อ่านรีวิวฉบับเต็ม
2014-11-09
134 วิว
สาวเหนือเซาะกิ๋น ปึ๊กมารุงรังอีกรอบแล้วเน้อเจ้างวดนี่จะพาไปร้านกาแฟในบ้านเกิดอิฉันแหละค่ะ ในจังหวัดที่สามารถทำลายสถิติร้านกาแฟที่เยอะกว่ากรุงเทพ (คือหมายถึงรวมบรรดาร้านกาแฟทุกเกรดยันรถเข็นขายนะเออ เคยอ่านข้อมูลนี่จากนิตยสาร IMAGE เมื่อสัก 5 ปีก่อน ไม่รู้ป่านนี่กรุงเทพ จำนวนร้านกาแฟเพิ่มขึ้นทันเชียงใหม่หรือยัง)และย่านที่น่าจะเรียกได้ว่ามีร้านกาแฟมากแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ก็คงหนีไม่พ้นย่านนิมมาน ที่อาจเรียกได้ว่า จุดพีคของย่านนี่ เกิดจากมีร้านกาแฟเข้ามาเปิดนั้นเอง...ซึ่งการตกแต่งร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็จะเน้นบรรยากาศดูผ่อนคลายด้วยโทนสีขาวละมุน หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลตดูอบอุ่นละเมียด เข้าไปแล้วอยากหลับ(ซะงั้น)แต่รีวิวนี่สาวเหนือจะพามายังร้าน
งวดนี่จะพาไปร้านกาแฟในบ้านเกิดอิฉันแหละค่ะ ในจังหวัดที่สามารถทำลายสถิติร้านกาแฟที่เยอะกว่ากรุงเทพ (คือหมายถึงรวมบรรดาร้านกาแฟทุกเกรดยันรถเข็นขายนะเออ เคยอ่านข้อมูลนี่จากนิตยสาร IMAGE เมื่อสัก 5 ปีก่อน ไม่รู้ป่านนี่กรุงเทพ จำนวนร้านกาแฟเพิ่มขึ้นทันเชียงใหม่หรือยัง)
และย่านที่น่าจะเรียกได้ว่ามีร้านกาแฟมากแห่งหนึ่งในเชียงใหม่ ก็คงหนีไม่พ้นย่านนิมมาน ที่อาจเรียกได้ว่า จุดพีคของย่านนี่ เกิดจากมีร้านกาแฟเข้ามาเปิดนั้นเอง...ซึ่งการตกแต่งร้านกาแฟส่วนใหญ่ก็จะเน้นบรรยากาศดูผ่อนคลายด้วยโทนสีขาวละมุน หรือสีน้ำตาลช็อกโกแลตดูอบอุ่นละเมียด เข้าไปแล้วอยากหลับ(ซะงั้น)
แต่รีวิวนี่สาวเหนือจะพามายังร้านกาแฟแบบสไตล์ผู้ชายมาดเข้ม ที่มีแต่บาริสต้าและบริกรหนุ่มๆ (แฮ่!)มาเอาใจสาวๆ กับร้านที่มีนามกรว่า...Dolcetto Cafe (โดลเชโต้ คาเฟ่) ร้านนี่หาไม่ยากค่ะ เพราะอยู่ติดถนนนิมมานพอดี เลยทางเข้าปากซอยนิมมาน 9 หน้าโชว์รูมคอตโต้ ก็จะเห็นร้านเล็กๆ สีดำสนิทแบบนี้ตั้งเด่น
