Bangkok | Eng
Languages
ภาษาไทย
Eng
中文
Bangkok
Khlong Toei
Khlong San
Phuket
Phuket City
Kathu
Chiang Mai
King Amphoe Waeng Kum
King Amphoe Mae On
Chiang Rai
Amphoe Doi Luang
Amphoe Wiang Chiang Rung
Chonburi (Pattaya)
Kho Chantha
Ko Sichang
Nakhonratchasima
Amphoe Chaloem Phra Kiat
Amphoe Sida
Prachuap Khiri Khan
Mueang Prachuapkhirikhan
Amphoe Kuiburi
Surat Thani (Koh Samui)
Amphoe Vibhavadi
Amphoe Chaiburi
Others
Kalasin
Chainat
Other Regions
Hong Kong Macau Greater Bay Area Taiwan Japan Thailand Singapore Philippines
Update Restaurant Info Business Zone
Explore
Travel.Booking
Restaurant + District/ Address, Cuisine/ Food...
Map
More
Special collection
Table Booking Coupon New Restaurant Review Restaurant Chart
What's Hot
Article Recipe Video
OpenRice Best Restaurant 2025

eat and travel diary's Profile

HomeProfileeat and travel diary
eat and travel diary
1.1K
Followers
13
Followings
eat and travel diary
Level 4Thailand
ชอบท่องเที่ยวและหาร้านอาหาร ร้านกาแฟ ที่น่าทานในช่วงวันหยุด และชอบถ่ายรูปอาหาร และที่พัก มารีวิวให้เพื่อนๆ ได้รับรู้ หรือเข้าค้นหาเพิ่มเติมได้ที่ www.eatandtraveldiary.com หรือ facbook และ IG ที่ eatandtraveldiary
Overview
Reviews (153)
Photo (1514)
Warm Wood Cafe ร้านอาหารในบรรยากาศอบอุ่น
Warm Wood Cafe
2016-09-15
Warm Wood Café  คาเฟ่น่ารัก น่าอบอุ่นที่แทรกตัวอยู่ปากซอยทองหล่อ 10 เพียงแค่ก้าวเข้าไปในร้านก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ตรงกับคอนเซ็ปท์ของร้าน “From our warm heart and crafty hands” ด้วยการตกแต่งในสไตล์ฝรั่งเศส แต่ก็มีกลิ่นอายความเป็นคาเฟ่ญี่ปุ่นอยู่เช่นกันบรรยากาศภายในร้านตกแต่งด้วยโทนสีที่อบอุ่นสบายตา ที่เน้นสีเอิร์ธโทนของเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในร้าน นอกจากนี้ภายในร้านก็เต็มไปด้วยของตกแต่งร้านน่ารักๆ ที่สามารถสังเกตเห็นได้ทั่วร้าน ชวนให้หยิบมือถือมาเซลฟี่กันเพลินเลยละครับสำหรับเมนูของที่นี่ก็มีให้เลือกทั้งอาหาร ของหวานและเครื่องดื่ม โดยอาหารจะออกไปทางแนว all day brunch ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู ขอเริ่มที่พาสต้าก่อนกับ Ebiko (300 บาท)  สปาเก็ตตี้ครีมซอสที่มาพร้อมกุ้งลายเสือตัวโต และไข่กุ้ง ที่รสชาติกำลังดี ไม่เลี่ยนจนเกินไป ถือว่าเป็นเมนูแนะนำของร้านเลยก็ว่าได้ครับมาต่อกันที่ Grape Chincken (320 บาท) เมนูไก่ราดซอสองุ่น ไก่เนื้อนุ่มๆ ที่เติมรสชาติหอมหวานกลมกล่อมด้วยซอสองุ่น ที่มาพร้อมกับองุ่นสด ถือว่าอร่อยลงตัวมากๆ ครับปิดท้ายของคาวที่เมนู Duo Beef Burger (240 บาท) เบอร์เกอร์เนื้อขนาดน่ารัก แต่รสชาติถือว่าอร่อยโดนใจไม่เบา ที่เสิร์ฟพร้อมสลัดผักและมันฝรั่งทอดจากนั้นก็มาถึงเมนูของหวานกันบ้าง บอกเลยว่าของหวานที่นี่หน้าตาน่ารักไม่แพ้บรรยากาศร้านเลยครับ ขอเริ่มที่เมนูเด่นของร้านนั่นก็คือ Carnelian Choux (260 บาท) แป้งชูว์ที่มาพร้อมกับครีม Vanilla, Milk chocolate และ Strawberry Yuzu เสิร์มมาในขนาดน่ารัก น่าทาน ตัวครีมหอม รสชาติดีไม่หวานเกินไปนัก เข้ากับแป้งชูว์ที่นุ่มกำลังดี อร่อยถูกใจสุดๆและเติมความสนุกสนานอีกนิดด้วยเมนู Coffee Garden (220 บาท)  ทีรามิสุเนื้อเนียนนุ่ม ที่มาในรูปของกระถางต้นไม้น่ารักๆ และช้อนในรูปของพลั่วขุดดิน ตัวทีรามิสุเนียนนุ่ม หวานกำลังดี อร่อยเพลินๆ เลยละครับส่วนเครื่องดื่มก็มีให้เลือกเติมความสดชื่นกันหลากหลายไม่ว่าจะเป็น Mango Passion (160 บาท)   สมูทตี้มะม่วงที่เติมความสดชื่นด้วยเสาวรส ทำให้ได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว อร่อยชื่นใจหรือจะเป็น Very Berry (180 บาท) ที่เข้มข้นด้วย Mixed berries ชนิดต่างๆ ที่นำมาปั่นพร้อมกับน้ำแอปเปิ้ลและไอศกรีมโยเกิร์ต นอกจากจะได้ความสดชื่นของเบอร์รี่แบบเต็มๆ แล้วยังได้ความรู้สึกเปรี้ยวอมหวานเติมความสดชื่นให้กับร่างกายได้ดีทีเดียวครับส่วนคอกาแฟก็สามารถเลือกสั่งกาแฟแก้วโปรดอย่างผมที่เลือกเป็น Coffee Latte (100 บาท) กาแฟลาเต้ร้อนที่หอมกรุ่น มาพร้อมกับลายลาเต้อาร์ทน่ารักๆ รสชาติเข้มข้น สดชื่นไม่แพ้กันเลยครับสำหรับ Warm Wood Café นั้น ส่วนตัวแล้วผมชอบทั้งบรรยากาศที่ดูน่ารัก อบอุ่น มีมุมให้เราได้ถ่ายรูปไว้แชร์เพื่อนๆ หลายมุมทีเดียว นอกจากนี้อาหารก็ยังรสชาติถูกปาก โดยเฉพาะของหวานที่หน้าตาน่ารัก อร่อยและไม่หวานเกินไป เพื่อนๆ คนไหนที่ชอบบรรยากาศร้านน่ารักๆ แบบนี้ก็แวะมาได้ที่ซอยทองหล่อ 10 แค่เลี้ยวเข้าซอยก็จะเห็นร้านอยู่ทางซ้ายมือแล้วครับ ซึ่งร้านจะอยู่ที่ติดกับร้าน Wine Republic เลยครับ…Read More
+ 17
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Ebiko
฿300
Grape Chicken
฿320
Duo Beef Burger
฿240
Duo Beef Burger
฿240
Carnelian Choux
฿260
Coffee Garden
฿220
Coffee Garden
฿220
Mango Passion
฿160
Very Berry
฿180
Coffee Latte
฿100
Date of Visit
2016-09-03
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿400
เติมความหวานสดชื่นที่ร้าน CODE เมกะบางนา
CODE Cafe of Desserts
2016-09-13
CODE Café of Dessert Enthusiasts ร้านคาเฟ่ขนมหวานสุดน่ารักที่ได้รับความนิยมจากสาขาแรกที่ The Jas Ramintra จนมีการขยายสาขาไปยัง Siam Paragon และที่สาขา Mega Bangna ซึ่งเป็นสาขาที่จะพาไปชิมขนมอร่อยๆ กันครับสำหรับที่เมกะบางนา นั้นการตกแต่งยังคงเน้นคอนเซ็ปน่ารัก โดยใช้โทนสีขาวสลับกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ ดูแล้วอบอุ่น น่านั่งสุดๆ ผนังโดยรอบเป็นกระจกใสทำให้มองเห็นความน่ารักของร้านได้ตั้งแต่อยู่ภายนอกสำหรับ CODE นั้นโดดเด่นเรื่องเมนู Lava Toast ก็เลยขอลองเมนู Lava Toast ชาเขียว (165 บาท) เมนูโทสต์ที่เติมความสดชื่นด้วยไอศครีมชาเขียว และวิปปิ้งครีม ตัวโทสต์นั้นด้านในจะแทรกด้วยซอสชาเขียวอุ่นๆ ที่เมื่อหั่นชิ้นโทสต์ลงไป ตัวลาวาชาเขียวก็จะไหลเยิ้มออกมา ช่วยเพิ่มอรรถรสในการทานเมนูนี้ยิ่งขึ้นเลยครับ นอกจากนี้ยังขอเติมความสดชื่นด้วย Mellow Mango (140 บาท) น้ำมะม่วงปั่นที่รับรองว่าดื่มแล้วชื่นใจสุดๆ ส่วนผมขอเป็นกาแฟ Latte (90 บาท) กาแฟลาเต้ร้อนที่กลิ่นหอม รสชาติเข้มข้นนิดๆ ตัดกับบรรยากาศหวานๆ น่ารักของร้านได้ดีเลยสำหรับร้านนี้น่าจะถูกใจสาวๆ ที่ชื่นชอบความน่ารักของร้าน รวมทั้งเมนูของหวานที่ดูจะน่าทานไปซะหมด ทำให้เลือกสั่งยากเหมือนกัน เพราะอยากทานซะทั้งหมดเลยครับ สำหรับใครที่แวะไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ IKEA ก็ลองแวะไปเติมความหวานที่นี่ได้นะครับ …Read More
+ 6
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
1
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Lava Toast ชาเขียว
฿165
Lava Toast ชาเขียว
฿165
Lava Toast ชาเขียว
฿165
Mellow Mango
฿140
Latte
฿90
Latte
฿90
Date of Visit
2016-09-04
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿200
อร่อยกับซูชิและซาชิมิคุณภาพพรีเมี่ยมที่ YUZUKI
Yuzuki Izakaya & Sushi Bar
2016-08-22
