Read full review
2016-11-25
158 views
สำหรับวันนี้ก็พาไปที่รร.เซนต์เรจิสกรุงเทพกันอีกครั้งนะคะ โดยจะเป็นการไปทั้งดื่มด่ำกับ Afternoon Tea และมื้อค่ำกับเมนูเซ็ตปูด้วยค่ะโดยเอนทรี่นี้ขอเป็นการพาไปกินอาฟเตอร์นูนทีกันก่อนนะฮับบบสำหรับวันนั้นก็ขับรถไปค่ะ จอดที่ชั้นหก จากนั้นก็ลงลิฟท์มาที่ล็อบบี้ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 12 อีกทีนะคะ ซึ่งชั้น 12 ก็จะเป็นที่ตั้งของรีเซฟชั่นสำหรับติดต่อในกรณีมาพัก และเป็นที่ตั้งของ The Drawing Room และ The St. Regis Bar นะคะสำหรับในส่วนของ The Drawing Room นี่จะอยู่ฝั่งลิฟท์ค่ะ ส่วน The St. Regis Bar จะอยู่ฝั่งด้านนอกอาคารซึ่งจะมีกระจกใสๆ ให้เห็นวิวของสนามกอล์ฟราชกรีฑาสโมสรได้นะคะ เราไปตอนสี่โมง ไม่ค่อยร้อนแล้ว ก็เลยนั่งฝั่งบาร์แทนค่ะ แต่ถ้าใครไ
โดยเอนทรี่นี้ขอเป็นการพาไปกินอาฟเตอร์นูนทีกันก่อนนะฮับบบ สำหรับวันนั้นก็ขับรถไปค่ะ จอดที่ชั้นหก จากนั้นก็ลงลิฟท์มาที่ล็อบบี้ก่อนที่จะขึ้นไปที่ชั้น 12 อีกทีนะคะ ซึ่งชั้น 12 ก็จะเป็นที่ตั้งของรีเซฟชั่นสำหรับติดต่อในกรณีมาพัก และเป็นที่ตั้งของ The Drawing Room และ The St. Regis Bar นะคะ
สำหรับในส่วนของ The Drawing Room นี่จะอยู่ฝั่งลิฟท์ค่ะ ส่วน The St. Regis Bar จะอยู่ฝั่งด้านนอกอาคารซึ่งจะมีกระจกใสๆ ให้เห็นวิวของสนามกอล์ฟราชกรีฑาสโมสรได้นะคะ เราไปตอนสี่โมง ไม่ค่อยร้อนแล้ว ก็เลยนั่งฝั่งบาร์แทนค่ะ แต่ถ้าใครไปบ่ายๆ ก็นั่งฝั่งเดอะดรอวิ่งรูมน่าจะดีกว่าค่ะ
เซ็ตอัพนะคะ น้ำตาลที่มีให้บนโต๊ะค่ะ ชอบตัวที่เป็นไม้ๆ อ้ะ เก๋เชียว ในเมนูมีเรื่องราวที่มาของอาฟเตอร์นูนทีที่ทำให้เราทราบว่า อาฟเตอร์นูนทีนี่เริ่มมาตั้งแต่กลางคริสตศตวรรษที่ 18 น่ะค่ะ โดยดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะ สำหรับอาฟเตอร์นูนทีที่นี่จะเริ่มเวลา 14.00-17.00 น.นะคะ โดยจะมีให้เลือกสองเซ็ตสองราคาคือ แบบไทยในราคา 850++ และแบบเวสเทิร์นในราคา 1500++ ค่ะ โดยเป็นราคาเซ็ตสำหรับสองท่านนะคะ และสามารถเลือกได้ว่าจะเป็นชาหรือกาแฟค่ะ
สำหรับ choice ของชาก็ตามภาพเลยนะฮับ เพราะฉะนั้นก็เลือกได้สองอย่างค่ะ อย่างที่บอกว่ามันเป็นเซ็ตสำหรับสองคนนะคะ