พื้นที่ร้านดูกะทัดรัดนะครัช ในร้านนั่งเต็มที่ได้ 2 โต๊ะ(4 คน) กับโต๊ะคู่แค่สองโต๊ะ (ด้านนอกมีโต๊ะคู่ประมาณ 4 โต๊ะ) ใครขี้ร้อน แนะนำนั่งในร้านดีกว่า แอร์เย็นฉ่ำ แดดเหนืออาจไม่ทารุณเท่าแดดบางกอกหรือปักษ์ใต้ แต่ถ้าคนเป็นขี้หนาวอย่างอิฉันบอกว่าร้อน แสดงว่าร้อนแต้ร้อนว่าจริงค่ะ การตกแต่งภายในร้าน ให้อารมณ์เหมือนผู้ชายเท่ๆ วัยทำงาน ตกแต่งภายในแบบสไตล์โมเดิร์น ใช้สีดำเป็นโทนหลัก สีน้ำตาลกาแฟอ่อนเป็นโทนรอง ของตกแต่งจะเป็นพวกเมล็ดกาแฟ ที่นำมาจากร้าน Rist8to (แถวนิมมานก่อนซอย 5 ก็มีร้านชื่อนี่ แต่ส่วนใหญ่คนเต็มร้าน ร้านนี่ที่ว่างเยอะกว่า) บนโต๊ะมีดอกไม้ประดับให้มีความหวานแบบผู้หญิง contract กันสักหน่อย แถมมีเก๋ไก๋ เอากากกาแฟเหลือทิ้ง มาอัดเป็นก้อน ทำเป็นที่ดับบุหรี่ด้วย วอลเปเปอร์เมนูกาแฟ ดูเมนูกับระดับความเข้มข้นดื่มเป็นตื่นบนกระดานดำ ใครอยากไม่หลับไม่นอนวันนั้น สั่งแบบที่มีแก้วกาแฟเลเวลเยอะๆนะจ๊ะ
...เห็นไม่มีตู้แช่เค้ก อย่านึกว่าไม่มีเค้ก(ไม่งั้นจะเอาภาพแรกมายั่วได้เยี่ยงไร) แต่ครัวร้านนี่้อยู่ด้านหลังกระดานนี่แหละจ้า เพราะที่เท่าแมวแด็นซ์ลืมตาย ยัดตู้เค้กเข้าไปอีกก็แน่นแล้วนะเออ ร้านนี่เล่นเน็ตฟรี และเอาคอมมาเสียบปลั๊กได้จร้า ร้านมีให้พร้อมเลย ยี่ห้อกาแฟที่ใช้ในร้านนี่ ร้านนี่สาวเหนือรีวิวได้แค่ 2 เมนูนะจ๊ะ เพราะไม่ได้กลับไปร้านนี่นานแล้ว
เมนูกาแฟแรกเป็น Dolcetto Ice coffee รสชาติขมกว่ากาแฟทั่วไปหน่อย แต่ไม่ถึงกับขมปี๋มาก ไม่มีหวานแทรกมาเลย รสแบบผู้ชายจริงๆ แต่เมนูเค้กที่แหละที่อยากนำเสนอ คือ บานอฟฟี่ เห็นครั้งแรกแล้วมีสะอึก ชิ้นใหญ่เวอร์กว่าร้านเค้กผู้หญิงอีกนะเออ สูงเกือบจะคืบนึง ครีมเป็นครีม ซอสคาราเมลสาดมาไม่ยั้ง ชนิดสาวใดอยากลบน้ำหนักที่มีลองกิเลสกันเลย พอลองตัดแบ่งดูชั้นครีมดู...หนาเกือบครึ่งนิ้วแน่ะ แต่ชอบที่เขาหั่นกล้วยเป็นแว่นๆ เรียงกันซะสวยไม่เละเลย (ไปกินบานอฟฟี่ร้านอื่น กล้วยเละอย่างกะบดกล้วยเป็นอาหารเด็กอ่อน) รสชาติหวานไม่จัด กำลังพอดี แม้จะหนักครีมหน่อย แต่ก็หนักกล้วยด้วย...เป็นเค้กในร้านที่ให้อารมณ์แบบว่า ผู้ชายต้องกินอะไรเต็มที่โหดๆแบบนี้แหละ ถึงจะแมน อย่าได้แคร์แคลอรี่แต่อย่างใด มีรีวิวเมนูแค่นี่แหละค่ะ เมนูอื่นวานไปลองของกันเองเด้อ น่าจะเป็นร้านที่สาวๆพาแฟนไปนั่งดื่ม หรือประชุมทำรายงานได้เพลินๆเลยล่ะ
ข้อมูลอื่นๆ:
ร้านไม่มีที่จอดรถ
(รีวิวด้านบนคือ ความคิดเห็นของผู้ใช้ ซึ่งไม่ใช่ความคิดเห็นของ OpenRice)
โพสต์