ซูชิและซาชิมิ ถือว่าเป็นอาหารญี่ปุ่นยอดฮิตของคนไทยเลยก็ว่าได้ ยิ่งถ้าได้ทานปลาดิบคุณภาพพรีเมี่ยมด้วยแล้วละก็รับรองฟินกันไปตามๆ กัน วันนี้เลยขอพาไปรู้จักกับร้านอาหารญี่ปุ่นประเภท Sushi Bar นั่นก็คือร้าน Yuzuki Izakaya & Sushibar ซึ่งอยู่ในโครงการ The Twenty Six ซอยสุขุมวิท 26 ครับแม้ว่าร้าน จะเป็นร้านขนาดเล็กเมื่อเทียบกับร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆ ไป แต่รับรองว่าคุณภาพไม่เล็กตามเลยครับ เพราะว่าปลาดิบของที่ร้านส่งตรงมาจากญี่ปุ่นแบบสด ใหม่ คุณภาพพรีเมี่ยมแน่นอน เอาเป็นว่าใครที่ชอบโอโทโร่ ชูโทโร่ หรือแซลม่อน รับรองต้องชอบร้านนี้แน่เลยจ้า สำหรับบรรยากาศร้านของที่นี่ก็ตกแต่งแบบเรียบง่ายตามสไตล์ร้านอาหารญี่ปุ่น โดยมีที่นั่งทั้งเคาเตอร์บาร์และโต๊ะที่สามารถมาทานกันเป็นครอบครัวได้สบายๆมาดูทางด้านเมนูอร่อยๆ กันบ้างดีกว่า ขอเริ่มที่ Sushi Set (990 บาท) ซูชิจำนวน 7 คำ ที่จัดเต็มทั้ง โอโทโร่, ชูโทโร่, แซลมอน, ฮามาจิ, ซาบะ, ไข่ปลาแซลมอน และ อูนิ ซึ่งแต่ละคำบอกได้คำเดียวว่าอร่อย ฟิน เพราะวัตถุดิบถือว่าสดมากๆ และข้าวก็หอมหวานอร่อย แค่เซ็ทนี้ก็จุใจละครับแต่แค่นี้ไม่พอขอต่อด้วย Sashimi Set (1,350 บาท) ปลาดิบคุณภาพพรีเมี่ยมที่จัดเต็มทั้ง โอโทโร่, แซลมอน, ฮามาจิ. อะกามิ และ ฮิราเมะ ปลาดิบแต่ละชิ้นเนื้อนุ่มลิ้น สด สะอาดชิ้นใหญ่กำลังดี ไม่ขอพูดมากละกันครับ เอาเป็นว่าปลื้มมากๆ นอกจากเมนูปลาดิบแล้วยังมีเมนูอาหารญี่ปุ่นอื่นให้ลิ้มลองกันอีกด้วยนะครับไม่ว่าจะเป็น Inaniwa Udon (200 บาท) อุด้งเย็นสไตล์ญี่ปุ่นที่มาพร้อมน้ำซุปรสชาติกลมกล่อม หรือจะเป็น Tempura Moriawase (390 บาท) เทมปุระรวมที่จัดเอากุ้งตัวโตมาชุปแป้งทอดได้กรอบนอกนุ่มในนอกจากนี้ยังมีผักและปลาหมึกจัดรวมอยู่ในเมนูนี้ด้วยครับ เป็นอีกเมนูที่อร่อยได้รสชาติแบบญี่ปุ่นจริงๆ ครับ สำหรับ Yuzuki Izakaya & Sushibar น่าจะถูกใจคนที่ชอบทานอาหารญี่ปุ่นโดยเฉพาะพวกซูชิ หรือซาชิมิ เพราะวัตถุดิบของที่นี่ถือว่าสด สะอาด คุณภาพพรีเมี่ยม ที่สำคัญราคาน่าคบอีกด้วยนะครับสำหรับการเดินทางก็ไม่ยากครับ เพราะที่โครงการ The Twenty Six นั้น สามารถเข้าได้ทั้งจากทางซอยสุขุมวิท 26 ซึ่งเข้ามาไม่ไกลมากนักให้สังเกตทางขวามือก็จะเจอกับโครงการจากนั้นก็เลี้ยวเข้าไปจอดรถที่หน้าโครงการได้เลยครับ หรือใครที่เข้าจากทางฝั่งถนนพระราม 4 ก็สามารถเข้าได้เช่นกันครับ ใครถนัดทางไหนก็ใช้เส้นทางนั้นเลยจ้า…Read More
+ 9
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
1
Share
Report
Post
Ratings
5
Taste
3
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Sushi Set
฿990
Sushi Set
฿990
Sushi Set
฿990
Sashimi Set
฿1350
Sashimi Set
฿1350
Sashimi Set
฿1350
Inaniwa Udon
฿200
Tempura Moriawase
฿390
ซาชิมิ
ซูชิ
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿700
S&P อร่อยกับเมนูแบบไทยๆ
S&P Restaurant (เอส แอนด์ พี)
2016-08-19
ขึ้นชื่อว่าอาหารไทย รับรองอร่อยถูกปากคนทั้งโลก ดังนั้นวันนี้เลยขอไปอิ่มอร่อยกับอาหารไทยที่ร้านประจำที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีนั่นก็คือ S&P นั่นเองครับS&P ชื่อนี้มีแต่ของอร่อย ซึ่งไม่ใช่เฉพาะแค่เบเกอรี่ที่เรามักจะไปเลือกซื้อไว้ทานเองหรือไปฝากคนที่เรารักอยู่เป็นประจำแล้ว สำหรับร้านอาหารของที่นี่ก็รสชาติดี ราคาถูกใจอีกด้วยนะครับ แต่มื้อนี้ผมขอพาไปอิ่มอร่อยกับอาหารไทย รสชาติแบบไทยๆ สำหรับบรรยากาศของที่ร้าน S&P นั้น ก็เป็นบรรยากาศร้านที่นั่งได้สบายๆ ภายในร้านแบ่งพื้นที่เป็นสองส่วนคือพื้นที่จำหน่ายเบเกอรี่ และพื้นที่สำหรับร้านอาหาร ซึ่งแยกกันชัดเจน ระหว่างรออาหารเสิร์ฟก็สามารถแวะไปเลือกซื้อเบเกอรี่กลับไปทานที่บ้านได้สบายๆ ด้วยนะครับมาเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่า ซึ่งก่อนอื่นก็ขอเริ่มที่เครื่องดื่มกันก่อนเช่นเคย ขอเริ่มที่ น้ำแตงโม (80 บาท) ชุ่มฉ่ำ สดชื่นที่สัมผัสได้ทั้งน้ำและเนื้อแตงโม ชื่นใจสุดๆ ครับส่วนอีกแก้วเป็น น้ำลำไย (75 บาท) น้ำผลไม้แบบไทยๆ เช่นกัน ที่หอมหวานกำลังดี ได้รสชาติของเนื้อลำไยแบบเต็มๆ เช่นกันสำหรับอาหารอย่างที่บอกมื้อนี้ขอจัดเต็มอาหารไทยรสชาติไทย ซึ่งขอเริ่มที่เมนูโปรดของผมนั่นก็คือ แกงเขียวหวานไก่ (135 บาท) ที่สีสันและหน้าตาชวนลิ้มลอง น้ำแกงหอม รสชาติกลมกล่อม เนื้อไก่ก็สุกนุ่มกำลังดีตามมาด้วย แกงมัสมั่นไก่ (165 บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูโปรดของผมเช่นกัน สำหรับแกงมัสมั่นไก่ที่สีเหลืองนวลน่าทาน มาพร้อมกับไก่เนื้อนุ่มลิ้นชิ้นโต น้ำแกงก็หอม หวานมัน ลงตัว แค่สองเมนูนี้ได้ทานกับข้าวสวย หรือข้าวกล้องร้อนๆ อร่อยฟินไปตามๆ กันครับต่อด้วยเมนูอาหารไทยที่ถือว่าเป็นเมนูเด็ดของคนไทยเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ ไก่ย่างโอชา-ข้าวเหนียวส้มตำ (215 บาท) เมนูนี้จัดครบสำหรับคนที่ชอบทานส้มตำ ด้วยข้าวเหนียวอุ่นที่นึ่งได้นุ่มกำลังดี ทานคู่กับส้มตำไทยรสชาติกำลังดี และมาพร้อมกับไก่ย่างโอชา ที่เนื้อนุ่ม หอม ทานกับน้ำจิ้มแจ่ว รับรองอร่อยครบรสเชียวครับแค่นี้ยังไม่พอ ขอเติมความสดชื่นด้วย ต้มยำกุ้งแม่น้ำ (245 บาท) ต้มยำรสจัดจ้านแบบไทยๆ ที่เปรี้ยวนิด เค็มหน่อย อร่อยครบรส ที่สำคัญมาพร้อมกับกุ้งแม่น้ำตัวโต ได้ซดน้ำต้มรสจัดจ้านแบบนี้ อร่อยสะใจดีครับ …Read More
+ 7
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
3
Decor
4
Service
3
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
น้ำแตงโม
฿80
น้ำลำไย
฿75
แกงเขียวหวานไก่
฿135
แกงเขียวหวานไก่
฿135
แกงมัสมั่นไก่
฿165
ไก่ย่างโอชา-ข้าวเหนียวส้มตำ
฿215
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
฿245
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿300
Afternoon Tea สไตล์อังกฤษที่ Bonnie Dolly's
Bonnie Dolly's Tea Room
2016-08-16
วันนี้ขอพาไปนั่งจิบชาในบรรยากาศน่ารักสบายๆ ซึ่งร้านที่จะพาไปนั้นบอกเลยว่าเป็น Tea Room ที่นำเสนอ Afternoon Tea ตามแบบฉบับอังกฤษแท้ๆ ร้านที่จะพาไปชิลๆ ก็คือ Bonnie Dolly’s Tea Room ซึ่งน่ารักทั้งชื่อและบรรยากาศร้านเลยครับสำหรับร้าน Bonnie Dolly’s Tea Room นั้นอยู่ที่โครงการ The Twenty Six ซอยสุขุมวิท 26 บรรยากาศภายนอกตกแต่งด้วยสีดำเข้มแต่โดดเด่นด้วยหน้าต่างกระจกที่มองเห็นการตกแต่งภายในที่ดูเรียบง่ายแต่น่ารัก ซึ่งบรรยกาศภายในก็ยังคงเน้นสีดำแต่เพิ่มลูกเล่นด้วยสีขาวและแดงที่ตัดกันอย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งน่ารักๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดแก้วน้ำชา หรือตุ๊กตาที่วางตกแต่งอยู่ทั่วร้าน และเพิ่มความเก๋ไก๋บนผนังด้วยช้อนขนมสีทองประดับไว้เป็นรูปกาน้ำชาและแก้วชา รวมทั้งสีเขียวบนเพดานและโคมไฟรูปกาน้ำชาที่เป็นอีกมุมที่ดูน่ารักไม่เบาในส่วนของเมนูที่นี่เน้นเสิร์ฟ Afternoon Tea เป็นหลัก ซึ่งเป็นสูตรตามแบบฉบับอังกฤษดั้งเดิม พร้อมชาคุณภาพดีซึ่งมีทั้งชาที่นำเข้าและชาที่ทางร้านเบลนด์เอง โดยมีให้เลือกมากกว่า 30 ชนิด ดังนั้นขอเริ่มด้วยชุดเด็ดของร้านนั่นก็คือ Afternoon Tea Set (Full Set 900 บาท)ถือว่าเป็นชุดที่จัดเต็มความอร่อยที่มาพร้อมกับชา 2 กา โดยขอเริ่มที่ชั้นบนจะมี Mini Pasty ซึ่งแต่ละชิ้นก็อร่อย ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป เป็นชั้นที่หยิบทานได้เพลินเลยครับชั้นกลางจะประกอบไปด้วย Scone จำนวน 4 ชิ้น 4 รสชาติ บอกเลยว่าสโคนของที่นี่อร่อยตามสไตล์อังกฤษแท้ๆ ตัวสโคนไม่แข็งและไม่นุ่มจนเกินไป กลิ่นหอม ยิ่งได้ทานกับ Clotted Cream หรือแยม รับรองอร่อยลงตัวสุดๆ ครับ ตามความเห็นส่วนตัวแล้วตอนนี้ผมชอบสโคนของที่นี่มากที่สุดละครับสำหรับด้านล่างจะเป็น Finger Sandwich 4 แบบ ประกอบด้วย Ham Cheese, Egg Mayonnaise, Smoked Salmon with Cream Cheese และ Salted Cucumber ที่อร่อยไม่เบาเช่นกันครับสำหรับชุดนี้ก็จะทานคู่กับชารสชาติดีที่รับรองเข้ากันอย่างลงตัว ซึ่งผมเลือก Chai Tea ชาแดงจากแอฟริกา ที่มีกลิ่นหอมและรสชาติเข้มข้นส่วนอีกกาเลือกเป็น Non-Caffeine ซึ่งเป็นชาสมุนไพร ที่ประกอบด้วยเก๊กฮวย ดอกคำฝอย และขมิ้น ซึ่งกลิ่นหอมและรสชาติเบาๆ ทานกับขนมรับรองว่าอร่อยลงตัวที่สุดเลยครับนอกจากนี้ยังมีเค้กอร่อยๆ สไตล์ Pastries อีกหลายอย่างซึ่งผมขอเลือก Apple Crumb Cake (125 บาท) เบเกอรี่ตามแบบฉบับอังกฤษดั้งเดิม พายแอปเปิ้ลที่เนื้อนุ่ม รสชาติหวานหอมอร่อย แถมได้เนื้อแอปเปิ้ลแบบเต็มๆ ที่แทรกอยู่ในชั้นพาย เป็นอีกชิ้นที่ปลื้มมากครับเอาเป็นว่าใครที่ชอบนั่งจิบชาชิลๆ ในบรรยากาศน่ารักๆ พร้อมกับทาน Afternoon Tea คุณภาพดีตามสไตล์อังกฤษแท้ๆ ลองแวะมาสัมผัสด้วยตัวเองได้ที่ Bonnie Dolly’s Tea Room ชั้นล่างของโครงการ The Twenty Six ดูนะครับ รับรองจะหลงรักที่นี่เหมือนผม…Read More
