สำหรับวันนี้จะพาไปกินอาหารญี่ปุ่นอีกร้านนะคะ เป็นร้านที่มีหลายสาขา แต่สาขานี้เพิ่งจะเปิดมาเมื่อไม่นานนี้เองค่ะ กับ Sushi Hana นั่นเอง โดยสาขานี้อยู่ที่อาคาฟิฟตี้ฟิฟท์ ทองหล่อซอย 2 นะคะ อยู่ริมถนนทองหล่อเลยค่ะ ร้านเปิดระหว่าง 11.00-21.00 น.ค่ะ
facebook ร้านค่ะ
https://www.facebook.com/SushiHanaThailand/
เลี้ยวเข้าไปจอดรถ (ซึ่งเราไปจอดที่อาคารด้านขวาค่ะ) ก็เดินย้อนมาที่ตึกแล้วขึ้นลิฟท์ไปที่ชั้น 1 นะคะ นี่คือหน้าร้านของ Sushi Hana สาขานี้ฮับสำหรับที่นั่ง นอกจากเอาท์ดอร์ด้านหน้าร้านแล้ว ด้านในก็มีทั้งที่นั่งที่เป็นโต๊ะๆ และที่เคาน์เตอร์นะคะ แต่ถ้ากินแบบโอมากาเสะ นั่งเคาน์เตอร์ดีกว่านะคะ ที่จริงมีที่นั่งชั้นบนด้วยค่ะ แต่ไม่ได้ขึ้นไปเก็บภาพมาให้นะฮับ แฮ่...สำหรับการไปรอบนี้เป็นการกินแบบ Omakase (ซูชิที่เสิร์ฟซูชิเป็นคอร์ส ซึ่งทางเชฟจะเป็นคนดูว่าวันนั้นอยากจะนำเสนอเมนูอะไรให้กับเราค่ะ ก็จะจัดมาให้เราทาน เหมือนกับร้านลุง Jiro ที่ญี่ปุ่นแหละนะคะ) โดยที่เราไปเป็นการกินโอมากาเสะแบบที่เป็นโปรโมชั่นในช่วงนี้คือซูชิ 5 ชิ้น ซาชิมิ 6 ชิ้นและซุปในราคา 900 บาท (เฉพาะสมาชิกนะคะ - สมัครสมาชิก 300 บาท อายุสมาชิก 2 ปี ใช้เป็นส่วนลดได้เลย จ่ายบัตรเครดิต (ของอะไรก็ได้) ลด 15% และจ่ายเงินสดลด 10% ค่ะ) แล้วก็เฉพาะทานที่เคาน์เตอร์เท่านั้นนะคะแต่เนื่องด้วยเราไปสายนะคะ (ไปจากลาดกระบัง เลิกงานก็ห้าโมงครึ่งแล้ววว ไปถึงก็ทุ่มกว่าแล้วค่ะ แง้วว) ก็เลยทำให้ไม่ได้กินเมนูแรกๆ ไปค่ะ Smiley(รออ่านจากบล็อกเกอร์ท่านอื่นแล้วกันเนาะ) ไปถึงก็เจอชุดปลาดิบก่อนเลยค่ะ เป็นปลาหมึก และปลาดิบสองชนิดค่ะ สดดีงาม หวานค่ะ แต่ไม่ชอบเทกซเจอร์เจ้ากินเมไดเนื้อปลาสีขาวๆ อะค่ะ (น้องอ้นบอกว่าเป็นปลาน้ำลึก) เลยกินไปชิ้นเดียว อีกชิ้นให้คนอื่นกิน แหะๆต่อไปก็เริ่มเป็นซูชิแล้วค่ะ ซึ่งเลือกได้นะคะว่าจะเอาแบบมาพร้อมกันทีเดียว หรือทีละคำ แน่นอนว่าเราเลือกแบบทีละคำค่ะ คำแรกมาแล้ววว เป็นซูชิกุ้งลายเสือนะคะ กุ้งสดหวานดีค่ะ ที่นี่เค้าใส่วาซาบิมาให้แล้วนะคะ และใส่มาเยอะพอควรด้วย ตอนแรกไม่รู้ ป้ายวาซาบิเพิ่ม เล่นเอาน้ำตาไหลเลย แง้ววว พอคำหลังๆ เลยไม่ป้ายเพิ่มแล้วค่ะ จิ้มโซยุอย่างเดียวแหะๆกรณีที่ไม่ได้สั่งเป็นโอมากาเสะ ก็จะมีซูชิเซ็ตที่เป็นขั้นบันไดแบบนี้ด้วยนะคะ (แต่แบบใส่จานก็มีค่ะ เดี๋ยวมีภาพให้ดูท้ายๆ รีวิวนะคะ)คำต่อไปเป็นซูซูกิค่ะ เชฟบอกว่าเป็นปลากะพงขาวญี่ปุ่นค่ะ เนื้อปลาจะออกรสชาติเช็งๆ ใสๆ รสโปร่งๆ เบาๆ ค่ะ แล้วก็กลิ่นพวกต้นหอมจะเด้งนำมาก่อนนะคะขอคั่นด้วยเครื่องดื่มหน่อยนะคะ อาจแปลกใจว่าทำไมรอบนี้ไม่สั่งชาเขียวร้อน ทางร้านบอกว่าหมดค่ะ แหะๆ เลยต้องดื่มชาเขียวเย็นแทน ซึ่งชาเขียวเย็น ที่นี่จะบริการฟรีนะคะ ส่วนชาเขียวร้อนราคา 90 บาทซึ่งจะให้มาเป็นกาเลยค่ะ ส่วนสาเกนี่อนุเคราะห์มาโดยคุณโด้ Do is on the way นะคะ (แบบว่าเฮียแกสั่ง เลยขอแกแบ่งชิมบ้าง แฮ่...)ตัวชาเขียวมาตรฐานทั่วไปค่ะ กลิ่นไม่คาวเหมือนบางที่ ส่วนสาเกนี่ขอบอกว่ากลิ่นอวลมาก ให้อารมณ์หอมเหมือนดื่มอุ (แต่ไม่ใช่นะคะ ฮา) หอมข้าวหมักค่ะ อร่อยดี ที่เคยดื่มมาไม่ได้รสและกลิ่นแบบนี้ค่ะ ส่วนยี่ห้อก็ตามรูปเลยนะคะ
คำต่อไปเป็นมาไดค่ะ เชฟบอกว่าเป็นปลากะพงญี่ปุ่นอีกเช่นกันนะคะ แต่ตัวนี้หอมกว่าตัวซูซูกิค่ะ เนื้อกึ่งๆ ระหว่างความเป็นปลากับหมึกน่ะค่ะ บอกไม่ถูก คือ จะเด้งกว่าปลาทั่วไปหน่อยหนึ่งนะคะคำที่สี่ค่ะกับชูโทโร่ แม่เจ้า สายรุ้งพุ่งออกจากปากค่ะ อร่อยมากๆ ปลาดีมาก สด หวาน มันดีๆ เต็มปากมากค่ะ มีกลิ่นยูสุแซมมานิดหน่อยกำลังดี พร้อมความหวานของซอสมิโสะที่ป้ายมา อร่อยค่ะคำนี้ ชอบมาก ฟิน Smiley (ทำรูปใหญ่พิเศษเพื่อเค้าเลย คิดดู๊...555)และคำปิดท้ายของชุดเป็นฮามาจิไซเกียวค่ะ ตัวนี้หวาน กลิ่นพุ่งมาก กลิ่นเด่นค่ะ เป็นอีกคำที่อร่อยนะคะเชฟมีแถมท้ายด้วยไข่หวานค่ะ โอเคค่ะ อร่อยมาตรฐาน ไม่หวานเกินไปค่ะหมดคอร์สแล้ว ต่อไปเป็นการสั่งเพิ่มจากคอร์สค่ะ เรารีวิวเฉพาะอันที่เราได้ไปแจมชิมกับคนที่เค้าสั่งแล้วกันนะคะ แหะๆ มีด้วยกันสามเมนูค่ะที่ได้ชิม
ปลาแซลมอนยำไทย 150 บาทค่ะ รสชาติจัดใช้ได้เลยค่ะ แก้เลี่ยนได้ดีค่ะ ถ้าใครจะดื่มเบียร์ก็สั่งตัวนี้มาแกล้มก็ฟินดีนะคะต่อไปเป็นทาโกะวาซาบิ 150 บาทค่ะตัวนี้รสจะออกแนวเปรี้ยวๆ เผ็ดๆ แบบเบาๆ ไม่เหมาะกินเปล่า แต่เหมาะแกล้มเบียร์ค่ะ เข้ากั๊น เข้ากัน กินคู่กันแล้วฟินมากค่ะ ฮี่ๆ
ซูชิหน้าปลาไหลค่ะ น้องอีกคนสั่งมาสองคำ เลยใช้กำลังหักหาญ เอ๊ย! ขอน้องเค้าชิมหนึ่งคำค่ะ ปลาไหลหอมและมันดีค่ะ รสซอสก็ครบรสดีค่ะ แต่เราชอบเนื้อปลาที่นุ่มนวลกว่านี้อีกนิดหนึ่งนะคะ แฮ่...หมดแล้วค่ะที่ได้กินวันนั้น จากนี้เป็นการโพสต์รูปเมนูที่คนอื่นๆ สั่งมา แต่เราไม่ได้ชิมนะคะ เลยคอมเม้นท์ไม่ได้ ดูรูปเอาแล้วกันเนาะคะ (ที่จริงอยากกินวากิวง่ะ แต่ไม่ได้สั่ง แง้วๆ )ส่วนนี่เป็นบางส่วนของเมนูค่ะสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นพรีเมี่ยมอีกร้านที่น่าสนใจค่ะ ก่อนหน้านี้เห็นมีแต่สาขานอกๆ เมือง อย่างสวนหลวงร.๙ บางนา ราชพฤกษ์ พระราม3 ฯลฯ (ถึงเขาจะมี 11 สาขาแล้วก็เหอะ) แต่ตอนนี้มาอยู่ย่านทองหล่อแล้วก็น่าจะไปง่ายขึ้นนะคะ คุณภาพของวัตถุดิบที่กินวันนั้นโอเคเลยค่ะ แต่ไม่ได้กินตัวฮิตๆ อย่างพวกวากิว ฟัวกราส์ ฯลฯ นะคะ เท่าที่กินก็ประทับใจตัวชูโทโร่กับฮามาจิไซเกียวค่ะ วัตถุดิบดี รสชาติอร่อยกำลังดีมากมาย ฟินค่ะ

