้ ถือได้ว่าเป็นเกรดพรีเมียมรวมถึงซอสต่าง ๆ สำหรับเมนูสเต็ก หรือ สลัด ก็พิถีพิถันมาก ๆ ครับอย่างน้ำสลัด ทางร้านก็ทำเองขึ้นมาถึง 2 แบบเพื่อนำมาใช้กับเมนูในร้านและจำหน่ายกับลูกค้าให้กลับไปกินสลัดด้วยน้ำสลัดอร่อย ๆ ได้อีกด้วย(น้ำสลัด House Dressing 170฿ และ Balsamic Vinaigrette 230฿)เมนูที่ผมเลือกไปกินนั้นอาหารคาวส่วนใหญ่จะเป็นจานหนัก จานเนื้อซะส่วนใหญ่ครับไม่ว่าจะเป็น Pepper Steak "The Cup", Rack of Lamb, Mint Sauce & Redcurrant Jelly,Fillet of Pork wrapped in Bacon served with BrandiedMushroom Cream Sauce,Smoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce,Chicken Crêpe with Salad และ Spicy Spaghetti Crispy Pla Salitเรียกได้ว่า มาทั้ง วัว แกะ หมู เป็ด ไก่ และปลา เลยครับซึ่งทั้ง 6 เมนูนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของเมนูแนะนำอีกด้วยPepper Steak "The Cup" 690฿สเต็กเนื้อวัว มาแบบมีเดียมแรร์ สุกในระดับที่ผมชอบที่สุดได้มาแบบตามที่สั่งไป ราดด้วยซอสพริกไทยที่ตัวซอสนั้นเป็นการนำไวน์แดงมาเคี่ยวพร้อมเครื่องปรุงเล็กน้อยให้งวดความเข้มข้นของซอส และรสชาติของซอสพลุ่งพล่านไปกับเนื้อนุ่ม ๆ ละมุนอยู่ในปากและลิ้น ยิ่งเคี้ยวพริกไทอ่อนตามทำให้กินไม่รู้อิ่มเลยครับจานนี้ผักเครื่องเคียงก็มาเต็มจานแบบไม่หวงกันเลยครับRack of Lamb, Mint Sauce & Redcurrant Jelly 820฿ซี่โครงแกะชิ้นโต มาด้วยกัน 2 ชิ้นผ่านการนาบกระทะให้เนื้อด้านนอกกรอบแต่ด้านในนุ่มชุ่มฉ่ำสุกระดับมีเดียมกำลังดี (ผิวด้านนอกนั้นกรอบคล้ายทอดน้ำมัน)ไร้กลิ่นสาบฉุนกวนใจ แต่ยังได้รสของความเป็นเนื้อแกะอย่างสมบูรณ์ จะเลือกกินพร้อมกับซอสตัวไหนก็ได้ที่ให้มาถึง 3 ชนิดทั้งเกรวี่ มิ้นท์ หรือเยลลี่เรดเคอร์แร้นท์ ก็ได้อรรถรสที่แตกต่างกันไปทั้ง 3 ตัว แต่เข้ากันกับเนื้อแกะได้ดีทั้งหมดที่ชอบสุด ๆ ก็ตรงที่เนื้อด้านนอกกรอบด้านในนุ่มนี่แหละครับ เจ๋ง!ผักเคียงก็จัดมาเต็มเช่นกันFillet of Pork wrapped in Bacon served withBrandied Mushroom Cream Sauce 440฿เนื้อหมูส่วนสันใน นำมาทำสไตล์ฟิเลมิยองด้วยการห่อเบคอนรอบเนื้อหมู เพื่อเพิ่มความมันและหอมจากน้ำมันเบคอนให้กับเนื้อสันในหมูที่ไร้มันเนื้อหมูสุกนุ่มได้ที่ เบคอนกรอบหอมอร่อย ราดด้วยซอสบรั่นดีครีมเห็ดข้น ที่ให้รสครบทั้งเค็ม หวาน มันและเปรี้ยวตัดเล็กน้อยคนชอบกินหมูขอแนะนำเลยครับ กินซอสกับผักเคียงต่าง ๆ ก็ลงตัวด้วยSmoked Duck Breast Salad with Blackberry & Port Sauce 360฿สลัดอกเป็ดรมควัม มาพร้อมซอสแบล็คเบอร์รี่เคี่ยวกับพอร์ตไวน์จนได้ซอสรสกลมกล่อมหอมหวาน เข้ากันกับอกเป็ดรมควันหอม ๆ นุ่ม ๆและผักสดนานาชนิดได้เป็นอย่างดี Chicken Crêpe with Salad 360฿เป็นการนำแป้งเครปมาทำเป็นเมนูพาสต้าลักษณะคล้ายกับกราแตงต์ โดยนำเนื้อไก่หั่นชิ้นพอดีคำ มาผนวกเข้ากันกับไวท์ซอสเข้มข้น ราดเป็นชั้นสลับกับแป้งเครป นำไปอบให้สุกทั่วกันโดยด้านบนนั้นจะเป็นชีสที่กรอบเกรียมแต่เมื่อตัดลงก็จะพบกับควานนุ่มยืด หอม มัน อร่อย ยั้งส้อมไว้ไม่อยู่ Spicy Spaghetti Crispy Pla Salit 350฿อาหารตะวันตกผสมไทย ด้วยการนำเส้นสปาเก็ตตี้ Al Denteไปผัดกับพริกแห้ง