更多
2013-03-01
286 瀏覽
ช่วงนี้เป็นอะไร โชคดีเรื่องกินบ่อยจัง 5555 สมัครก๊วนชวนกินครั้งที่ 9 กับเว็บ openrice ไปด้วยเพราะเห็นว่าครั้งนี้ไปร้านสองฝั่งคลอง ซึ่งเคยเห็นตามรีวิวและในละคร อยากไปมานานแล้วประกาศผลออกมา อุ๊ย เราได้ไปกะเค้าด้วย ดีใจจัง และแล้วก็เตรียมศึกษาเส้นทาง จากรังสิตไปไม่ยากนัก ไม่ไกลมากแต่มีถนนบางช่วงค่อนข้างเปลี่ยว ไปตามเส้นปทุมธานี เลี้ยวซ้ายตามป้ายปากเกร็ด แล้วเข้าซอยวัดสลักเหนือจากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขาประชาสวรรค์ (แถวนี้จะมีช่วงเปลี่ยวนิดๆ ถ้าไม่มั่นใจไปทางแจ้งวัฒนะก็ได้ค่ะ)ผ่านหน้า "วัดกู้" ตรงไปอีกนิด จะเจอป้ายร้านสองฝั่งคลองในซอยทางขวาการเดินทางมาร้านนี้ควรจะมีรถส่วนตัว จึงจะสะดวกค่ะมาถึงช่วงห้าโมงนิดๆ แดดร้อน
เพราะเห็นว่าครั้งนี้ไปร้านสองฝั่งคลอง ซึ่งเคยเห็นตามรีวิวและในละคร อยากไปมานานแล้ว
ประกาศผลออกมา อุ๊ย เราได้ไปกะเค้าด้วย ดีใจจัง และแล้วก็เตรียมศึกษาเส้นทาง จากรังสิตไปไม่ยากนัก ไม่ไกลมาก
แต่มีถนนบางช่วงค่อนข้างเปลี่ยว ไปตามเส้นปทุมธานี เลี้ยวซ้ายตามป้ายปากเกร็ด แล้วเข้าซอยวัดสลักเหนือ
จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าซอยสุขาประชาสวรรค์ (แถวนี้จะมีช่วงเปลี่ยวนิดๆ ถ้าไม่มั่นใจไปทางแจ้งวัฒนะก็ได้ค่ะ)
ผ่านหน้า "วัดกู้" ตรงไปอีกนิด จะเจอป้ายร้านสองฝั่งคลองในซอยทางขวา
การเดินทางมาร้านนี้ควรจะมีรถส่วนตัว จึงจะสะดวกค่ะ
มาถึงช่วงห้าโมงนิดๆ แดดร้อนหน่อยๆ แต่ไม่มาก เดินถ่ายรูปเก็บบรรยากาศรอบๆ ร้านได้สบายๆ
ร้านสองฝั่งคลองจะมีสองโซน คือเอาท์ดอร์กับอินดอร์ ด้านนอกเป็นส่วนที่ติดกับแม่น้ำ
แต่ใครอยากจะนั่งห้องแอร์ก็เข้าไปข้างในได้
ด้านในจะมีดนตรีเล่นสดด้วย รีเควสเพลงได้ แต่ก็จะต่อลำโพงมีเสียงไปถึงด้านนอกด้วยค่ะ
ถ้านั่งด้านในเสียงดนตรีจะดังไปนิด แต่ด้านนอกเสียงกำลังโอเคเลย
ภาพนี้เป็นบรรยากาศรอบๆร้านค่ะ ร้านนี้จุดเด่นคงต้องบอกว่าอยู่ที่บรรยากาศจริงๆ
ลมพัดผ่านตลอดเวลา เพราะติดแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นช่องลม
ภาพขวาล่าง ถ่ายตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน บรรยากาศดีสุดๆ
เหมาะกับมาดินเนอร์กับคู่รักสุดๆ
พอพระอาทิตย์ตกไปสักพัก เครื่องดื่มก็ถูกนำมาเสิร์ฟก่อนค่ะ
ในภาพ 3 แก้วนั้นคือ บลูกามิกาเซ่ บัดดี้พันช์ และบลูฮาวาย
