รีวิวรอบนี้เป็นการไปอีกรอบ ล่าสุดที่สุดนะคะ เป็นการไปกับครอบครัวอย่างที่บอกค่ะ
กลับมาบ้านวันแรกน้องชายชวนไปกินร้านอาหารจันทน์ผา ก็เลยขับรถไปกันค่ะ วันนี้คนไม่เยอะมากเพราะพยายามไปกินก่อนปีใหม่ ตอนไปก็เริ่มเย็นแล้วค่ะ คนไม่เยอะมาก แต่ทันเห็นพระอาทิตย์ตกดินด้วยให้ดูเมนูอีกรอบนะคะ แต่แบบไม่ครบนะคะ เพราะเคยลงไปแล้วอะนะแน่นอนว่ามาร้านแล้วก็ต้องสั่งหอยจันทร์ผาสั่ง 2 ชุดเลยเพราะชุดเดียวไม่พอแน่แน่หอยจันทน์ผายังอร่อยอยู่นะคะแม้ว่าเค้าจะทำเผ็ดน้อยลงถ้าถามเราเราชอบเผ็ดจัดจัดแบบเดิมมากกว่า
ปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียม ยังทอดมาได้ดีเหมือนเดิมค่ะ น้ำจิ้มก็อร่อยปลาดุกทะเลผัดฉ่ารสชาติดีเครื่องเยอะ แต่ยังไม่จัดจ้านเท่าร้านพวงเพชรนะคะเนื้อปูผัดผงกระหรี่ก็รสชาติดีค่ะสั่งเบิ้ลปลาเนื้ออ่อนทอดกระเทียมเพิ่มอีกจาน สรุปหมดทั้งสิ้น 1000 นิดนิด แต่ถือว่าแพงนะคะเพราะปลาเนื้ออ่อนมีอยู่แค่จานละ 4 ถึง 5 ตัวเอง แต่ตกจานละ 200โดยรวมอาหารจานนั้นอื่นรสชาติดีขึ้น หอยจันทร์ผาเผ็ดน้อยลงราคาอาหารแพงขึ้น ถ้าไปทันก่อนพระอาทิตย์ตกดิน ชมวิวสวยดีค่ะ

sweet factory เป็นร้านกาแฟและเค้ก. homemade เล็กๆน่ารักอีกร้านหนึ่งในจันทบุรี ซึ่งเมื่อได้มาแล้วต้องบอกว่าประทับใจใน รสชาติกาแฟกับเค้กเป็นอย่างมาก
[ที่ตั้ง]
ตัวร้านไม่ได้ตั้งอยู่โซนริมน้ำเหมือนร้านดัง ร้านอื่นหลายร้าน และก็ไม่ได้อยู่ในโซนตลาดกลางเมือง แต่อยู่ในจุดที่เรียกว่าแทบจะไม่สะดุดตา เลย (คือถ้าไม่รู้ชื่อร้านมาก่อน ก็มองผ่านได้ง่ายๆ ล่ะ) ร้านตั้งอยู่ที่สี่แยกพระยาตรัง(แยกที่มี โลตัสจันทบุรี) เลยโลตัสจันทบุรีไปทางแยกตากสิน ประมาณ 500 เมตร (อยู่ฝั่งเดียวกับโลตัสเลย) ถ้ามาจากสุขุมวิทเลี้ยวขวาที่สี่แยกเขาไร่ยา ปีงบประมาณ 7 กิโลเมตร เจอสี่แยกที่ปั๊มเชลล์อยู่หัวมุม ให้เลี้ยวขวาแยกนั้นแล้วตรงไปเรื่อยๆ จะเจอจุดต่างๆ ตามด้านบนเลย [บรรยากาศ&การบริการ]
ตัวร้านเป็นตึกแถวชั้นเดียว แถวเดียวกับร้านข้าวต้ม จโภชนา ทั้งป้ายร้านและตัวร้านบอกตรงๆ แทบไม่เด่นเลย(ถ้าไม่ตั้งใจมองดีๆ) อาจจะมีนิดๆ ตรงที่มีการแต่งแบบวินเทจหน้าร้านอยู่หน่อยๆ แต่พาลให้คิดถึงร้านถ่ายรูปแต่งงานซะงั้น แต่พอได้เข้าไปข้างในแล้วคนละเรื่องล่ะ ถึงจะเล็กแต่ก็น่ารักน่านั่งพอตัว บรรยากาศในร้านแต่งแนว vintage ด้วยโทนสีฟ้าตัดครีม พร้อมรูปภาพและของประดับหลายๆอย่าง มีห้องเล็กๆ ที่จัดเป็นโซฟา ล้อมรอบโต๊ะกลางทำให้แลดูเหมือนกำลังนั่งทานขนมอยู่ ในห้องนั่งเล่นที่บ้านตัวเองยังไงยังงั้น เรียกว่าบรรยากาศนี่ให้เต็มไปเลย
ส่วนการบริการ ยิ้มแย้มแจ่มใส น่ารักดี
[รสชาติ&ราคา]
รายการเค้กที่นี่มีตัวเลือกให้เลือกทานกันเยอะเลย แถมหน้าตาน่ารักน่าทาน ไม่แพ้ร้านดังๆในกรุงเทพทีเดียว ที่สำคัญราคา 65 บาทเท่ากันทุกชิ้น เรียกว่าไม่ต้องลำบากใจเลือก ว่าจะมีชิ้นไหนแพงหรือถูกล่ะ สำหรับวันที่ได้ลองทาน เลือกทานกาแฟกับ teddy cake และเค้กโดม
++sweet factory ice coffee ราคาแก้วละ 50 บาท เห็นชื่อกาแฟน่าจะเป็นตัวเด็ดของร้าน พอได้ทานก็ไม่ผิดหวังจริงๆ ก่อนเสิร์ฟจะมีการ shake กาแฟ ซึ่งทำให้กาแฟเข้าเนื้อกับน้ำแข็ง แถมฟองอากาศที่เกิดขึ้นจากการ shake ก็ทำให้รสชาติดีขึ้นจริงๆ ผลคือ กาแฟแก้วนี้ หอม เข้ม มัน อร่อย จนดูดหมดแก้วแบบไม่รู้ตัว
++teddy cake กับช็อกโกแลตโดมเนื้อเค้ก เนียน นุ่ม หวานละมุน เข้มข้น ไม่ได้หวานแบบแสบไส้ แถมได้รสชาติช็อกโกแลตดีเลยด้วย
[สรุป]
โดยรวมแล้ว ถึงแม้ตัวร้านจะเล็กสักหน่อย แต่ความอร่อยเกินตัวไปเยอะจริงๆ เรียกว่าเป็นร้านที่ขายรสชาติมากกว่าการแต่งร้านหรือทำเลก็อาจจะว่าได้