กระเทียม แบบไทย ๆพร้อมกับนำปลาสลิดทอดกรอบ ใบกะเพราทอดกรอบรสชาติความเค็มของปลาสลิด เข้ากับเส้นสปาเก็ตตี้ผัดได้ดีเลยเป็นเมนูรสชาติเผ็ด ที่ทางร้านประยุกต์เข้ามาครับ ซึ่งทางร้านจำหน่ายไวน์และเบียร์ด้วย สามารถสั่งมาจิบดื่ม ๆ พร้อมกับการกินอาหารให้ลื่นคอเพิ่มขึ้นได้นะครับ เคลียร์อาหารคาวกันจบแล้วจิบน้ำชามะนาว Ice Tea 95฿ ให้ชื่นใจสักนิด ก่อนจะเข้าสู่ของหวานมาแบบก้อนน้ำแข็งทำจากน้ำชา แล้วแยกน้ำชา ไซรัป และมะนาวมาให้เราได้ปรุงรสเองตามใจชอบ เข้าสู่ของหวาน เมนูของหวานที่นี่ก็ไม่ธรรมดาครับมีอะไรต่อมิอะไรให้เราค้นหาในรสชาติมากมายเค้กทางร้านก็มีหลากหลายให้ได้เลือก ผมเลยเลือกตัวเด่น ๆ มาครับYoghurt Pudding with Cranberry Sauce 135฿พุดดิ้งโยเกิร์ตเด้งดึ๋งดั๋ง เนื้อนุ่มเนียนกับซอสแครนเบอร์รี่ที่ให้รสเปรี้ยวหวานกำลังดีไม่โดดรสใดรสหนึ่งจนเกินไปเป็นเมนูของหวานที่หากินได้ไม่ง่ายอีก 1 เมนูและอร่อยด้วยสาว ๆ น่าจะชื่นชอบกันครับ Crêpe Tycoon 165฿เครปที่ห่อด้วยไส้ครีมชีสรสเปรี้ยวและเติมลูกเกดลงไปเพิ่มสัมผัสเป็นอีก 1 เมนูที่ไม่ซ้ำกับร้านไหน ๆ เสิร์ฟมาพร้อมกับไอศกรีมวนิลาเป็นเมนูของหวานอีกเมนูที่ต้องลองครับ Crêpe Praliné with Peach 165฿เป็นเครปอีกตัวที่มากับผลพีชเชื่อมและไอศกรีมวนิลาโรยหน้าด้วยเกล็ดน้ำตาลคาราเมลเล็กน้อยเพิ่มรสและสัมผัสอร่อยเข้ากันแบบออริจินัลดีครับ Strawberry Millefeuille 200฿มิลล์เฟล์ย สตอเบอร์รี่สด แต่ละชั้นมีครีมสดคั่นกลางระหว่างแป้งกรอบและราดด้วยซอสสตอเบอร์รี่เข้มข้น สวยงามและอร่อยอีกด้วย Cookies 3 รสชาติ : Oatmeal, Chocolate Chip, Serialมาเคี้ยวแกล้มปิดท้ายกับ Double Espresso ได้อย่างเพอร์เฟ็ค สำหรับผมแล้ว ร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Roomเป็นร้านที่ต้องมาลองอย่างน้อยครั้งนึงในชีวิตและต้องมาซ้ำเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน เพราะอาหารดี ๆ รสชาติต้นตำรับแบบอังกฤษนั้น ก็หากินได้ไม่ง่ายใน กทม. แล้วในปัจจุบันนี้เพราะส่วนใหญ่จะปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัยให้ถูกปากคนกินมากขึ้นความเป็นต้นตำรับจึงสูญหายไป แต่สำหรับที่นี่นั้น ยังคงยืนหยัดรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ที่สมบูรณ์ในตัวเองอยู่อย่างไม่เสื่อมคลายและนอกเหนือจากอาหารคาว-หวานที่ผมได้รีวิวไปแล้วนั้นยังมีอีกหลายเมนูที่ผมจะต้องกลับไปลองเพิ่มให้ได้เลยล่ะครับแล้วถ้าถึงวันนั้น ผมจะมารีวิวเพิ่มเติมให้ได้อร่อยกันอีกแน่นอน สำหรับของฝากขึ้นชื่อของร้านก็มี ไม่ว่าจะเป็น Fruit Cakeและคุกกี้ขนาดต่าง ๆ ให้ได้เอาความอร่อยไปฝากกันได้อีกด้วยครับร้าน "The Cup" Restaurant & Tea Room เปิดให้บริการวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 11:00-18:00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์ (เว้น 1 พ.ย. - 31 ธ.ค. ของทุกปีที่เปิดบริการ) สำรองที่นั่งลิ้มรสความอร่อยได้ที่ โทร.0-2264-0247 ถึง 50https://www.facebook.com/TheCup1980ขอให้อิ่มอร่อยกับอาหารสไตล์อังกฤษแท้ ๆ กันนะครับ continue reading
(The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.)