ได้ชิม 2 แก้วหลัง ชอบแก้วบัดดี้พันช์สีส้มๆ มากที่สุดเลยค่ะ รสออกเปรี้ยวนำ ดื่มแล้วสดชื่นดี
จากนั้นอาหารก็เริ่มทยอยมา ภาพซ้ายล่างคือต้มยำหมูตุ๋น ลองชิมดูแล้วน้ำต้มยำ อร่อยดี รสมันเหมือนต้มยำ+พะโล้
ส่วนภาพขวาล่างคือยอดมะระผัดน้ำมันหอย ผักสดกรอบ ไม่ขม ถ้าผัดให้เข้มข้นน้ำมันหอยอีกสักนิดนึง จะแจ๋วเลยค่ะ
ซ้ายล่าง+บน เป็นภาพปลากะพงย่างเกลือค่ะ ทางร้านจะเปิดหนังปลามาให้เรียบร้อย กินได้ง่ายเลย
ปกติเคยทานแต่ปลากะพงทอดน้ำปลา วันนี้ได้กินย่างเกลือบ้าง ปลาสดค่ะ แต่ย่างเกลือจะจืดกว่าทอดน้ำปลานิดนึง
เปียโนเอาปลาไปจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู๊ด ที่ทางร้านทำได้รสแซบถึงใจมาก เลยออกมาอร่อยลงตัว
ส่วนภาพบนขวา คือส้มตำปูม้าค่ะ กินไปได้นิดเดียว เพราะเผ็ด แต่เพื่อนร่วมโต๊ะซํดเกลี้ยงเลยนะคะ เผ็ดแต่อร่อยค่ะ 555
จานขวาล่างนี่ เป็นจานที่ปลื้มสุดของวันนี้ กุ้งแม่น้ำเผานั่นเอง ในจานมี 4 ตัว เห็นว่าจานนี้ราคา 999 บาทค่ะ
มาพร้อมกับน้ำจิ้ม 3 อย่างคือซีฟู๊ด แจ่ว วาซาบิ ถูกใจน้ำจิ้มซีฟูีดของที่นี่จริงๆ เปียโนเอาไปจิ้มกับอาหารอย่างอื่นแทบทุกจานเลย
ตอนจานแรกมาเสิร์ฟ เราก็ตั้งหน้าตั้งตากิน ตักเครื่องใส่กรวย จับใส่ปาก ไม่มีใครรู้เลยว่ามันต้องเอาไม้กลักออกก่อน 555
ก็เลยกินไม้กลักลงท้องกันไปคนละก้าน ก่อนที่จะมารู้ตัวกันทีหลังว่า มันมีไม้กลักที่ต้องเอาออกด้วย
ส่วนอีกจานก็คือกุ้งแม่น้ำเผา จานโปรดของเปียโนวันนี้นั่นแหละค่ะ
แต่ว่าตัวหอยเชลล์มันจะซุกซ่อนอยู่ข้างในตัวเล็กๆตัวเดียวนะคะ 555
ก้อนใหญ่ๆนั่นที่จริงเป็นเนื้อกุ้ง น่าจะชุบแป้ง หุ้มหอยเชลล์อยู่อีกที จานนี้น่าจะสองร้อยกว่าบาทค่ะ
ส่วนขนมหวานอื่นๆ ก็มีบัวลอย ทิับทิมกรอบ สละลอยแก้ว ฯลฯ
มีโควต้ารูปเหลืออีก 1 ภาพ ปิดท้ายด้วยภาพพระอาทิตย์อัสดง จากมุมโต๊ะนั่งของพวกเราแล้วกันค่ะ
รสชาติอาหาร โดยรวมโอเคค่ะ มีบางจานรสอ่อนๆไปนิดนึง แต่ว่าได้น้ำจิ้มซีฟู๊ดรสแซบ จัดจ้านถึงใจมาช่วย ทุกอย่างก็ลงตัว ^^ ปลื้มสุดก็กุ้งแม่น้ำเผาเนี่ยแหละค่ะ
บรรยากาศ เป็นจุดเด่นที่สุดของร้านนี้ ลมเย็นๆ วิวสวยๆ ริมน้ำเจ้าพระยา นั่งทานอาหารเพลินๆ คลอเสียงเพลงสบายๆ ช่วยชูรสชาติอาหารได้ดียิ่งขึ้น
บริการ พนักงานดูแลดีค่ะ
ราคา เนื่องจากว่า วันนี้ไปกินฟรี เลยไม่ทราบราคา แต่สแกนดูจากในเมนุ ราคาค่อนข้างสูงค่ะ แต่ก็๋ไม่สูงเกินไปสำหรับร้านที่มีบรรยากาศดีๆแบบนี้นะคะ
張貼