เป็นร้านที่อยู่ใกล้บ้านมากๆ แบบว่าเดินมาไม่กี่นาทีก็ถึง เลยต้องมาลองค่ะถ้ามาจากบีทีเอสอนุเสาวรีย์ชัยฯ ให้ลงมาทางฝั่งที่จะไปพหลโยธิน นั่นคือ ลงฝั่งเดียวกับก๋วยเตี๋ยวเรือพระนคร หรือกองทัพบกช่อง 5 เดินผ่านทางขึ้นทางด่วนมานิดนึง ร้านอยู่ตรงหัวมุมเลยค่ะราคาบุฟเฟห์+เครื่องดื่ม 279 บาทต่อท่าน สามารถทานได้ 90 นาทีการสั่งบุฟเฟห์จะมีกระดาษมาให้เราติ๊กๆเลือกเขียนจำนวนที่ต้องการลงไปค่ะ จะแยกหมวดหมู่เป็น รายการหมู, รายการเนื้อ, รายการชุด, รายการเส้น, รายการทะเล, รายการผักสด และรายการอื่นๆค่ะ- น้ำซุปจะมี 2 แบบอย่างละครึ่งหม้อ#น้ำซุปใส เป็นสไตล์เวียดนาม ไม่มีเนื้อสัตว์ ไม่ใส่ผงชูรส รสชาติใช้ได้ ซดคล่องคอเรื่อยๆค่ะ
#น้ำซุปชาบู น้ำดำสไตล์ญี่ปุ่น ปรุงด้วยซอสสูตรเฉพาะ ไม่ใส่ผงชูรสเช่นกัน อร่อยกลมกล่อมดีค่ะ เราสามารถทานแบบไม่ต้องปรุงน้ำจิ้มเพิ่มเลยค่ะ รสชาติลงตัวดี ชอบกว่าน้ำซุปใสค่ะมาไล่เรียงที่เราทานกันดีกว่าค่ะ- รายการทะเล#กุ้งสด ตัวไม่ใหญ่ รสชาติสดทั่วไปค่ะ#เกี๊ยวกุ้ง แป้งเยอะไปหน่อยค่ะ#คริสตันไข่ปลา อร่อยดี มีไข่ปลาข้างในอร่อยๆ ชอบค่ะ แต่เวลาทานระวังร้อนนะคะ#ลูกชิ้นแซลมอน ดูมีสีแดงๆน่าทาน แต่รสชาติเฉยๆค่ะ#ฟองเต้าหู้ซีฟู้ด อร่อย รสชาติดี

- รายการอื่นๆ#เต้าหู้ชีส ต้องสั่ง ชอบมาก ด้านในมีชีสเยิ้มๆ ต้องเบิ้ลๆ แนะนำเลยค่ะ ทานระวังร้อนด้วยนะคะ#ข้าวผัดกระเทียม ข้าวนิ่มเกินไปค่ะ ได้รสกระเทียมจางๆ#ข้าวผัดต้มยำ รสชาติมีเปรี้ยวเผ็ด อร่อยกว่ากระเทียมค่ะ

- รายการหมู#หมูหมักงา, หมูพริกไทยดำ, หมูน้ำผึ้ง ออกเหนียว และชิ้นใหญ่ไปค่ะ ไม่ค่อยโดนใจ#ตับหมู ชิ้นบาง หั่นมาสวยงาม รสชาติสดดี#เบคอนรมควัน ถาดแรกติดมันก็นุ่มๆดี พออีกถาดมาไม่ติดมัน ดูสุขภาพดีแต่เหนียวเลยค่ะ#หมูเด้ง รสชาติเหมือนหมูสับบดมากกว่า ไม่ค่อยโดนเท่าไหร่

- รายการเส้น#เส้นเฝอ นุ่มๆดีค่ะ#บะหมี่หยก รสชาติทั่วไปค่ะ- รายการผักสด
#ผักบุ้งจีน, ผักกาดขาว, ขึ้นฉ่าย สดสะอาดดีค่ะ
#ข้าวโพด ชอบมากค่ะ มาเป็นฝักๆแบบนี้ แต่ต้องใช้เวลาต้มหน่อย
#ฟักทอง นุ่มอร่อยดีค่ะ
#เห็ดออรินจิ, เห็ดหลินขาว, เห็ดเข็มทอง สะอาดสดใช้ได้ค่ะ แต่เห็ดออรินจิหั่นมาหนาไปหน่อยค่ะ- ชีส เราสั่งเพิ่มราคา 15 บาท เพราะไม่รวมในบุฟเฟห์ ใส่ลงไปในน้ำซุปยืดๆอร่อยๆค่ะ- เครื่องดื่ม มาเป็นเหยือกค่ะ แนะนำว่าถ้ามาสองคน สั่งเหมือนกันจะดีกว่านะคะ เดี๋ยวทานไม่หมดค่ะ แต่เราสั่งเหยือกที่ 2 เหลือ เจ้าของร้านใจดีก็ไม่ว่าอะไรค่ะ- น้ำจิ้ม จะมีขวดสีน้ำตาลรสออกหวานนำ ขวดสีแดงเป็นพริกน้ำ และขวดมะนาว ส่วนกระปุกจะเป็นพริกซอยสีเขียว และกระเทียมค่ะ ทางร้านแนะนำว่าให้ค่อยๆใส่ และลองชิมก่อน เพราะบางคนชอบเผ็ดชอบเปรี้ยวชอบหวานต่างกัน แต่ส่วนตัวเราว่าน้ำจิ้มขวดสีน้ำตาลหวานไปหน่อยค่ะ ใส่นิดเดียว ต้องใส่อย่างอื่นเติมอย่างเยอะเลยกว่าจะได้รสอื่นนำที่ไม่ใช่หวานนำค่ะ

เจ้าของร้านใจดีค่ะ มีมาทักทาย มาแจ้งว่าน้ำจิ้มต้องใส่ยังไง และก็ชวนคุยนิดหน่อย ส่วนพนักงานก็บริการดี เติมน้ำ มาเก็บจานเร็วดีค่ะ

บรรยากาศในร้าน คนไม่ค่อยเยอะค่ะ เลยมาดูแลเรารวดเร็ว ชอบกำแพงลายไทยสวยดีค่ะ มีคาราโอเกะด้วย อยากยืมไมค์มาร้องจริงๆ