+ 13
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
1
Share
Report
Post
Ratings
5
Taste
4
Decor
5
Service
5
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Afternoon Tea Set
฿900
Chai Tea
Non-Caffeine Tea
Non-Caffeine Tea
Apple Crumb Cake
฿125
Afternoon Tea
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿500
Sweetery สวย หวาน ลงตัว
Sweetery (สวีทเทอรี่)
2016-08-06
Sweetery ร้านของหวานน้องใหม่ในเครือ Tinee Eatery Workshopแม้จะเป็นร้านของหวานแต่ร้านนี้แตกต่างเรื่องการตกแต่ง ซึ่งฉีกแนวคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่เห็นได้ทั่วไปตามร้านเบเกอรี่ที่เปิดใหม่ แต่ที่นี่เน้นสีสันจัดจ้าน ตัดกับโทนสีดำของร้าน ซึ่งดูแล้วเป็นร้านที่โดดเด่นเรื่องสีสันสุด นอกจากนี้ยังใช้แรดเป็นสัญลักษณ์และการตกแต่งที่พบให้ได้ทั่วร้านอีกด้วยครับสำหรับสีสันที่จัดจ้านไม่ได้มีเฉพาะแค่การตกแต่งเท่านั้น แต่ดูจากเมนูแล้วของหวานที่นี่ก็สีสันจัดจ้าน น่าทานทั้งนั้นเลยครับ งั้นขอเริ่มที่เมนูเด่นของร้านนั่นก็คือ Berry Bang Bang (Small Size 165 บาท) ไอศครีมวนิลลาแบบโฮมเมด ที่หนักด้วยท็อปปิ้งไม่ว่าจะเป็น มิกซ์เบอร์รี่, คุ้กกี้ครัมป์, เบอร์รี่เจลลี่, ชีสเค้ก และอัลมอนต์ ซึ่งเป็นเมนูที่มีสีสัน และรสชาติก็ถือว่าดีด้วยนะครับ เมนูนี้ถือเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านเลยก็ว่าได้ และที่เสิร์ฟเป็นไซต์เล็ก ซึ่งปริมาณก็พอควรไม่น้อยจนเกินไป ที่สำคัญสั่งไซต์นี้ก็เพราะอยากทานอย่างอื่นด้วยซึ่งอีกเมนูก็เหมาะสำหรับคนที่ชอบทานโทสต์อยากผมเพราะว่าเมนู TEW’s Signature “Dark V” (340 บาท) ถือว่าเป็นอีกเมนูที่ใครเคยไปทานอาหารที่ Thinee Eatery Workshop ต้องคุ้นเคยกับเมนูเฟรนช์โทสต์แบบนี้ ซึ่งตัวโทสต์นั้นนุ่มฉ่ำหวานกำลังดี เติมความสดชื่นด้วยไอศครีมวนิลลาที่มาพร้อมกับซอสเบอร์รี่ นอกจากนี้ยังเติมความสดชื่นเข้าไปอีกด้วยผลไม้สดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมิกซ์เบอร์รี่ กีวี กล้วยหอม เสาวรส และลูกพีช ถือว่าเป็นเมนูที่สีสันจัดจ้าน รสชาติถูกใจ เติมความชุ่มฉ่ำให้ร่างกายได้เยอะเลยครับจากนั้นก็ปิดท้ายความสดชื่นด้วย Elder Flower (135 บาท) เครื่องดื่ม Fizzy Soda ที่หวาน หอม ซ่า ชื่นใจสุดๆ ครับเรียกได้ว่าย่านทองหล่อมีอะไรให้คนที่ชอบเติมความหวาน ความสดชื่นให้กับร่างกายได้ไม่หมดสิ้นจริงๆ ซึ่งใครที่ชื่นชอบอาหารและของหวานจาก Thinee Eatery Workshop อยู่แล้วคงจะติดใจรสชาติความอร่อยของที่นี่ได้ไม่ยากครับ ซึ่งที่นี่นอกจากจะโดดเด่นในด้านบรรยากาศของร้านแล้ว ของหวานแต่ละเมนูก็สีสัน รสชาติโดดเด่นไม่แพ้กันเลยทีเดียวครับ สำหรับร้าน Sweetery นั้นอยู่ที่ชั้น 2 โครงการ The Taste Thonglor ซึ่งเข้าซอยทองหล่อ 11 ไปนิดเดียวก็จะอยู่ทางขวามือครับ ใครที่ขับรถส่วนตัวไปก็สามารถจอดในโครงการ หรือหากมีที่ว่างก็จอดในซอยทองหล่อ 11 ก็ได้นะครับ แต่ต้องดูวันคู่ วันคี่ สำหรับการจอดให้ดีนะครับ ถ้าได้ที่จอดในซอยก็สบายหน่อย เพราะค่าที่จอดรถแถวนั้นถือว่าแรงพอตัวทีเดียว…Read More
+ 11
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
3
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Berry Bang Bang
฿165
Berry Bang Bang
฿165
Berry Bang Bang
฿165
TEW’s Signature “Dark V”
฿340
TEW’s Signature “Dark V”
฿340
TEW’s Signature “Dark V”
฿340
Elder Flower
฿135
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿300
Organika Cafe สวย สง่า
Organika House
2016-08-02
รีวิวนี้จะพาไปนั่งชิลๆ ในคาเฟ่สีขาวแสนสวย รับรองว่าบรรยากาศสวยงามชวนฝันที่มีชื่อว่า Organika Café ซึ่งถือว่าถอดแบบมาจากภาพลักษณ์ของคุณศิริต้า เจนเซ่น เจ้าของนางเอกสาวแสนสวยนั่นเองครับสำหรับบรรยากาศร้านนั้นบอกตามตรงเลยว่าชอบมากๆ เพราะผมเป็นคนที่ชอบร้านที่ตกแต่งด้วยสีขาว สะอาดตา แทรกด้วยสีเขียวของต้นไม้ประดับ ซึ่งตัวต้นนั้นเป็นต้นไม้จริง แต่ใบเป็นของตกแต่งซึ่งดูเหมือนของจริงมากๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่น ทำให้คล้ายกับว่าอยู่ใน Glass House ดูร่มรื่น จนลืมไปว่าร้านนี้นั้นตั้งอยู่บนชั้น 6 ของโครงการ Piman49 ใจกลางเมืองในซอยสุขุมวิท 49 (โครงการนี้มีร้านน่าสนใจหลายร้านเลยครับ คาดว่าคงได้มาวนเวียนแถวนี้อีกหลายครั้งแน่เลย)และที่เพิ่มความเก๋ไก๋ได้ดีก็คือบันไดเหล็กสีเขียวที่วนขึ้นไปชั้นลอยด้านบน ซึ่งก็เปิดเป็นพื้นที่โต๊ะอาหารเช่นกัน แต่บรรยากาศสู้ด้านล่างไม่ได้ แต่ที่เป็นจุดเด่นก็คือ เป็นมุมถ่ายรูปของร้านที่สวยที่สุดมุมนึงเลยก็ว่าได้ ใครที่ชอบถ่ายรูปก็ไม่ควรพลาดที่จะขึ้นไปด้านบนนะครับมาดูเรื่องอาหารบ้างดีกว่าครับ ที่ Organika Café นั้นให้บริการทั้งอาหารคาว หวาน ซึ่งเน้นไปทางอาหารเพื่อสุขภาพ โดยวัตถุดิบที่นำมาประกอบอาหารนั้นเป็นออร์แกนิกทั้งหมดสำหรับมื้อนี้ผมขอจัดแต่เครื่องดื่มกับของหวาน เพราะเพิ่งอิ่มจากมื้อกลางวันไม่นานนัก ซึ่งของหวานของที่นี่แต่ละเมนูก็ดูดีน่าทานไม่แพ้บรรยากาศในร้านเลยครับ แต่ก่อนอื่นขอเริ่มที่เมนูเครื่องดื่มก่อนละกันครับ สำหรับผมเริ่มที่กาแฟแก้วโปรด Caffe Latte (145++) กาแฟลาเต้ร้อน หอมๆ ที่เติมความหวานด้วยไซรัปหลากกลิ่น ที่ทางร้านมีให้เลือกเติมตามใจชอบส่วนยิ้มเค้าเพิ่มความสดชื่นด้วย Memoirs of Sunrise (295++) เป็นชาที่ไม่มีคาเฟอีน ซึ่งเป็นชาจากผลไม้อบแห้งทั้ง แอปเปิ้ล, Roselle, ตะไคร้, ส้ม และพีช ชาผลไม้สีแดงสดใส หอมกลิ่นกุหลาบอ่อนๆ รสชาติไม่หวานเกินไปด้วยครับหรือใครที่ชอบช็อกโกแลต ก็ลอง Chocolate Lavender & Mashmallow (255++) หน้าตาดูน่าทานจริงๆ ครับ แก้วนี้ของพี่ที่มาด้วยเลยไม่ได้ชิมรสชาติ แต่ท่าทางน่าจะหอมเข้มข้นดีนะครับจากนั้นก็มาต่อด้วยของหวานนะครับ เริ่มด้วยเมนูโปรดของเราสองคนนั่นก็คือ ORGANIKA Waffle (340++) วาฟเฟิลอุ่นๆ ที่มาพร้อมกับ Mixed Berries สดหวานอร่อย ราดด้วยซอสสตอเบอร์รี่หอมหวาน และที่ชอบสุดๆ คือวิปครีมที่มีความหอมของกุหลาบ ช่วยเพิ่มรสชาติให้ของหวานของที่นี่หอม อร่อยยิ่งขึ้นครับแล้วก็ตามมาด้วยเมนู Buttermilk Pancake (295++) แพนเค้กเนื้อเนียนนุ่ม ที่มาพร้อมกับ Mixed Berries และธัญพืช เติมรสชาติเปรี้ยวนิดๆ ด้วยเสาวรสสด และเพิ่มความหอมหวานด้วยวิปครีม เป็นอีกเมนูที่อร่อย ไม่ควรพลาดเช่นกัน เมนูนี้จะต่างจากภาพในเมนูเพราะน้องที่สั่งเค้าไม่ทานกล้วยหอมเลยเลือกเปลี่ยนเป็นเพิ่มพวก Berries แทนครับมาถึงเมนูสุดท้ายที่น่าทานไม่แพ้กันนั่นก็คือ Strawberry Vanilla Crepe (280++) เครปที่มาพร้อมกับสตรอเบอร์รี่และบลูเบอรี่พร้อมทั้งครีมวนิลา เติมรสชาติด้วยแยมราสเบอร์รี่ ส่วนตัวแล้วเครปที่นี่ยังดูแข็งไปนิด แต่โดยรวมก็ถือว่าอร่อยดีครับสำหรับที่นี่แล้วบรรยากาศ การบริการ และหน้าตาของอาหารนั้นถือว่าสวยงาม แม้ราคาจะสูงไปนิด แต่ก็ถือว่าแลกกับบรรยากาศของที่นี่ก็แล้วกันนะครับ ครั้งหน้าจะขอมาลองของคาวดูบ้าง ว่าจะอร่อยน่าทานแค่ไหน ส่วนใครที่ทานแล้วจะเลือกผ่อนคลายด้วยการทำสปาของ Organika House ก็ทำได้สบายๆ เลย เอาเป็นว่าใครชอบร้านบรรยากาศสวยๆ ก็ลองแวะมาที่นี่ดูได้นะครับ ร้านอยู่ที่ชั้น 6 ของโครงการ Piman 49 ซึ่งอยู่ในซอยโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท หากมาจากทองหล่อก็สามารถเข้าซอยทอง 13 แล้วตรงไปสุดทางเจอโรงพยาบาลเลี้ยวไปไม่ไกลก็จะพบแล้วครับ แต่ขอเสียของที่นี่คือที่จอดรถน้อยไปนิดครับ หากมา BTS แล้วต่อด้วย Taxi หรือพี่วินก็สะดวกไม่ต้องวนหาที่จอดรถให้เสียเวลาครับ…Read More