เมื่อคราวที่ไปเที่ยวเกาะลันตา จ.กระบี่ เราพักบนเกาะลันตา
มื้อกลางวันเหนื่อยจากการเดินทางก็หาออะไรทานในโรงแรม
พอมื้อเย็นก็เช่ารถออกมาหาอะไรกินแถวท่าเรือ มาทะเลก็ต้องกินอาหารทะเลเนอะ
เราก็เดิน ๆ มอง ๆ เปิดเมนูดู สุดท้ายเลือกทานที่ร้านลานตาซีฟู๊ดค่ะร้านนี้เป็นร้านแบบ Open Air วิวริมทะเล
เราไปทานช่วงเย็นคนคึกคักดีนะคะ มีลูกค้าเข้าออกตลอดเวลาเลยวิวริมน้ำซูมจากโต๊ะที่นั่งที่อยู่ - เบอร์โทรของร้านเมนูก็เหมือนร้านอาหารทะเลทั่วไป
แยกเป็นหมวด ๆ กุ้ง-หอย-ปู-ปลา-ปลาหมึก ฯลฯเมนูอาหารแนะนำ
- แกงส้มปลาเก๋า
- ปูนิ่มทอดกระเทียม
- ปลาไข่ชุบแป้งทอด
- ปลาอินทรีย์ทอดซอสมะขาม
- ปลาทอดขมิ้นไปกัน 3 สาวกินข้าวไม่จุเลยสั่งแบบเป็นจานพอ ไม่ต้องยกเป็นโถ
จานละ 20 บ. 3 จาน 60 บ. ข้าวธรรมดา ๆ นะไม่ได้นุ่มหอมมะลิ แต่ก็ไม่ร่วนแข็งสั่งเมนูแนะนำมาซักเมนู ปูนิ่มทอดกระเทียม 160 บ.
ปูน้อยไปหน่อย กระเทียมซะเยอะ จานนี้เฉย ๆ นะ ก็ทานได้มาตรฐานทั่วไปไม่ได้อร่อยเด็ดอะไรแกงส้มชะอมไข่กุ้ง 160 บ. มาใต้ทุกครั้งต้องไม่พลาดแกงส้ม
เมนูนี้เรารีเควสเอง แกงส้มของทางใต้จะสีเหลือง ๆ รสชาติของชามนี้ถูกปากเรามาก
รสจัดแบบแกงส้มทางใต้ กินไปเผ็ดไปน้ำหูน้ำตาไหล แต่หยุดกินไม่ได้ 55
เมนูนี้ถูกปากคนชอบทานรสจัดมากค่า หร่อยจังฮู้กุ้งทอดซอสมะขาม 210 บ.
เห็นมีเมนูแนะนำเป็นปลาอินทรีย์ทอดซอสมะขามไง แต่ไม่อยากกินปลาอินทรีย์
อยากกินกุ้งก็เลยได้จานนี้มา กุ้งสดเด้งดี ซอสมะขามน้ำจะเหนียว ๆ รสก็ออกหวาน ๆ
ปกติไม่ชอบกินซอสแนวนี้แต่พอมีรสหวาน ๆ ก็ช่วยเบรคความเผ็ดจากเมนูแกงส้มไปได้เยอะเพื่อนขอสั่งไข่เจียวด้วย บอกอยากกิน ดูราคาหล่ะ จานละ 70 บ. เอิ่ม เราคิดในใจสั่งทำไมฟร่ะ 555
แต่สุดท้ายแล้วจานนี้กลับเป็นตัวช่วยที่ดีมาก คือช่วยเบรคความเผ็ดจากแกงส้มได้ดี
เป็นอีกเมนูที่หมดไวมาก มื้อนี้รวมน้ำ+น้ำแข็งแล้วเบ็ดเสร็จ 700 บ.
โดยรวมอาหารร้านนี้จะเป็นพวกอาหารทะเลซะส่วนใหญ่
ราคาไม่แพงนะ เพราะแต่ละเมนูก็จานใหญ่มาเชียว (ยกเว้นไข่เจียว แหะๆ)
อาหารสดดี เมนูที่เป็นอาหารรสจัดก็จัดจ้านแบบคนใต้ ชอบบ
ถ้าได้ไปเที่ยวลันตาอีกคงได้แวะไปซ้ำค่ะ ติดใจแกงส้มจริง ๆ

อาหารอร่อย บรรยากาศในร้านดีมาก มีหลากหลายโซนให้เลือกนั่ง แต่ของหวานที่นี้อยากบอกว่า ฟินมากกกก

