更多
2015-06-08
189 瀏覽
สำหรับวันนี้ก็จะพาไปกินบุฟเฟท์ปิ้งย่าง อันเป็นหนึ่งเมนูโปรดของเรากันบ้างนะคะ นั่นก็คือร้าน Guru Gyuu สาขาสองที่เพิ่งจะเปิดราคาพรีเมี่ยมมาใหม่เอี่ยมถอดด้ามเมื่อวันเสาร์ที่ 23 พฤษภาคมที่ผ่านมานี่แหละค่าา ซึ่งการไปครั้งนี้ก็เป็นการเมลมาชวนของคุณหนุ่ม - เจ้าของร้านนะคะ หลังจากที่เราเคยรีวิวสาขาหนึ่งไปแล้ว (คลิกเพื่ออ่าน) เมื่อน้านนานมาแล้วค่ะ โดยวันที่เราไปก็เป็นการไปกินหลังจากเปิดร้านมาแค่หนึ่งวันเท่านั้นเอง แล้วที่เซอร์ไพรซ์ก็คือ เจอบล็อกเกอร์สายอาหารอีกสองท่านคือ น้องเมเม่ กับ น้องอ๊อฟ เจ้าของเว็บรีวิวโดนใจด้วยนะคะ โดยไปคราวนี้เค้าให้พาผู้ติดตามไปได้อีกหนึ่งท่าน ซึ่งเราก็ชวนเพื่อนรักคนเดิมไปแหละค่ะ (แม้ว่าเจ้าตัวจะไม่ค่อยถนัดงานปิ้งย่างเท่
สำหรับที่ตั้งของร้านนะคะ วันนั้นเราไปทางเส้นวิภาวดีขาออก แล้วเราก็เลี้ยวซ้ายเข้าที่แยกสุทธิสาร ไปจนชนพหลโยธิน (แยกสะพานควาย) ก็เลี้ยวซ้าย วิ่งไปอีกหน่อยเดียวเองค่ะ เห็นธนาคารออมสินแล้ว ติดกับธนาคารออมสินจะเป็นอาคารพาณิชย์ ห้องที่สามและสี่ก็จะเป็นร้านกูรูกิวแล้วนะคะ สำหรับใครที่เอารถมาอย่างเรา ก็เลี้ยวเข้าซอยข้างร้าน หาที่จอดที่เป็นห้องที่ไม่มีผู้เช่าอาศัยค่ะ จอดได้เลยนะฮับ
เอาแผนที่มาให้ชมกันอีกทีนะคะ ในแผนที่จะมีทั้งสาขาหนึ่งและสอง (โลโก้ม้วนๆ เหลืองๆ น่ะค่ะ) สาขาสองจะเป็นอันบนค่ะ
สำหรับหน้าตาของทางร้านก็เป็นอาคารพาณิชย์สองห้องนะคะ โดยรวมกว้างขวางและโปร่งน่านั่งกว่าสาขาหนึ่งค่ะ ถ้าเอาโดยภาพรวมเราชอบสาขานี้มากกว่านะ แฮ่...(แถมกลิ่นไม่อวลในร้านจนทำให้กลิ่นมาติดผม ติดเสื้อผ้าเหมือนที่เราเคยเจอที่สาขาหนึ่งด้วยหละ อันนี้ได้คะแนนค่ะ)
เมนูก็จะเป็นตามภาพเลยค่ะ ส่วนโปรอื่นๆ ก็มีสำหรับนักดื่ม ดื่ม 4 จ่าย 3 หรือแฮปปี้ลั้นช์ (พุธ-ศุกร์ก่อนบ่ายสามเช่นกัน) เป็นเซ็ตราคา 119 บาทค่ะ
และสำหรับป้ายแดงๆ นั่นก็จะเป็นกฎกติกาของทางร้านนะคะ ซึ่งก็เป็นกฎพื้นฐานของการกินบุฟเฟท์หละนะคะ ซึ่ง..คนไทยจำนวนหนึ่งยังคงไม่รู้กติกามารยาทเรื่องการกินบุฟเฟท์กันซักทีน่ะ สั่ง/ตักเยอะให้คุ้ม แต่กินไม่หมด มันเปลืองทรัพยากรโลกรู้มั้ยค้าาา เฮ้อออ
ชุดแรกเลยก็หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์กับแซลมอนเสต็กค่ะ (ราคาแยกเมนูละ 99 บาท) ค่ะ
ตัวหอยแมลงภู่จะมีรสเค็มแทรกปลายๆ นะคะ โดยรวมเราว่าพอใช้ได้ค่ะ ให้ไว้ที่บี ส่วนแซลมอนก็สดปกติค่ะ โออยู่
แต่ตอนแรกน่ะ งงอยู่ว่ามันใช่เมนูนี้มั้ย เพราะเป็นเมนูเดียวค่ะที่ตัวที่เสิร์ฟหน้าตาต่างจากรูปในเมนูอ้ะ แต่ถามพนักงานอีกคนที่ไม่ได้เป็นคนมาเสิร์ฟตอนแรก ก็ตอบชื่อเมนูตรงกันค่ะ เลยคิดว่าชัวร์หละนะคะ แฮ่...