สำหรับแบบเวสเทิร์นจะมีดิปปิ้งให้สี่แบบตามภาพนะคะ รวมทั้งมีเซอร์ไพรซ์จากเชฟ สำหรับท่านที่เลือกแบบเวสเทิร์นด้วยค่ะ นั่นก็คือไอศกรีมดาร์คช็อกโกแลตและซัลซ่ามะเขือเทศค่ะ ซึ่งขอบอกว่าอร่อยมากๆ โดยเฉพาะไอศกรีมดาร์กช็อคฯ นี่แบบว่า...อยากกินอี๊กกกก 555 สำหรับเซ็ตไทยจะมีเครื่องจิ้มตามภาพค่ะ จะมีตัวที่ไม่เหมือนกับทางเวสเทิร์นด้วยนะคะ และตัวชุดไทยก็จะบริการมาตามภาพเลยค่ะ มาดูกันค่ะว่าเซ็ตไทยเป็นอย่างไรบ้างนะคะ
เมนูอาฟเตอร์นูนที ชุดไทย
Scones
สโคนใบเตยมะพร้าว / Pandan Leaf and Coconut Scones
แยมสับปะรด ขิง มะขาม และมะนาว / Pineapple and Ginger, Tangerine, and Lime Jam
คล้อตครีม และวีปครีม /Clotted and Whipped Cream
Sandwiches
ขนมปังโฮลวีดไก่ต้มขมิ้น / Turmeric Chicken on Wheat Bread
ขนมปังเพรทเซลสอดแทรกไข่นกกระทาซอสหวาน / Egg and Thai Herbs on a Mini Pretzel
ขนมปังไรเยอรมัน ใส่ทะเล และกระเพราพริก /Seafood and Hot Basil with Chilli on German Rye Bread
Savory
ข้าวสปริงโรลต้มยำกุ้ง / Rice Paper Spring Rolls with Tom Yam Seasoning
ข้าวตังหมูทรงเครื่องไทย / Thai Curry with Rice Crispies
Sweet
พันนาค็อตต้ามะพร้าว แยมเสาวรส / Coconut Panna Cotta with Passion Fruit Jelly
คัสตาร์ดฟักทอง และโอริโอป่น Pumpkin Custard with Oreo Sand
ขนมลูกชุบไทย /Thai May Bean Marzipan
ข้างเหนียวมะม่วง / Mango and Sticky Rice
ของไทยค่าา หน้าตาก็ตามภาพนี้เลยนะคะ แต่แอบอยากให้มีเมนูหากินยากๆ อย่างพวกปั้นสิบ หรุ่ม ช่อม่วง อะไรแบบนี้น้าา มันโชว์ทั้งฝีมือและทำให้รู้สึกพิเศษและคุ้มค่ากับการเลือกชุดไทยหละ เมนูอาฟเตอร์นูนที ชุดเวสเทิร์น
Scones
สโคนต้นตำรับ แทรกด้วยลูกเกด เสิร์ฟครีมเนื้อหนาที่เรียกว่าคล้อตครีม ครีมชานทิลลี่ แยมผลเบอรี่ และแยมสตรอเบอรี่
Raisin Sconesม Devonshire Clotted Cream, Chantilly Cream, Mixed Berry Jam, Strawberry Jam
Savory
โก้ทชีส และคีชแอสพารากัส / Goat Cheese and Asparagus Quiche
พายไก่ และเห็ด / Chicken & Mushroom Pie
ทาร์ตไข่สไตล์แบบโปรตุเกส / Portuguese Egg Tart
โรลแซลมอนรมควัน Smoked Salmon Roulade
ครีมชีสสมุนไพร / Herb Cream Cheese
Sweet
มูสช็อกโกแลต / Black and White Chocolate Mousse