ร้าน "Fruz Scoop" ร้านอาหารอยู่ภายใน Camel Republic มีอยู่ 2 - 3 ร้านให้นั่งพักผ่อน ร้านนี้เป็นร้านแรก มีโต๊ะให้นั่งรับประทานไอศกรีม ไม่เกิน 10 โต๊ะ นอกจากไอศกรีมมีเครื่องดื่ม ขนมหวาน ให้เลือกรับประทาน"Ice Cream Cone" รสชาติ Strawberry Yogurt and Chocolate รสชาดดี ไม่หวานมากเกินไป อมเปรี้ยวนิด ๆ โคนกรอบดี

เป็นร้านที่ขายเครื่องดื่มที่อยู่ติดกับร้านโรตีมาดีน่าเลยนะคะ อยู่หน้าสถานีรถไฟตรัง ในถนนคนเดินเช่นเดียวกันค่ะเป็นร้านรถเข็นตามภาพนะคะ ที่นั่งก็มีพอควร เป็นโต๊ะเก้าอี้แบบร้านขายอาหารตามตลาดโต้รุ่งทั่วไปแหละค่ะราคาเครื่องดื่มเป็นมิตรมาก สมกับความเป็นตรังจริงๆ ค่ะของเราสั่งนมเย็นมา ค่อนข้างออกหวานเลยนะคะ ของเพื่อนคนอื่นก็บอกว่าจางๆ ไม่เข้มข้นมาก อีกคนที่สั่งชาเย็นบอกว่าชาเข้มข้นดี แต่ไม่หวานมันค่ะ ฮาา แต่ก็..กับราคาไม่แพงอะนะ ได้อยู่ค่ะสรุปก็เป็นอีกร้านที่นั่งได้นะคะ ถ้าจะสั่งโรตีมาดีน่าทานก็สั่งเครื่องดื่มร้านนี้มาแกล้มได้ค่ะ

วันนี้จะพาไปกินอาหารเช้าที่เป็นมื้อหนึ่งที่ประทับใจของทริปนี้นะคะ (จนต้องทำรีวิวแยกให้แล้วกัน ฮา) ซึ่งทางททท.ก็พาพวกเรานั่งรถตู้ไปกันค่ะ นั่งรถไปจากรร.ก็ราวๆ 10-15 นาทีเองหละค่ะ
ร้านนี้เปิดเวลา 6.00-13.00 (หรือบางวันก็ 14.00 ค่ะ แล้วแต่ลูกค้าและของว่ายังมีอยู่มั้ย) ไม่มีวันหยุดนะคะ เพราะฉะนั้นจะมากินได้คือมื้อเช้ากับกลางวันเท่านั้นค่ะ เป็นร้านที่เปิดมาเกือบยี่สิบปีแล้วนะคะ หุๆ
ลักษณะร้านจะเป็นร้านแบบชาวบ้านเลยนะคะ แต่อย่างที่เคยบอกหละค่ะ ร้านนี้นี่ตามสำนวน เซียนอยู่รู หมูอยู่ตึกเลยจริงๆ อิอิร้านนี้ก็มีอาหารหลายอย่างด้วยกันนะคะ ไม่ว่าจะเป็นข้าวยำ ชาชัก มะตะบะ โรตีกินกับแกงต่างๆ นานา มากมายพอควรเลยหละค่ะข้าวหมกไก่ก็มีน้าา ราคาและเมนูก็ตามภาพเลยฮับที่นั่งภายในร้านค่ะ มีหลายโซนอยู่นะฮับวิธีการสั่งเค้าจะมีมาให้เลือกนะคะ ตามเบอร์โต๊ะตัวเองเลย ที่นี่มีไวไฟให้ใช้ฟรีด้วยนะจ๊ะ บร๊ะเจ้าจอร์ชมันยอดมากกกกกให้ดูก่อนแล้วกันนะคะว่าวันนั้นคณะของเราได้ยัด เอ๊ย กินอะไรกันไปบ้าง...สารภาพว่า หลายครั้งที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ อิชั้นก็สงสัยว่า...ตัวเองแปลงร่างกลายเป็นสายกินขนาดนี้ได้อย่างไร เอาน้ำหนัก 42 ตรูคืนม้าาาาาา
ก่อนจะเริ่มรีวิวเมนูที่เราแนะนำ ขออนุญาตแปะตอนที่พี่ก๊ะหนาบ คุณแม่เจ้าของร้านได้สาธิตชาชักให้เราดูกันก่อนนะคะ ที่สำคัญ ลูกสาวคุณแม่สวยมากกกก (แต่น้องเค้ามีครอบครัวแล้วค่ะ ขอแสดงความเสียใจกับหนุ่มๆ ด้วย โฮะๆๆๆ)เมนูแรกนะคะ ชาชักค่ะ จะเห็นว่าเป็นฟองเรยทีเดียว ชาเข้มข้นและหอมนะคะ แต่รสจะค่อนข้างหวานพอควรค่ะ เราน่ะชอบหวาน โอเค แต่คนไม่ชอบหวานอาจจะรู้สึกว่าหวานไปนิดหนึ่งนะคะต่อไปค่ะกับข้าวหมกไก่ ที่เด่นของเมนูนี้ก็คือน้ำจิ้มค่ะ เราชอบน้ำจิ้มของที่นี่แหละ รสชาติดีค่ะ อร่อย กินกับข้าวหมกไก่แล้วไม่เลี่ยนค่ะ ตัดรสดี ชอบต่อไปเป็นเมนูเนื้อแดงค่ะ ตัวนี้พี่ก๊ะหนาบบอกว่าผัดกับซอสแดงๆ ที่มีขายทั่วไปนะคะ แปลกด้วย และรสชาติดีค่ะ ตัวเนื้อนิ่มแต่ยังมีเทกซเจอร์ให้เคี้ยวอยู่นะคะ อร่อยอีกเช่นกันอีกหนึ่งเมนูค่ะ โรตี มาพร้อมกับสามเครื่องจิ้มคือ แกงถั่ว นมข้นหวาน และน้ำตาลค่ะ ตัวโรตีหนานุ่มแต่กรอบนิดๆ แกงถั่วรสชาติกลมกล่อมค่ะ อร่อยอีกเช่นกันต่อไปเป็นโรตีกล้วยหอมค่ะ แป้งโรตีนุ่มกรอบกำลังดี หอมเนย และรสชาติโดยรวมก็อร่อยค่ะอีกหนึ่งเมนูที่เราชอบมากๆ ของร้านนี้ค่ะกับมะตะบะ รสดีมาก กลมกล่อม อร่อยและไม่เลี่ยนค่ะ มาร้านนี้ไม่อยากให้พลาดนะคะ เมนูนี้ชอบกันหลายคนเลยค่ะ (เราว่าร้านนี้ทำแนวโรตี มะตะบะอร่อยแหละค่ะ)อีกหนึ่งเมนูที่ชอบค่ะกับข้าวยำนะคะ รสชาติกำลังดีค่ะ ทั้งเครื่องและน้ำบูดู ได้รสที่กำลังพอดีและอร่อยง่ะ (คือ ไม่ได้เอาสมุดจดลงไป แต่โน้ตไว้ว่าอันไหนอร่อยบ้าง ก็เลยแจงรายละเอียดรสชาติไมไ่ด้นะคะ ขออภัย แฮ่...)ส่วนนี่คือเมนูที่แปลกดีค่ะ ไม่เคยเจอที่ร้านอื่นน่ะ (เราเองก็มาเส้นทางนี้น้อยด้วยง่ะนะ แหะๆ) ไม่ว่าจะเป็นข้าวเหนียวปลาเค็ม แกงสองอย่าง (ที่จำชื่อไม่ได้แล้ว แง้วว ดูจากคลิปด้านล่างที่ก๊ะหนาบมาบอกแล้วกันนะคะ) หรือโรตีไข่ดาว (เพิ่งจะเคยมาเจอก็ร้านนี้หละ) ใครอยากลองก็สั่งมากินดูนะฮับปิดท้ายด้วยรูปของก๊ะหนาบและลูกสาวทั้งสองท่านค่ะ (มีลูกท่านอื่นๆ อีกแต่วันนั้นไม่อยู่ เลยถ่ายมาแค่นี้ค่ะ แหะๆ)สรุปสำหรับร้านนี้นะคะ ถ้าใครไปแถวปากบาราก็อยากให้ลองไปกินดูกันค่ะ (จนต้องทำรีวิวแยกมาต่างหากแล้วกัน ฮา) มีทั้งเมนูอร่อยโดนใจ กับเมนูแปลกที่ไม่เคยเจอจากที่อื่นนะคะ ถ