+ 22
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
5
Service
5
Hygiene
3
Value
Recommended Dishes
Caffe Latte
฿145
Caffe Latte
฿145
Memoirs of Sunrise
฿295
Memoirs of Sunrise
฿295
Chocolate Lavender & Mashmallow
฿255
ORGANIKA Waffle
฿340
ORGANIKA Waffle
฿340
ORGANIKA Waffle
฿340
Buttermilk Pancake
฿295
Buttermilk Pancake
฿295
Strawberry Vanilla Crepe
฿280
Strawberry Vanilla Crepe
฿280
Waiting Time
10 Minutes (Dine In)
Spending Per Head
฿500
The Hen and The Egg ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ไก่กับไข่
The Hen and The Egg
2016-08-01
The Hen and The Egg ชื่อร้านที่สื่อความหมายง่ายๆ นั่นก็คือไก่กับไข่ ซึ่งจะเป็นซิกเนเจอร์ของร้านนี้ แม้ว่าจะเป็นวัตถุดิบธรรมดาๆ ในการทำอาหารแต่สำหรับ เชฟหนุ่ม ธนินธร จันทรวรรณ เชฟกระทะเหล็กที่โดดเด่นทางด้านเมนู Modern Cuisine ก็รังสรรค์ให้เป็นเมนูที่สวยงาม น่าทาน และรสชาติดีอีกด้วยครับ แต่ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ไก่กับไข่เท่านั้นนะครับ เพราะว่าเมนูอื่นๆ ก็มีให้เลือกอร่อยกันหลายเมนูทีเดียวก่อนที่จะพาไปชิมอาหารขอพาไปดูบรรยากาศร้านก่อนนะครับ The Hen and The Egg ตั้งอยู่ริมถนนหลังสวน การตกแต่งเป็นไปในสไตล์ตะวันตก ซึ่งเรียบง่าย แต่ดูดี ด้วยบรรยากาศที่เน้นสีโทนสว่าง ทำให้ดูโปร่งสบายตา และด้วยการตกแต่งร้านด้วยผนังกระจก ทำให้รับแสงธรรมชาติได้สบายๆ บวกกับความสวยงามของกระเบื้องและโต๊ะไม้ที่วางยาวอยู่กลางร้านทำให้ช่วยขับให้บรรยากาศในร้านดูเก๋ไปอีกแบบยังมีพื้นที่ด้านในอีกห้องที่เน้นการตกแต่งเรียบง่ายด้วยโทนสีขาว ตัดกับภาพกราฟฟิครูปไก่และไข่สีดำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของที่ร้านดูสวยงามไม่เบา นอกจากนี้ยังมีโซน outdoor ซึ่งเพิ่มสีเขียวสบายตาสำหรับใครที่ต้องการรับลมด้านนอกได้สบายๆสำหรับอาหารของที่นี่ไม่ได้มีดีแค่เมนูไก่กับไข่ แต่ยังมีเมนูอื่นๆ ที่มาในรูปแบบ All Day Breakfast ไว้ให้เลือกอร่อยกันหลายเมนู แต่ก่อนอื่นขอเริ่มด้วยเครื่องดื่ม Strawberry Smoothie (120 บาท) น้ำสตรอเบอร์รี่ปั่นได้รสชาติสตรอเบอร์รี่แบบเข้มข้น เพิ่มความสดชื่นได้เยอะเลยครับนอกจากนี้ยังมี Blue Hawaii เครื่องดื่มสีฟ้าสดใส รสชาติหวานนิดๆ ด้วยส่วนผสมของน้ำผลไม้ ถือว่าช่วยดื่มแล้วชื่นใจขึ้นมาเลยครับจากนั้นก็มาถึงด้านอาหารกันบ้างครับขอเริ่มที่เมนูซิกเนเจอร์ของร้านนั่นก็คือ Egg-E-Egg-Egg (145 บาท) มองผ่านๆ ก็คือไข่นกกระทาที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่เมนูนี้โดดเด่นด้วยท็อปปิ้งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเบคอน, กุนเชียง, ชีส, ไข่กุ้ง, เคเปอร์, ปลาคัตสีโอะป่น และมะเขือเทศ-ผักชีฝรั่ง ที่ช่วยเพิ่มให้เมนูนี้รสชาติอร่อยครบรสมากขึ้น ที่สำคัญเสิร์ฟเก๋ไก๋บนกระทะหลุม แนะนำให้ทานตอนร้อนๆ จะทำให้รสชาติดียิ่งขึ้นครับต่อด้วยเมนูแบบไทยๆ แต่สไตล์อินเตอร์อย่าง ยำ 2 ส้มกับคอหมูย่าง (295 บาท) เป็นเมนูยำส้มโอและหมูย่างจิ้มแจ่วที่จัดจานมาได้อย่างสวยงาม และน่าทาน ตัวยำส้มโอนั้นรสชาติกลมกล่อมไม่จัดจ้านเกินไปนัก ส่วนหมูย่างก็นุ่ม อร่อยจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วรับรองเคี้ยวเพลินเลยจ้าจากนั้นก็ปิดท้ายด้วย ปูนิ่มทอดกรอบซอสพะแนง (275 บาท) เมนูนี้เห็นแล้วว้าว เลยครับ เพราะหน้าตาดูแล้วน่าทาน ปูนิ่มที่ทอดได้กรอบนอกนุ่มใน ตกแต่งด้านบนและล่างด้วยมะเขือม่วงดูแล้วเหมือนปูที่ยังอยู่ในกระดองยังไงยังงั้น แล้วก็ราดด้วยซอสพะแนงรสชาติกลมกล่อม ตักทานทั้งมะเขือม่วงและปูนิ่มในคำเดียวกัน รับรองอร่อยลงตัวครับโดยรวมแล้วที่นี่ทั้งบรรยากาศที่ดูแล้วเพลิน สบายตา รวมทั้งอาหารที่หน้าตาและรสชาติถือว่าดีไม่เสียชื่อเชฟหนุ่มจริงๆ ครับ เอาเป็นว่าใครที่ชอบร้านอาหารบรรยากาศดีๆ ไม่วุ่นวาย และอยู่ใจกลางเมือง ก็แวะมาที่ The Hen and The Egg หลังสวนถ้าเข้าจากทางเพลินจิต ร้านจะอยู่ริมถนนขวามือ ที่ร้านมีที่จอดรถด้วยนะครับ แต่ก็ไม่มากนัก ถ้าไม่ใช่ช่วงเวลาไพม์ไทม์น่าจะจอดได้สบายๆ ครับ…Read More
+ 21
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
5
Taste
4
Decor
5
Service
5
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Strawberry Smoothie
฿120
Strawberry Smoothie
฿120
Blue Hawaii
Egg-E-Egg-Egg
฿145
Egg-E-Egg-Egg
฿145
Egg-E-Egg-Egg
฿145
ยำ 2 ส้มกับคอหมูย่าง
฿295
ยำ 2 ส้มกับคอหมูย่าง
฿295
ยำ 2 ส้มกับคอหมูย่าง
฿295
ปูนิ่มทอดกรอบซอสพะแนง
฿275
ปูนิ่มทอดกรอบซอสพะแนง
฿275
Date of Visit
2016-07-30
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿400
Osha ร้านอาหารไทยบรรยากาศดี รสชาติจัดจ้านแบบไทย
Royal Osha
2016-07-29
ขึ้นชื่อว่าอาหารไทยรับรองว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก ยิ่งเป็นอาหารไทยที่ได้รับความยอมรับจากฝั่งตะวันตกด้วยระยะเวลากว่า 19 ปี ที่ร้าน Osha นั้นทำให้ทางฝั่ง USA ยอมรับว่าอาหารไทยนั้นยอดเยี่ยม เพราะว่ามีการขยายสาขามากถึง 8 สาขา และแน่นอนว่าอาหารไทยยังไงก็ต้องถูกปากคนไทยอย่างผมด้วยแน่นอน ซึ่งก็เป็นเหตุผมที่ Osha Thai Restaurant & Bar จะได้รับการยอมรับเมื่อกลับมาเปิดที่บ้านเราได้ไม่ยาก และขอบอกเลยว่ารสชาติอาหารไทยของที่นี่จัดจ้านแบบไทยๆ แต่ภาพลักษณ์สวยงามไม่แพ้อาหารยุโรปเลยครับแต่ก่อนอื่นขอพาไปดื่มด่ำกับบรรยากาศของร้านอาหารที่ถือว่าสวยงามแบบไทยๆ แต่ได้กลิ่นอายความทันสมัยแบบนานาชาติ ซึ่งที่นี่เน้นการตกแต่งด้วยโทนสีเข้มขรึม ตัดกับสีทองที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยได้ดี แม้จะตกแต่งด้วยโทนสีเข้มแบบนี้แต่ไม่ได้ทำให้บรรยากาศในร้านดูอึดอัด เพราะเพดานทรงสูงทำให้บรรยากาศในร้านดูโปร่งสบายๆ นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกความเป็นไทยไว้แทบทุกมุมของร้านที่เด่นชัดคือแชนเดอเลียร์รูปชฎาขนาดใหญ่ ที่สวยงาม โดดเด่นสะดุดตา อยู่ตรงบันไดวนที่จะขึ้นไปชั้นสอง ทำให้ต้องหยิบกล้อง หรือสมาร์ทโฟนมาเก็บภาพกันรัวๆ ทีเดียวและเมื่อขึ้นไปยังชั้นสองที่นี่ก็แสดงความเป็นไทยได้อย่างสวยงาม ด้วยภาพของวรรณกรรมชื่อดังที่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างรามเกียรติ์ ที่ชูตัวละครหนุมานไว้อย่างโดดเด่นอยู่ริมผนังไว้ได้อย่างเพลินตา ซึ่งพื้นที่ชั้นบนนี้สามารถใช้เป็นพื้นที่จัดงานไพรเวทดินเนอร์ หรือปาร์ตี้ส่วนตัวกับเพื่อนฝูงได้สบายๆ ด้วยครับยังไม่หมดแค่นี้เมื่อยามค่ำคืนยังมีการโชว์เทคนิค 3D Mapping ด้วยการฉายภาพเคลื่อนไหวบนเพดาน และประตูทางเข้าด้านหน้าร้าน ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มสีสันและความมีชีวิตชีวาให้กับมื้อดินเนอร์ได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจมาดูเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าครับ ที่บอกว่าที่นี่แม้จะดูทันสมัย หรูหรา แต่ว่ารสชาติอาหารนั้นถือว่าจัดจ้านแบบไทยๆ อาหารของที่นี่จึงอยู่ภายใต้คอนเซ็ปท์ The Best Authentic Thai Taste with Modern Twist เพราะว่าได้รับการรังสรรค์จาก เชฟปู ปูริดา ธีระพงษ์ สุดยอดเชฟหญิงระดับแนวหน้าของเมืองไทย ที่มีประสบการณ์ด้านอาหารไทยมานานกว่า 15 ปี กับภัตตาคารชั้นนำทั้งต่างประเทศและในบ้านเรา นอกจากนี้ยังการันตีด้วยตำแหน่งแชมป์ผู้ท้าชิงจากร้านการเชฟกระทะเหล็กแห่งประเทศไทย ซึ่งชนะด้วยเมนูที่ใช้วัตถุดิบหลักอย่างดอกไม้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีทีเดียวครับ และแน่นอนว่าค่ำคืนนี้จะต้องมีเมนูสวยๆ รสชาติดีที่ทำจากดอกไม้แน่นอนครับก่อนอื่นขอเริ่มที่เครื่องดื่ม Signature ของทางร้านนั่นก็คือ OSHA Chada (โอชา ชฎา) เครื่องดื่มที่เลือกได้ว่าจะสั่งแบบ Cocktail หรือ Mocktail เครื่องดื่มที่มีน้ำเสาวรสเป็นตัวชูโรง ทำให้มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน สดชื่น เสิร์ฟมาแบบไทยๆ ด้วยการเพิ่มเติมชฏาทรงสูงเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของร้านแล้วก็เริ่มต้นด้วยเมนู Garden Talk Crispy & Berry Sauce (250 บาท) หรือ ดอกไม้กรอบซอสลูกหม่อน เป็นเมนูทานเล่นที่นำเอาแผ่นแป้งปอเปี๊ยะคลุกเคล้ากับกลีบดอกไม้ที่ทานได้นำไปอบแทนการทอด ทำให้ได้แป้งที่กรอบแต่ไม่แตกง่าย ทานกับซอสลูกหม่อนที่มีให้เลือกทั้งแบบร้อนและเย็น รสชาติอร่อยเข้ากันอย่างลงตัวครับ เป็นเมนูที่ถือว่าทานง่ายไม่อ้วนด้วยนะครับต่อด้วยอีกหนึ่งเมนูที่สวยงามและถือว่าเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของเชฟปูเลยก็ว่าได้นั่นก็คือ OSHA Ocean & Flora Salad (490 บาท) ยำหอยเชลล์น้ำฟักข้าว เป็นเมนูที่ผมชอบมากเพราะน้ำยำที่ทำจากฟักข้าวนั้นรสชาติจัดจ้าน แถมสีสันก็สวยงาม นอกจากนี้ดอกไม้ที่ประดับอยู่รอบๆ จานก็สามารถนำมาทานคู่กับน้ำยำทำให้อร่อยจัดจ้าน ไม่แพ้ความสวยงามเลยครับถัดไปก็เป็นเมนู Nam Prik Goong (350 บาท) ที่นี่เรียกเมนูนี้ว่าน้ำพริกกุ้งสะเออะ เป็นน้ำพริกที่ชื่อแปลกหู แต่รสชาติรับรองว่าอร่อยถูกใจ เพราะเป็นน้ำพริกที่ปรุงจากการคั้นเนื้อกุ้งกับน้ำมะนาวและเพิ่มรสชาติด้วยไข่เค็มกับพริกสด ทานคู่กับผักสดที่เสิร์ฟมาพร้อมกันได้อย่างอร่อยแบบไทยๆ แน่นอนครับมาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูอาหารไทยที่ไปที่ไหนก็ขาดไม่ได้นั่นก็คือ Tom Yum Goong (400 บาท) แต่ต้มยำกุ้งของที่นี่เสิร์ฟในรูปแบบแปลกตาด้วยเครื่องต้มแบบวิธีไซฟ่อนด้วยการใช้ไฟทำให้หม้อร้อนแล้วทำให้น้ำต้มยำนั้นเดือดขึ้นไปผสมผสานกับเครื่องต้มยำ จากนั้นก็ทำการแยกน้ำต้มยำออกมาจากเครื่องต้มยำต่างๆ ทำให้สามารถซดน้ำต้มยำได้สบายๆ ไม่ต้องกังวลว่าจะติดวัตถุดิบอื่นๆ มาด้วยรึเปล่า นอกจากนี้ยังเพิ่มรสชาติอร่อยๆ และกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหลของกุ้งแม่น้ำย่างตัวโต ที่ส่งกลิ่นหอมเย้ายวลให้ชวนชิมสุดๆ แม้ว่ารูปลักษณ์จะแตกต่างออกไป แต่รสชาติรับรองว่าอร่อยจัดจ้านตามแบบฉบับต้มยำกุ้งจริงๆ ครับกับข้าวมาเต็มแบบนี้ต้องทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ ถึงจะครบรสอาหารไทยจริงมั้ยครับ แต่ที่พิเศษก็คือข้าวที่ทางร้านนำเสนอเป็น ข้าวกล้องโอชา ซึ่งเป็นการนำข้าวไรซ์เบอร์รี่ไปหุ้งด้วยในลูกมะพร้าวเผา ซึ่งจะทำให้ได้ข้าวที่รสชาติหอมหวาน บอกตรงๆ ว่าทานเปล่าๆ ก็หวานอร่อยสุดๆ แล้วครับจากนั้นก็มาต่อกันที่อีกหนึ่งเมนูโปรดของผมนั่นก็คือ Classic Yellow Curry Chicken (650 บาท) แกงกะหรี่ไก่ที่พาเอาความอร่อยนุ่มละมุนลิ้นมาเสิร์ฟแบบจัดเต็ม ด้วยน้ำแกงที่หอมเครื่องเทศเข้มข้นแบบไทย น่องไก่ก็นุ่มอร่อย แถมทานคู่กับโรตีกล้วยทอดรสชาติเข้ากันอย่างลงตัวสุดๆ ครับจากนั้นก็ปิดท้ายขอคาวด้วยเมนู Grilled Lamb Cutlet with Herb Crush (750 บาท) ซี่โครงแกะสมุนไพรชิ้นใหญ่ ย่างมาแบบ medium rare ส่งกลิ่นหอมชวนทาน แถมเนื้อนุ่มสุกกำลังดี มาพร้อมกับน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษได้บรรยากาศความเป็นไทยขึ้นมาทันที ซึ่งรสชาติอร่อยไม่มีกลิ่นคาวมากวนใจแม้แต่นิด เมนูนี้ถูกใจสุดๆ ครับแล้วก็มาถึงเมนูของหวานบ้างครับ เริ่มที่ Fresh Fruits (280 บาท) ผลไม้รวมที่จัดมาได้อย่างสวยงาม เสิร์ฟพร้อมกับไอศกรีมเชอร์เบทแบบโฮมเมด ที่ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดี ที่สำคัญโต๊ะข้างๆ สั่งเมนูนี้พร้อมปักเทียนวันเกิดถือเป็นเค้กวันเกิดที่สวยแปลกตาจากที่เคยเห็น เก๋ไก๋ไปอีกแบบครับหรือจะเลือกของหวานเบาๆ แต่รสชาติไม่เบาด้วย Ice Cream Sorbet (280 บาท) ไอศกรีมสัปปะรดพริกเกลือ และสตรอเบอร์รี่พริกเกลือ ไอศกรีมเชอร์แบทโฮมเมดที่ผสมผสานรวมเอาผลไม้และพริกเกลือที่ใช้ทานคู่กับผลไม้นำมาทำเป็นไอศกรีมได้ลงตัวสัมผัสได้ถึงรสชาติของพริกเกลือที่แทรกอยู่ในตัวผลไม้ได้ดีทีเดียวสำหรับมื้อนี้นอกจากจะได้ดื่มดำกับอาหารไทยที่สวยงามแต่ได้รสชาติอร่อยจัดจ้านแบบไทยๆ ยังได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศร้านที่สวยสะดุดตา ทำให้รู้สึกได้ว่า Osha Thai Restaurant & Bar ถือว่าเป็น Fine Thai Dining ที่ดีอีกแห่งหนึ่งสำหรับผมเลยก็ว่าได้ครับ สำหรับใครที่ชื่นชอบอาหารไทยในบรรยากาศสวยๆ แบบนี้แวะมาได้ที่ร้าน Osha ปากซอยร่วมฤดีตัดกับถนนวิทยุ แล้วจะหลงรักที่นี่ได้ไม่ยากเลยครับ…Read More
+ 23
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
OSHA Chada (โอชา ชฎา)
Garden Talk Crispy & Berry Sauce
฿250
OSHA Ocean & Flora Salad
฿490
OSHA Ocean & Flora Salad
฿490
Nam Prik Goong
฿350
Nam Prik Goong
฿350
Tom Yum Goong
฿400
Tom Yum Goong
฿400
Tom Yum Goong
฿400
ข้าวกล้องโอชา
Classic Yellow Curry Chicken
฿650
Grilled Lamb Cutlet with Herb Crush
฿750
Fresh Fruits
฿280
Ice Cream Sorbet
฿280
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿700
Audrey Cafe des Fleurs ร้านสวยบรรยากาศสวนฝรั่งเศส
Audrey Cafe Des Fleurs
2016-07-29
วันนี้ขอพาไปนั่งชิลๆ ร้านอาหารที่บอกเลยว่าตกแต่งได้อย่างสวยงาม น่ารัก น่านั่งสุดๆ เพราะร้านที่ว่าก็คือ Audrey Café des Fleurs นั่นเองครับ สำหรับรีวิวนี้มีโปรฯ ดีๆ มาบอกด้วยนะ เป็นอย่างไรเข้าไปดูรีวิวได้เลยครับซึ่งร้านอาหารในเครือ Audrey นั้นรับรองได้เลยว่าบรรยากาศสวยงาม น่านั่งทุกร้าน ทุกสาขา และสำหรับ Audrey Café des Fleurs นั้นก็สวยสะดุดตาตั้งแต่ทางเข้า ไปยันมุมด้านในสุดของร้าน เพราะที่นี่ตกแต่งด้วยธีมสวนดอกไม้สไตล์ฝรั่งเศสย่านโพวองซ์ ซึ่งบรรยากาศด้านในเต็มไปด้วยความสดใน ความสดชื่นของไม้ประดับที่วางเรียงรายอยู่หน้าร้านและมุมต่างๆ โดยมีการแบ่งพื้นที่ 3 โซน ด้านในร้านโซนตรงกลางเป็นเหมือนบรรยากาศในบ้านที่ตกแต่งด้วยผนังกระจกสลับกับปูนที่มีการประดับด้วยกรอบรูปเรียงรายอยู่เต็มผนังถัดออกไปด้านในก็จะเป็นบรรยากาศในสวนหน้าบ้าน ซึ่งมุมนี้น่ารักด้วยประตูไม้และหน้าต่างสีพาสเทล ดูสดใส พื้นก็ทำให้เหมือนเป็นถนนอิฐ และมุมนี้ได้รับแสงจากผนังกระจก ทำให้บรรยากาศส่วนนี้คล้ายกับสวนดอกไม้ที่อยู่ที่ฝรั่งเศสจริงๆ นอกจากนี้วิวจากมุมนี้ก็ทำให้มองเห็นตึกสูงย่านสุขุมวิท ซึ่งดูแล้วก็เพลินตาไปอีกแบบ ส่วนตัวแล้วผมชอบมุมนี้มากๆ ครับส่วนโซนสุดท้ายคือมุมตรงข้ามร้านซึ่งมุมนี้เป็นมุมที่ใช้วางเค้ก เบเกอรี่ และไอศกรีม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สามารถแวะมาทานแต่ของหวานชิลๆ ได้สบายๆมาดูเรื่องอาหารกันบ้างดีกว่าครับ อาหารที่นี่ก็จะเน้นแนวฟิวชั่นเป็นหลัก ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลาย ที่นี่นอกจากจะมีธีมเป็นสวนดอกไม้แล้ว ยังมีการนำดอกไม้มาเป็นส่วนผสมของอาหารและเครื่องดื่มอีกด้วยนะครับ แต่ก่อนอื่นขอเติมความสดชื่นด้วย Sakura Glazier (140 บาท) เครื่องดื่มสีชมพูหวานสดใสเข้ากับบรรยากาศของร้าน ที่สำคัญให้รสชาติกลมกล่อม หวานละมุนกำลังดี และมีกลิ่นหอมขอดอกซากุระมาเตะที่ปลายจมูกทุกครั้งที่ดื่ม ช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายได้ดีทีเดียวครับขอเริ่มที่เมนูรองท้องอย่าง Grilled Marinated Pork wrapped in White Noodles (180 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหลอดสอดไส้หมูปิ้งราดด้วยน้ำซอสรสกลมกล่อม สามารถเติมรสชาติได้ด้วยน้ำจิ้มแจ่ว เสิร์ฟพร้อมผักสด เป็นเมนูที่รสชาติอร่อย ลงตัว แทบไม่ต้องพึ่งน้ำจิ้มเลยครับต่อด้วย Spaghetti “Tom Yum” (กุ้งแม่น้ำ 370 บาท) สปาเก็ตตี้ที่เติมรสจัดจ้านด้วยรสชาติต้มยำกุ้งแบบไทย เมนูนี้สามารถเลือกได้ระหว่างกุ้งแม่น้ำ หรือกุ้งแชบ๊วย (190 บาท) สำหรับกุ้งแม่น้ำก็จะได้รสชาติกุ้งแบบเน้นๆ ที่แกะเปลือกมาเรียบร้อยพร้อมทานได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เป็นเมนูที่ไม่ควรพลาดครับจากนั้นก็ปิดท้ายของคาวด้วยอีกเมนูโปรดที่ผมมักจะสั่งอยู่บ่อยครั้งนั่นก็คือ “Tom Yum Kung” Spicy Herbal with Prawn & Mushroom (220 บาท) เบบี้พิซซ่าที่มาพร้อมรสชาติจัดจ้านของต้มยำกุ้งเช่นเดียวกัน เสิร์ฟในปริมาณกำลังดี แบ่งกันทานสองคนได้สบายๆ ตัวแป้งบางกรอบอร่อย ส่วนหน้านั้นก็ได้รสชาติจัดจ้านของต้มยำกุ้งแบบไทยๆ เป็นเมนูที่เคี้ยวเพลินเลยครับสำหรับที่นี่แล้วผมชอบทั้งบรรยากาศร้านที่สวยเหมือนนั่งอยู่ต่างประเทศจริงๆ แล้วก็รสชาติที่อร่อยถูกปากด้วยครับ …Read More