ร้านนี้ถ้าใครไม่ทานบุฟเฟห์ก็มีแนว A La Carte นะคะ 

ใครอยู่แถวนี้ อยากมาลองร้านใหม่ๆ ก็ลองมาแวะได้นะคะ ตอนนี้มีทั้งของคาว ของหวาน และบุฟเฟห์เลยค่ะ

เคยมาตึก The Taste ทองหล่อ ครั้งนึงแล้วซึ่งร้านนี้ยังไม่เปิด พอได้เห็นว่าร้านเปิดแล้ว โลโก้ร้านก็น่ารัก ขนมก็น่าทาน เราก็เลยแวะเวียนมาที่นี่อีกครั้งค่ะ ถึงจะไกล แต่ใจเราใกล้ขนมหวานเสมอ อิอิสำหรับการเดินทาง สามารถลงบีทีเอส สถานีทองหล่อ ซึ่งตึก The Taste จะอยู่ที่ซอยทองหล่อ 11 ค่ะ เดินเข้ามานิดเดียว ร้านอยู่ทางซ้ายมือ ชั้น 1 เลยค่ะบรรยากาศร้านน่านั่งจังค่ะ มีหมองอิงสีสันสวยงาม ซึ่งมีที่นั่ง 2 ชั้นนะคะ กว้างขวางพอควรเลยค่ะ นอนได้เลย 55 ซึ่งเราสามารถสั่งอาหารได้ที่เคาน์เตอร์ จ่ายเงิน และพนักงานจะมาเสริฟที่โต๊ะให้ค่ะ (ราคาในเมนูไม่มีบวกเพิ่มแล้วค่ะ)ช่วงนี้มีโปรโมชั่น แค่ Like & Follow IG หรือ Facebook @dollychurrocafe ก็รับส่วนลด 10% เลยค่ะ เราก็ยืนกดตรงนั้นเลยล่ะ อิอิเรากับเพื่อนอยากลองขนม ก็เลยขอเลือกเมนูที่มีชื่อร้าน Churro กับเมนูบิงซูที่เราชอบเป็นการส่วนตัวค่ะ อิอิ- Churro Cup Cake 155 บาท เป็นชูโรสแท่งๆวางเป็นวงกลมรอบๆถ้วย ตรงกลางจะมีครีมและสตอเบอรี่สดค่ะ ส่วนด้านล่างสุดมีซอสสตอเบอรี่ด้วยค่ะ
#ชูโรส อร่อยค่ะ กรอบนอกนุ่มใน ชอบค่ะ มีความหวานเบาๆ และหอมๆชินเนมอนดีค่ะ
#ครีม ออกมันๆอร่อยดีค่ะ แต่ทานเยอะก็แอบเลี่ยนนิดๆ ต้องทานสตอเบอรี่สดตาม ช่วยได้ดีเลยค่ะ
#ซอสสตอเบอรี่ จะออกอมหวานๆหน่อยค่ะ ทานคู่กับชูโรสก็เพิ่มรสชาติได้ดีค่ะ- Mango Bingsu 255 บาท น้ำแข็งใสรสนม ท้อปปิ้งด้วยเนื้อมะม่วง เสริฟพร้อมนมข้น#น้ำแข็งใสรสนม เนื้อละเอียดนุ่มฟู ชอบมาก รสชาติออกมันๆ ตอนแรกทานแล้วไม่ค่อยมีรสชาติ จนต้องเติมนมข้นเพื่อเพิ่มความหวาน แต่พอนมละลาย อร่อยมากๆๆๆๆ แบบว่าเป็นนมรสจืดที่ออกมันๆ ชอบสุดๆเลยค่ะ เพราะเราเป็นคนไม่ค่อยทานอะไรหวานๆ แต่ชอบทานมันๆ อารมณ์เหมือนทานนมผสมกะทิเลย
แต่ว่าเมนูนี้มีแค่น้ำแข็งใสกับมะม่วง ถ้วยใหญ่ด้วย เลยทำให้ทานไปเรื่อยๆออกเลี่ยนๆไปนิด แนวไม่มีอย่างอื่นมาตัดรสชาติดึงดูดความอยากทานค่ะ ถ้าเพิ่มพวกอัลมอนต์ ชีสเค้ก อะไรบ้างก็น่าจะอร่อยกว่านี้ค่ะ แต่สุดท้ายก็ทานเกือบหมดคนเดียว >.<
#มะม่วง เนื้อนุ่มหอมหวาน อร่อยๆค่ะ ทานคู่กับน้้ำแข็งใสรสนมมันๆนี่เข้ากันได้ดีค่ะ ปลื้มมมม
#นมข้น เติมความหวานของน้ำแข็งใสที่ออกจืดๆมันๆได้ดีค่ะที่นี่มีน้ำเปล่าบริการฟรีค่ะ

เมนูที่นี่มีอาหารคาวด้วยนะคะ เช่น โทสต์ไส้กรอกเบคอน โทสต์บลูโกกิชีส (หมูหรือเนื้อ) สลัดต่าง หรือชูโรสที่เป็นแนวคาวก็มีค่ะ

ใครอยากหาที่นั่งทานขนม บรรยากาศสบายๆ จะมาเดี่ยว มาคู่ หรือมาเป็นกลุ่ม ร้านนี้ก็เป็นทางเลือกที่แนะนำเลยจ้า

นัดเพื่อนมาที่นี่ ตั้งใจว่าอยากมาทานพิซซ่า ก็เลยหาข้อมูล แล้วเห็นว่าถาดเล็กสุด 8 ชิ้นเลยบอกเพื่อนไปทานร้านอื่นแทนแล้วกัน ไว้รวมพลได้เยอะกว่า 2 คนค่อยมาลองทาน

แต่พอมาถึง เพื่อนผู้มีความมุ่งมั่น ก็ขอไปดูหน้าตาพิซซ่า และด้วยความหิวบวกกับความสู้สตรองของสองสาวเรากะเพื่อน เพื่อนก็เลยบอกว่าทานเถอะ สั่งแค่พิซซ่ากะน้ำพอ ไม่หมดค่อยว่ากัน อ่ะ จัดไปสำหรับร้านนี้อยู่ชั้น B ในห้างเดอะสตรีทรัชดา อยู่ตรงข้าม ฟู้ดแลนด์ ค่ะจุดเด่นของร้านนี้ที่เป็นอันดับ 1 ของประเทศเกาหลี คือ 300% Principle of Mr. Pizza (หลักปรัชญา 300%) ก็คือ การนวดแป้งด้วยมือ 100% ท้อปปิ้งเยอะเต็มคำ 100% และ ใช้ตะแกรงอบพิซซ่า 100%บรรยากาศที่นี่จะมีที่นั่งด้านนอก รับลมธรรมชาติ และที่นั่งในห้องแอร์ค่ะ ซึ่งด้านนอก ยังมีโซนให้เราดูเชพหนุ่มเกาหลีทำแป้งพิซซ่าด้วย มีโยนๆให้ได้ตื่นเต้นด้วยค่ะเข้าร้านดูเมนู แล้วก็เห็นเซตสำหรับ 2 คนน่าสนใจ ชื่อ Deahan Set ราคา 500 บาท จะได้พิซซ่าหน้าชิคาโด ดีพ, ไก่ทอด 4 ชิ้น และบิงซู 2 ถ้วย บอกแบบนี้ จัดเลยทันที (เอ่อๆ ที่ว่าจะทานแค่พิซซ่ากะน้ำลืมๆไปแล้วล่ะ )- พิซซ่าหน้า Chicago Deep 389 บาท เป็นพิซซ่าแบบบางพอประมาณ ไม่บางมาก หน้าพิซซ่าอัดแน่นไปด้วยมอสซาเรนล่าชีสกับซอสมะเขือเทศจากอิตาลี่ชีสยืดดดดด ยืดสวยน่าทานมากๆค่ะ รสชาติอร่อยๆ ไม่ต้องเติมซอสอะไรเพิ่มเลยค่ะ ได้รสชีสพอดี มีรสซอสมะเขือเทศเปรี้ยวหวานไม่ให้เลี่ยนเกินไป ติดใจเลยค่ะ บอกเลยว่าทานกับเพื่อนคนละ 4 ชิ้นหมดแบบรวดเร็ว เพลินมากๆค่ะ- Ms.Chicken 109 บาท เป็นปีกไก่ทอดกรอบรสหวานเผ็ด รสชาติด้านนอกเผ็ดเข้มข้นดี หอมๆกระเทียม ชอบซอสสีเหลืองที่เสริฟมาทานด้วยกัน หอมๆเปรี้ยวเบาๆอร่อยดีค่ะ