หลังจากที่ไปลุยทะเลกับตะรุเตา-หลีเป๊ะ ฯลฯ มาทั้งวันแล้ว มื้อเย็นก็มาหาอะไรกินกันที่ร้านนี้ค่ะ อยู่ห่างจากท่าเรือปากบาราราวๆ 10-15 นาทีนะคะ ไม่ไกลมาก ร้านมีทั้งที่นั่งติดริมน้ำกับด้านในค่ะ เมนูอาหารมีทั้งแบบราคาเฉยๆ และมีรูปประกอบนะคะเราสั่งกันมาหลายอย่างมากนะคะ ไล่กันไปเลยเนาะ

อย่างแรกค่ะ ปลากระพงทอดน้ำปลา ปลาสดเลยค่ะ น้ำปลาก็ใช้ได้ เราชอบหวานกว่านี้นิดหนึ่ง เนื้อปลาฟูเต็มมาก ปลาตัวใหญ่ค่ะต่อไปเป็นปูนิ่มทอดนะคะ ทอดมาได้กรอบ เคี้ยวได้หมดเช่นกัน แต่เครื่องยังไม่ค่อยเข้าเนื้อเท่าไหร่ค่ะต้มยำ รสชาติกล๊างกลางอ้ะ เรามันสายแซ่บ เลยไม่ค่อยโดนเท่าไหร่ แต่วัตถุดิบทุกอย่างสดหมดเลยค่ะข้าวผัดปู ผัดมาแห้งและร่วนดีค่ะ ปูให้มาเยอะมาก โอเคค่ะส้มตำปูทะเล อ่า..ไม่แซ่บอีกแล้ว แง้ววว เค้าเห็นเราเป็นคนกรุงเทพฯ เลยทำมารสชาติกลางๆ หรือเปล่าเนี่ยกุ้งราดซอสมะขาม กุ้งสดเนื้อแน่นมากค่ะ น้ำซอสมะขามรสเข้มข้นดี แต่ไม่ค่อยเข้าเนื้อกุ้งเท่าไหร่นะคะต่อไปยำไข่แมงดาค่ะ ไข่แน่นมากๆ แต่เช่นกันค่ะ รสกลางๆ ไม่ค่อยจัดจ้านแบบที่ควรเป็นนะคะกุ้งอบวุ้นเส้น ตัวนี้รสชาติดีค่ะ กุ้งสด หอมวุ้นเส้นทั่วถึงนะคะกรรเชียงปูค่ะ แกะมาให้แบบนี้เลยนะคะ สด เนื้อหวานดีค่ะ น้ำจิ้มโอเคอยู่ค่ะหอยเภา หอยท้ายเภา จะมีเฉพาะแถบนี้นะคะ และไม่ได้มีตลอดค่ะ ตอนเราไปนี่ท้ายฤดูแล้ว เนื้อคล้ายๆ หอยหลอดแต่แน่นกว่านะคะปลากระพงทอดสมุนไพร เมนูนี้ไม่ได้ชิมค่ะ อิ่มไปก่อนแล้ว มันมาช้าด้วยนะคะสำหรับร้านนี้นะคะ โดยรวมวัตถุดิบสดมากๆๆ แต่รสชาติส่วนใหญ่จะกลางๆ แล้วก็อาหารมาค่อนข้างช้าค่ะ 

