ใครที่เป็นคออาหารอีสานตัวจริงย่อมต้องเคยสัมผัสเมนูต้มรสแซ่บของทั้ง “แจ่วฮ้อน” และ “จิ้มจุ่ม” เป็นอย่างดี ถึงแม้เมนูทั้งสองจะมีความลำอร่อยแต้ และหน้าตาที่คล้ายคลึงกัน แต่มีบางอย่างที่แตกต่างกันอยู่ วันนี้ OpenRice จึงขันอาสามาไขความต่างที่ว่าให้กระจ่างแจ้ง พร้อมทั้งบอกสรรพคุณทางยาที่สำคัญๆ ของอาหารหน้าฝนทั้ง 2 อย่างนี้ว่าดีต่อร่างกายอย่างไร ขอบอกเลยว่าเมนูนี้ทั้งแซ่บและมีคุณค่าทางอาหารเต็มเปี่ยม
แจ่วฮ้อน vs จิ้มจุ่ม ดีต่อร่างกายอย่างไร
เริ่มกันตั้งแต่น้ำซุป ที่เต็มไปด้วยสมุนไพรซึ่งมีสรรพคุณทางยาที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งยังเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นอาหารจานเด็ดในช่วงหน้าฝนที่กำลังจะมาถึง โดยตัวน้ำซุปหลักๆ แล้วจะใส่เครื่องต้มยำที่ถือเป็นเครื่องเทศรสร้อน อย่างเช่น พริกสด ข่า ตะไคร้ ซึ่งความเผ็ดร้อนที่ได้จากสมุนไพรเหล่านี้จะช่วยขับน้ำในร่างกาย ทำให้ร่างกายอบอุ่น ทั้งยังแฝงสรรพคุณทางยาอีกเพียบ โดยหม้อไฟสไตล์อีสานเหล่านี้ เรายังสามารถเลือกเนื้อสัตว์ที่ต้องการใส่ลงไป เพิ่มโปรตีนให้กับร่างกาย ทานกับผักชนิดต่างๆ จึงถือเป็นเมนูที่ช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้อย่างเยี่ยมยอด
ทั้งแจ่วฮ้อนและจิ้มจุ่ม ถือเป็นเมนูหม้อไฟสไตล์อีสานที่ใครได้ลองทานแล้วจะต้องซู้ดปากติดใจกลับไปทุกครั้ง เพราะความจัดจ้านครบเครื่องของน้ำซุปกระดูกหมูที่เผ็ดร้อนถึงพริกถึงขิงด้วยเครื่องสมุนไพรไทยสไตล์ต้มยำอย่าง พริกสด ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด หอมแดง รากผักชี และผักชีฝรั่ง พร้อมปรุงรสด้วยน้ำปลา เพียงแค่นี้ก็ทำเอารสชาติน้ำซุปธรรมดาๆกลมกล่อมแซ่บหลายสมกับเป็นต้นตำรับอาหารอีสานตัวจริง
หลากหลายสมุนไพรในน้ำซุป
แต่ในความเหมือนของทั้งแจ่วฮ้อนและจิ้มจุ่ม ก็มีความแตกต่างที่ทำให้เมนูทั้งสองเป็นแฝดคนละฝาอย่างสิ้นเชิง เพราะหากสังเกตให้ดี น้ำซุปของจิ้มจุ่มจะใสคล้ายกับสุกี้ยากี้ ส่วนน้ำซุปของแจ่วฮ้อนจะมีความข้นกว่า ซึ่งความข้นที่ว่าได้จากการใส่เลือดหมูหรือเลือดวัวลงไป คล้ายกับน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวน้ำตก แต่หากใครได้เคยลองแจ่วฮ้อนต้นตำรับขนานแท้แบบฉบับท้องถิ่น จะเห็นพ่อครัวแม่ครัวใส่ข้าวคั่ว พร้อมกับเหยาะน้ำข้นๆ เขียวๆ ที่เรียกว่า ขี้เพี้ย ซึ่งเป็นมูลที่ตกค้างอยู่ในลำไส้ของวัวลงไปเล็กน้อย และถึงแม้ขี้เพี้ยจะมีรสชาติขม แต่ก็ถือเป็นสุดยอดเครื่องปรุงที่ชาวอีสานการันตีความอร่อยเด็ดกันเลยทีเดียว
น้ำซุปแจ่วฮ้อน
สำหรับเนื้อสัตว์ที่ใช้กินกับแจ่วฮ้อนส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู และผ้าขี้ริ้ว ส่วนจิ้มจุ่มจะใช้เนื้อหมู เนื้อไก่ หรืออาหารทะเล ตามแต่ต้องการ
เครื่องแจ่วฮ้อน
เครื่องจิ้มจุ่ม
ส่วนผักที่จะใส่ลงไปในแจ่วฮ้อนและจิ้มจุ่ม จะเป็นผักอะไรก็ได้แล้วแต่ความสะดวก แต่ที่นิยมกัน เช่น ผักกาดขาว กะหล่ำปลี โหระพา ผักบุ้ง สำหรับน้ำจิ้มของจิ้มจุ่มจะใช้น้ำจิ้มสุกี้ หรือน้ำจิ้มแจ่ว ส่วนแจ่วฮ้อนก็จะใช้น้ำจิ้มแจ่วเช่นกัน หรือทำน้ำจิ้มสูตรเฉพาะที่ปรุงด้วยขี้เพี้ยนั่นเอง
โฉมหน้าแจ่วฮ้อนพร้อมผักนานาชนิด
จิ้มจุ่มพร้อมตักเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มแจ่ว
ไม่ว่าจะร้อนหรือหนาว แจ่วฮ้อนและจิ้มจุ่มก็เป็นเมนูที่เราหากินได้อย่างสะดวก วันนี้เรามาเติมสีสันให้มื้อต่อไปด้วยแจ่วฮ้อนหรือจิ้มจุ่มสักหม้อมั้ยคะ รับรองเลยว่า...แซ่บหลายเด้อค่ะ