ใครสั่งเซตนี้ไม่อยากทานไก่เผ็ด จะเลือกเป็น Mr.Chicken (ไก่กรอบอบน้ำผึ้ง) แทนก็ได้ค่ะ- Oreo Bingsu บิงซูโอริโอ้ 109 บาท น้ำแข็งใสรสนม วางท้อปปิ้งด้วยโอริโอ คอร์นเฟลกรสช็อคโกแลต ไอศกรีมวนิลา และราดซอสช็อคโกแลตค่ะน้ำแข็งใสรสนมออกเนื้อเป็นเส้นๆนุ่มฟูละลายในปากดีค่ะ รสชาติออกจืดๆแต่ไม่ได้จืดแบบน้ำ จะออกนมรสจืดค่ะ พอทานรวมกับอย่างอื่น รสชาติออกหวานพอดีเลยค่ะ ได้รสช็อคโกแลต มีเคี้ยวกรุบกรอบของโอริโอและคอร์นเฟลก และยังมีความหวานของไอศกรีมวนิลา พอละลายนี่เหมือนทานน้ำช็อคโอริโอ้ปั่นเลยค่ะ ก็อร่อยดีค่ะ- Mango Bingsu บิงซูมะม่วง 109 บาท น้ำแข็งใสรสนม วางมะม่วงชิ้นพอดีคำรอบๆ พร้อมราดซอสมะม่วงตบท้ายน้ำแข็งใสรสนมออกนมรสจืดเช่นกัน ซอสมะม่วงรสอมเปรี้ยวหวาน แต่เนื้อมะม่วงเปรี้ยวมาก ไม่อร่อยเลยค่ะ ไม่โดนใจเลย แล้วไม่มีไอศกรีมหรืออะไรมาตัดรสเปรี้ยว ทำให้มีแต่จืดกะเปรี้ยว ไม่ชอบเลยค่ะ

สำหรับเซตที่เราสั่ง ยังมีอีก 2 เซตค่ะ สำหรับ 3 ท่านและ 4 ท่าน ซึ่ง 3 เซตนี้ใช้ได้แค่ศุกร์ถึงอาทิตย์ค่ะ บอกเลยว่าราคาไม่แพงดี คุ้มๆค่ะ

การบริการถือว่าใช้ได้ แต่มีลืมบิงซูของเรา แต่พอมาเสริฟก็ขอโทษเรา ซึ่งเราให้อภัยค่ะ เพราะราคาในเมนูเท่าไหร่ก็เท่านั้นเลย ไม่มีจ่ายเพิ่มแล้วค่ะ

ร้านน่ารักๆที่ได้เห็นรูปจากไอจีร้าน บอกเลยว่าต้องมาค่ะ นัดๆกันสองสาว นั่งบีทีเอสลงสถานีทองหล่อ ต่อรถเมล์ 7 บาทตลอดสายตรงแยกทองหล่อ (ให้เลี้ยวซ้ายเดินเข้ามาในซอยสขุมวิท 55 นิดนึง จะมีป้ายรถเมล์ค่ะ) ลงแล้วข้ามถนนมาที่ซอยทองหล่อ 14 (ซอยคู่อยู่ขวามือ) เดินเข้ามาในซอยไม่ไกลค่ะ ก็จะเห็นร้านทางขวามือบ้านกระจกหลังสีขาวโดดเด่น สูงประมาณ 3 ชั้น สวยงามแตกต่างจากบ้านที่อยู่รอบๆ บอกเลยว่าแค่เห็นหน้าร้านก็ดูตื่นตาตื่นใจแล้วค่ะเมื่อเข้ามาในร้าน ชอบค่ะ บรรยากาศร้านดูสีขาวสะอาดตา ปูนเปลือย ตัดกับสีน้ำตาลและดำ ดูคลาสสิคดี มีตกแต่งต้นไม้สีเขียวรอบๆ ให้ดูสบายตามากขึ้น การสั่งขนม สามารถสั่งได้ที่เคาน์เตอร์ พอจ่ายเงินแล้ว ทางร้านจะมาเสริฟขนมให้ที่โต๊ะค่ะที่นั่งของร้านจะมี 2 ชั้นค่ะ การตกแต่งจะคล้ายๆกัน แต่ชั้นบนจะมีโซนที่นั่งเป็นกลุ่ม ส่วนชั้นล่างจะจัดแนวมาเป็นคู่มากกว่า เราก็เลยขอขึ้นไปดูชั้นบน เพราะเราอยากมาถ่ายรูปบรรยากาศให้ทั่วร้านค่ะ อิอิ ซึ่งชั้นบนนี่จะสามารถมองเห็นชั้นล่างได้ด้วยค่ะ มีต้นไม้กระถางเล็กๆให้ได้ถ่ายรูปเล็กน้อยด้วยค่ะ- Fox Tail Creme Brulee 195 บาท เมนูนี้สั่งเพราะเห็นรูปจากเพื่อนๆเลยค่ะ แล้วก็คิดในใจว่า จาเอา จาเอา 55

เป็นครีมบูเล่รสช็อคโกแลต ด้านบนมีสตอเบอรี่สด เสริฟพร้อมสายไหม หน้าตาคล้ายปุยเมฆที่ทำเป็นรูปหางสุนัขจิ้งจอก สวยงามดั่งใจเลยค่ะ# ครีมบูเล่ เข้มข้นช็อคโกแลตดีค่ะ หวานๆมันๆขมเบาๆ อร่อยๆค่ะ ด้านบนเป็นเกล็ดน้ำตาลเคี้ยวกรุบๆ ยังมีสตอเบอรี่สดเพิ่มความเปรี้ยวอมหวาน เข้ากันดีกับช็อคโกแลตมากๆค่ะ# สายไหม ไม่ได้นุ่มฟูเท่าที่ควร จะออกเหนียวนิดๆ ดึงทียืดเลย รสชาติหวานๆ เคี้ยวติดฟันเล็กน้อย อิอิ

สำหรับเมนูขนมอื่นๆ เหมือนน่าจะไม่มีปุยเมฆนี้ แต่ว่าสามารถสั่งเพิ่ม เพื่อความสวยงามในการถ่ายรูปก็ได้นะคะ- Signature Hot Cocoa 130 บาท ช็อคโกแลตร้อน ทีมีซอสช็อคโกแลตไหลเยิ้มอยู่ข้างแก้วอย่างสวยงาม ตรงปากแก้ววางด้วยคุ้กกี้มีรู ซึ่งรูตรงกลางจะเห็นฟองนมสีขาวนุ่มๆค่ะ
รสชาติช็อคโกแลตเข้มข้นใช้ได้ค่ะ ไม่หวานเกินไป ชอบค่ะ คุ้กกี้เป็นรสช็อคโกแลตเคี้ยวทานคู่กับเครื่องดื่มก็เข้ากันดีค่ะ- White Malt Cookies Toffee Nut Frappe 130 บาท เป็นนมปั่นผสมกับโอริโอ ด้านบนมีวิปครีม ซอสช็อคโกแลต โอริโอ และป๊อกกี้แท่งนึงวางสวยๆค่ะ
รสชาติพอดีค่ะ ไม่หวานแสบคอไป ได้รสนมๆมีเคี้ยวโอริโอเพลินๆด้วย และหอมๆมอลต์เลยค่ะ รสชาติละมุนดีค่ะแก้วนี้ราคาขนมเครื่องดื่มรวมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วค่ะไม่มีจ่ายเพิ่ม ซึ่งที่นี่มีห้องน้ำบริการด้วยค่ะ สะอาดสะอ้านดีค่ะ

ร้านนี้เปิดวันอังคารถึงอาทิตย์ เวลาเที่ยง ถึง 2 ทุ่ม ปิดทุกวันจันทร์ค่ะ

นอกจากจะได้ทานขนมและเครื่องดื่มอร่อยๆแล้ว ที่ร้านยังมีจำหน่ายสินค้าน่ารักๆ เช่น กระเป๋า เสื้อผ้า แก้วน้ำ สมุด และของกระจุ๊กกระจิ๊ก ให้ได้ช็อปเพลินๆเล็กน้อยด้วยค่ะ

