Video
Read full review
2014-10-21
300 views
เมื่อวานพาไปกินของอร่อยแถวหัวหินมาแล้ว วันนี้จะพาข้ามทะเลอ่าวไทยมาที่พัทยา มาทานอาหารที่ร้านอาหารสวย โรแมนติกริมชายหาดกันครับ ร้านนี้ไม่ใช่ร้านใหม่เป็นร้านที่มีชื่อเสียงเปิดมานานแล้ว แต่ตอนแรกๆที่เปิดโด่งดังทาง social network มากในเรื่องของการบริการ ตอนนั้นก็เลยยังไม่อยากไปทาน ไปพัทยามาคราวล่าสุดเห็นว่าร้านนี้เปิดมาพักนึงแล้วอะไรๆน่าจะลงตัวดีแล้วคุณชายเลยอยากไปทานร้านนี้ครับThe Glass House, หาดจอมเทียน พัทยาการเดินทางไปร้าน The Glass House, หาดจอมเทียน พัทยา เดินทางไปไม่ยากครับ จากเส้นสุขุมวิทผ่านพัทยาใต้มุ่งหน้าสัตหีบ ผ่านตลาดน้ำสี่ภาค ผ่านสี่แยกไฟแดงที่ทางด้านขวาเป็นสำนักงานอัยการพัทยา (ถ้าจำไม่ผิดแยกนี้จ
The Glass House, หาดจอมเทียน พัทยา
การเดินทางไปร้าน The Glass House, หาดจอมเทียน พัทยา เดินทางไปไม่ยากครับ จากเส้นสุขุมวิทผ่านพัทยาใต้มุ่งหน้าสัตหีบ ผ่านตลาดน้ำสี่ภาค ผ่านสี่แยกไฟแดงที่ทางด้านขวาเป็นสำนักงานอัยการพัทยา (ถ้าจำไม่ผิดแยกนี้จะเรียกว่า “แยกอัยการ”) ผ่านโรงละครอลังการทางด้านซ้ายมือ แล้วเตรียมตัวชิดขวาเพื่อจะยูเทิร์นครับ จะเป็นยูเทิร์นก่อนถึงโรงแรมแอมบาสเดอร์ครับ ตรงซอยเข้าร้านอาหาร The View พอดีครับ พอยูเทิร์นแล้วขับตรงมาเรื่อยๆผ่ายซอยเข้าร้านบ้านน้ำเมา พอผ่านปั๊มน้ำมันเชลส์ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยถัดไปเลยครับ ขับตรงไปจนเห็นทะเล ที่จอดรถของร้าน The Glass House, หาดจอมเทียน พัทยา อยู่ก่อนถึงตัวร้านครับ
ตัวร้าน The Glass House ใหญ่โตกว้างขวางมากๆครับ เริ่มจากส่วนแรกที่เราจะเจอเมื่อลงจากรถคือส่วนของลูกค้าจะต้องรอพนักงานต้อนรับที่จะพาไปนั่งโต๊ะ พอเข้ามาด้านในอีกนิดซ้ายมือจะเป็นร้าน Bakery ซึ่งจะมีที่นั่งต่างหากจากร้านขายอาหาร แต่ถ้าใครทานของคาวแล้วอยากทานของหวานก็สามารถสั่งมาทานที่โต๊ะได้ครับ บริเวณนี้ก็จะมีที่นั่งสำหรับทานอาหารด้วยเดินต่อมาอีกนิดก็จะเป็นที่นั่งในร้าน เดินผ่านตัวร้านออกมาทางด้านริมทะเลก็จะมีที่นั่งภายนอกทั้งบริเวณร้านและและโต๊ะที่อยู่ริมทะเล และว่ากันว่าที่นั่งบริเวณริมทะเลจะเป็นที่นั่งที่โรแมนติกที่สุดครับ ถ้าได้มานั่งตอนเย็นๆ แดดร่มลมตก กินข้าวเคล้ากับการชมวิวพระอาทิตย์ดวงกลมโตสีส้มๆบอกบ๊ายบายแก่ชาวโลกด้วยแล้วละก็เชื่อได้ว่าจะไม่ลืมอาหารในมื้อนั่นเลยครับ
ผมก็ว่าโต๊ะที่อยู่ริมทะเลเป็นทำเลที่ดีมากทีเดียวครับ พอดีว่าเราไปกินที่ร้าน The Glass House ตอนยังไม่เที่ยงดี โต๊ะที่อยู่ริมทะเลก็เลยยังพอมีที่ว่างให้ได้นั่ง แต่ก็มีหลายตัวที่ถูกจองเอาไว้แล้วครับ โต๊ะที่อยู่ริมทะเลค่อนข้างสบายครับ ไม่ต้องนั่งเป็นพิธีการแบบโต๊ะที่อยู่ในร้านแต่นั่งเอนหลังแบบสบายๆบนเก้าอี้ตัวเตี้ยๆ ขนาดใหญ่ มีพนักพิงหลังที่เอนลงไปกว่า 45 องศา แล้วมีเบาะหนาๆ นุ่มๆ กับหมอนอิงอีกหลายใบ แล้วยังมีร่มกางบังแดดให้อีกด้วย นั่งๆนอนๆไปๆมาๆ หนังตาเริ่มหนักๆจะหลับซะให้ได้ อิอิอิ
