Read full review
2011-08-05
56 views
ได้มีโอกาสไปเดินเล่นที่ The Circle ราชพฤกษ์มาค่ะเป็นมอลล์ที่ชิลล์มากๆ อาคารร้านรวงสีสันสดใสน่ารักสไตล์เดียวกับปาลิโอ้ เขาใหญ่หลังจากเดินเล่น ชมบรรยากาศแล้วก็ค้นพบร้านนี้เข้าค่ะ ส้มตำดอกรักเป็นร้านส้มตำสไตล์ผู้ดีนิดนึง น่ารักหน่อยๆ มีสไตล์เป็นของตัวเองตัดสินใจเข้าไปชิมโดยไม่ลังเลเพราะเคยทานร้านนี้ตอนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วค่อนข้างประทับใจเพิ่งจะรู้ว่าเค้ามาเปิดสาขาที่กรุงเทพแล้วแต่เท่าที่สังเกตบรรยากาศร้านของสาขาที่กรุงเทพจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เชียงใหม่นะคะเพราะที่เชียงใหม่จะมีตัวการ์ตูนสีชมพู สีเหลือง ประดับผนังอยู่เต็มแต่ที่สาขานี้จะเน้นการตกแต่งด้วย วงกลม ในสีม่วง+ชมพู แต่ยังคงคอนเซปท์โต๊ะสีขาวเหมือนเดิมมาถึงอาหารกันบ้างดีกว่า เมื่
เป็นมอลล์ที่ชิลล์มากๆ อาคารร้านรวงสีสันสดใสน่ารักสไตล์เดียวกับปาลิโอ้ เขาใหญ่
หลังจากเดินเล่น ชมบรรยากาศแล้วก็ค้นพบร้านนี้เข้าค่ะ
ส้มตำดอกรัก
เป็นร้านส้มตำสไตล์ผู้ดีนิดนึง น่ารักหน่อยๆ มีสไตล์เป็นของตัวเอง
ตัดสินใจเข้าไปชิมโดยไม่ลังเล
เพราะเคยทานร้านนี้ตอนที่ไปเที่ยวเชียงใหม่แล้วค่อนข้างประทับใจ
เพิ่งจะรู้ว่าเค้ามาเปิดสาขาที่กรุงเทพแล้ว
แต่เท่าที่สังเกตบรรยากาศร้านของสาขาที่กรุงเทพจะดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เชียงใหม่นะคะ
เพราะที่เชียงใหม่จะมีตัวการ์ตูนสีชมพู สีเหลือง ประดับผนังอยู่เต็ม
แต่ที่สาขานี้จะเน้นการตกแต่งด้วย วงกลม ในสีม่วง+ชมพู แต่ยังคงคอนเซปท์โต๊ะสีขาวเหมือนเดิม
มาถึงอาหารกันบ้างดีกว่า
เมื่อเปิดเมนูเข้าไปก็ค้นพบว่า เมนูอาหารค่อนข้างแตกต่างกันค่ะ มีเมนูใหม่ๆ น่าลองหลายอย่าง
แต่เมนูห้ามพลาดสำหรับร้านนี้ที่เราเคยติดใจมาจากเชียงใหม่ ต้องนี่เลยค่ะ ส้มตำดอกรัก (180 บาท) เป็นส้มตำไทยใส่ปูนิ่มทอด
จานนี้เราว่าที่เชียงใหม่จัดจานสวยกว่า (เสิร์ฟมาเป็นตัวปูชัดเจน)
แล้วรสชาติก็กลมกล่อมกว่าด้วยนะ แต่ก็ไม่ใช่ว่าที่นี่ไม่อร่อย แต่เหมือนมันยังไม่ถึง
(บอกไม่ถูกค่ะ แม่ครัวอาจยังมือไม่นิ่ง)
แต่ปูนิ่มยังคงความกรอบ+หอม+มันดีอยู่จ้า
จานที่ 2 สลัดเนื้อดอกรัก (150 บาท) อันนี้เห็นเค้าตั้งป้ายโฆษณาไว้หน้าร้าน ก็เลยสนใจสั่งมาชิม
ชิมแล้วก็ค่อนข้างถูกใจค่ะ เป็นสลัดลูกครึ่งไทย+ฝรั่ง
แนวๆ เดียวกับยำสลัดทูน่าของฟูจิอ่ะค่ะ
คือ ใส่ทั้งน้ำสลัดครีมแบบฝรั่ง และเครื่องยำของไทย พวกตะไคร้ พริกซอย สะระแหน่
ผักสดกรอบดี แต่ที่ติดใจที่สุดก็ตรงเนื้อย่างในจานนี้
สีอาจจะดูเข้มน่ากลัวไปหน่อย แต่รสชาติเค็มหวานกำลังดี หอมงาด้วย และที่สำคัญไม่เหนียวค่ะ
ต่อมาเป็น ลาบเป็ด (100 บาท) อันนี้สั่งตามคำแนะนำของน้องพนักงาน รสชาติโอเคระดับนึง แต่ไม่ได้ประทับใจมากมายค่ะ
เนื้อเป็ดนุ่ม แต่รสลาบไม่เข้มข้นเท่าไหร่
สุดท้าย หมูย่างกาลครั้งหนึ่ง (120 บาท) จานนี้ชอบมากค่ะ คงเพราะเป็นคนชอบกินหมูย่างอยู่แล้วเป็นทุนเดิม
เนื้อหมูหนานุ่ม หมักซอสรสชาติเข้มข้นดี
แล้วก็จะยิ่งอร่อยล้ำเมื่อนำไปจิ้มน้ำจิ้มมะขามเปรี้ยวๆ หวานๆ ที่เสิร์ฟคู่กันมาค่ะ
อีกจุดนึงที่ชอบสำหรับร้านนี้ อยู่ที่ข้าวเหนียวค่ะ
เพราะข้าวเหนียวของที่นี่ เป็น ข้าวเหนียวดำ (20 บาท) หุงมาได้นุ่มกำลังดี ไม่แข็งไป ไม่แฉะไป
ชอบความหวานและความกรุบของข้าวเหนียวดำ กินกับอะไรก็อร่อย
มื้อนี้ถือว่าราคาค่อนข้างสูงทีเดียว เมื่อเทียบกับร้านส้มตำทั่วไป
แต่อาหารของที่นี่จานก็ค่อนข้างใหญ่นะคะ (โดยเฉพาะสลัดเนื้อดอกรักนี่ มากันเป็นอ่างเลยทีเดียว)
บวกกับการบริการของน้องพนักงานที่ดูแลเอาใจใส่ดี และรสชาติที่อร่อยกลมกล่อม
ก็ถือว่าคุ้มค่ากับราคาค่ะ ถือซะว่าเป็นค่าโลเคชั่นสวยๆ ละกันนะคะ
Post