ย่านสีลม

Uchidaya Ramen

ก่อนอื่นมาดูหน้าตาราเมนแสนอร่อยของที่ร้าน Uchidaya Ramen ธนิยะ กันก่อน น่ากินมากๆ เลยค่ะ ซึ่งเมนูราเมนของที่นี่ก็จะปรับรสชาติให้ถูกลิ้นคนไทยมากขึ้น เพราะคนญี่ปุ่นชอบทานรสชาติเข้มข้นมากๆ และออกเค็ม แต่ราเมนของที่นี่คนไทยทานได้กำลังอร่อย

สำหรับการเดินทางมายังร้าน Uchidaya Ramen มาได้ทั้ง BTS สถานีศาลาแดง และ MRT สถานีสีลม จากนั้นเข้ามาในซอยธนิยะ เดินผ่านธนิยะพลาซ่ามาไม่ไกล ก็จะพบกับร้าน Uchidaya Ramen ด้านซ้ายมือ

การตกแต่งภายในร้านก็เน้นไม้ ใช้สีน้ำตาลเป็นหลัก ขับให้โทนสีของร้านดูอบอุ่นตามสไตล์ร้านราเมน

ตั้งแต่เดินเข้ามาภายในร้าน ก็จะพบกับคนญี่ปุ่นแวะเวียนมาลิ้มลองราเมนอยู่ตลอด เพราะชื่อเสียงของเชฟที่สั่งสมมาตั้งแต่เริ่มร้านราเมนในเมืองโยโกฮาม่า นอกจากนี้เชฟอุชิดะยังเป็นผู้คิดค้นรสชาติราเมนที่ได้รับการโหวตให้เป็นอันดับหนึ่งของเขตคันโต จนกระทั่งในปี 2012 ที่เชฟอุชิดะตัดสินใจมาเมืองไทยและเปิดร้านราเมนในชื่ออุชิดายะสาขาแรกในประเทศไทย ที่ซอยธนิยะ

เชฟอุชิดะมักจะเข้ามาที่ร้านราเมน Uchidaya อยู่บ่อยครั้ง เพื่อควบคุมคุณภาพของราเมนให้มีรสชาติอร่อยได้มาตรฐาน และด้วยนิสัยขี้เล่น มีอารมณ์ขัน ก็ช่วยสร้างบรรยากาศให้ร้านราเมนแห่งนี้ดูอบอุ่นเป็นกันเอง

ชื่นชมบรรยากาศร้านอยู่ได้ไม่นาน ราเมนชามโตก็ถูกนำมาเสิร์ฟไว้ที่โต๊ะ หากมาร้าน Uchidaya Ramen เมนูที่ไม่ควรพลาดเมนูแรกก็ต้อง Tsukemen (260 บาท) ราเมนแบบแห้งหาทานได้ยาก ทั้งยังเสิร์ฟจำนวนจำกัดเพียง 20 ถ้วยต่อวัน ซึ่งน้ำซุปทงคตสึหรือซุปกระดูกหมูของที่นี่จะเคี่ยวอย่างเข้มข้นใช้เวลาถึง 2 วัน รับรองความเข้มข้นถึงใจ

โดยมีวิธีการกินสึเคเมงแบบเท่ๆ 1.คีบเส้นขึ้นมาและจุ่มลงในน้ำซุปเพื่อให้น้ำซุปเกาะเส้น 2.สูดเส้นเพื่อสัมผัสเส้นนุ่มๆ และรสชาติของน้ำซุปอย่างเต็มที่ และ 3.ส่วนท็อปปิ้งให้จุ่มลงในน้ำซุปเช่นกัน

Tsukemen เสิร์ฟราเมนแบบแห้ง มาพร้อมน้ำซุปร้อนๆ สูตรเข้มข้น น้ำซุปกระดูกหมูนี้เคี่ยวถึง 2 วัน ก่อนจะปรุงรสชาติด้วยการเคี่ยวกับซี่โครงไก่และปลาบดไปอีก 5 ชั่วโมง เมื่อทานเส้นหมด สามารถขอพนักงานเติมน้ำซุปใสลงในน้ำซุปสึเคเมงที่เหลือเพื่อลดความเข้มข้นลง แล้วซดจนหมดถ้วยปิดท้าย

เส้นราเมนเป็นเส้นแบนขนาดใหญ่กว่าปกติ เหนียว นุ่ม หนึบกำลังดี ซึ่งเชฟคิดมาให้แล้วว่า เส้นแบนแบบนี้จุ่มลงน้ำซุปร้อนๆ น้ำซุปจะเกาะเส้นขึ้นมาได้อย่างอร่อยพอดี ชามนี้ได้รสสัมผัสของเส้นที่ชัดเจนมาก

