Read full review
ออสซี่จ๋า เจ้าของร้านขนานนามตัวเองว่า Brewboy แค่ฟังสำเนียงภาษาอังกฤษที่หนักไปทางออสเตรเลียก็น่าจะเดาได้ว่าอิทธิพลทางความคิดด้านกาแฟมาจากแถบใด ลองฟังเค้าสนทนาเป็นภาษาปะกิตกับชาวออสซี่ได้ที่นี่ https://www.youtube.com/watch?v=LDkJyZNFq84 ส่วนตัวแล้วยังไม่มีโชคได้ดื่มกาแฟดีๆจากประเทศนี่ถุงแล้วถุงเล่ากับหลากหลายบาริสต้า แต่ไหนๆก็ไหนๆลองเสี่ยงดูวันที่ไปร้านเต็มแน่เอี๊ยดแต่คนก็ทั้งเข้าทั้งออกตลอดบรรยากาศคึกคักดีสมกับเป็นย่านกาแฟฮ็อตใหม่ที่กรุงเทพ จะมีก็แต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่วางไว้แต่ไม่ได้เล่น เพลงที่คึกคักดีกลับมาจากพวก sonos หรือ ดิจิตอลอะไรซักอย่าง ทันสมัยดีร้านนี้เค้ามีกาแฟที่นี่เค้าวิลิศมาหรามาก บางแก้วเป็นหมื่น! ผมทา
ส่วนตัวแล้วยังไม่มีโชคได้ดื่มกาแฟดีๆจากประเทศนี่ถุงแล้วถุงเล่ากับหลากหลายบาริสต้า แต่ไหนๆก็ไหนๆลองเสี่ยงดู
วันที่ไปร้านเต็มแน่เอี๊ยดแต่คนก็ทั้งเข้าทั้งออกตลอดบรรยากาศคึกคักดีสมกับเป็นย่านกาแฟฮ็อตใหม่ที่กรุงเทพ จะมีก็แต่เครื่องเล่นแผ่นเสียงที่วางไว้แต่ไม่ได้เล่น เพลงที่คึกคักดีกลับมาจากพวก sonos หรือ ดิจิตอลอะไรซักอย่าง ทันสมัยดี
ร้านนี้เค้ามีกาแฟที่นี่เค้าวิลิศมาหรามาก บางแก้วเป็นหมื่น! ผมทานกาแฟพวกนี้ไม่เป็นก็เลยพยายามเลือกอะไรที่พื้นๆหน่อยอย่างอิธิโอเปียที่เป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านของร้านกาแฟพวกคลื่นลูกที่สาม
ที่นี่นอกจากจะมีแต่กาแฟ ”เลิศๆ“ แล้ว แก้วที่ใช้ก็ใช่ว่าเล่น ขอบแก้วด้านหนึ่งหนาอีกด้านบาง ส่วนตัวร้านกาแฟหลายร้านที่เคยทานเค้าจะเสริฟถ้วยเปล่าสองถ้วยขอบหนากับบาง แต่ที่ terroir เค้าเข้าที เอามาผสมกันซะเลยกลายเป็นจุดขายที่ช่วยให้บาริสต้าได้สื่อสารกับคนทานกาแฟได้มากขึ้น terroir เค้าแนะนำให้ทานด้านขอบบางก่อนแล้วตามด้วยด้านหนา บาริสต้าเค้าจะอธิบายว่าได้อะไรจากแต่ละด้าน คนทานจะได้หรือไม่ก็อีกเรื่องนึง
แล้วกาแฟเป็นไง? ไม่เลวทีเดียวสำหรับเอสเพรสโซ่ร้อนแก้วนี้ จิบด้านขอบบางมีองุ่นกับผลไม้เมล็ดแข็ง (stone fruit) พวกลูกพีชลูกพลัม แก้วด้านหนาฝาดเล็กน้อยกับบอดี้อวบๆ (เวลานึกถึงพวกบอดี้ให้ลองนึกถึงนมพร่องมันเนยกับธรรมดาว่ามีความแตกต่างกันยังไงเวลาดื่ม)