ตามมาดื่มด่ำบรรยากาศน่ารักๆด้วยกันนะคะ

ไหนๆบิ๊กบอสก็อวสานแล้ว เลยขอตามมามาลองอาหารเกาหลีตบท้ายละครหน่อยค่ะ ร้าน JJANG มีชื่อเต็มๆว่า Jjang Authentic Korean Cuisine เป็นร้านอาหารเกาหลีที่ออกหลายรายการทีวีหลายรายการมากๆ จนเราตั้งใจว่าต้องมาลองสักครั้งหนึ่ง ร้านตั้งอยู่ที่สยามสแควร์ซอย 10 ชั้น 2 ตึกสยามวินเทจค่ะ ตึกที่ว่านี้อยู่ตรงหัวมุมถนนตรงข้ามกับ Park@Siam พอดีเป๊ะ เดินขึ้นจากบันไดไปก็เจอกับร้านเลย ภายในร้านมีที่นั่งไม่มากนักค่ะ ซักหกเจ็ดที่ได้ ร้านตกแต่งโทนไม้พร้อมงานอาร์ทริมผนัง แต่ละโต๊ะจะมีเตาไฟฟ้าตั้งไว้ให้ด้วย หลังจากอ่านเมนูเลือกอาหารได้แล้ว เค้าก็จะเอาผ้ากันเปื้อมาใส่กันกระเด็นให้ค่ะ ซึ่งตอนปรุงไม่ค่อยเท่าไหร่ จะกระด็นตอนตักกินนี่แล ฮ่าาาา เมนูนี้เราสั่งวันนี้เป็น
:: Jim Dak (S - 549 บาท) ::
เมนูนี้เป็นเมนูแนะนำที่มีที่นี่ที่แรกในไทยค่ะ “จิมดัก” คำว่า จิม นั้นแปลว่า ต้มหรือตุ๋น ส่วนคำว่า ดัก ภาษาเกาหลีแปลว่า ไก่ ค่ะ เมนูนี้เค้าเสิร์ฟมาในหม้อร้อนตั้งบนเตาไฟฟ้าเดือดปุดๆ มีให้เลือกสองซอสคือ ซอสดำที่เราออกเค็มหวานและซอสแดงที่รสออกเผ็ดหวานค่ะ เราเลือกเป็นซอสแดง น่องไก่นึ่งผัดซอสแดงเกาหลีกับวุ้นเส้นตังเหมี่ยนและผักต่างๆ วุ้นเส้นเส้นแบนเหนียวนุ่มสุดๆไปเลย สำหรับเราชอบสุดในเมนูนี้เลย ส่วนไก่เค้าต้มมากำลังดี เนื้อไม่เละมาก แล้วให้มาเยอะด้วย ที่ชอบอีกอย่างคือน้ำซุปเค้าค่ะ ข้นแล้วเคี่ยวมาก สามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ด้วย แต่ level 1 นี่ก็เผ็ดแล้วนะเราว่า ซดน้ำกันอร่อยเลยค่ะ :: Kim Bub 170 บาท ::
เมนูนี้เป็นข้าวห่อสาหร่ายค่ะ เครื่องมีเป็นพวกผักต่างๆและแฮม ห่อด้วยเต้าหู้และสาหร่ายอีกที อร่อยดีนะคะ ถือว่าทานเพลินๆระหว่างรออาหารมื้อหลักได้ หรือว่าจะทานเป็นอาหารหลักไปเลก็ได้เหมือนกัน เราสั่งข้าวเปล่าถ้วยละ 25 บาท มาทานด้วย จิงๆสั่งแต่จิมดักก็ได้นะคะเราว่า ทานวุ้นเส้นก็อิ่มแล้ว ฮ่าาาาเครื่องดื่มสั่งเป็นน้ำเปล่าค่ะ ขวดละ 20 บาท ส่วนน้ำแข็งมาเป็นถังเลย 40 บาท ถังเค้าน่ารักดีนะคะ ทางร้าน +vat7% เพิ่มต่างหากด้วย ที่ประทับใจอีกอย่างของร้านนี้คือ เพลงเกาหลีที่เค้าเปิดใหม่มากๆค่ะ อย่างน้อยก็ใหม่กว่าร้านอื่นอ่ะนะ 555+ ที่สำคัญ เค้าเปิดเพลงสามีแห่งชาติเกาหลีด้วยค่ะ แหม่ ฟินไปค่ะงานนี้ ส่วนพนักงานก็บริการดีมากค่ะ แค่หันไปสบตานิดเดียวก็รีบมาดูแลแล้ว ที่สำคัญระหว่างทานเค้าก็คอยมาคนหม้อมาเติมน้ำให้ด้วย เรียกว่าบริการดีสุดๆไปเลย

พอดีเรามาทานช่วงกลางวันค่ะ ช่วงนี้เค้ามีโปรลด 10% ตอน 10.00-16.00 ค่ะ ติดตามได้ที่หน้าเพจของทางร้านเลย ใครสนใจตามมาลองได้นะคะ ^ ^

Mango Tree – ร้านอาหารในเครือโคคาที่ขยายสาขามากมายทั่วโลก มีจุดเด่นที่การนำอาหารไทยๆของเรามายกระดับขึ้นด้วยวัตถุดิบระดับพรีเมี่ยม ขั้นตอนการปรุงที่พิถีพิถัน และการนำเสนอที่ดูดีมีรสนิยม โดยนอกจากจะมีอาหารไทยแบบดั้งเดิมแล้ว อีกหลายเมนูยังมีการนำมาสร้างสรรค์ดัดแปลงแบบฟิวชั่นได้อย่างน่าสนใจค่ะ สำหรับร้านที่สาขายอดพิมานริเวอร์วอล์ค หรือ Mango Tree On The River นี้มีจุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างคือบรรยากาศร่มรื่นรับลมริมน้ำกับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่มองเห็นวัดอรุณเยื้องๆอยู่ฝั่งตรงข้าม เหมาะกับจะพาแขกเหรื่อมาเลี้ยง หรือจะจัดมื้อโรแมนติกในโอกาสพิเศษก็ดูดีค่ะ***-ทำเลที่ตั้ง / การเดินทาง-***

ร้านอยู่ที่โครงการยอดพิมานริเวอร์วอล์ค ปากคลองตลาดค่ะ ถ้าไปทางรถยนต์ก็สามารถจอดรถในที่จอดของโครงการได้เลย แต่ถ้าใครจะไปทานมื้อค่ำและไม่อยากฝ่าการจราจรช่วงกำลังคับคั่งไป หรืออยากไปถึงร้านทางเรือเก๋ๆให้สมกับที่ร้านอยู่ริมแม่น้ำล่ะก็ ตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไปจนถึงดึกจะมีเรือ Speed Boat ของทางร้านรับส่งฟรีจากท่าเรือสาทรด้วย เรือออกทุก 1 ชั่วโมงค่ะ ถ้าใครจะใช้บริการเวลาโทร.จองแจ้งทางร้านไว้ด้วยก็ดี คนขับจะได้คอยเช็คจำนวนคนให้ไม่คลาดกัน แต่ต้องเตือนนิดนึงว่าการเดินทางวิธีนี้ไม่ค่อยเหมาะกับผู้สูงอายุนะคะ

***-บรรยากาศ-***

ร้านจะอยู่ริมสุดของตัวโครงการ ทางด้านที่ใกล้โรงเรียนราชินี โดยจะแบ่งเป็น 4 ชั้นค่ะชั้น 1 – เป็นครัวค่ะ

ชั้น 2 – เป็นบริเวณที่รับประทานอาหาร มีทั้งที่นั่งแบบ outdoor และ indoor โดยแม้จะนั่งด้านในก็มีหน้าต่างเปิดโล่งให้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้โดยรอบ สวยจริงๆค่ะชั้น 3 – เป็นบาร์เครื่องดื่มค่ะ
ชั้นดาดฟ้า – ส่วนนี้เป็นส่วนที่รับจัดปาร์ตี้ส่วนตัวด้วย ไม่แน่ใจว่าปกติแล้วจะเปิดให้ลูกค้าทั่วไปขึ้นไปได้หรือเปล่านะคะ

เรื่องบรรยากาศและการตกแต่งนี่เรียกได้ว่าพาใครมาก็ไม่อายค่ะ ลำพังแค่วิวก็ชนะเลิศแล้ว การตกแต่งก็ดี ไม่มากไม่น้อย ชอบเลย..