ทาร์ตมะม่วง / Mango Fruit Tartlet
เอแคลร์ชาเขียว / Green Tea Éclair
มาการูนสไตล์เซนต์ รีจิส / St. Regis Macaroons
โลลี่ป๊อป สตอเบอรี่ / Strawberry Lollipop
มินิโดนัท / Mini Doughnut
Sandwiches
ไก่ มายองเนสไข่ พาสตรามี่ (เนื่อปรุงรส) กุ้งเสิร์ฟสไตล์ค็อกเทล
Chicken, Egg Mayonnaise, Pastrami, Prawn Cocktail
ส่วนเซ็ตเวสเทิร์นก็แบบนี้ค่ะ ชอบพรีเซนเตชั่นมากเลยค่ะ เก๋ งาม สวย สำหรับเครื่องดื่มนะคะ วันนั้นหนึ่งหนุ่มเลือกกาแฟไป (ไม่ได้ถ่ายมาเพราะเจ้าตัวดื่มไปเยอะแล้วค่ะ แหะๆ) ส่วนชาที่นี่จะเป็นของ TWG นะคะ ชาอีกสามตัวที่เลือกกันมาก็ได้แก่ Vanilla Bourbon (Red Tea) / 1837 Black (Black Tea) / Orange Blossom Oolong (Blue Tea) ค่ะ
กาแรก Vanilla Bourbon เราได้ดื่มตอนน้ำสองแล้ว (เติมน้ำได้นะคะถ้าดื่มหมดกาแล้ว) ซึ่งพอให้เพื่อนชิม เพื่อนบอกว่าไม่เหมือนกาแรกค่ะ ค่อนข้างมีกลิ่นแนวเครื่องเทศและเปลือกไม้หละ ต่อไปค่ะ 1837 Black ยังคงดีงามเหมือนเคย หอมกรุ่นถูกจริตเรามาก ชอบค่ะ ปิดท้ายด้วย Orange Blossom Oolong นะคะ ตัวกลิ่นเรายังชอบ 1837 มากกว่าค่ะ ส่วนรสชาติ ชาตัวนี้ออกแนวเข้มนวลๆ ค่ะ ในส่วนของเซตไทยที่ได้กินนะคะ ฝอยทองหวานกำลังดี ไม่หวานแหลมแปร่งเหมือนหลายๆ เจ้าและค่อนข้างชุ่มนะคะ ฝอยละเอียดมาก สัมผัสนุ่มดีค่ะ / ขนมปังไข่ต้ม มีซอสที่ผสานรสให้เข้ากันดีค่ะ / ข้าวเหนียวมะม่วง ข้าวเหนียวโอเคนะคะ แต่มะม่วง...ฤดูนี้อะนะ หาหวานคงยากหละค่ะ / ลูกชุบ โอเคค่ะ มาตรฐาน
ส่วนเวสเทิร์นที่ได้กิน ตัวขนมปังที่มีครีมเขียวๆ กินข้างบน ต้องกินแบบพร้อมๆ กันนะคะ ไม่งั้นรสชาติจะโดดระหว่างตัวที่อยู่ข้างบนกับไส้ในค่ะ / มาการอง โอเคค่ะ เปลือกใช้ได้ และรสไส้ชัดดีนะคะ / ตัวช็อกโกแลตที่มีไม้ อร่อยแหละ ชอบๆ
โดยรวมถือว่าเป็นอาฟเตอร์นูนทีอีกที่ที่น่าสนใจนะคะ ที่เรากินวันนั้นตัวเวสเทิร์นจะค่อนข้างเด่นกว่าแบบไทย (แบบไทยอย่างที่บอกค่ะ อยากให้ปรับให้มีของที่ประดิดประดอยหากินยากเพิ่มขึ้นค่ะ (แต่ตอนนี้ราคาเวสเทิร์นก็สูงกว่าแบบไทยอะนะคะ แต่ถ้าปรับของกินแบบไทยแล้วปรับราคาอีก เราก็ว่าโอเคอยู่นะคะ))
ปิดท้ายด้วยบรรยากาศเดอะดรอวิ่งรูมตอนกลางคืนนะคะ สวยไปอีกแบบหละ (ตรงฝั่งบาร์พอราวห้าโมงเย็นก็มีดีเจมาเปิดเพลงด้วยนะคะ)
Post