สั่งเครื่องดื่มประเภทม็อคเทลมาดื่มแก้ง่วงกันก่อนนะครับ แก้วนี้จำชื่อไม่ได้ชัดนัก ประมาณว่า sunrise อะไรนี่แหละครับ แถมลืมจำราคาที่แน่ๆมาด้วย แต่ราคาอยู่ที่ประมาณ 100 – 150 บาทครับจำได้คร่าวๆว่ามีส่วนผสมของน้ำส้ม น้ำสับปะรด สีสวยดีมากๆครับ เหมือนสีของพระอาทิตย์ตอนใกล้ๆจะตกดิน เป็นสีส้มเข้มๆที่ก้นแล้ว แล้วค่อยๆไล่สีอ่อนขึ้นๆจนถึงปากแก้ว รสชาติก็หวานๆ เปรี้ยวนิดๆ เย็นๆ ดื่มแล้วสดชื่นดี หายง่วงเลย
ครับ
คุณชายสั่งน้ำมะนาวครับ แก้วนี้ราคา 120 บาท เปรี้ยวถูกใจคุณชายมากๆครับ แถมเย็นสดชื่นดีด้วย
อาหารอย่างแรกเราสั่ง Ceasar Salad ราคา 180 บาทสลัดผักกาดคอสราดน้ำสลัดที่มีพามิซานชีสเป็นส่วนประกอบ รสชาติน้ำสลัดออกเค็มๆนิดนึงนะครับ ตามสูตรจริงๆเค้าจะใส่แอนโชวี่ (ปลาเค็มฝรั่ง) ด้วย ไม่แน่ใจว่าที่ร้าน The Glass House เค้าใส่ด้วยหรือเปล่า แล้วโรยหน้าด้วยเบคอนทอดกรอบหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ กับกรูตองค์ หรือขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆ โรยหน้าอีกทีด้วยพามิซานชีส รสชาติเค็มน้อยๆ ทีมาผสมกับรสชาติที่ออกขมนิดๆของผักกาดคอสมันลงตัวพอดีเลยครับ
จานที่ 2 เป็น ผักโขมอบชีส ราคา 180 บาทเป็นเมนูทานเล่นๆที่ถูกปากใครๆหลายๆคนนะครับ ถ้าเป็น cheese lover คงหลงรักผักโขมอบชีสที่ร้าน The Glass House แน่ๆครับ เพราะเค้าโปะชีสลงบนหน้าผักโขมเยอะมากกกกกกกกก เรียกได้ว่ามองไม่เห็นผักโขมเลยครับ เห็นแต่ชีสสีเหลืองนวลๆไปทั้งจาน รสชาติของจานนี้จะออกนวลๆครับ รสไม่จัดมาก เป็นเมนูสำหรับทานเล่นๆ รออาหารจานหลักได้ดีเชียวครับ
จานหลักจานที่ 1 เป็น สปาเกตตี้ผัดปลาสลิด ราคา 220 บาทเมนูนี้หน้าตาดีครับ สปาเกตตี้เค้าผัดมาแบบน้ำมันไม่เยอะครับ เส้นก็ลวกมาแบบกำลังกินหนึบๆ นุ่มๆ ปลาเค็มก็เค็มกำลังดี ไม่เค็มมาก แล้วก็ทอดมาแบบไม่กรอบมากด้วยครับ (ผมว่าถ้าทอดมาแบบกรอบมากๆ ปลาสลิดมันจะเค็มไปครับ) รสชาติของสปาเกตตี้ผัดปลาเค็มจานนี้มีรสเผ็ดนิดๆจากพริกแห้งที่ใส่มาและมีรสเค็มหน่อยๆของปลาสลิด กับเนยแข็งที่โรยหน้ามาด้วย เป็นรสชาติแบบเอเชียๆ มีเราคุ้นกันดีเลยครับ
อาหารจานหลักจานที่สอง สปาเกตตี้ซีฟู๊ด หรือมารีนาร่าซอส ราคา 220 บาทสปาเกตตี้ที่ลวกมาแบบกำลังกินราดหน้าด้วยซอสเครื่องทะเลผัดกับมะเขือเทศบด รสออกเปรี้ยวๆนิดๆ เผ็ดหน่อยๆ (สูตรมารีนาร่าซอสเค้าจะใส่พริกแห้งลงไปนิดหน่อยครับ เป็นรสชาติแบบทางใต้ของอิตาลี) เครื่องทะเลมีทั้งกุ้งตัวใหญ่ๆ 2-3 ตัว ปลาหมึกหั่นแว่นหนาๆ เนื้อหนึบๆ 3 – 4 ชิ้น เรียกได้ว่าสามารถอิ่มได้ใจจานเดียวนี่เลยครับ
ร้าน The Glass House, หาดจอมเทียน พัทยา เป็นร้านอาหารชื่อดังที่มีบรรยากาศดี ร้านสวย โรแมนติก เหมาะสำหรับจะพาคนพิเศษมาทานอาหาร หรือจะพาหมู่เพื่อนฝูง ครอบครัวมาทานอาหารด้วยกันก็ได้ครับ ผมว่าความที่ร้านตบแต่งอย่างสวยงาม บรรยากาศโรแมนติกจะช่วยทำให้อาหารอร่อยมากขึ้น และจะทำให้อาหารมื้อนั้นเป็นมื้อพิเศษที่จะอยู่ในความทรงจำตลอดไปนะครับChubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน
Post