สำหรับทริปททท.พาบล็อกเกอร์ไปตรัง-สตูล มื้อเช้าวันแรกที่บินถึงตรัง ททท.พาคณะไปกินอาหารเช้า ณ เรือนไทยติ่มซำค่ะ ร้านติ่มซำมหาชนของตรังนั่นเอง ดูคนเอาละกันค่ะ เหอๆหน้าตาของติ่มซำนะคะ จุดเด่นอย่างหนึ่งของที่นี่ก็คือ มีให้เลือกหลากหลายค่ะซึ่งททท.ก็สั่งบางเมนูไว้ให้แล้ว แต่ก็บอกว่าสั่งเพิ่มได้นะคะ ซึ่งแน่นอนว่า...โต๊ะเราก็มีสั่งกันค่ะ เรียกเอาจุกกันตั้งแต่มื้อแรกเลย ดูภาพเอาละกันค่ะว่ายัด เอ๊ย! กินอะไรกันไปบ้าง...น่ากลัวที่สุดสำหรับมื้อนั้นที่เราชอบจะเป็นเผือกทอดนะคะ อร่อยดีค่ะ แล้วก็ร้านนี้จะเน้นวัตถุดิบที่เป็นกุ้งค่ะ ซึ่งสดดีเลยนะคะ
ส่วนเครื่องดื่ม ตัวชาจะไม่เน้นหวานมันแบบทางกรุงเทพฯ นะคะ น้ำใบเตยจะมีกลิ่นมะลิโดดเด่นหน่อย ถ้าใครอยากแก้เลี่ยน ก็มีชาร้อนให้ดื่มด้วยค่ะ อ้อ ที่สำคัญ การกินติ่มซำของที่นี่ ถ้าอยากกินแบบออริจินัล ต้องกินกับซอสแดงๆ นะคะ ไม่ใช่จิ๊กโฉ่วน้าาา
แล้วก็ถ้าใครชอบแนวหนักๆ ก็มีทั้งบะหมี่เป็ด ข้าว กระเพาะปลา บั๊กกุดเต๋ ส่วนของหวานที่นี่มีทับทิมกรอบให้ตามภาพด้วยนะคะ ซึ่งถ้าจะเอาแบบกลับมากินก็ได้นะคะ ทำภาชนะพร้อมนำกลับเรียบร้อยเลยฮ่ะ มิต้องห่วง

ด้วยทริปททท.ตรัง-สตูลที่ผ่านมา ไปพักที่รร.เรือรัษฎานะคะ รีวิวนี้ก็จะพาไปดูอาหารเช้าของที่นี่กันบ้างนะฮับ
ห้องอาหารเช้าของที่นี่ชื่อห้องปะการังนะคะ จะอยู่ระหว่างชั้น G กับชั้น L ค่ะ ไม่ต้องใช้คูปองอาหารเช้าแต่บอกเบอร์ห้องเอาค่ะ เปิดตั้งแต่ 6.30 น.นะคะไปสำรวจกันค่ะว่ามีอะไรให้หม่ำกันบ้างนะฮับ มีครบถ้วนทั้งฝรั่งและเอเชียหละค่าหรือจะเป็นอาหารเช้าสไตล์ใต้ๆ อย่างขนมจีน ข้าวยำก็มีด้วยนะคะเครื่องดื่มร้อนเย็นที่มีให้ตามมาตรฐานนะคะสำหรับสเตชั่นทำร้อนก็แน่นอนว่าต้องมีหมวดไข่ต่างๆ นะคะ รวมทั้งก๋วยเตี๋ยวด้วยค่ะ หรือใครจะกินข้าวต้ม (หรือโจ๊กหว่า) ก็มีให้เช่นกันนะคะปิดท้ายอาหารเช้ากันด้วยไลน์อาหารตรงกลางค่ะ มีหลากหลายให้เลือก รวมทั้งพวกไส้กรอกแฮมต่างๆ ก็อยู่ตรงนี้นะคะสำหรับรีวิวโรงแรมนี้ก็จบแต่เพียงเท่านี้นะฮับ เอนทรี่หน้าจะพาดูร้านอาหารกึ่งชิลล์ของที่รร.นี้และพาไปเดินถนนคนเดินตรังกันค่า

เป็นร้านโรตีที่เพื่อนเจ้าถิ่นพามากนิตอนไปถนนคนเดินตรังค่ะ
ร้านอยู่หน้าสถานีเลย เป็นรถเข็นตามภาพนะคะ แต่คนก็เยอะตลอดเลยค่ะเราสั่งกันมาสามแบบคือ แบบธรรมดา ใส่ไข่ และกล้วยหอมโรตีที่นี่จะทำแบบแผ่นบางๆ ที่เขาเรียกโรตีกระดาษน่ะค่ะ กรอบ ให้นมข้นหวานกะน้ำตาลน้อยไปหน่อย แต่ขอเพิ่มได้ค่ะ เราชอบนะ โรตีหอมอร่อย กรอบด้วยค่ะส่วนกล้วยหอมก็อร่อยเช่นกัน รสชาติกำลังดี แป้งโรตีก็โอเค กล้วยให้มาเยอะค่ะส่วนโรตีไข่ ปกติเราไม่ชอบกินง่ะ เลยขอไม่เม้นท์แล้วกันนะคะ แหะๆ