ต่อไปค่ะ ใบพายซุปเปอร์ (ราคาแยก 299 บาท)
ต่อไปค่ะกับคารุบิ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อซี่โครงคัดพิเศษนะคะ
ต่อไปค่ะกับซุปเปอร์คารูบิ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อถอดซี่โครงคัดพิเศษค่ะ
ต่อไปค่ะกับลิ้นวัวซุปเปอร์ (ราคาแยก 299 บาท) เป็นเนื้อเฉพาะส่วนโคนลิ้นนะคะ
ต่อไปค่ะกับอีกหนึ่งเมนูซุปเปอร์ สำหรับคนที่ไม่กินเนื้อนะคะ อกเป็ดรมควัน(ราคาแยก 250 บาท) ตัวนี้อร่อยค่ะ คนไม่กินเนื้อน่าจะชอบ กลิ่นเป็ดไม่ได้แรง แต่มีรสเค็มปลายๆ นิดๆ นะคะ ให้ที่บีบวกค่ะ
สักพักน้องเค้าก็เอาทิชชู่มาทำความสะอาดเตาให้ค่ะ สำหรับที่นี่ก็ยังใช้เตาเหมือนสาขาหนึ่งนะคะ คือสามารถใช้ทิชชู่ทำความสะอาดได้เลยค่ะ และที่ขอชมคือ เตาที่นี่ร้อนแรงมาก (จริงๆ) คือ ไม่ต้องรอเวลาในการปิ้งย่างนานเลยค่ะ แค่เอาลงไปแป๊บหนึ่งแล้วก็พลิก รออีกแป๊บก็กินได้เลย ทำให้ได้กินอย่างรวดเร็วมาก ชอบมากค่ะ ทำให้ไม่ขาดความต่อเนื่องในการกินเลยอ้ะ Smiley
สำหรับท่านใดที่ต้องการรู้ว่า เนื้อแต่ละเมนูทำมาจากส่วนไหนของวัว ทางร้านก็ทำข้อมูลไว้ให้อ่านด้วย ตามนี้เลยนะคะ
สำหรับท่านใดที่กินผักได้ แนะนำให้สั่งผักมาแกล้มนะคะ เพราะอย่างเรา กินแต่เนื้อๆๆ อย่างเดียวมันเลี่ยนเลยหละค่ะ เลยสั่งผักมากินแกล้มกัน เออ..ชีวิตค่อยดีขึ้นหน่อย แหะๆ
เง่อ...) เราก็ลองสั่งเมนูเครื่องดื่มมาบ้างค่ะ สองตัวแรกนี่น้องออฟเป็นคนสั่งค่ะ แต่ให้เราชิมด้วย (ขอบคุณน้องออฟผู้สุดแสนจะน่ารักมา ณ ที่นี้นะฮับ) เป็นสาเกเยลลี่สองรสคือรสพีชกับมิกซ์เบอรี่ค่ะ ถ้าสั่งแยกจะตกแก้วละ 300 บาทค่ะ ทางร้านบอกว่า จะดื่มง่ายหน่อย เหมาะกับหญิงสาวค่ะ
ต่อไปค่ะกับเมนูเหล้าบ๊วย อันนี้อาศัยโต๊ะของคุณเมเม่ค่ะ (อาศัยคนอื่นเค้าตัลหลอดยัยนี่ ฮา) จะเป็นเหล้าบ๊วยยี่ห้อนี้นะคะ ปกติขวดละ 450 บาทค่ะ ถ้าไม่ได้กินราคานี้ที่ดื่มได้ฟรีตลอดและเป็นนักดื่มจริงๆ จะเลือกดื่ม 4 ขวดจ่าย 3 ขวด (ฟรีราคาขวดที่ต่ำที่สุด) ก็ได้ค่ะ เราว่าก็คุ้มอยู่นา
ต่อไปค่ะกับสาเกเย็น ขวดละ 350 บาทค่ะ เราขอชิมอีกเช่นกัน เราไม่ชอบกลิ่นและรสสาเกตัวนี้แฮะ แหะๆ (ถ้าอยากเห็นขวด ดูจากรูปโปร 4 แถม 3 นะคะ จะมีอยู่ พอดีเราไม่ได้ถ่ายมาน่ะค่ะ คุณเมเม่เธอเทมาให้ลองน่ะ)
เมนูแรกค่ะ กับไอศกรีมชาเขียว (ราคา 40 บาท) ตัวนี้มันมีกลิ่นแปลกๆ ค่ะ พอชิมๆ ไปและถามคุณเมเม่ที่นั่งอีกโต๊ะ ก็ได้ข้อสรุปมาว่ามันเป็นกลิ่นมะลิค่าาา เลยทำให้เป็นไอติมชาเขียวกลิ่นมะลิ ซึ่งสำหรับเราไม่คุ้นง่า แต่เพื่อนเราที่ชอบกินไอติมชาเขียวกลับบอกว่าอร่อยดีนะแก ไม่เหมือนใครดี อันนี้ก็แล้วแต่ละกันเนาะคะ แต่ให้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับใครที่จะสั่งมากินค่ะ
ปิดท้ายด้วยเยลลี่ค่ะ มีรสลิ้นจี่กับสตรอเบอรี่นะคะ (อันนี้ของน้องออฟมีเหมือนรสส้มด้วย แต่ตอนของเราไม่มีง่ะค่ะ) โดยรวมเราเฉยๆ อะนะ
張貼