***-เมนูที่ลอง-***

ครั้งนี้ลองเป็น set menu ของทางร้านนะคะ ในเซ็ทจะมี..

● Mekhong on the River – เป็น cocktail ที่มีส่วนผสมหลักคือกาแฟ espresso ผสมเหล้าแม่โขง เนื่องจากเราไม่สันทัดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยขอให้ทางร้านเปลี่ยนเป็น mocktail ให้แทน ทางร้านก็จัดให้ค่ะ ได้มาเป็น mocktail เย็นๆที่หอมกาแฟเข้มข้น รสชาติหวานค่อนข้างมาก ได้กลิ่นเชอร์รี่อ่อนๆและมีความซ่าติดปลายลิ้นนิดๆ ดื่มเพลินดีเหมือนกันค่ะ● พล่าฟัวกราส์ – เมนูฟิวชั่นสุดครีเอทของทางร้านนี้ใช้ฟัวกราส์ชิ้นโตเท่ากำปั้น (วัตถุดิบนี่อลังการสุดๆ) ปรุงด้วยเครื่องพล่ารสอมเปรี้ยวอมหวานสดชื่น มีใส่พริกสดให้เผ็ดเล็กน้อยพอเสริมรส แนมด้วยมะม่วงสุกหั่นชิ้นจิ๋ว และท็อปด้วยฟองโฟมหนานุ่ม อร่อยและรสชาติเข้ากันดีมากๆค่ะ กับเมนูนี้ฟัวกราส์จะทำแบบพอให้กึ่งสุก ด้านในเหลวละลายในปาก และผิวนอกยังนุ่มทั่วกันทั้งชิ้น ไม่ได้จี่ให้กรอบนอกนุ่มในนะคะ ซึ่งก็ดูว่าเหมาะกับการปรุงแบบพล่าดี แต่ถ้าใครชอบให้ผิวนอกกรอบๆอาจต้องลองรีเควสดูน่ะค่ะ● ลาบซี่โครงหมูย่าง (ถ้าสั่งเดี่ยวๆจะราคา 420 บาท ค่ะ) – เป็นเมนูแนะนำของทางร้านที่ออกสื่อมาแล้วหลายสำนัก ทราบมาว่าใช้ซี่โครงหมูอนามัยเอสเพียว นำมาแช่น้ำสับปะรดให้นุ่ม จากนั้นหมักกับรากผักชีพริกไทย ก่อนจะนำไป Sous vide ให้สุกแล้วโรยด้วยเครื่องลาบ ...ฟังดูแล้วเกิดความคาดหวังสูงลิบว่าจะได้ทานเนื้อซี่โครงหมูแบบนุ่มฟินเวอร์แทบละลายในปากอะไรทำนองนั้น พอได้ทานจริงๆก็เลยแอบผิดหวังเบาๆว่ามันไม่ได้นุ่มปานนั้นน่ะค่ะ เมนูนี้เสิร์ฟมาเป็นซี่โครงหมูชิ้นโตๆ 6 ซี่ มีรอยบากเอาไว้ให้หั่นง่าย เนื้อหมูแม้จะไม่นุ่มมาก (ติดไปทางค่อนข้างแข็งเลยล่ะ) แต่ก็ปรุงรสมาดี ได้รสลาบแบบกำลังกลมกล่อม มีติดรสหวานบ้างแต่ก็มีน้ำจิ้มแจ่วเสิร์ฟมาพร้อมกันด้วย สำหรับคนไม่ชอบหวานก็พอใช้แก้รสกันได้นะ ข้อเสียคือพอเนื้อหมูไม่นุ่ม และใช้วิธีโรยเครื่องปรุงรสลาบแทนการคลุกเคล้าแบบลาบต้นตำรับ ก็เลยรู้สึกว่ารสชาติมันไม่ค่อยเข้าน้ำเข้าเนื้อซึมซาบเข้าในเนื้อหมูเท่าไหร่ ฟินไม่สุดอยู่นิดนึงค่ะ..สำหรับข้าวเปล่าที่นี่จะเสิร์ฟให้ฟรี เติมได้ตลอดนะคะ เป็นข้าวกล้องหอมมะลิอย่างดีหุงมาได้นุ่มนวลทีเดียว เรื่องวัตถุดิบนี่ยอมรับว่าที่นี่ใช้แต่ของดีจริงๆค่ะ

***-บริการพิเศษ-***

ครั้งนี้แม้จะมาทาน Dinner Set แต่เราโทร. ขอมาใช้บริการช่วงมื้อกลางวันทางร้านก็ไม่ว่าอะไรค่ะ เพราะมาตอนกลางวันนี่เองเลยได้ทราบว่าตั้งแต่เวลา 11.00-15.00 น. ของทุกวัน ทางร้านมีบริการบุฟเฟต์น้ำพริก ส้มตำ สลัด และผลไม้ให้ตักกันได้ไม่อั้นสำหรับคนที่สั่งเมนู a la carte ค่ะ (แต่ของเราเป็น set menu เลยไม่ได้สิทธิ์นี้นะคะ) เงื่อนไขคือสั่งเมนู a la carte 1 อย่าง / 1 คน ก็จะได้ทานบุฟเฟต์ 1 ท่าน ถ้าไปกันหลายคนจะไม่ให้น่าเกลียดก็สั่งอาหารให้ครบจำนวนคน โดยจะสั่งเป็นอาหารจานเดียวหรือสั่งกับข้าวมาแชร์กันทานก็ได้ แต่กรณีที่พาเด็กไปทางร้านก็อะลุ่มอล่วยให้เด็กร่วมทานบุฟเฟต์ฟรีด้วยได้นะคะ ฟังดูดีงามน่าสนใจทีเดียว เดินสำรวจไลน์บุฟเฟต์เค้าแล้วผักดูสดกรอบน่าทานมากเลยล่ะจัดเป็นอีกร้านหนึ่งที่บรรยากาศดีน่ามานั่งชิลล์จัดมื้อใหญ่แบบ slow life กันซักมื้อ ในแง่รสมือแม้จะไม่ถึงกับติดใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าอาหารแต่ละจานนั้นดูจัดเตรียมมาอย่างพิถีพิถันจริงๆ วัตถุดิบก็ชั้นเลิศ โดยรวมแล้วก็จัดเป็นมื้อที่รื่นรมย์มื้อหนึ่งเลยล่ะ ถ้ามีโอกาสก็แวะมาลองกันได้นะคะ

