Video
Read full review
2012-07-08
82 views
ฟูจิย้ายร้าน วันนี้งากับแม่ตั้งใจมาทานเที่ยง ที่ฟูจิสาขาเดอะมอลล์บางกะปิกันค่ะ ตอนแรกก็เดินไปที่ชั้น 2 ตรงดิ่งไปยังร้านฟูจิที่เคยไปทานกันประจำ ปรากฎว่าร้านแถบนั้น มีไม้อัดกั้นปิดปรับปรุง งากับแม่เลยกะจะเปลี่ยนไปทานที่สาขาโลตัสบางกะปิกันค่ะ ระหว่างจะลงไปที่บันไดเลื่อน ก็ปรายตาขึ้นไปมองยังชั้น 3 ของอีกฝั่ง งาจำโลโก้ร้านที่เป็นสีน้ำเงินของฟูจิได้ ถึงได้รู้ว่าฟูจิย้ายร้านจากชั้น 2 ไปชั้นที่ 3 แล้วค่ะที่ตั้ง ร้านฟูจิสาขาเดะมอลล์บางกะปิ ปัจจุบันนี้ อยู่บริเวณชั้น 3 ค่ะ ถ้านับชั้น G ด้วย ร้านอยู่ที่ชั้น 4 ค่ะ ถ้าเข้ามาทางหน้าห้าง ให้เดินขึ้นบันไดเลื่อนตัวขวามือ ร้านอยู่บริเวณฝั่งน้ำตกค่ะ ชั้นนี้ บริเวณนี้ จะมีร้าน ฮอทพอท,ซูกิชิโซลกริล บัฟเฟต,ออตโตยะ โดยร้านฟูจิจะอยู่ตรงก
ฟูจิย้ายร้าน วันนี้งากับแม่ตั้งใจมาทานเที่ยง ที่ฟูจิสาขาเดอะมอลล์บางกะปิกันค่ะ ตอนแรกก็เดินไปที่ชั้น 2 ตรงดิ่งไปยังร้านฟูจิที่เคยไปทานกันประจำ ปรากฎว่าร้านแถบนั้น มีไม้อัดกั้นปิดปรับปรุง งากับแม่เลยกะจะเปลี่ยนไปทานที่สาขาโลตัสบางกะปิกันค่ะ ระหว่างจะลงไปที่บันไดเลื่อน ก็ปรายตาขึ้นไปมองยังชั้น 3 ของอีกฝั่ง งาจำโลโก้ร้านที่เป็นสีน้ำเงินของฟูจิได้ ถึงได้รู้ว่าฟูจิย้ายร้านจากชั้น 2 ไปชั้นที่ 3 แล้วค่ะที่ตั้ง ร้านฟูจิสาขาเดะมอลล์บางกะปิ ปัจจุบันนี้ อยู่บริเวณชั้น 3 ค่ะ ถ้านับชั้น G ด้วย ร้านอยู่ที่ชั้น 4 ค่ะ ถ้าเข้ามาทางหน้าห้าง ให้เดินขึ้นบันไดเลื่อนตัวขวามือ ร้านอยู่บริเวณฝั่งน้ำตกค่ะ ชั้นนี้ บริเวณนี้ จะมีร้าน ฮอทพอท,ซูกิชิโซลกริล บัฟเฟต,ออตโตยะ โดยร้านฟูจิจะอยู่ตรงกลางระหว่างร้าน โนบุ และร้านซิสเลอร์ค่ะ สำหรับร้านซิสเลอร์ก็ย้ายมาบริเวณนี้พร้อมกันกับร้านฟูจินะคะ
บรรยากาศหน้าร้าน ร้านฟูจิโฉมใหม่ ดูดีและทันสมัยและกว้างขวางกว่าเดิมมากค่ะ โดยเริ่มจากบรรยากาศหน้าร้าน จากเดิมเป็นต้นไผ่เขียวๆ และสติกเกอร์ลายดอกซากุละใหญ่ๆแปะที่ผนังกระจก เปลี่ยนเป็นกระจกใสสลับฝ้าขุ่นๆที่เป็นรูปลายต้นไผ่สูงๆยาวๆ และหน้าร้านจะมีโลโก้สีน้ำเงิน บนผนังยาวสีน้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์ของฟูจิค่ะ