วันนี้ก็จะพาไปกินติ่มซำอีกร้านที่นอกเหนือไปจากโปรแกรมของททท.นะคะ เนื่องจากระหว่างช่วง Networking ทางร้านก็ชวนบล็อกเกอร์ไปลองกินที่ร้านกัน แต่ปรากฏว่า...ค่ะ ไม่มีใครตื่นไปกับอิชั้นเลย ก็เลยไปแต่เพียงผู้เดียว โดยมีน้องสาว sawkitty บล็อกเกอร์เจ้าถิ่นเมืองตรังมาแว้นพาไปกินค่ะ ขอบคุณน้องสาว ณ โอกาสนี้ด้วยนะคะ
ตอนแรกน้องสาวพาไปดูร้านพงษ์โอชา 2 ก่อนค่ะ จะอยู่ปากซอยเพลินพิทักษ์ 1 นะคะ น้องสาวบอกว่า ร้านนี้จะมีวิธีการสั่งที่ทันสมัยด้วยค่ะ แต่เราไม่ได้กินร้านนี้นะคะ แหะๆ เก็บภาพมาฝากเฉยๆ แล้วกันเนาะที่เห็นไม่มีคนนี่เพราะอิชั้นไปถึงกันตอนยังไม่หกโมงเช้านะคะ 555 (รู้ยังคะว่าทำไมไม่มีใครตื่นมาด้วยกันเลย) ที่ต้องมาเช้าขนาดนี้ เพราะโปรแกรมรูทเรานัดออกจากรร.ตอนเจ็ดโมงเช้าค่ะ เพราะฉะนั้นเราต้องมากินพงษ์โอชาให้เสร็จไม่เกิน 6.30 เพื่อกลับไปเก็บอาหารเช้าที่รร. และเตรียมตัวเช็คเอาท์ออกเดินทางน่ะค่ะ แหะๆ
จากนั้นก็เดินทางไปที่พงษ์โอชา 1 ค่ะ จะอยู่ที่ปากซอยห้วยยอดซอย 3 นะคะ ตามภาพเลยฮับบรรยากาศของร้านค่ะ ขนาดเช้าขนาดนั้นยังเริ่มมีลูกค้าแล้วนะคะนี่แน่นอนว่า จุดประสงค์หลัก (นอกเหนือจากหมูย่างแล้ว) ก็ต้องติ่มซำสิคะ เรียงรายไว้ตามภาพเลยค่าานอกจากนั้นในส่วนของเครื่องดื่มนั้น คุณลุงพงษ์ ก็ประจำอยู่ที่สเตชั่นนี้เลยนะคะ ยังคงชงเองอยู่ค่ะ
นอกจากไปเลือกจากตรงที่นึ่งโดยตรงแล้ว จะสั่งจากเมนูก็ได้นะคะ มีเมนูให้ศึกษาด้วยเช่นกันฮับว่าจะกินอะไร อิอิ (แต่เราว่าไปเลือกเองดีกว่าค่ะ เห็นหน้าเห็นตาเลยด้วยอะนะ)หน้าตาของที่เราได้กินวันนั้นค่ะ เรื่องรสชาติ อยู่ด้านล่างรูปนะคะหมูย่างของที่นี่อร่อยมากค่ะ อร่อยสุดตั้งแต่กินหมูย่างเมืองตรังมาอ้ะ ตัวที่ชอบอีกก็ตัวกลมๆ ที่เป็นกุ้ง (รูปแรกซ้ายบน) ฮะเก๋ากุ้งที่นี่ก็อร่อยค่ะ แล้วที่ชอบสุดและไม่เคยได้กินจากร้านไหนคือ ฮะเก๋าหมูค่ะ หอม เผ็ดร้อนพริกไท อร่อยมากๆ ชอบค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีปักตั่งโก๊ ซึ่งน้องสาวบอกว่าคนตรังจะกินคู่กับหมูย่าง ตัวกระดูหมูที่เป็นซุปๆ นั้น นุ่มเปื่อยดีและมีรสเผ็ดนิดๆ นะคะ โดยรวมอร่อยเลยค่ะ คุ้มกับที่ตื่นเช้ามืดมากินเลยอ้ะ
ส่วนชาของที่นี่ก็หอม หวานกำลังดีนะคะ กรุณาคนก่อนดื่มด้วยนะคะ เพราะคุณลุงจะชงแบบชาโบราณ คือรองพื้นแก้วด้วยนมข้นหวานค่ะ
ก่อนกลับก็ถ่ายรูปป้าหมีกับลุงพงษ์ค่ะ สองท่านนี้จะอยู่สาขานี้ตอนเช้าๆ นะคะ พอราวๆ สิบโมงเช้าก็จะไปที่สาขาสองค่ะสำหรับท่านใดที่ไปไม่ถูกก็ลองโทรไปถามทางตามนามบัตรนี้เลยนะฮับสรุปแล้วสำหรับร้านนี้ เป็นการกินอาหารเช้าที่ตรังที่ประทับใจเรามากๆ ค่ะ มีเมนูหลายอย่างที่มากินครั้งแรกก็ที่นี่อ้ะ (ฮะเก๋าหมูเป็นต้น แฮ่...) หมูย่างก็อร่อยมากๆ ค่ะ ถ้าใครไปก็เชียร์ให้ลองไปกินที่ร้านนี้ดูนะคะ