น้อยครั้งที่ทานกาแฟจากออสเตรเลียแล้วจะไม่รู้สึกถึงรสหนักๆที่อยู่ด้านหลัง (aftertaste) ทีมันจะคาอยู่ในปากนานมากไม่หาอะไรมาดื่มตามอย่างโซดา โค็ก มันไม่หมดไปง่ายๆ ผมเองเรียกมันว่า dirty back แต่อ่านหลายเจ้าถ้าเค้าเป็นแฟนกาแฟออสซี่พันธ์แท้นี่ เค้าจะตามหาไอ้รสชาตินี้กันว่าเป็นกาแฟดีที่หาไม่ได้ง่ายๆจากที่อื่น กาแฟแก้วนี้มี dirty back อยู่แต่น้อยมากๆ ผมว่าเป็นการพัฒนาไปในทางที่ดี
มาลองกาแฟดริปกัน ส่วนตัวพอเจอร้านที่ได้อิทธิพลจากออสเตรเลียต้องคิดหนักพอควร กาแฟดริปเป็นอะไรที่ “ค่อนข้าง” ใหม่สำหรับออสเตรเลีย ที่น่าจะเริ่มบูมกันประมาณปี 55 เป็นต้นมา สมัยก่อนออสเตรเลียเค้ามีแต่กาแฟที่ต้องใช้เครื่องอัดความดันแรงๆชงเท่านั้น เคยเจอเจ้าของร้านกาแฟอิสระจากออสซี่บ่นกะปอดกะแปดนานแล้วว่า ลูกค้าสั่งกาแฟร้อนแก้วนึงไม่รู้จะเสริฟอะไรเพราะเค้ามีแต่เอสเพรสโซ่ คาปู ลาเต้ ก็ว่ากันไป เดี๋ยวนี้คงหายากแล้วความรู้สึกแบบนี้ อาจจะลืมๆกันแล้วมั้ง นอกจากจะไปเมืองไกลๆที่ไม่ใช่เมืองใหญ่อย่างซิดนี่ เมลเบิร์น เพิร์ธ
กาแฟที่สั่งเป็นกาแฟไทยมาจาก ปางขอน เชียงราย ที่โปรเซสกาแฟแบบแปลกๆ ชื่อ Mosto Cascara CTF.
หลายปีก่อนที่ได้ทานกาแฟไทยที่ใช้โปรเซสประหลาดๆเช่นนี้แล้วไม่ชอบเลย เหมือนเอาเครื่องรถแข่งมาใส่สามล้อ มันมีรสโปรเซสชัดเจนมากตอนต้นแต่พอหลังมันจะมีรสที่ไม่ค่อยถึงของกาแฟไทยเข้ามากวนในแก้ว แต่คราวนี้ดีใช้ได้ทีเดียว
ในแก้วทานเจอพวก hibiscus (ชบา?) กับรสหมักๆแต่ทานได้ พอเย็นเข้า รส “กระดาษ” ออกมาค่อนข้างมาก เป็นรสที่เค้าว่ากันว่าคั่วกาแฟ “ไม่สุก” กัน ไม่ใช่คั่วอ่อนแต่มันเหมือนยังไม่เข้าที่ดีก็หยุดคั่วเพราะกลัวเข้มไป เป็นลักษณะเฉพาะของโรงคั่วกาแฟคลื่นลูกสามหลายร้านทีเดียวที่ยังคั่วไม่เข้าที่สำหรับผม แต่เรียกได้ว่าดีกว่าที่เคยทานมากแล้ว ไม่มีแล้วพวกเปลือกไม้ที่ทานกาแฟไทยทีไรเจอทุกทีไม่มากก็น้อย
ฝีมือดริปนี่โอเคแต่ยังไม่โดดเด่นเหมือนคุณแนน ร้าน Some Time Blue ที่ผมถือว่าเยี่ยมทั้งที่เมืองไทยและฮ่องกง ถ้าจะเทียบแล้ว terroir ก็พอฟัดพอเหวี่ยงกับร้านคลื่นลูกสามหลายร้านที่ฮ่องกงทีเดียว กาแฟดริปก็เสริฟมาในแก้วที่หนาไม่เท่ากัน ผมชอบทานด้านที่ขอบแก้วบางมากกว่า
สรุป ร้านนี้ใช้ได้ทีเดียว และถือว่าเยี่ยมยอดสำหรับร้านที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากออสเตรเลียเท่าที่ทานมา แค่เพียงเท่านี้ก็แนะนำได้เลยว่าน่าจะมาลองกาแฟร้านนี้จะได้เห็นว่าร้านกาแฟไทยเรามาไกลกันแค่ไหนแล้ว
เอสเพรสโซ่ร้อน อิธิโอเปีย
฿120
0 views
0 likes
0 comments
กาแฟดริป ปานขอน เชียงราย
฿125
0 views
0 likes
0 comments
Post