บรรยากาศภายในร้าน ที่เปลี่ยนจากเดิมไปจนผิดหูผิดตาคือความสว่างค่ะ แม่งายังทักเลยค่ะ โดยร้านปัจจุบันจะเน้นโทนสีอ่อนคือ สีขาว สีครีม นอกจากจะทำให้ดูสว่างแล้ว ทำให้ร้านดูกว้างขวางขึ้นด้วย พาทิชั่นตรงพนักเก้าอี้ ก็อยู่ในระดับต่ำกว่าเดิม ไม่ทำให้อึดอัดแต่พอนั่งแล้วยังคงให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวอยู่ และสะดวกในการให้บริการของพนักงาน เพราะไม่มีผนังมาบังตาค่ะ ภายในร้านมีการเปิดเพลงญี่ปุ่นขับกล่อมบรรยากาศ งาว่าร้านโฉมใหม่นี้มี กลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นเหลืออยู่น้อยไปหน่อยค่ะ ข้อดีคือร้านดู สว่าง กว้างขวางขึ้น ข้อเสียคือ ถ้าไม่ดูโลโก้ร้าน และภายในร้านไม่ได้เปิดเพลงญี่ปุ่น ก็ไม่รู้เลยว่าเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นอ่ะค่ะ (ความเห็นส่วนตัวนะคะ)
เมนู แม้ร้านจะปรับปรุงใหม่ แต่เมนูยังเป็นเล่มเดิม งาว่าก็ดีนะคะ เพราะคนมาทานบ่อยๆ เค้ายังคุ้นเคยกับเมนูแบบนี้อยู่ และรู้ว่าหน้าไหนเป็นรายการอาหารอะไรเครื่องดื่ม วันนี้งากับแม่สั่งน้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็งเปล่า 2 แก้ว น้ำเปล่าขวดขนาดกลางๆ ราคา 15 บาท เองค่ะงาว่าไม่แพงนะคะ ถ้าเทียบกับร้านอาหารในห้างร้านอื่นๆ
โซบะเนื้อ เมนูนี้ของแม่งาเองค่ะ มีให้เลือก 2 แบบ คือเนื้อ หรือ หมู แม่งาเลือกเนื้อค่ะ มาเสริฟถ้วยใหญ่เชียวค่ะ แม่งาบอกว่าทานไม่หมดแน่เลยเพราะไม่ค่อยหิว สุดท้ายทานหมดก่อนงาอีกค่ะ คิคิ แม่งาบอกว่า เส้นโซบะเหนียวนุ่มอร่อย น้ำซุบรสชาติก็อร่อยแบบไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มแล้ว คือจะเค็มกำลังดี มีรสชาติของมิโซะหรือเต้าเจี้ยวญี่ปุ่นจางๆ เค้าใส่ต้นหอมมาในน้ำซุปด้วย ทำให้เพิ่มความหอมเข้าไปอีกค่ะ เนื้อเค้าก็ให้มาหลายชิ้น แม่งาบอกว่าเค้าเคี่ยวมาได้เปื่อยดี พอเอาเข้าปากเนื้อจะยุ่ยเลย ไม่ต้องออกแรงเคี้ยวมากค่ะ เมนูนี้ราคา 150 บาท ค่ะช้อน ก่อนอาหารจะมา เค้าเอาช้อนมาให้ก่อนเลยค่ะ คนละคัน โดยลูกค้าไม่ต้องขอ งาว่าดีมากเลยนะคะ เพราะงากับแม่ถนัดใช้ช้อนคู่กับตะเกียบทานอาหาร มากกว่าใช้ตะเกียบอย่างเดียวอ่ะค่ะ
กุ้งเทมปุระราดไข่ ไม่รู้เรียกถูกป่าว แต่ชื่อจะประมาณนี้อ่ะค่ะ เป็นข้าวญี่ปุ่น โปะด้วยกุ้งเทมปุระหรือกุ้งชุบแป้งทอด แล้วราดด้วยไข่ที่เค้าปรุงมา อร่อยมากค่ะ กุ้งกรอบๆที่ราดด้วยไข่ ที่ปรุงมากับต้นหอม และหอมหัวใหญ่ ทำให้เพิ่มความหอมให้กับไข่ มีรสชาติเค็มๆของโชยุหรือซีอิ้วญี่ปุ่น ผสมกับความหวานตามธรรมชาติของหอมหัวใหญ่ ทำให้รสชาติกลมกล่อมมากค่ะ ไข่ที่เค้าปรุงมาเป็นน้ำขลุกขลิกชุ่มๆ ทานพร้อมข้าวญี่ปุ่นร้อนๆ อร่อยมากๆค่ะ เมนูนี้เค้าเสริฟมาพร้อมซุปมิโซะ และกิมจิค่ะ ชุดนี้ราคา 140 บาทค่ะซุปมิโซะ หอมกลิ่นเต้าเจียวญี่ปุ่นดีค่ะ รสชาติเค็มนิดๆ ซดเป็นน้ำซุบ คล่องคอดีค่ะ เพราะไม่เค็มมาก ในซุปมี เต้าหู้ญี่ปุ่นหั่นเต๋า สาหร่ายญี่ปุ่นเป็นใบๆ เห็ดเข็มทองค่ะ