Daiki เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นเกรดพรี่เมี่ยมอยู่โครงการ 9:53 ใน ซ.ทองหล่อ 9 ร้านอยู่ชั้น 4 ออกจากลิฟท์มาเลี้ยวขวาก็เจอร้าน พื้นที่ภายในร้านเค้าไม่กว้างนัก ถ้าจะไปทานโทรจองก่อนก็จะดีค่ะ ไม่งั้นไปแล้วอาจไม่มีที่นั่ง
เมนูของที่ร้านก็จะมีที่ซูชิ ซาชิมิ สลัด โรล ด้ง อุด้ง ฯลฯ ราคาแพงตามทำเล และวัตถุดิบนะคะ
เครื่องดื่มเลือกดื่มเป็นชาเขียวเย็น ๆ ชื่นใจ หรือจะจิบเบียร์สดเย็น ๆ ก็มีนะคะ เลือกได้ตามชอบจ้า
เริ่มจากเมนูย่าง ๆ กันก่อนนะคะที่ได้ทานก็จะมี
- ปลาซัมมะย่างเกลือ , ปลาเซลมอนย่างซีอิ๊ว , ปลาฮอกเกะย่าง , ปลาสีกุนย่างเกลือ และแซลมอนย่างซอสมิโสะ
เราชอบย่างซีอิ๊วมากกว่าย่างเกลือนะคะ เนื้อจะไม่แห้งมาก อร่อยดีค่ะ
- สเต็กวากิว เนื้อนุ่มดีมาก ไม่ต้องจิ้มเลยค่ะ ทานเปล่า ๆ ก็อร่อยแล้ว
- คางปลาบุรีต้มซีอิ๊ว เนื้อเยอะดี น้ำราดอร่อย
- หัวปลาแซลมอนต้มซีอิ๊ว เมนูนี้น้ำราดก็รสเข้มข้นดี เนื้อปลาก็เยอะ
- ข้าวห่อสาหร่ายไส้โอโทโร่สับ และข้าวห่อสาหร่ายไส้ทูน่า เมนูนี้มาตรฐานทั่วไปค่ะ
คนรักซาชิมิต้องไม่พลาด
- Sashimi Matsu 3,850 บ.เป็นเมนูที่จัดเต็มปลาดิบนานาชนิด เนื้อแน่น เด้ง ๆ ไว้ด้วยกัน
- Daiki Sushi Sashimi Boat 3,500 บ. เมนูนี้จะเสิร์ฟทั้งซุชิ และซาชิมิ แต่ละคำทำเอาคนกินละลาย
- Daiki Deluxe 1,995 บ. ข้าวปั้นหน้าปลาดิบ 5 แบบ จานนี้รวมเอาเมนูซูชิเด็ด ๆ มาไว้ด้วยกัน
- Daiki Delight 1,445 บ. ข้าวปั้นหน้าปลาดิบ 5 แบบ จานนี้จะราคาย่อมเยาว์ลงมาอีกนิด
- นิกิริ และกุงกังซูชิแบบรวมมิตรหลากหลายแบบ ถ้ามาคนเดียวสั่งเซ็ตนี้ก็ได้นะ ได้ทานหลากหลายดีค่ะ
- จานนี้สำหรับ Sakmon Lover มีทั้งซาชิมิ มากิ นิกิริ
- เมนูนี้จะเป็นแนวฟิวชั่น เป็นนิกิริหน้าฟัวกราส์และเนื้อส้ม ซอสราดจะหวาน ๆ
- Hotate Spicy Cheese ใช้หอยเชลล์หั่น + ไข่กุ้ง ราดชีส ปรุงรสด้วยซอสเผ็ด รสจัดจ้านครีมมี่มัน ๆ ดีค่ะ
- สลัดผัก น้ำสลัดเป็นแบบข้นแต่ไม่เลี่ยนมาก ผักสดกรอบ
- นาเบะร้อน ๆ เครื่องตูม น้ำซุปใส ๆ หวานกำลังดี
- ข้าวหน้าหมูทอด 300 บ. เมนูนี้มาตรฐานทั่วไปค่ะ
- ข้าวแกงกะหรี่หมูทอด รสกลาง ๆ ไม่เผ็ดมาก
- สปาเก็ตตี้ผัดซอสครีมไข่กุ้ง ซอสครีมมี่ดี เคลือบเส้นทั่วดีด้วย ไข่กุ้งตรึม
- อุด้งแกงกะหรี่ เส้นกำลังดีไม่นิ่มเละ น้ำซุปไม่ข้นมากซดคล่องคอ
ก็เป็นอีก 1 ร้านอาหารญี่ปุ่นย่านทองหล่อคุณภาพดี ราคาสูงตามวัตถุดิบ และพิกัดทองหล่อแต่เมนูพวกปลาดิบของสดเริ่ดมาก

รอมาพอสมควรสำหรับสาขาใหม่ที่นี่ เริ่มเปิดวันที่ 9 มิถุนายนค่ะ ต้องรีบมาลองสิจ๊ะ รออะไร อิอิร้านนี้เป็นร้านแบรนด์ใหม่ ที่มีเจ้าของร้านคนเดียวกับร้านอาฟเตอร์ยูที่เป็นร้านสุดเลิฟของใครหลายๆคนนั่นเองค่ะสำหรับสาขานี้อยู่ในห้างสยามสแควร์วัน ชั้น 2 อยู่ฝั่งเดียวกับร้านอาฟเตอร์ยู โซน Winter ค่ะ (ตรงข้าม too cool for school) สังเกตโลโก้รูปน้องหมีสีดำถือถ้วยคากิโกริและช้อนได้เลยจ้า แบรนด์ใหม่นี้ คุณเมย์ เจ้าของร้านอยากให้แตกต่างจากร้านอาฟเตอร์ยู ด้วยการเพิ่มเมนูที่คนนิยมกันมากขึ้น ก็คือ Kakigori หรือน้ำแข็งใสนั่นเองค่ะ

เรามากับเพื่อนเลยได้ทานกันไปสองรสค่ะ- Mont Blanc Chestnut 245 บาท เป็นน้ำแข็งใสรสนม ด้านบนราดด้วยครีมเกาลัด และเนื้อเกาลัดเล็กน้อย เสริฟพร้อมซอสไซรัปด้วยค่ะน้ำแข็งใสรสนม จะไม่นุ่มฟูแบบร้านอาฟเตอร์ยูนะคะ จะเป็นเกล็ดๆให้ได้เคี้ยวนิดหน่อยค่ะ รสชาติออกจืดๆหน่อย แต่พอทานคู่กับครีมเกาลัดอร่อยมากๆค่ะ หวานหอมแต่ไม่หวานมากไป ชอบมากเลยค่ะ ด้านในทานไปจะเจอชีสเค้กนุ่มๆ ให้ได้ทานเพลินๆด้วยค่ะ ถ้าชอบความหวานเพิ่ม เติมซอสได้ค่ะ ส่วนตัวเราว่าไม่ราดก็หวานอร่อยได้ใจแล้วค่ะ แต่ใครชอบหวานๆหน่อย ซอสก็ทำให้เพิ่มความหวานอร่อยได้ดีค่ะ- Ichiko Yoghurt Panna Cotta 215 บาท เป็นน้ำแข็งใสสีขาวที่มีรสโยเกิร์ต ราดด้านบนด้วยซอสสตอเบอรี่ เสริฟพร้อมซอสสตอเบอรี่ถ้วยเล็กๆมาด้วยค่ะน้ำแข็งใสจะออกรสโยเกิร์ตเบาๆ อร่อยกว่ารสนมค่ะ ได้อารมณ์เคี้ยวเล็กน้อย ส่วนซอสสตรอเบอร์รี่รสหวานอมเปรี้ยวเล็กๆ เป็นสองรสที่ลงตัวเข้ากันดีค่ะ ทานไปเรื่อยๆด้านในจะเจอ Panna Cotta เนื้อเนียนนุ่มเด้งนิดๆ ให้ได้นุ่มละมุนลิ้นดีค่ะ เมนูนี้ชอบตรงที่มีหลายๆรสในเมนูเดียวที่ลงตัวดีค่ะ อร่อยเพลินเลยค่ะเมนูน้ำแข็งใส ชอบตรงพรีเซนเทชั่นที่เสริฟมาเป็นภูเขาสูงสวยงาม แต่ทานอย่างไรไม่ให้หกออกจากถ้วย ก็ยังเป็นปัญหาของเราทุกครั้งที่ทาน แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรคที่จะทานต่อเลยค่ะ ก็..อร่อยอ่ะ อิอิใครที่ชอบทานน้ำแข็งใสแนวนี้ มีอีกหลายเมนูน้ำแข็งใส ที่น่าลองอีกเยอะเลยค่ะ ทั้ง Yuzu Yoghurt Panna Cotta, Milo, Jumba, Hojicha, Bubble Milk Tea, Warabi Mochi ถ้าอ่านแล้วต่อมอยากทำงาน ก็ต้องรีบๆตามมาลองนะคะ

อยากกินสุกี้โบราณแบบนี้เลยหาสาขาใกล้ที่ทำงาน ไปกินกับเพื่อนกันคะ สาขานี้เป็นสาขาที่เปิดได้ไม่นาน มีโปรโมชั่นฉลองเปิดร้านใหม่อยู่เลย
ร้าน เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ

1

ที่ตั้งและการเดินทาง
ร้านอยู่ในโครงการ The Street รัชดา ถ้าขับรถเองจะสะดวกมากเลยคะ เพราะว่า จอดรถได้ฟรี 4 ชมเลย แต่ถ้าเรามารถไฟฟ้าใต้ดิน ก็ลงที่สถานี ศูนย์วัฒนธรรม แล้วก็ออกทางออกที่ 4 เดินมาทางสถานีห้วยขวาง The street จะอยู่เลย Big C ไป ส่วนตัวร้าน อยู่ชั้น 4 ตรงติดกับทางออกลานจอดรถเลยที่นี่เขาไม่ได้มีแค่สุกี้ ยังมีแบบปิ้งย่างด้วยคะ แต่วันนี้เรามาเพื่อสุกี้โบราณเท่านั้น สุกี้เขาจะไม่มีเครื่องพวกลูกชิ้น นู่นนี้ เกี๊ยว หรือหมูหลายๆ แบบมาให้
เขาจะมีให้เลือก เป็น หมู เนื้อ ซีฟู้ด แล้วก็ไก่ ราคา ชุดเล็ก 280B ชุดใหญ๋ 360B ถ้าเราสั่งมาก็จะมีผักน้อยๆ กับวุ้นเส้นมาให้ด้วยคะ