+ 13
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
1
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
5
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Sakura Glazier
฿140
Grilled Marinated Pork wrapped in White Noodles
฿180
Spaghetti “Tom Yum”
฿370
Spaghetti “Tom Yum”
฿370
“Tom Yum Kung” Spicy Herbal with Prawn & Mushroom
฿220
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿500
1 of A Kind ร้านนี้ชอบมากกกกก
1 of A Kind
2016-07-29
1 of A Kind Vintage Nordic Furniture อย่าเพิ่งแปลกใจว่าวันนี้จะเปลี่ยนแนวจากรีวิวร้านอาหาร แล้วพาไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เพราะว่าที่นี่เค้านอกจากจะมีเฟอร์นิเจอร์วินเทจให้เลือกซื้อแล้วยังเป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดีอีกด้วยนะครับร้านนี้มีอะไรน่าสนใจนะเหรอ จะเริ่มยังไงดี เอาเป็นว่าเริ่มต้นที่เห็นเพื่อนๆ หลายคนแวะเวียนไปเช็คอิน แล้วติดอกติดใจกับรสชาติอาหาร และบรรยากาศของร้าน ที่สำคัญร้านนี้อยู่แถวถนนพระราม 9 ก็ไม่ได้ไกลจากระยะทำการเท่าไร ก็เลยขอนัดพี่ๆ เค้าแวะไปลิ้มลองอาหารที่นี่กันก่อนอื่นขอเริ่มที่บรรยากาศก่อนนะครับ ใครที่ชื่นชอบของตกแต่งบ้านแนววินเทจคงจะถูกใจกับบรรยากาศของที่นี่ได้ไม่ยาก เพราะของตกแต่งแต่ละอย่างนั้นเริ่มต้นมาจากการเป็นของที่เจ้าของร้านชื่นชอบของตกแต่งแนวนี้ จึงเริ่มสะสมมาเรื่อยๆ แม้ว่าแต่ละชิ้น แต่ละอย่างจะมีสไตล์ที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ตู้ โซฟา ที่ดูย้อนยุค หรือจะเป็นเจ้าก๊อตซิลล่าตัวเบ่อเริ่มที่เหมือนยืนคอยต้อนรับแขกยังไงยังงั้น หรือจะเป็นเจ้า จาร์ จาร์ บิงคส์ ที่ยืนเป็นพนักงานต้อนรับอยู่ที่ชั้นลอย ซึ่งชั้นนี้จะเป็นชั้นที่แสดงของตกแต่งแนววินเทจทั้งหมด ซึ่งใครดูแล้วชอบก็ติดต่อขอซื้อที่เจ้าของร้านได้ด้วยนะครับพื้นที่ชั้นลอยเป็นที่แสดงเฟอร์นิเจอร์ ส่วนด้านล่างก็เป็นพื้นที่ของร้านอาหารที่มีมุมให้เลือกหลายโซน แต่ละที่ก็มีของตกแต่งย้อนยุคเก๋ไก๋ เท่ห์ไม่เบา อยู่เต็มร้านไปหมด แม้ว่าแต่ละชิ้นอาจจะดูแต่งต่าง แต่พอมาอยู่รวมกันก็เข้ากันอย่างลงตัวดีเหมือน ดูแล้วไม่ขัดเขินเลยครับก่อนที่จะไปชิมอาหารขอเติมความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มเย็นๆ ชื่นใจอย่าง Pink Lady (130 บาท) น้ำแอปเปิ้ล, เลมอน และขิง ปั่นแบบไม่ใส่นม ได้เครื่องดื่มสีชมพูที่รสชาติหอมหวาน ช่วยเพิ่มความสดชื่นได้ดีหรือจะเป็นเครื่องดื่มสีสันสดใสอย่าง Blue Sky Fizzy (95 บาท) เครื่องดื่มอิตาเลี่ยนโซดาสีฟ้าสดใสตามชื่อเมนูเลยจ้า เป็นเครื่องดื่มที่แค่เสิร์ฟก็ทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาแล้วครับคอกาแฟก็มีกาแฟหอมๆ รสชาติกลมกล่อมเริ่มที่เมนูซิกเนเจอร์ซึ่งมีชื่อเดียวกับร้านนั่นก็คือ 1OAK (90 บาท) กาแฟเย็นที่รสชาติเข้มกำลังดี เติมความหวานมันด้วยนม ดื่มแล้วชื่นใจครับหรือจะเป็นกาแฟร้อนอย่าง Latte (80 บาท) ที่มาพร้อมกับลวดลายหัวใจ ที่ส่งกลิ่นหอมชวนดื่มสุดๆสำหรับอาหารนั้นขอเริ่มต้นด้วยเมนูทานเล่นอย่าง Calamari (190 บาท) ปลาหมึกที่นำไปทอดทั้งตัว หั่นมาเป็นแว่นพอดีคำ เนื้อนุ่มหนึบเคี้ยวง่าย ไม่เหนียวหนืดเลยครับ รสชาติก็หอมหวานยิ่งจิ้มกับซอสวาซาบิมายองเนส ยิ่งเพิ่มความอร่อยได้ดีเชียวครับต่อด้วยเมนูเบาๆ อย่าง Strawberry Lane (150 บาท) สลัดผักที่ผสมกับสาหร่ายวากาเมะ และเพิ่มสีสันด้วยสตรอเบอร์รี่สด ราดด้วยน้ำสลัดแบบญี่ปุ่น รสชาติอร่อยลงตัวจากนั้นก็มาต่อด้วย Hot Pig (230 บาท) สปาเก็ตตี้พริกกระเทียมที่ผัดคลุกเคล้าเข้ากับแฮมและเบคอน รสชาติเผ็ดร้อน อร่อยจัดจ้านใครทานเผ็ดแนะนำเมนูนี้เลยครับ เส้นก็นุ่มผัดได้แห้งกำลังดี เมนูปลื้มมากครับเสิร์ฟกันต่อด้วยเมนู Pad Cha (230 บาท) เมนูสปาเก็ตตี้อีกรูปแบบที่ผัดมาเผ็ดร้อนแบบผัดฉ่า ที่มีทั้งพริกไทยเม็ด กระชาย และใบกะเพรา ดังนั้นจึงได้รสชาติจัดจ้านแบบไทยสุดๆปิดท้ายด้วย Burger (300 บาท) เบอร์เกอร์หมูที่จัดเต็มด้วยไข่ดาวและเบคอน เสิร์ฟพร้อมมันฝั่งแผ่น รสชาติอร่อยไม่ต้องใส่ซอสเพิ่มเลยสำหรับที่นี่เพิ่งมีการปรับปรุงร้านใหม่ไม่นานทำให้คนที่เคยมาก่อนหน้านี้อาจจะแปลกตากันไปบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมแล้วที่นี่มีเสน่ห์ตั้งแต่การตกแต่งร้านที่รวมเอาของวินเทจมาไว้ด้วยกันอย่างไม่เคอะเขิน การบริการก็ประทับใจ และที่สำคัญรสชาติอาหารที่อร่อยลงตัวทุกเมนู เป็นอีกร้านที่ต้องขอแวะมาซ้ำอย่างแน่นอน เพราะชอบอาหารและบรรยากาศแนวนี้อยู่แล้ว สำหรับการเดินทางนั้นที่นี่เหมาะสำหรับคนที่มีรถส่วนตัวเพราะว่าร้านอยู่ในซอยพระรามเก้า 46 หรือจะเข้าจากซอยพระรามเก้า 48 ก็ได้ครับ ซึ่งสังเกตง่ายๆ ก็จะอยู่ตรงข้ามกับ เดอะไนน์ฯ พอดี สามารถขับเข้ามาจอดรถที่ในซอยได้เลยซึ่งเข้ามาหากเจอที่ว่างก็จอดได้เลยครับ เพราะว่าร้านอยู่ไม่ห่างจากปากซอยมากนัก ใครที่ชื่นชอบเฟอร์นิเจอร์แนววินเทจ และชอบอาหารฟิวชั่นรสชาติจัดจ้านแบบไทยก็แวะมาได้ที่ 1 of A kind ดูนะครับแล้วจะติดใจเหมือนผม…Read More
+ 18
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
5
Taste
5
Decor
4
Service
4
Hygiene
5
Value
Recommended Dishes
Pink Lady
฿130
Blue Sky Fizzy
฿95
1OAK
฿90
Latte
฿80
Calamari
฿190
Strawberry Lane
฿150
Hot Pig
฿230
Pad Cha
฿230
Burger
฿300
Date of Visit
2016-07-19
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿400
มานั่งจิบกาแฟ ทานอาหารเช้าที่ โกปี้ เฮี๊ยะไถ่กี่
Kopi Hia Tai Gee
2016-05-01
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เจอแต่ร้านกาแฟสมัยใหม่ ตกแต่งร้านสวยงามชวนเข้าไปนั่งจิบกาแฟชิลๆ แต่ยังมีร้านกาแฟโบราณที่เปิดมานาน ที่ถือว่ามีเสน่ห์ไม่แพ้ร้านกาแฟชิคๆ ที่เปิดกันเป็นว่าเล่นในตอนนี้ ซึ่งร้านนี้เปิดมานานกว่า 60 ปีแล้ว นั่นก็คือร้าน โกปี้เฮี๊ยะไถ่กี่ นั่นเองครับโดยเริ่มเปิดสาขาแรกที่แยกวิสุทธิกษัตริย์ และก็ขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่สาขาที่จะพาไปนั่งจิบกาแฟร้อนๆ อยู่ที่สาขาเสาชิงช้า เรียกว่าร้านนี้อยู่คู่ชาวพระนครมายาวนานทีเดียวครับ แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นร้านกาแฟโบราณ แต่ว่าบรรยากาศถือว่าน่านั่งไม่แพ้ร้านกาแฟสมัยใหม่เลยครับ แต่ว่าบรรยากาศโดยรอบยังคงมีกลิ่นอายย้อนยุคหน่อย ด้วยป้ายร้านแบบดั้งเดิม รวมทั้งโต๊ะและเก้าอี้กลมที่เป็นไปตามแบบฉบับร้านกาแฟโบราณเป๊ะ แต่ร้านก็ดูสะอาดสะอ้านน่าถ่ายรูปแชร์ให้เพื่อนๆ เล่นไม่เบาครับแม้ที่นี่จะเป็นร้านกาแฟโบราณ แต่มีอาหารให้บริการหลากหลายเชียวครับ โดยเฉพาะอาหารเช้าที่มีให้เลือกหลากหลายแบบ แน่นอนว่าเมนูเด่นของที่นี่ก็คือ ไข่กระทะ (85.-) ที่เสิร์ฟพร้อมกับขนมปังสอดไส้ชีสและเบคอน เสิร์ฟร้อน รสชาติอร่อยโดยเฉพาะหมูสับสูตรพิเศษของทางร้าน ที่ช่วยเพิ่มรสชาติได้ดีส่วนอาหารเช้าอีกเมนูผมเลือกเป็น ข้าวต้มกุ้ง (79.-) ข้าวต้มกุ้งร้อนๆ ที่หอมน้ำซุปสุดๆ รสชาติก็กลมกล่อมโรยพริกไทยเพิ่มเล็กน้อย อร่อยลื่นคอเชียวแค่นี้ยังไม่พอครับ ขอเพิ่มความอร่อยด้วย โรตีราดนม โรตีกรอบฟู แต่ด้านในนุ่มนิดๆ ราดด้วยนมข้นหวาน และโรยน้ำตาลทรายอีกนิด รับรองอร่อยฟินสุดๆ ครับมาร้านกาแฟโบราณทั้งที ต้องสั่งกาแฟร้อนมาถึงจะครบสูตร แต่ขอเป็น ชาเฟร้อน (75.-) กาแฟร้อนที่ผสมกับชาซีลอน เติมความหวานนิดๆ ด้วยนมข้นหวานตามแบบฉบับกาแฟโบราณ จิบคำแรกหอมกลิ่นชาอ่อนๆ แต่ก็ได้ความเข้มข้นของกาแฟเช่นกัน ถือว่าลงตัวทั้งชา และกาแฟครับปิดท้ายด้วย ชานมเย็น หอมๆ เย็นๆ ชื่นใจไม่แพ้กันครับสำหรับที่นี่ทุกอย่างบริการตัวเองนะครับ เพราะสั่งอาหารแล้วต้องมารับที่หน้าเคาเตอร์ที่เราสั่งตอนแรก และน้ำชา ช้อนส้อม ก็หยิบจับเอาเองนะครับ โดยบรรยากาศที่นี่ถือว่าชิลๆ ไม่แพ้ร้านกาแฟสวยๆ ในเมือง รสชาติอาหารก็ถือว่าโอเค แม้ราคาจะแอบสูงไปนิดก็ตาม เอาเป็นว่าใครอยากลองแวะไปนั่งจิบกาแฟโบราณก็ลองแวะมาได้ที่ โกปี้เฮี๊ยะไถ่กี่ นะครับ ซึ่งสาขาเสาชิงช้า ก็ตามชื่อเลยอยู่ติดกับเสาชิงช้า หรือติดกับศาลาว่าการกรุงเทพมหานครเลยครับ…Read More
