Video
Read full review
2011-09-27
38 views
ขอเกริ่นก่อนเลยว่า ช่วงหนึ่งของชีวิตเราเคยเป็นพวก Coffee Lover มากๆ จนกระทั่งเกิดอาการไม่ดื่มวันไหนแล้วปวดหัว ก็เลยรู้สึกกลัวเลยพยายามเลิกไป และหันมาหลงรักชาแทนได้หลายปีแล้วค่ะ (แต่ตั้งแต่ทำงานที่นี่ เริ่มกลับมากินกาแฟอีกแล้ว )จนได้ไปเจอรีวิวที่เว็บๆ หนึ่ง ก็จดไว้ในลิสต์ว่าต้องไปให้ได้อีกร้านแน่ๆ ค่ะ ตามประสาคนรักชา หุๆบัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ที่ข้าพเจ้าจะขอภูมิใจนำเสนอร้านชา บรรยากาศงาม"เวียงจูมออน"สำหรับท่านใดที่ไปไม่ถูก จะบอกว่าเราก็บอกทางไปไม่ถูกเหมือนกัน กร๊ากกกกอ่า..รู้แต่ว่าอยู่ริมแม่น้ำปิงค่ะ ถนนเจริญราษฎร์ ฝั่งเดียวกับกู๊ดวิว เยื้องๆ วัดเกตุใครไปไม่ถูกก็โทร.ไปสอบถามตามนี้เลยจะดีกว่า 053-303113ป้ายของร้าน ซึ่งอยู่ติด
จนได้ไปเจอรีวิวที่เว็บๆ หนึ่ง ก็จดไว้ในลิสต์ว่าต้องไปให้ได้อีกร้านแน่ๆ ค่ะ ตามประสาคนรักชา หุๆ
บัดนี้ได้เวลาอันสมควรแล้ว ที่ข้าพเจ้าจะขอภูมิใจนำเสนอร้านชา บรรยากาศงาม
"เวียงจูมออน"
สำหรับท่านใดที่ไปไม่ถูก จะบอกว่าเราก็บอกทางไปไม่ถูกเหมือนกัน กร๊ากกกกอ่า..รู้แต่ว่าอยู่ริมแม่น้ำปิงค่ะ ถนนเจริญราษฎร์ ฝั่งเดียวกับกู๊ดวิว เยื้องๆ วัดเกตุ
ใครไปไม่ถูกก็โทร.ไปสอบถามตามนี้เลยจะดีกว่า 053-303113
ป้ายของร้าน ซึ่งอยู่ติดกำแพง เห็นไม่ชัดนักค่ะ
แนะนำว่า ล่องถนนเลียบแม่น้ำปิงแล้วดูตัวตึกสีชมพูอย่างรูปแรกจะหาง่ายกว่า แหะๆ
เดินเข้าไปในร้านปุ๊บ ก็ตะลึงกับกองทัพชาที่ยืนเรียงรายต้อนรับอยู่ในช่องตู้เลยทีเดียว
หันไปทางซ้ายก็ยังเจอแต่ ชา ชา และชา
ผ่านจากโซนเมื่อกี๊ ก็เจอที่นั่งหนึ่งเซตให้นั่งกัน แต่เรายังคงเมินต่อไป
จากนั้นเราก็เปิดประตู เพื่อไปสู่โซนด้านหลังนะคะ จะเป็นโอเพ่นแอร์แล้ว
พอดีเราไปช่วงบ่ายแก่ๆ แล้ว (เกือบๆ บ่ายสามได้มั้ง) ก็เลยคิดว่านั่งข้างนอกน่าจะไหวอยู่ค่ะ
เหลือบไปซ้ายก็เจอที่นั่งเหล่านี้ เห็นแม่น้ำปิงมั้ยคะนั่น
แต่แล้วคนที่ไปด้วยก็เลือกที่จะนั่งมุมนี้ค่ะ (ทั้งที่ไปกันแค่สองคนเนี่ยนะ )
นั่งปุ๊บก็รีบคว้าเมนูในมือพ่อเจ้าประคุณมาถ่ายรูปปั๊บเมนูหุ้มด้วยผ้าไหมค่ะ สวยงามเลิศ มีสองสีค่ะชมพูบานเย็น กับม่วงเข้มอมน้ำตาลเลย (ที่จริงถ่ายรูปมาหมดนะคะ แต่ว่า..โควต้ารูปคงไม่พอ เอาเท่าที่อยากให้เห็นแล้วกันค่ะ)
สีม่วงเข้มอมน้ำตาลจะเป็นเมนูเครื่องดื่มโดยเฉพาะค่ะ
