อาลัว

Submit Recipe
0
140107
0
ขนมอาลัว ขนมของโปรดอีกแล้ว อาลัวกินกี่ครั้งก็ไม่เบื่อ แต่บางครั้งซื้อมาก็หวานไป เล็กไป แข็งไป เลยขอนำสูตรที่มีมาแบ่งค่ะ อาลัวที่ตัวเองชอบทำ จะรสชาติหวานกำลังดีค่ะ แล้วก็ขนาดใหญ่ ไม่แข็ง กรอบนอกนุ่มในค่ะ ไม่ยากจริงๆ คราวนี้ทำแค่ 2 สี เบาๆ
Ingredient and Portion
1. แป้งสาลี 1 1/4 ถ้วย
2. น้ำตาลทราย 2 1/2 ถ้วย
3. น้ำกะทิ 2 1/2 ถ้วย
4. สีผสมอาหาร
5. เทียนอบขนม
Method
1. ร่อนแป้งสาลีกับน้ำตาลทรายเข้าด้วยกัน
2. ค่อยๆเติมน้ำกะทิลงไปทีละน้อย สลับกับการนวดแป้งไปด้วย จนกว่าจะเทน้ำกะทิลงไปหมด
3. กรองส่วนผสมด้วยผ้าขาวบาง หรืแกระชอนตาถี่
4. เทส่วนผสมลงกระทะทองเหลืองแล้วนำตั้งไฟระดับกลาง กวนไปเรื่อยๆเร็วๆ ไปในทางเดียวกัน
5. พอแป้งเป็นสีใส แบ่งแป้งครึ่งหนึ่งออกมาพักไว้ ใส่สีผสมอาหารในกระทะทองเหลืองกวนให้เข้ากัน ปิดไฟพักไว้
6. นำแป้งส่วนแรกที่พักไว้แล้ว ใส่ถุงบีบ แล้วบีบใส่ถาด ทำเช่นเดียวกันกับส่วนผสมทั้ง 2 สี แล้วนำไปผึ่งแดดให้ข้างนอกแข็ง
7. ขั้นตอนสุดม้ายเพื่อความหอมของขนมไทย เอาไปอบควันเทียน โดยเอาขนมใส่ภาชนะกระเบื้องหรือพวกหม้อเคลือบ เรียงให้เป็นระเบียบ ไม่ต้องแน่นมาก จุดเทียนอบขนมแล้วเป่าดับใส่ในภาชนะ อบไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง
Tips
อาลัวขนมไทยนำเข้า

ขนมอาลัว เป็นขนมหวานที่ทำจากแป้ง ผิวด้านนอกจะเป็นน้ำตาลแข็ง ด้านในเป็นแป้งหนืด มักทำเป็นอันเล็กๆ มีหลายสี มีกลิ่นหอมหวาน ชื่ออาลัวมีความหมายว่าเสน่ห์ดึงดูดใจ อาลัวมีต้นกำเนิดมาจากประเทศโปรตุเกส ถูกนำเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยครั้งแรกโดยคุณท้าวทองกีบม้า หรือ เลดี้ฮอร์ เดอควีมาร์ ภริยาเจ้าพระยาวิชเยนทร์ซึ่งเป็นชาวโปรตุเกสที่เข้ามารับราชการในราชสำนักในรัชสมัยของสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ขนมอาลัวยังแบ่งได้เป็นสองชนิด คือ อาลัวชาววัง และ อาลัวจิ๋ว อาลัวชาววังมีขนาดใหญ่กว่า และมีส่วนผสมของกะทิมากกว่าอาลัวจิ๋ว


อ้างอิง : th.wikipedia.org
Recommend
Recommended
unknown
Top
This website uses cookies to improve your website experience. By continuing to browse, you are agreeing to our use of cookies and Privacy Policy.