Read full review
2012-05-16
80 views
ในซอยเล็กๆของย่านธุรกิจที่สับสนวุ่นวายใจลางเมืองกรุงเทพมหานคร ไม่ไกลไปจากแยกนราธิวาส ที่เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างถนนที่ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในแหล่งที่มีการจราจรหนาแน่นที่สุดในประเทศไทย คือถนนสาทรและถนนนราธิวาส ใครจะสามารถจินตนาการได้ ว่าจะมีร้านอาหาร ที่ตกแต่งด้วยไสตล์ยุโรปตอนกลาง ในบรรยากาศของชนบทยุคก่อนปฏิวัติอุตสาหกรรม ตั้งอยู่ท่ามกลางตึกสูงระฟ้า รายล้อมไปด้วยนักธุรกิจและพนักงานบริษัททั้งชาวไทยและชาวต่างชาติตัวอาคารเป็นตึกที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ให้ขับกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกออกมาได้อย่างเต็มที่ การใช้กระจกแทนผนัง และการปรับโครงเพดานให้สูง สร้างความรู้สึกโปร่ง พร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดของการประดับ
ตัวอาคารเป็นตึกที่ได้รับการตกแต่งใหม่ ให้ขับกลิ่นอายของวัฒนธรรมตะวันตกออกมาได้อย่างเต็มที่ การใช้กระจกแทนผนัง และการปรับโครงเพดานให้สูง สร้างความรู้สึกโปร่ง พร้อมกับความใส่ใจในรายละเอียดของการประดับตกแต่งอย่างมีรสนิยม และเพลงประกอบในไสตล์ classical jazz ทำให้ร้าน Colonial Bistro เป็นร้านอาหารที่สร้างความแตกต่างและโดดเด่นออกมาจากอาคารและสิ่งปลูกสร้างโดยรอบได้อย่างชัดเจน
บนชั้นสอง เป็นโซนที่จัดเอาไว้เพื่อบริการลูกค้าที่ต้องการรับประทานอาหาร ถูกตกแต่งไว้อย่างขาวสะอาด ด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์ที่เน้นโทนสีขาวสไตล์วินเทจ พร้อมโซนเก้าอี้หวายริมหน้าต่าง และโซนโซฟาในช่วงกลางร้าน
สำหรับอาหาร ร้าน Colonial Bistro ก็ได้เตรียมรายการเอาไว้เพื่อรองรับความหลากหลายทางด้านรสนิยม ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อิตาลี หรือแม้แต่อาหารสไตล์ฟิวชั่น ที่เป็นการผสมผสานวัตถุดิบปนแบบไทย นำมาปรุงด้วยวิธีการแบบตะวันตก เพื่อสร้างความแตกต่างและแปลกใหม่ให้กับแมนูของร้านได้อย่างมีศิลปะ
เมนูที่เสิร์ฟมาในวันนี้ แบ่งเป็น main course คือ ลาวิโอลีครีมต้มยำ และเฟตตูชินีครีมเพสโต แซลมอน พิทาชิโอ พร้อมกับ side dish อันประกอบด้วยปลาหมึกชุบแป้งทอดเคลือบชีส
สำหรับเรื่องรสชาติ ทางร้านเน้นทำโดยเน้นรสชาติที่ละมุน ไม่เน้นไปทางเค็ม หวาน หรือเผ็ด แต่ค่อนข้างบกพร่องไปในทางรสสัมผัส และวิธีการปรุง โดยลาวิโอลีครีมต้มยำ มีการใช้ครีมค่อนข้างเยอะ ทำให้กลบกลิ่นและสัมผัสของเครื่องต้มยำ และการต้มลาวิโอลี ทำได้ยังไม่ดีเท่าที่ควร ทำให้บางชิ้นแข็ง ในขณะที่บางชิ้นก็นิ่มเกินไป
Post