กิมจิ งาว่าเค้าให้มาในปริมาณที่น้อยไปหน่อย คีบ 3 คำก็หมดแล้วอ่ะค่ะ วันนี้กิมจิดูสดใหม่ดีค่ะ ผักกรอบๆ ชิ้นขนาดกำลังดี รสชาติเปรี้ยวอมหวานแบบกลมกล่อม ไม่มีรสชาติไหนโดดออกมาค่ะ งาชอบค่ะ
ชุดซูชิ สั่งเป็นชุดธรรมดา เสริฟมาพร้อมซุปมิโซะค่ะ ซูชิมีหน้าปลาดิบ เช่นปลาแซลม่อน และปลาอะไรอีกก็ไม่รู้ อีก 2 อย่าง นอกจากนั้นมีซูชิหน้าปลาย่าง หน้าปูอัด หน้ากุ้ง หน้าไข่หวาน ข้าวห่อสาหร่ายใส้ปลาดิบ ซูชิงาว่าเค้าทำมาคำใหญ่เกินไปค่ะ เวลาทาน กุลสตรีอย่างงาต้องอ้าปากกว้างๆ เพราะงาชอบทานคำละชิ้นเลย ข้าวปั้นที่นี่เอาเข้าปากแล้วแทบเคี้ยวไม่ได้ค่ะ เพราะคำใหญ่ทานทีไม่เหลือพื้นที่ในปากเลย แถมเค้าป้ายวาซาบิมาบนข้าวปั้นแล้ว งาไม่รู้ ก่อนทานได้โปะวาบิไปเยอะเลย จี๊ดขึ้นสมองเลยค่ะ แต่ก็อร่อยดี ในเซตนี้งาชอบหน้าปลาย่างที่สุดค่ะ หอมกลิ่นย่างๆ เค็มนิดๆเนื้อปลาก็นุ่มดีค่ะ รองลงมางาชอบ ข้าวห่อสาหร่ายใส้ปลาดิบค่ะ เพราะขนาดพอดีคำ เนื้อปลาก็หวานสดดีค่ะ ซูชิเซตนี้งาต้องทานคนเดียว เพราะแม่งาไม่ชอบทานวาซาบิอ่ะค่ะ อิ่มตื้อเลย เซตนี้ราคา 160 บาทค่ะ
พุดดิ้งชาเขียว งาชอบมากเลยค่ะ พุดดิ้งชาเขียว รสสัมผัสนุ่มแทบไม่ต้องเคี้ยว และเนื้อพุดดิ้งรู้สึกยังมีผงชาเขียว ผสมอยู่ค่ะ รสชาติขมนิดๆ จืด หอมชาเขียวมากๆ ด้านบนราดด้วยถั่วแดงหวานๆ พอทานคู่กันรสชาติไม่หวานมากอร่อยมากเลยค่ะ ราคา 65 บาทค่ะ ถั่วแดงโมจิ เป็นของหวานประจำตัวแม่งาค่ะ มาฟูจิทุกทีต้องสั่งทุกที มาเที่ยวนี้ยังคงความอร่อยไม่เปลี่ยนแปลงค่ะ มาเสริฟร้อนๆ ถั่วแดงเค้าเคี่ยวมาเปื่อยเละดี รสชาติหวานถึงใจ ทานคู่กับแป้งโมจิ เหนียวๆเป็นชิ้นๆ รสชาติจืดๆ อร่อยเข้ากันมากๆค่ะ ราคา 65 บาทค่ะ
สรุปนะคะ รสชาติอาหาร งาว่าอร่อยมากค่ะ เพราะรสชาติถูกปากงากับแม่มากค่ะ คุณภาพอาหารจัดว่าอยู่ในเกณฑ์ดีค่ะ บรรยากาศร้านสาขานี้เพิ่งปรับปรุงใหม่ รวมๆแล้วดีมากค่ะ ความสะอาด ก็ดีมากอีกเช่นกันค่ะ เพราะพนักงานหมั่นมาเก็บถ้วย เก็บขยะบนโต๊ะเรื่อยๆค่ะ การบริการ รวดเร็ว ฉับไว หน้าตารับแขกค่ะ ราคา งาว่าไม่แพงค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกทานอะไร วันนี้งากับแม่เลือกทานอาหารแต่ละเมนูราคาไม่สูง เพราะจะได้สั่งอาหารทานได้หลายๆอย่างค่ะ สรุปค่าใช้จ่ายมื้อนี้รวมเซอร์วิสชาจน์ด้วย จ่ายไป 654 บาทค่ะ ร้านฟูจิสาขาเดอะมอลล์บางกะปิ งากับแม่จะกลับมาทานอีกแน่นอนค่ะ
Post
