มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ พร้อมผลักดันประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอาหารระดับโลก
2017-09-18

เมื่อเร็วๆ นี้ นายเสกสรรค์ ไตรอุโฆษ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามมิชลิน จำกัด ได้เข้าร่วมเสวนาหัวข้อ “อาหารเพื่อการท่องเที่ยว” ในงานสัมมนา Thailand’s 19th Hospitality Industry Congress ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมโรงแรมไทย ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา โดยได้กล่าวถึงคู่มือแนะนำร้านอาหารและที่พัก “มิชลิน ไกด์” ฉบับกรุงเทพฯ ที่มีกำหนดจะประกาศรายชื่อร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลินในปลายปีนี้ว่า

"ประเทศไทยเป็นประเทศที่ 6 ในเอเชียที่ได้รับการสำรวจและจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ ซึ่งมีประวัติยาวนานถึง 118 ปี การจัดทำคู่มือมิชลิน ไกด์ ในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันเหมาะสมสอดคล้องกับนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่มุ่งส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสประสบการณ์ด้านอาหาร มิชลินจึงมีความยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่ความเป็นไทยไปทั่วโลก พร้อมทั้งยกระดับมาตรฐานร้านอาหารและบริการในประเทศไทยสู่สากล"

เพื่อส่งเสริมธุรกิจหลักของมิชลินในฐานะบริษัทยางรถยนต์ซึ่งมีแนวคิดที่ทันสมัย มิชลินจึงได้ริเริ่มจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนตามเส้นทางต่างๆ เมื่อกว่า 100 ปีที่แล้ว ด้วยการจัดทำแผนที่เส้นทาง ต่อมาได้แนะนำร้านอาหารและที่พักระหว่างการเดินทางด้วย คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ พัฒนาอย่างต่อเนื่องจนได้รับการยอมรับและเป็นที่รู้จักแพร่หลายทั่วโลก โดยรางวัลดาวมิชลิน หรือ “มิชลิน สตาร์” ที่คู่มือฉบับนี้มอบให้แก่ร้านอาหารถือเป็นเครื่องหมายรับประกันคุณภาพและรสชาติความอร่อยของอาหาร

"การสำรวจร้านอาหารของมิชลิน ไกด์ จะดำเนินการโดยผู้ตรวจสอบร้านอาหาร (Inspector) ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทมิชลิน 100% โดยไม่รับการสนับสนุนจากองค์กรใดๆ และไม่เปิดเผยตัวตนว่าเป็นใคร เพื่อสร้างความเป็นกลางในการตรวจสอบและการมอบรางวัล ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกร้านมีโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน โดยไม่จำกัดอยู่แค่ร้านอาหารหรูเท่านั้น  สำหรับประเทศไทยแม้แต่ร้านอาหารริมทาง หรือ สตรีทฟู้ดก็มีโอกาสได้รับการสำรวจด้วย และปีนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารไทยโดยเฉพาะอยู่ในทีมผู้ตรวจสอบ สมาชิกในทีมไม่มีการเลือกปฏิบัติและมีความเป็นกลางสูง สำหรับขั้นตอนการตรวจสอบร้านอาหาร ผู้ตรวจสอบฯ จะปฏิบัติตัวเหมือนลูกค้าคนหนึ่ง ไม่มีการเปิดเผยตัวตนว่าเป็นใครและมาเพื่ออะไร โดยชำระค่าอาหารและบริการด้วยตัวเองทั้งหมด และจะเข้าดำเนินการสำรวจร้านอาหารหลายครั้งเพื่อความแม่นยำ โดยจะนำข้อมูลที่ได้จากร้านต่างๆ มาเปรียบเทียบและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันในทีม ก่อนจะตัดสินว่าร้านอาหารใดคู่ควรต่อการได้รับมิชลิน สตาร์" นายเสกสรรค์กล่าว

ทั้งนี้ ผู้ตรวจสอบของมิชลินจะประเมินคุณภาพของร้านอาหารโดยใช้หลักเกณฑ์ 5 ประการที่มิชลินกำหนดขึ้นเอง ได้แก่ คุณภาพสินค้า, การจัดเตรียมและรสชาติ, ลักษณะเฉพาะตัวของเชฟที่สื่อผ่านอาหารที่ปรุง, ความคุ้มค่าสมราคา ตลอดจนความเสมอต้นเสมอปลายของคุณภาพและรสชาติอาหาร  หลักเกณฑ์ซึ่งใช้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันทั่วโลกเช่นนี้ทำให้มั่นใจถึงมาตรฐานและเกณฑ์การตัดสินที่เที่ยงตรงเช่นเดียวกันในการจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทุกครั้ง

นายเสกสรรค์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "การให้คะแนนว่าร้านอาหารใดควรคู่แก่การได้รับรางวัลดาวมิชลินระดับใดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย รางวัลดาวมิชมีทั้งหมด 3 ระดับ ได้แก่ 1 ดวง ซึ่งหมายถึงร้านอาหารที่อร่อยมากเมื่อเทียบกับร้านประเภทเดียวกัน, 2 ดวง ซึ่งหมายถึงร้านอาหารที่อร่อยเป็นพิเศษ คุ้มค่ากับการขับรถออกนอกเส้นทางเพื่อแวะชิม และ 3 ดวง ซึ่งหมายถึงร้านอาหารที่อร่อยยอดเยี่ยมและโดดเด่น ควรค่าแก่การเดินทางไกลเพื่อไปชิมสักครั้ง ปัจจุบันมีร้านอาหาร 2,600 ร้านทั่วโลกที่ได้รับรางวัลมิชลิน สตาร์ โดยมีร้านอาหารที่ได้รับดาวมิชลิน 3 ดวงจำนวน 110 แห่ง และที่น่าสนใจก็คือญี่ปุ่นเป็นประเทศในแถบเอเชียที่มีร้านอาหารได้รับรางวัลดาวมิชลิน 3 ดวง มากถึง 13 ร้านเลยทีเดียว"

"ดาวมิชลิน หรือ มิชลิน สตาร์ถือเป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่แสดงให้เห็นว่าร้านอาหารนั้นได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้ การสำรวจร้านอาหารในไทยเพื่อจัดทำคู่มือ มิชลิน ไกด์ ฉบับกรุงเทพฯ ยังเป็นการช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยอีกทางหนึ่ง ซึ่งหากกล่าวถึงประเทศไทย อาหารไทยคือสิ่งที่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึงเป็นอันดับต้นๆ ดังนั้นในปีนี้อยากให้ทุกคนมาร่วมลุ้นกันว่าร้านอาหารใดในกรุงเทพฯ จะได้รับคัดเลือกให้มีรายชื่ออยู่ในคู่มือ มิชลิน ไกด์ ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของคนไทย" นายเสกสรรค์กล่าวทิ้งท้าย

คีย์เวิร์ด
มิชลิน ไกด์
กรุงเทพ
ไทย
มิชลิน สตาร์
สตรีทฟู้ด
OpenRice TH Editor
Monthly chart
ทุเรียนพรีเมียม พร้อมเสิร์ฟ !! “Durian Decadent Afternoon Tea” ที่ไฮแอท รีเจนซี่ กรุงเทพฯ สุขุมวิท
2025-04-22