ร้านน้อยเบเกอรี่ อยู่ถนนพระราม 2 ช่วงมหาชัย จ.สมุทรสงครามค่ะ เค้าเป็นร้านขายขนมของฝากค่ะ ขับรถมาก็สังเกตุเจ้ากังหันเข้าไว้ค่ะ หาไม่ยากทางเข้าร้านจะมีป้ายบอกไว้เลยว่า ร้านนี้เค้าเป็นต้นตำหรับเค้กฝอยทองค่ะ และเป็นร้านเชลล์ชวนชิมด้วยนะคะ ฮั่นแน่..ต้องอร่อยแน่ๆเลยค่ะร้านใหญ่มากเลยค่ะ และร้านตกแต่งได้ดูดี ชวนให้แวะเข้าไปค่ะ ภายในร้านก็มีขนมมากมายจริงๆ แต่จะมีทั้งขนมของร้านเค้าทำเอง และก็มีขนมของร้านอื่นฝากขายด้วยค่ะมาถึงขนมของดังประจำร้านเค้า เค้กฝอยทอง ค่ะ เราซื้อกล่องเล็ก ราคา 55 บาทค่ะ บอกเลยว่า เค้กเค้าออกแนวไม่หวานค่ะ ดีตรงที่ทานเยอะจะไม่เลี่ยนนะ แต่โดยส่วนตัว เราว่า เนื้อเค้กเค้าละเอียดดีค่ะ แต่แห้งไปหน่อยค่ะ และตัวฝอยทองก็ไม่นิ่มเท่าไหร่ ถ้าจะให้ดาว ถ้าเต็ม 5 ดาว เราจะให้ 3 ดาวก่อนค่ะเนื่องจากเรามาร้านนี้เป็นครั้งแรก ไหนๆเค้าบอกว่าเป็นต้นตำหรับเค้กฝอยทอง เลยเดาว่า ฝอยทองกรอบก็น่าจะเป็นขนมติดดาวของที่นี่เนอะ จัดมาราคากล่องละ 55 บาทเช่นกันค่ะ ถามว่า อร่อยไหม คงตอบว่าเฉยๆค่ะ ฝอยทองน่ะกรอบดีค่ะ แต่ติดตรงที่ไม่มีความหอมของขนมไทยน่ะค่ะเค้กมะพร้าวนมสดค่ะ ราคา 75 บาท รสชาดหวานๆ+เค็มๆ+มันๆ โดยรวมรสชาดใช้ได้นะคะ ถึงจะไม่ Wow เลยซะทีเดียว แต่ก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ ด้านล่างเป็นเนื้อเค้กแบบเดียวกับเนื้อเค้กของเค้กฝอยทองค่ะ แต่เมนูนี้พอทานรวมกับหน้ามะพร้าวด้านบน ทำให้มันไม่แห้งเกินไป ตัวมะพร้าวก็เข้มข้นดี พอผสมกับนมสด ก็เลยรสชาดกลมกล่อมดีค่ะ  

วันนี้จะเป็นการรีวิวอาหารเมนูเด็ดและเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Pier88 ซึ่งเป็นร้านอาหารกึ่งผับสำหรับชิลล์เอาท์ที่ดีที่สุดของตรัง ณ ขณะนี้ 
เริ่มต้นกันด้วยป้ายชื่อร้านและท้องฟ้ายามเย็นเห็นแสงรำไร (เอ่อ..ป้าคะ เพลงบอกอายุมากค่ะ กรุณากลับมาด่วน) ฟ้ายามเย็นวันนั้นสีหวานสวยมากค่ะ ชอบที่นั่งภายในร้านมีหลายส่วนหลายโซนมากค่ะ แล้วก็พอค่ำๆ หน่อยก็จะมีวงดนตรีมาเล่นเพลงให้ฟังนะฮับเริ่มกันที่เมนูแรกเลยนะคะ กับหมูสามชั้นทอดเกลือ 140 บาทค่ะทอดมาได้โอเคนะคะ เทกซเจอร์มีความหยุ่นเคี้ยวกำลังดี จะจิ้มหรือไม่จิ้มซอสที่ให้มาก็โอเคอยู่ค่ะ
ใบเหมียงผัดไข่ 160 บาท ที่มาในรูปลักษณ์ที่แปลกตาไปจากปกตินะคะ อันนี้อร่อยตามมาตรฐานค่ะต่อไปเป็นแซลมอนจิ้มแจ่วซอสมาโย 280 บาทนะคะ
แซลมอนทำมาแบบข้างนอกสุก แต่ข้างในยังมีความฉ่ำอยู่ค่ะ ตัวซอสอารมณ์ประมาณครีมๆ ผสมกับแจ่วนิดๆ ค่ะ แปลกลิ้นดี อร่อยอยู่นะคะเฟรนช์ฟรายด์ปาปริก้า 80 บาทค่ะตัวเนื้อเฟรนช์ฟรายด์ โอเคนะคะ หนาพอควร ทอดมาได้กรอบนอกดี ตัวซอสจะออกแนวครีมๆ เช่นกันค่ะ แต่มีความเผ็ดแฝงอยู่นิดหน่อยนะคะ
เสต็กเนื้อย่างจิ้มแจ่ว ราคา 300 บาทค่ะ มีน้ำจิ้มมาให้สองแบบ แบบฝรั่งจะคล้ายๆ กับตัวที่เสิร์ฟมาพร้อมแซลม่อนแหละค่ะตัวนี้ชอบสุดในวันนั้นค่ะ เนื้อนุ่ม ย่างมาได้หอม น้ำจิ้มแจ่วแบบไทยรสชาติดีค่ะ เราชอบนะ
ต่อไปเป็นซีฟู้ดอบชีสค่ะ ราคา 280 บาท เอาซีฟู้ดหลายๆ อย่างมาใส่ในฝาหอยแมลงภู่ตามภาพนะคะ มาพร้อมซอสแครนเบอร์รี่ตามภาพเลยค่ะตัวนี้ชีสโอเคค่ะ อร่อยหอมดีนะคะ เราชอบกินเปล่าๆ มากกว่ากินกับซอสนะคะ แต่ถ้าใครอยากได้รสเปรี้ยวนิดๆ เพิ่มก็ราดซอสเพิ่มได้ค่ะ