+ 9
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
4
Decor
3
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
ไข่กระทะ
฿85
ไข่กระทะ
฿85
ข้าวต้มกุ้ง
฿79
โรตีราดนม
โรตีราดนม
ชาเฟร้อน
฿75
ชานมเย็น
ไข่กะทะ
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿150
EAT Rice & Noodles ร้านอาหารไทยรสชาติแบบไทยๆ
Eat Rice & Noodles
2016-04-26
ร้าน EAT Rice & Noodles หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อร้านเท่าไร แต่หากบอกว่าเป็นร้านอาหารในเครือห้องอาหารทานข้าวสุพรรณิการ์ แล้วละก็รับรองได้เลยว่าจะต้องคุ้นหูคุ้นตากันแน่นอนครับ โดยเฉพาะเรื่องรสชาติอาหารไทยที่รับรองได้เลยว่าอร่อยถูกปากคนไทยแน่นอนร้านอาหารนี้ตั้งอยู่ชั้น B โซนฟู้ดคอร์ท บรรยากาศร้านตกแต่งโดยใช้คอนเซ็ปร้านอาหารตามสั่งเรียบง่าย ที่มาพร้อมครัวแบบเปิด ทำให้ร้านดูคึกคักมากขึ้น โดยการตกแต่งจะใช้ไม้สีอ่อนทั้งร้าน ทั้งโต๊ะเก้าอี้ และส่วนครัว ทำให้ร้านดูโล่ง โปร่ง สะอาดตาและน่านั่งก่อนที่จะไปทานอาหารกันขอความสดชื่นด้วย โคล่าบ๊วยปั่น (100.-) ที่ได้ความซ่าบวกกับรสเปรี้ยวเค็มของบ๊วย ช่วยเพิ่มความสดชื่นซาบซ่าได้ดีทีเดียวครับนอกจากนี้ยังมี น้ำมะม่วงมหาชนกปั่น (140.-) รสชาติหอมหวานช่วยให้ร่างกายสดชื่นก่อนมื้ออาหารหลักครับสำหรับอาหารนั้นร้าน EAT Rice & Noodles ให้บริการอาหารไทยจานด่วน แต่เน้นคุณภาพของวัตถุดิบ และรสชาติที่รับรองว่าถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน ที่สำคัญหน้าตาแต่ละเมนูก็น่าทานซะด้วยสิครับ ก่อนอื่นของเริ่มที่เมนูรองท้องกันก่อนกับ ปอเปี๊ยะสดเนื้อปูสูตรปีนัง (120.-) สูตรเด็ดประจำร้านซึ่งจะออกรสเผ็ดของพริกและกระเทียมตำที่ทาไว้ในแผ่นปอเปี๊ยะ ทำให้เมนูมีรสชาติอร่อยมากขึ้นมาถึงจานหลักกันบ้างดีกว่ากับเมนู เกลือหิมาลายันเนื้อปูก้อนผัดข้าว (345.-) ข้าวผัดปูที่ไม่เหมือนใคร ด้วยการที่ร้านใช้เกลือหิมาลายันสีชมพูซึ่งมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายสูงมาใช้ในการปรุงรส และทางร้านผัดข้าวได้ร่วม แถมได้กลิ่นหอมที่มาจากการผัดจากกระทะเหล็ก และที่เด่นคือ เนื้อปูก้อนขนาดใหญ่เต็มปากเต็มคำที่ไม่ใช่แค่เศษเนื้อปูตามร้านทั่วไปกินข้าวแล้ว ก็มาต่อที่เมนูเส้นกับ สุกี้แห้งสูตรโบราณ เส้นแก้วสาหร่ายทะเลสกัด (215.-) สุกี้แห้งรสจัดจ้านที่เราสามารถเลือกเส้นได้ตามใจชอบ อย่างเช่นเส้นแก้วสาหร่ายทะเลสกัด ที่นุ่ม กรุบๆ นิดๆ และสามารถเลือกได้ว่าจะเสิร์ฟด้วยเนื้อวัว หรือเนื้อหมู สำหรับรสชาติถือว่าจัดจ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าใครชอบรสจัดจ้านมากกว่านี้ก็สามารถเพิ่มเติมด้วยน้ำจิ้มสุกี้รสเด็ดได้ตามใจชอบเลยครับจากนั้นก็ปิดท้ายของคาวด้วย กระเพราแดงผัดพริกแห้งหมูสับเส้นใหญ่กรอบ (115.- เพิ่มไข่ดาวอีก 15.-) กระเพราหมูสับรสจัดจ้านแบบไทยๆ ที่เพิ่มความเก๋ไก๋ด้วยเส้นใหญ่ที่ทอดได้กรุบกรอบตัดความเผ็ดร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังเพิ่มเติมความเป็นกระเพราหมูสับด้วยไข่ดาวร้อนๆ ซักฟองครับ และนอกจากนี้ทุกเมนูที่เป็นของคาวจะเสิร์ฟน้ำซุปถ้วยเล็กๆ ที่มาพร้อมกับไข่ดาวรูปดอกไม้และดอกขจร ดูน่ารัก มากๆ เลยครับมาถึงของหวานกันบ้างดีกว่าครับ ของหวานที่ร้านนี้เป็นของหวานแบบไทยๆ แต่เพิ่มรสชาติด้วยไอศครีมทำให้อร่อยหวานเย็นแบบลงตัว ซึ่งเมนูเด่นของร้านจะเป็น ไอศกรีมออร์แกนิคงาดำขนมเปียกปูน (130.-) ขนมเปียกปูนรสชาติแบบไทยๆ ไม่หวานเกินไปมาพร้อมกับไอศครีมงาดำ ที่เข้ามาตัดความหวานของขนมเปียกปูนได้เป็นอย่างดีอีกเมนูที่เด่นไม่แพ้กันก็จะเป็น ไอศครีมออร์แกนิคชาซีลอนเฉาก๊วย (130.-) แค่หน้าตาก็น่าทานแล้วครับ …Read More
+ 10
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
1
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
3
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
โคล่าบ๊วยปั่น
฿100
น้ำมะม่วงมหาชนกปั่น
฿140
ปอเปี๊ยะสดเนื้อปูสูตรปีนัง
฿120
เกลือหิมาลายันเนื้อปูก้อนผัดข้าว
฿345
เกลือหิมาลายันเนื้อปูก้อนผัดข้าว
฿345
เกลือหิมาลายันเนื้อปูก้อนผัดข้าว
฿345
สุกี้แห้งสูตรโบราณ เส้นแก้วสาหร่ายทะเลสกัด
฿215
กระเพราแดงผัดพริกแห้งหมูสับเส้นใหญ่กรอบ
฿115
ไอศกรีมออร์แกนิคงาดำขนมเปียกปูน
฿130
ไอศครีมออร์แกนิคชาซีลอนเฉาก๊วย
฿130
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿300
Creadz Cafe ร้านกาแฟน่ารักบรรยากาศดีริมถนนเพชรบุรี
Creadz Cafe
2016-04-26
Creadz Café คาเฟ่เล็กๆ แต่น่ารัก ที่สำคัญร้านนี้เป็นร้านที่วัยรุ่นนิยมแวะไปนั่งจิบกาแฟ และเค้ก เพราะว่าร้านนี้เป็นร้านที่น้องริท เดอะ สตาร์ เป็นหุ้นส่วนในฐานะเจ้าของร้านอยู่ด้วยนั่นเองครับ รู้อย่างนี้แล้วตามไปดูด้านในร้านกันดีกว่าว่าจะน่ารักขนาดไหนครับบรรยากาศด้านนอกเป็นตึกสีดำ ตั้งเด่นอยู่ริมถนนเพชรบุรีตัดใหม่ (ใกล้กับตึกอิตัลไทย) ด้านข้างจะตกแต่งด้วยกระจก คล้าย Glasshouse ทำให้ด้านในดูโล่งโปร่ง สบายๆ แถมภายในก็ตกแต่งไว้อย่างสดชื่นด้วยพรรณไม้ต่างๆ ที่ประดับอยู่ด้านใน เหมือนเป็นสวนเล็กๆ ที่แทรกตัวอยู่ใจกลางเมือง แถมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ ที่ช่วยให้ดูอบอุ่น สามารถนั่งชิลๆ ได้สบายๆเพลินกับบรรยากาศที่ดูแล้วสบายตา ก็มาจิบกาแฟให้ชื่นใจกันดีกว่าครับ กับ ลาเต้เย็น ที่ถือว่ารสชาติเข้มข้น สดชื่นดีครับยิ่งมาพร้อมกับ Strawberry shortcake ที่เนื้อเค้กนุ่ม หวานกำลังดี ตัดกับรสขมของกาแฟได้ลงตัวเลยครับแค่ได้นั่งชิลๆ ในบรรยากาศน่ารักพร้อมกับเครื่องดื่มและขนมอร่อยๆ แค่นี้ก็เติมความสดชื่นให้ร่างกายได้ดีทีเดียวครับ…Read More
+ 11
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
4
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
ลาเต้เย็น
฿110
Strawberry shortcake
฿120
Strawberry shortcake
฿120
Dining Method
Dine In
Spending Per Head
฿150
The Mew เขาใหญ่ ร้านเล็กๆ แต่น่ารักมากกกกก
The Mew
2016-04-25