หันมาที่ท็อปปิ้งมีหมูชาชู และชิคเก้นแฮม เนื้ออกไก่นุ่มๆ มาพร้อมกับหน่อไม้และสาหร่าย

จุ่มท็อปปิ้งลงไปในน้ำซุปร้อนๆ ...อร่อย

ใครที่อยากเพิ่มรสชาติด้านไหน ลองหันไปมองที่เซ็ตเครื่องปรุง ที่นี่พิเศษตรงมีกระเทียมดองสับให้ใส่เพิ่มรสชาติด้วยนะ หรือจะตักมิโซะผสมพริก เพิ่มความจัดจ้านในชามราเมน

เสิร์ฟเมนูต่อไปกันเลย Kyushu Tonkotsu Nikumashi Ramen (230 บาท) ความอร่อยไต่ระดับได้เริ่มต้นที่ 180 บาท เราเลือกเพิ่มหมูชาชู ชามนี้จึงราคา 230 บาท

ราเมน Kyushu Tonkotsu จะเป็นสไตล์ราเมนทางตอนใต้ หรือเรียกกันว่า ราเมนฮากาตะ ส่วนน้ำซุปเป็นน้ำซุปกระดูกหมูเข้มข้น มีรสชาติเผ็ดนิดๆ จากเห็ดหูหนูปรุงรสที่ใส่ลงไป ส่วนเส้นที่ใช้จะเป็นเส้นเล็กๆ เข้ากันได้ดีกับน้ำซุป ทางร้านจึงไม่แนะนำให้เปลี่ยนเส้นราเมน ด้วยรสชาติที่คุ้นลิ้นคนไทย ทำให้เมนูนี้เป็นเมนูที่คนไทยนิยมสั่งกันมากๆ

ราเมนชามต่อไปเป็นเมนูเก๋ๆ ซ่อนลูกเล่นเอาไว้ Red Ramen (210 บาท) ราเมนสีแดงโดดเด่นด้วยรสชาติมิโซะและซอสพริก

ทานกับราเมนเส้นเล็ก เป็นเมนูที่รสชาติจัดจ้าน เผ็ดกำลังดี แต่ถ้าอยากอัพเลเวลความเผ็ด แนะนำ Spicy Ramen ที่รวมเอาพริก 5 ชนิดเอาไว้ด้วยกัน หรือจะลอง Black Ramen เข้มข้นรสชาติน้ำมันกระเทียม

ที่ร้าน Uchidaya Ramen ไม่ได้อร่อยแค่ราเมน แต่เมนูข้างเคียงก็เลิศไม่แพ้กัน ขอแนะนำ Chashuumori (150 บาท) เมนูนี้เหมาะกับนักดื่มมากๆ

หมูชาชูเนื้อแน่นนุ่มหอมขิงอ่อนๆ ทานกับข้าวร้อนๆ ยิ่งดี

ใครชอบเมนูข้าวหน้า ต้องลอง Buta Don (100 บาท) ข้าวหน้าหมูชาชูแสนอร่อย

เสิร์ฟพร้อมกับไข่ออนเซนเด้งๆ ที่พร้อมจะเยิ้มราดลงบนข้าว

Buta Don ทั้งเนื้อหมู ไข่ออนเซน และข้าวร้อนๆ ทานรวมกันแล้วอร่อยกลมกล่อม เนื้อหมูหอมเป็นพิเศษเพราะเลือกใช้หมูที่ติดหนังซึ่งซอสที่หมักซึมลึกเข้าไปจนหอมกรุ่น เมื่อทานไปแล้วกลิ่นหอมๆ ของเนื้อหมูอบอวลอยู่ในปาก เป็นอีกเมนูที่ชอบมากๆ 

อิ่มอร่อยของคาวกันจนพอใจ ก็อย่าเพิ่งรีบกลับ เพราะของหวานของร้านนี้ก็ดีงามไม่แพ้กัน 2 เมนูแนะนำ Green Tea Ice cream (80 บาท) Milk Pudding (80 บาท)

Milk Pudding พุดดิ้งนมเนื้อนุ่มรสสัมผัสคล้ายกับพานาคอตต้า

เป็นพุดดิ้งที่หอมละมุน โรยด้วยผงถั่วเพิ่มความหวานมัน

คนที่ชอบไอศกรีมขอให้ลอง Green Tea Ice cream ไอศกรีมชาเขียวมัทฉะ รสชาตินุ่มนวลทานง่าย

ความอร่อยของร้าน Uchidaya Ramen เปิดไปจนถึงเวลาตี 2 (ให้บริการตั้งแต่ 11:00 น. ปิดรับสั่งอาหาร 01:30 น.) ให้เพื่อนๆ ได้ลิ้มลองกันทุกวัน สามารถติดตามข้อมูลต่างๆ ได้ที่ www.facebook.com/uchidayaramen