1

1

1

2

ชุดใหญ่กินได้ ประมาณ 4 คนอิ่มเลย
ส่วนผักก็มี หลายอย่าง สั่งมาเพิ่มได้คะ นอกจากชุดเนื้อ ก็จะมีพวกเต้าหู้ ปลาหมึกกรอบ เต้าหู้ปลาพวกนี้คะ เราก็สั่งมาเพิ่มต่างหากได้
วันนี้เรามากับแก๊งค์กินเนื้อก็เลยสั่งเป็นชุดเนื้อใหญ่ เขาเสริฟมาจะ ตอกไข่มาให้ 2 ใบด้วย ตัวเนื้อ ก็จะหมัก น้ำที่เราว่าอร่อยดี มาด้วย เวลากินก็ คนไข่กับเนื้อแล้วเอาลงไปเลย ตอนแรกน้ำแกงพวกเราก็บ่นๆ กันว่าจืด แต่กินไปก็รู้เหตุผล เพราะที่เขาหมักมา พอใส่ไปในน้ำแกง เริ่มเดือด นานๆ รสก็เข้มไปเรื่อยๆเลย เนื้อคือสิ่งดีงามมากสำหรับเรา ชิ้นใหญ่และเนื้อดีมาก เขาหมักจนนิ่มสุดๆๆเลย รสชาติเขาก็ได้กลิ่น ตุ๋นยาจีนประมาณนั้น น้ำจิ้มเขาก็อร่อย มันไม่หวานมาก ไม่ต้องใส่มะนาวเพิ่มเลย น้ำจิ้มเราว่าพอดีแล้วส่วนอาหารเสริม เราสั่งมาทาน 2 อย่างคะ ออส่วนกับปลาหมึกยัดไส้กุ้ง เรารีวิวแต่ ปลาหมึกแล้วกันเพราะไม่กินออส่วนอยู่แล้ว

ปลาหมึกยัดไส้กุ้ง เขาเอาปลาหมึกมายัดไส้กุ้งสับ แล้วราดด้วยน้ำหวานนิดๆ ที่ใส่พริก ต้นหอม เสริฟมาในกะทะร้อน
จานนี้เราว่าได้อยู่ ปลาหมึกเขาชิ้นใหญ่ๆ แต่น้ำราดก็จิดๆ ไปนิดออส่วน เพื่อนกินกัน เราไม่ค่อยชอบเมนูออส่วนเท่าไหร่ หอยไม่ได้ใหญ่มาก แต่เขาผัดมาแบบแห้งๆ ไม่ได้เหนียวหนึบๆ อย่างงี้ค่อยกินได้หน่อย เราชอบเนื้อเขาสุดๆๆ เลยคะ มันนิ่ม แล้วน้ำแกงพอยิ่งงวดๆ ยิ่งอร่อยเลย มันจะข้นเครื่องหมัก ข้นไก่ คิดแล้วอยากกินอีกเลย

วันนี้จะพาไปกินอาหารญี่ปุ่นกันอีกแล้วนะคะ ซึ่งร้านนี้จะอยู่ที่เอเชียทีคเดอะริเวอร์ฟรอนท์ค่ะ ร้านนี้อยู่โกดัง 10 ติดกับร้าน Osha Thai (Flann O'Brien เก่า) เลยนะคะร้าน Ibushi Gingiro เป็นร้านที่ค่อนข้างใหญ่โตเลยนะคะ ที่นั่งเยอะมากๆ เลยหละค่ะวันนั้นเราได้นั่งโซนฝั่งซ้ายนะคะ ก็ค่อนข้างเป็นส่วนตัวพอสมควรค่ะมาดูเมนูกันฮับ ราคาสูงพอควรเลยทีเดียวแหละ แต่เราเป็นเวาเชอร์มาค่ะ ราคา 699++ ถือว่าโอเคเลยชุดฟอร์มของพนักงานที่นี่นะคะวันนั้นเราสั่งเป็นชาร้อนมาค่ะ มีเป็นกาให้มาเลยนะฮับ ราคา 60++ บาทค่ะไปกับเพื่อนสองคน มีเวาเชอร์คนละใบ เลยสั่งแบบไม่เหมือนกันเลยค่ะ
สตาร์ตเตอร์ มีให้เลือกสามตัวค่ะ คือ สลัดปลาทอดกรอบ หอยฟินเดอแคลร์ และสลัดปูนิ่มค่ะ ของเพื่อนเป็นสลัดปูนิ่มนะคะ เราชิมไปหน่อยหนึ่ง เราว่าเขาทอดปูมาขมไปค่ะ ไม่แน่ใจว่าใช้น้ำมันซ้ำหรือเปล่า เลยไม่ค่อยโอสำหรับเรา แต่เพื่อนว่าโอเคนะคะ น้ำสลัดอร่อย และผักโอค่ะ สำหรับเราเสียที่ปูอย่างเดียวสตาร์ตเตอร์ของเราเลือกหอยฟินเดอแคลร์ค่ะ ให้มาหนึ่งตัว หอยเค็มง่าาาา เค็มโดดเลยค่ะ ถ้าจะให้เบรครสเค็ม ต้องพยายามกินทุกสิ่งอย่างที่ผสมมารวมทั้งซอสในฝาหอยด้วยนะคะ จะช่วยลดความเค็มลงได้ค่ะต่อไปเป็นอาหารจานหลักค่ะ มีให้เลือกระหว่างยากิโทริเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่น ปลาฮอกเกะย่างเสิร์ฟพร้อมข้าวญี่ปุ่น ข้าวดงบุริ หรือซูชิเซ็ทค่ะของเพื่อนเป็นซูชิเซ็ตนะคะ เพื่อนบอกว่าโอเค ไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้สดว้าวแบบที่ควรเป็นค่ะ
ของเราค่ะ ข้าวดงบุริ ปลาสดปานกลางเช่นกันค่ะ ไม่แย่แต่ก็ไม่ว้าวนะคะ เสียดายง่ะ ด้วยตัวร้านและระดับของร้าน มันควรสดว้าวมากกว่านี้นะคะไข่หวานตัวนี้ เพื่อนบล็อกเกอร์สั่งเพิ่มมาให้ลูกสาวค่ะ น้องบอกว่าอร่อยนะคะส่วนของหวานมีให้เลือกสองอย่างนี้เท่านั้นค่ะ ตัวไอศกรีมอร่อยค่ะ หอมหวานดี เวเฟอร์และอื่นๆ ใช้ได้ แต่ถั่วแดงแห้งไปค่ะราคาที่จ่ายเพิ่มนะคะ นอกเหนือจากเซ็ตละ 699++ ของเวาเชอร์แล้วค่ะ ชอบที่ที่นี่ให้แบบสอบถามมาเลยนี่แหละค่ะ ก็แนะนำไปหลายๆ อย่างนะคะจากนั้นก็เก็บภาพอื่นๆ ของเอเชียทีคต่อค่ะ มีนักแสดงมาแสดงกันพอควรนะคะ
สำหรับใครที่จะนั่งแท็กซี่ต้องไปติดต่อคิวที่นี่ค่ะ เสียค่าบริการเพิ่มอีก 20 บาทนะคะสรุปสำหรับร้านนี้นะคะ
ร้านสวยมากค่ะ บริการโอเค แต่คือเรียกพนักงานยากไปหน่อยค่ะ น่าจะมีปุ่มกดเรียกสักนิดหนึ่ง เพราะเรานี่ โบกมือแล้วโบกมืออีก จนแทบจะเต้นบัลเลต์เรียกร้องความสนใจ กว่าจะเห็นกันน่ะค่ะ ทั้งที่วันนั้นลูกค้าก็ไม่ได้เยอะมากนะคะ อาหารสดปานกลางค่ะ ซึ่ง..ค่อนข้างอยากให้ปรับปรุงนะคะ เพราะร้านระดับนี้ ขายราคานี้ ของควรว้าวกว่านี้อะนะคะ แหะๆ