The Mew Khao Yai ชื่อนี้อาจจะยังไม่ค่อยคุ้นหูกันเท่าไรนัก แต่ถ้าได้แวะไปซักนิดจะสามารถสัมผัสได้ถึงความน่ารัก และความสุขได้เหมือนกับเราสองคนสำหรับที่ The Mew นั้นบอกเล่าความน่ารักผ่านตัวการ์ตูนที่มีชื่อว่า Mrs. & Mr. Mew ที่โผล่มาต้อนรับพวกเราตั้งแต่หน้าร้าน ไปจนถึงข้างในร้านเลยครับ บรรยากาศที่นี่นั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น ร่มรื่น ด้วยตัวร้าน The Mew เองนั้น คล้ายกับ Barn House หรือบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่เป็นเหมือนกับโกดังหรือยุ้งฉางสำหรับเก็บเมล็ดพันธุ์พืช ดูเก๋ไก๋สไตล์คันทรี่ และอบอุ่นดี ที่สำคัญบรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยสวนสวยๆ ที่มีต้นไม้น้อยใหญ่เรียงรายอยู่รอบๆ เติมความสดชื่นด้วยลำธารเล็กๆ ที่ตัดผ่านหน้าร้าน ชวนให้นึกถึงธรรมชาติที่ดูร่มรื่น น่านั่งเล่น พักผ่อนหย่อนใจสุดๆ ซึ่งแค่บรรยากาศก็ทำให้รู้สึกสดชื่น และเพลิดเพลินได้ดีทีเดียวครับ โดยสวนสวยๆ นี้ในช่วงเทศกาลต่างๆ ทางร้านก็จะมีการจัดกิจกรรมสนุกๆ หมุนเวียนกันไป ไม่ว่าจะเป็นตลาดนัด Farmer Market ที่รวมเหล่าบรรดาร้านค้าสุด Hip มารวมกันเฉพาะกิจ หรือการทำ Workshop กลางสวน ให้ผู้ที่ผ่านไปผ่านมาได้มาเปลี่ยนบรรยากาศสบายๆ กลางสวนสวยๆ แห่งนี้มัวแต่พาไปดูบรรยากาศด้านนอกซะเพลิน ขอพาเข้าไปด้านในร้านกันบ้างนะครับ แม้ที่นี่จะเพิ่งเปิดให้บริการได้ไม่นาน แต่วันที่เราไปถึงก็พบว่ามีลูกค้านั่งกันอยู่เต็มร้านแล้วครับ ดังนั้นจึงยังพอมีเวลาเดินเล่นดูความน่ารักของร้านได้สบายๆ โดยภายในร้านนั้นตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทน โดยใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนเป็นหลัก ชวนให้นึกถึงคาเฟ่สไตล์ญี่ปุ่นที่ดูน่ารักน่าอบอุ่นได้เช่นกัน ที่สำคัญภายในร้านยังมีของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นใหญ่น่ารักๆ วางประดับอยู่ทั่วร้าน แต่ไม่ดูเกะกะตาจนเกินไป นอกจากนี้ด้านนอกของร้านยังมีมุมสวยให้ถ่ายรูป เซลฟี่กันได้ไม่เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นชิงช้าตัวใหญ่ที่อยู่หน้าร้าน ที่สังเกตได้ว่าลูกค้าที่ทานเสร็จแล้วก็จะแวะมาแชะรูปกันทั้งนั้น รวมทั้งเราสองคนด้วย อิอิหลังจากเดินเล่นอยู่ไม่นาน ก็มีโต๊ะว่างพอดีครับ คราวนี้เลยต้องขอเปลี่ยนฟิลมาที่อาหารกันบ้างดีกว่านะครับ แม้ภายนอกจะดูเหมือนที่นี่เป็นคาเฟ่อย่าเพิ่งว่าจะมีแต่เบเกอรี่ และเครื่องดื่มเท่านั้นนะครับ ที่นี่มีของอาหารคาวให้จัดเต็มความอร่อยได้เช่นกันอย่างที่เห็นว่าที่นี่นั้นตกแต่งโดยเน้นเรื่องธรรมชาติเป็นหลักซึ่งเป็น lifestyle ที่ดูชิล รีแลกซ์ ดังนั้นอาหารของที่นี่จึงผสมผสานเรื่องสุขภาพเข้ามาเช่นกัน โดยจะนำเอาสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์มากมายมาผสมผสานอาหารที่หน้าตาดูทันสมัย ซึ่งเรียกการผสมผสานแบบนี้ได้ง่ายๆ ว่า “Hipๆ Herbๆ” หรือดูดี แต่มีคุณประโยชน์นะครับก่อนอื่นมาเริ่มที่เมนูเบาๆ กันก่อนกับ Mew Curry Puff (90.-) กะหรี่ปั๊บที่ดูแปลกตา เพราะเป็นสไตล์ของทางร้านที่ทำให้คนทานสามารถเลือกได้ว่าชอบไส้น้อยหรือมาก ตามใจชอบเลยครับ แต่ก็ยังมีรสชาติความเป็นกะหรี่ปั๊บ เมนูขึ้นชื่อของปากช่องเป็นอย่างดีครับตามมาด้วย Mrs .Mew's Garden (260.-) สลัดสำหรับคนรักสุขภาพ ผักสด สีสันสดใส คลุกเคล้าน้ำสลัดจากทับทิมคั้นสด ได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ดีต่อสุขภาพเชียวครับต่อด้วย Homemade Herbal Fettucini White Sauce with Black Truffles (260.-) เฟตตูชินี่สมุนไพรไวท์ซอส สูตรของ The Mew ผัดเคล้ากับเห็ดทรัฟเฟิล หอมอร่อย ที่สำคัญไม่เลี่ยนด้วยครับมาถึงของหวานกันบ้างดีกว่าครับ ขอเริ่มที่เมนูเด่นประจำร้านนั่นก็คือ Homemade Scone with Three Sauces (160.-) สโคนสูตรโฮมเมด อร่อยคู่กับซอส 3 ชนิด Clotted Cream, Passion Fruit Jam และ Mixed Berry Jam ที่ชอบสุดก็เป็นซอสเสาวรสนี่แหละครับ รสเปรี้ยวนิดๆ ตัดกับตัวสโคนที่หอมนุ่มได้อร่อยลงตัวเชียวครับเมื่อได้สโคนหอมๆ อร่อยๆ ก็ต้องทานคู่กับน้ำชาดีๆ ซึ่งที่นี่ก็มีให้เลือกหลายกลิ่นหลายรสเช่น Earl Grey Tea (180.-) ชาเอิร์ลเกรย์ ที่ทางร้านคัดสรรใบชา มาจากแหล่งชาที่มีชื่อเสียงจากหลายๆ ประเทศ ผ่านกรรมวิธีในการชงชาที่ควบคุมทั้งอุณหภูมิ ระยะเวลา ปริมาณใบชา ทำให้ดึงรสชาติและกลิ่นหอมๆ ของใบชาออกมาได้ดีทีเดียว ยิ่งได้ทานคู่กับขนมอร่อยๆ ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการดื่มชาได้มากทีเดียวครับหรือจะเลือกจัดเต็มเมนูของหวานกับ Mr. and Mrs. Mew Tea Set (580.-) เซ็ตน้ำชาหอมๆ ที่มาพร้อมกับขนมและของว่างน่ารักๆ มีให้เลือกหลากหลาย เสิร์ฟขนาดพอดีคำ ที่ชอบสุดเห็นจะเป็นทาร์ตมะม่วงครับ หอมหวาน อร่อยมากๆ สำหรับเซ็ตนี้เสิร์ฟพร้อมน้ำชา 2 กา ครับมาถึงเมนูเครื่องดื่มกันบ้างดีกว่า ที่ The Mew แห่งนี้มีเครื่องดื่มให้เลือกเติมความสดชื่นหลายแบบ หลายสไตล์ ถ้าชอบเครื่องดื่มร้อนก็แนะนำ Hot Cappuccino (85.-) คาปูชิโน่ร้อน ที่มาพร้อมกับลวดลายน่ารักของ Mrs. Mew ซึ่งกาแฟของที่นี่บาริสต้านั่นเบลนด์เมล็ดกาแฟเอง ทำให้ได้กาแฟที่หอม และรสชาติกลมกล่อม เพิ่มความสดชื่นได้ดีทีเดียวส่วนใครที่ชอบชาเขียวก็มี Iced Matcha Latte (115.-) มัชชะลาเต้เย็น ที่ได้รสชาติความหอมแต่ไม่หวานจนเกินไปตามแบบฉบับชาเขียวญี่ปุ่นแบบเต็มๆ ครับแต่ถ้าใครที่ไม่ชอบชา กาแฟ ก็เลือกเป็น Passion Fizz (95.-) น้ำเสาวรสโซดา รสชาติหวานนิดๆ เปรี้ยวหน่อยๆ นอกจากจะทำให้ชื่นใจแล้ว ยังเพิ่มวิตามินซีให้ร่างกายได้ดีด้วยนะครับสำหรับอาหารและของหวานของที่นี่บอกเลยว่ารสชาติถูกปาก บวกกับบรรยากาศและการบริการที่น่ารักของร้าน ช่วยเพิ่มเติมความสดชื่นและความสุขให้กับผู้ที่มาเยือนได้ไม่ยากเลยครับ ที่สำคัญใครที่ชื่นชอบความน่ารักของ Mrs. & Mr. Mew ก็สามารถเลือกซื้อของฝาก ของชำร่วยเล็กๆ น้อยๆ ได้นะครับ เพราะที่นี่ยังมีอีกส่วนที่เป็นเหมือนร้านค้าเล็กๆ ขายพวกสมุนไพร เครื่องดื่ม ของใช้ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ไว้ไปเป็นของฝากหรือใช้เองก็ได้นะครับเอาเป็นว่ามื้อนี้ได้รับความสุข ความน่ารักกันไปแบบเต็มๆ เพื่อนๆ คนไหนที่คิดว่าอยากไปสูตรอากาศบริสุทธิ์ที่เขาใหญ่ก็ลองแวะมาเช็คอินชิลๆ ที่ The Mew ได้นะครับ สำหรับที่นี่สะดวกสบายทั้งที่จอดรถและห้องน้ำด้วยนะครับ…Read More
+ 24
The above review is the personal opinion of a user which does not represent OpenRice's point of view.
Like
Share
Report
Post
Ratings
4
Taste
5
Decor
5
Service
4
Hygiene
4
Value
Recommended Dishes
Mew Curry Puff
฿90
Homemade Scone with Three Sauces
฿160
Homemade Scone with Three Sauces
฿160
Mrs .Mew's Garden
฿260
Homemade Herbal Fettucini White Sauce with Black Truffles
฿260
Earl Grey Tea
฿180
Mr. and Mrs. Mew Tea Set
฿580
Hot Cappuccino
฿85
Iced Matcha Latte
฿115
Passion Fizz
฿95
Waiting Time
20 Minutes (Dine In)
Spending Per Head
฿300
59
Cities
1,381,160
Restaurants
9,364,222
Members
5,319,103
Reviews
40,275,769
Photos
85,173,809
Bookmarks
OpenRice
OpenRice Biz
RMS
Promotion
Booking
Dining
  • New Restaurant
  • Restaurant Search
  • Recipe
  • Submit Restaurant Info
Review
  • Submit Review
OpenRicer
  • My OpenRice
  • Membership Levels
  • Member Registration
Regions
  • 開飯喇 香港
  • 开饭喇 大湾区
  • 開飯喇 澳門
  • 開飯喇 台灣
  • 開飯喇 日本
  • OpenRice Singapore
  • OpenRice Philippines
More
  • About Us
  • Contact Us
  • Privacy Policy
  • Terms & Conditions
  • Copyright Policy
  • Terms of Merchant Services
OpenRice, the most popular dining guide in Hong Kong which has expanded to various Asian regions, provides you with comprehensive dining information, restaurant reviews and ratings. You can easily search and enjoy the best restaurants and local cuisines by using our services of online table booking, vouchers, remote queuing, take away and food delivery with just a few clicks!
© 2025 Openrice Group Inc. All Rights Reserved.
If you find any content that infringes copyright, trademark, commercial content, or is otherwise inappropriate, please click here to report it to us.
Hong Kong's Most Popular
Dining Guide