Read full review
2012-02-06
94 views
สวัสดีครับรีวิวนี้เป็นรีวิวล่าสุด รีวิวทันทีหลังมื้ออาหารเลยนะครับเนี่ย 555 วันนี้เป็นวันที่ผมและภรรยาไปทานอาหารที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์สุขุมวิทกันมาครับ แล้วเราก็เพิ่งจะออกมาสดๆร้อนๆเลยเชียวแหละตามที่ผมเคยเล่าไปแล้วเรื่องความชอบส่วนตัวของภรรยาผมว่าถ้าเธอชอบทานอะไร เธอจะทานแต่อย่างนั้นจนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่งวันนี้ก็เป็นรายการอย่างแบบที่ว่าครับ อาหารไทย นั่นเองคราวนี้เธอรีเควสให้ผมพาไปทานที่ร้าน Basil เพราะเธอติดใจในบรรยากาศของโรงแรมนี้ และอยากจะให้ผมมีทางเลือกอื่น นอกจากสุดเลิฟเบญจรงค์ของดุสิตธานีดูบ้างแต่ว่าเราทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยทานอาหารที่ห้องนี้นะครับ เรามักจะทานที่ห้องบุฟเฟต์คราวนี้นับเป็นโอกาสดี ได้เปิดหูเปิดตากับสิ่ง
รีวิวนี้เป็นรีวิวล่าสุด รีวิวทันทีหลังมื้ออาหารเลยนะครับเนี่ย 555
วันนี้เป็นวันที่ผมและภรรยาไปทานอาหารที่โรงแรมเชอราตันแกรนด์สุขุมวิทกันมาครับ แล้วเราก็เพิ่งจะออกมาสดๆร้อนๆเลยเชียวแหละ
ตามที่ผมเคยเล่าไปแล้วเรื่องความชอบส่วนตัวของภรรยาผมว่าถ้าเธอชอบทานอะไร เธอจะทานแต่อย่างนั้นจนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง
วันนี้ก็เป็นรายการอย่างแบบที่ว่าครับ อาหารไทย นั่นเอง
คราวนี้เธอรีเควสให้ผมพาไปทานที่ร้าน Basil เพราะเธอติดใจในบรรยากาศของโรงแรมนี้ และอยากจะให้ผมมีทางเลือกอื่น นอกจากสุดเลิฟเบญจรงค์ของดุสิตธานีดูบ้าง
แต่ว่าเราทั้งคู่ต่างก็ไม่เคยทานอาหารที่ห้องนี้นะครับ เรามักจะทานที่ห้องบุฟเฟต์
คราวนี้นับเป็นโอกาสดี ได้เปิดหูเปิดตากับสิ่งใหม่ๆครับ
หน้าร้านเป็นที่ทำอาหารโชว์ด้วย เป็น station ทำยำและส้มตำ จัดไว้สวยมากเลยครับ ผ่านเข้าไปด้านใน ก็จะมีทั้งห้องส่วนตัว และส่วนที่เป็นห้องหลัก ในสุดจะเป็นประตูผ่านเข้าไปที่ห้องน้ำ
ในร้านจะมีตู้โชว์ wine จรดเพดานเลย สวยดีครับ
ที่นั่งเป็นแบบเก้าอี้ตัวใหญ่ นั่งสบาย และแบบโซฟา เราเลือกที่มีโซฟาผสมอยู่ด้วยครับ นั่งสบายดี แสงไฟจัดไว้ซอฟมากๆ ให้กินอาหารไปคุยไป ออกแนวโรแมนติก ไม่ได้แบบว่าตั้งหน้าตั้งตากิน แต่ว่าผลข้างเคียงคือ ถ่ายรูปได้ไม่ชัด ไม่ว่ากันนะครับ
