มะม่วงดิบ...มะม่วงสุกใครว่าต่างกัน
ไม่ว่าจะเป็นมะม่วงดิบหรือมะม่วงสุกก็มีปริมาณน้ำตาลเท่าๆ กัน แต่จะอยู่ในรูปของแป้งและเปลี่ยนเป็นน้ำตาลเมื่อตอนสุกแล้ว ดังนั้นมะม่วงดิบจะมีคาร์โบไฮเดรตมากกว่า ส่วนมะม่วงสุกมีน้ำตาลผลไม้และเบตาแคโรทีนมากกว่า
แม้ว่ารสเปรี้ยวของมะม่วงดิบจะช่วยแก้อาการแพ้ท้องและคลื่นไส้อาเจียนได้ แต่หากกินในปริมาณมากเกินไปร่วมกับเครื่องเคียงต่างๆ เช่น กะปิ น้ำปลาหวาน อาจทำให้คุณแม่ปวดท้องหรือท้องเสียได้ จึงควรระมัดระวังด้วย
มะม่วงสุกนอกจากจะมีรสหวานจากน้ำตาลผลไม้ ที่ช่วยให้ร่างกายสดชื่นแล้ว ยังสามารถใช้บำรุงผิวหน้าได้ โดยการนำไปปั่นแล้วนำมาพอกหน้า สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ซึ่งในมะม่วงสุกมีวิตามินซีมากกว่ามะนาวถึง 3 เท่า จะช่วยให้ผิวหน้าเรียบ นุ่ม ชุ่มชื่นและสดใสด้วย ใครจะเอาเคล็ดลับนี้ไปลองทำก็ได้นะคะ
อ้างอิง : http://women.sanook.com