สมัยนี้ ร้านขนมของฝากตามแหล่งท่องเที่ยวต้องมีอะไรมากกว่า แค่ขนมของฝากจริงไหมคะ อย่างที่นี่ "1,000 Sook" ที่ชะอำ คนแวะเยอะมาก เพราะเป็น One Stop Service มีทั้ง ร้านขนมของฝาก (ร้านใหญ่มาก ขนมเยอะมาก) มีทั้งร้านอาหาร และมี Farm เล็กๆสร้างซะน่ารักเชียว นักท่องเที่ยวก็ชอบสิคะ แวะที่เดียวได้ทำทุกอย่างเลยค่ะ

ใน Farm เนี่ยเค้ามีโรงทำขนมหม้อแกง ทำให้ดูสดๆเลยค่ะ เป็นขนมที่ขายดีมากของร้าน ทำขึ้นมาร้อนๆ วางปุ๊บ ขายหมดปั๊บ  Package ก็น่ารัก ทานเองก็ดี ของฝากก็เริ่ดค่ะ เราซื้อมา 1 กล่อง มี 3 ถาดเล็ก ราคาชุดละ 100 บาทค่ะเค้าให้คละไส้ได้ค่ะ เราเลือกไส้เกาลัค (แปลกดี ไม่เคยเจอ) ทุเรียน (โดนแอบกินไปแล้ว ถ่ายรูปไม่ทัน  T_T  ) และ original ค่ะ อย่างที่บอกว่า เค้าทำสดๆร้อนๆเลยค่ะ ขนาดกลับมาถึง กทม. ที่ฝาถาดยังมีไอน้ำจากความร้อนอยู่เลยค่ะ ถ้าเทียบราคากับเจ้าอื่นๆก็คงต้องบอกว่าแพงไปนิด แต่พอได้ชิม โอ้ย..มันอร่อยมากอ่ะ มันหอมมาก...ก เนื้อขนมหม้อแกงนิ่มมาก มันดีไปหมดเลยค่ะ ยังเสียดายว่า น่าจะซื้อมาเยอะกว่านี้นะเนี่ย ถั่วลิสงทอดแผ่นกลม ราคา 39 บาท รายการนี้สะดุดตาเพราะเป็นถั่วทอด ที่มีถั่วลิสงแน่นทั้งแผ่นเลยค่ะ ปกติที่เคยเห็นร้านอื่นจะไม่มีถั่วแน่นทุกอณูขนาดนี้ แถมเป็นคนชอบทานถั่วอยู่แล้วด้วยค่ะ อยากจะแนะนำให้สำหรับคนชอบทานถั่วเหมือนกันว่า ไม่ควรพลาดที่จะหิ้วกลับบ้านไปด้วย เพราะถั่วกรอบมากค่ะ ไม่อมน้ำมัน ที่สำคัญไม่เหม็นหืน อันนี้สำคัญมาก เพราะการทานถั่วทอดที่สดใหม่แบบนี้ จะเพลินมากเลยทีเดียว และก็จะหมดถุงไปโดยเร็วไม่รู้ตัวเลยค่ะ ^_^ทองม้วนนี้ ที่ซื้อมาเพราะเค้าให้ชิมที่หน้าร้านค่ะ พอชิมแล้วก็อร่อย ก็เลยซื้อมาหลายถุงเลยค่ะ เค้าขายถุงละ 45 บาท แต่ถ้าซื้อ 4 ถุง จะใส่ให้รวมเป็นถุง Pack พิเศษอีกชั้นนึง สวยงาม เหมาะเป็นของฝากได้อย่างดีงามเลยค่ะ แต่ไม่ลดราคานะคะ ใส่ถุงพิเศษเพิ่มให้เฉยๆค่ะ

เห็นร้านบอกว่า ทองม้วนนี้ทำจากน้ำตาลโตนด (แล้วปกติ เค้าใช้น้ำตาลอะไรทำกันน้า? ไม่มีความรู้ซะด้วยสิ) คงเป็นเหตุผลที่ทำให้ทองม้วนนี้หอมมากแน่ๆเลย ด้วยความที่ร้านเค้าขายดีด้วย ขนมเลยไม่ค้างสต๊อก ทำให้ขนมทองม้วนและขนมอื่นๆ สดใหม่ กรอบ หอมมัน และ ไม่มีกลิ่นหืน ค่ะ เจ้าทองม้วนนี้ก็อยากแนะนำให้ลองทานกันดูนะคะ เพราะขนาดเราซื้อมาฝากคนอื่น ที่เค้าบอกว่าปกติ เค้าไม่ชอบทานทองม้วนเท่าไหร่ เค้ายังบอกว่า ทองม้วนเจ้านี้อร่อยนะ เลยทานหมดถุงเลยค่ะ