ทั้ง Blended Tea, Black Tea, Flower Tea และพวก Smoothy ต่างๆ
เมนูสีชมพูจะเป็นพวกของว่าง แล้วก็ชุดชาค่ะ
จะเห็นว่ามุมซ้ายบนเป็นชุด High Tea ถ้าสำหรับ 1 คนก็ 260 แต่ถ้าเป็น High Tea for Two ก็ 490 บาทค่ะ
เราก็เลยสั่งชุดหลังไป
โดยเราเลือกชาตามที่เคยอ่านรีวิวจากที่เว็บฯ นั่นคือ ชา Madame Butterfly ส่วนอีกคนเลือกชาเวียงจูมออน
หันกลับไปมองตรงโซนแอร์
อุ๊ย..ตรงใกล้ๆ ปากประตูที่เราออกมาจากโซนแอร์สู่โซนไม่มีแอร์ มีที่นั่งเก๋เชียว
ไปถ่ายรูปซะหน่อยดีกว่า
ที่นั่งบริเวณใกล้แม่น้ำค่ะ (มีตรงติดแม่น้ำเลยด้วย แต่ลืมถ่ายมา แหะๆ)เหมาะจะมานั่งตอนเย็นย่ำแล้วมากกว่าค่ะ หรือตอนอากาศเย็นๆ น่าจะเวิร์ค
กลับไปถึงโต๊ะ ก็ปรากฏว่า ชามาเสียแล้ว
ก็งงๆ เล็กน้อย เพราะจากที่อ่านรีวิว มันต้องมี Pimms เป็นเครื่องดื่มเย็นๆ มารับก่อน (ถ้าสั่งชุด High Tea) สอบถาม ปรากฏว่า เค้ายกเลิกไปแล้ว เพราะมีลูกค้าทักว่า มันทำลายรสชาติของชา
นี่คือของเราค่ะ Madame Butterfly เค้าจะให้มาเป็นเซตเยี่ยงนี้เลย
ส่วนนี่ของอีกคนค่ะ (สีชาต่างกันสุดๆ )
ที่กาจะมีป้ายห้อยบอกนะคะว่าชานั้นๆ เป็นชาอะไร ซึ่งชาแต่ละอย่างก็มีป้ายไม่เหมือนกันด้วยแล้วชุดของว่างก็มาค่ะ ชุดนี้เป็น for two
ถ้าเป็นแบบเซตสำหรับคนเดียว ตัวจานในแต่ละชั้นจะเล็กกว่านี้ แล้วก็ขนมจะน้อยกว่าค่ะ
(แอบดูจากโต๊ะอื่น 555+)
เหลือโควต้าอีกรูปเดียว อ่า..งั้นที่ถ่ายเจาะๆ มาคงไม่ลงนะคะ บรรยายอย่างเดียวเหมือนเดิมค่ะชั้นบนค่ะ เป็นขนมชิ้นเล็กๆ น่าเอ็นดู
ชั้นกลางค่ะ เป็นแซนด์วิช มีไส้แตงกวากับคัสตาร์ดค่ะ
ด้านล่างเป็นสลัดผลไม้ค่ะ น้ำสลัดเหมือนแยมสตรอเบอรี่ง่ะ อร่อยนะคะ ชอบมากๆ จะจิ้มทานหรือว่าจะราดคลุกกันก็อร่อยค่ะ
นี่หละค่ะ เซ็ต High Tea for Two ค่ะ
ที่จริงตรงที่โซนขายชา จะมีห้องชั้นบนให้นั่งอีกค่ะ เป็นห้องแอร์เหมือนชั้นล่างนะคะสรุปแล้ว สำหรับร้านนี้ เชียร์ให้ไปกันนะคะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักชา ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
ส่วนคนรักกาแฟ ลองไปทำความรู้จักชากันบ้างก็ไม่เสียหลายค่ะ
ชาที่ชิมทั้งสองตัว เราชอบ Madame Butterfly มากกว่าค่ะ นุ่มละมุน หอมอวลมากกว่าตัวเวียงจูมออนค่ะ
แต่ของเวียงจูมออนดูมีรสชาติที่ซับซ้อนกว่าน่ะค่ะ
ราคาก็โอเค ไม่เวอร์เกินเหตุนะคะ
(มีคอชาเหมือนกันบอกว่า ร้านนี้ให้สั่งชาแบบ Blend ค่ะ ถ้าเป็นชาแท้ๆ รสยังไม่ดีเท่าที่ควรนะคะ)
Post