พอเราไปถึง เจ้าหน้าที่ก็จะมาเสริฟ welcome drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบ และบนโต๊ะจะ set complimentary dish เป็นเมี่ยงคำอร่อยๆไว้ด้วยครับ อันนี้ขอเติมได้นะครับ
คราวนี้ คุณภรรยาสั่งอาหารแบบลุยเดี่ยว ไม่สนใจผม (แต่ที่เธอเลือกก็อร่อยๆทุกครั้งนะครับอย่าเข้าใจผิด)
เริ่มกันด้วย อาหารว่างก่อนครับ เนื่องจากเธออยากทานหลายอย่าง สิ่งที่ตอบสนองเราได้อย่างดีก็คือแบบ set 4 ชนิด ดังนั้น คุณภรรยาเลยเลือกแบบ B ครับ แบบนี้จะมี กระทงทอง 2 ไส้ๆละ 2 ชิ้น กุ้งโสร่ง (ทอดได้กรอบมาก ไม่อมน้ำมันเลย) ปูนิ่มทอดกระเทียมกรอบ (นี่ก็กรอบเช่นกัน) ยำเนื้อย่าง (ซึ่งเราขอเปลี่ยนเป็นหมูย่าง) ขอบอกว่าอร่อยทุกอย่างนะครับ โดยเฉพาะยำหมูย่าง อร่อยรสจัดเกินคาด
ต่อมาเป็น main ซึ่งให้ออกพร้อมกันหมด มี แกงกะหรี่ปลาหิมะ เสิร์ฟพร้อมอาจาด รสชาติกลางๆ แต่ผมว่าแกงกะหรี่แบบนี้ เน้นที่ความละมุน ไม่จัดจ้าน ผมว่าดีทีเดียว
จากนั้น เราคนไทย ให้ยังไงๆก็ต้องมาที่น้ำพริกกันบ้างครับ น้ำพริกลงเรือของที่นี่ไม่หวานเท่าดุสิตธานี แต่ก็ถือว่าหวานอยู่นะครับ แต่เมื่อทานกับเครื่องเคียงคือผักสดและไข่เค็มแล้ว กลมกล่อมมาก ที่นี่ใช้ผักกาดแก้วให้ทานแกล้มครับ ครั้งแรกของเราเลย แต่มันก็เข้ากันนะเนี่ย
สุดท้ายคือปูนิ่มผัดซอสโหระพา ผมว่ารสชาตินี้ทานได้ทั้งครอบครัว เพราะไม่เผ็ด เด็กก็ทานได้ครับ ต่างชาติก็ทานได้
อาหารที่นี่จานหลักจะเสิร์ฟพร้อมข้าว 3 สี หอมมะลิ ใบเตย ข้าวกล้องครับ ไม่ต้องสั่งและไม่เสียเงินเพิ่ม (เพราะคิดรวมไปแล้ว )
หมด 4 รายการนี้ ผมอิ่มมากๆ จุกเลยแหละครับ เหมือนไม่เยอะ แต่เยอะ
มิน่า อร่อยถูกปากแบบนี้ผมถึงได้เห็นชาวต่างชาติมาทานกันเพียบ ทั้งแบบในห้องเป็น 10 คน และนอกห้องอีกหลายโต๊ะเลย
พนักงานบริการดีมาก ให้คำแนะนำดี สุภาพ คอยสังเกตและเปลี่ยนจานช้อนส้อมใหม่ให้ ผมว่าโดยรวมแล้วที่นี่ทำได้ดีครับ เลือกที่จะเป็นตัวเอง ไม่ได้เลือกที่จะเป็น traditional แต่เป็น contemporary แทนด้วยการจัดห้องและการแต่งกายของพนักงานด้วย
ว่ามาถึงแล้วก็ขอเล่าถึงชุดพนักงานสักหน่อยครับ พนักงานที่นี่จะใส่ชุดแบบประยุกต์มีกลิ่นอายไทยๆผสมสมัยใหม่ เสื้อสีส้มอ่อน กางเกงดำ สวยดีไปอีกแบบ
ที่นี่ผมว่า มาทานในโอกาสพิเศษกับคนที่คุณรัก ไม่ผิดหวังแน่ครับ บรรยากาศให้ รสชาติอาหารให้ ลองมาทานกันนะครับ
เกือบลืม ทั้งหมดนี้ราคาประมาณ 2600 ครับ เหมาะสมกับสถานที่ บริการ บรรยากาศ และรสชาติครับ
Post
