更多
2012-06-08
315 瀏覽
ขอแจ้งก่อนนะคะ รีวิวร้านอาหารร้านนี้ไม่มีรูปอาหาร เพราะอะไรนะเหรอคะ มีใครเคยไปชมนิทรรศการของกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่จามจุรีสแควร์ DIALOGUE IN THE DARK บ้าง ถ้าเคยไปแล้วร้านนี้ก็จะเป็นภาคต่อของนิทรรศการนั้นค่ะ ในนิทรรศการนั้นเป็นการเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย เช่นตลาด บนรถโดยสาร ฯลฯ ในบทบาทใหม่ บทบาทของคนตาบอด จะลืมตากว้างขนาดไหน ก็มองไม่เห็นอะไร จะมีก็แต่เสียง กับประสาทสัมผัสเท่านั้น ที่ทำให้เรารู้ว่า เรากำลังยืนหรือนั่ง หรือนอนอยู่ที่ใด !!!!!!!!วันนี้เราจะไปใช้ประสาทสัมผัสของลิ้น และหูค่ะ ไปทานอาหารแบบคนที่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่เห็น ลิ้นเท่านั้นจะเป็นตัวบอกว่าเรากำลังกินอะไรเข้าไป ไป ไป ไปเปิ
มีใครเคยไปชมนิทรรศการของกระทรวงวิทยาศาสตร์ที่จามจุรีสแควร์ DIALOGUE IN THE DARK บ้าง ถ้าเคยไปแล้วร้านนี้ก็จะเป็นภาคต่อของนิทรรศการนั้นค่ะ ในนิทรรศการนั้นเป็นการเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย เช่นตลาด บนรถโดยสาร ฯลฯ ในบทบาทใหม่ บทบาทของคนตาบอด จะลืมตากว้างขนาดไหน ก็มองไม่เห็นอะไร จะมีก็แต่เสียง กับประสาทสัมผัสเท่านั้น ที่ทำให้เรารู้ว่า เรากำลังยืนหรือนั่ง หรือนอนอยู่ที่ใด !!!!!!!!
วันนี้เราจะไปใช้ประสาทสัมผัสของลิ้น และหูค่ะ ไปทานอาหารแบบคนที่มองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าไม่เห็น ลิ้นเท่านั้นจะเป็นตัวบอกว่าเรากำลังกินอะไรเข้าไป ไป ไป ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยกันค่ะ
ร้านนี้ไปง่ายสะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้าสายสีลม ลงที่สถานีช่องนนทรี เดินออกทางออก 2 นะคะ ก็จะเห็นตึก Ascott ตัวหนังสือสีน้ำเงินบนยอดตึก เดินตรงไปที่นั่นเลยค่ะ แต่ถ้าขับรถยนต์ไปก็ ตามแผนที่เลยค่ะ สาธรใต้ฝั่งเดียวกับ รพ เซนหลุยส์ แล้วก็อยู่ใกล้ๆ กันด้วยค่ะ
ขึ้นลิฟท์ไปชั้นสอง
ของที่เรืองแสงได้ เช่น นาฬิกา มือถือ ต้องถอดฝากไว้ด้านนอกนะคะ แว่นตาอีกอย่างเป็นของไม่จำเป็นที่ซู็้ดดดดในที่ที่เราจะไปต่อไปนี้ เพื่อนฉันเผลอเรอใส่แว่นตาเข้าไป บ่นตลอดการรับประทานอาหารว่า น่าจะถอด น่าจะถอด
เมื่อพร้อมแล้วสั่งอาหารและเครื่องดื่มเรียบร้อยก็เข้าไปกันเลยค่ะ ตื่นเต้นนะเนี่ย ตื่นเต้น
ไกด์บอกให้เกาะไหล่ไกด์ไปค่ะ แล้วก็เกาะไหล่ต่อๆ กัน เข้าไปเหมือนเด็กอนุบาลต่อรถไฟอ่ะค่ะ แค่เข้าก็สนุกแล้วค่ะ แต่ถ่ายรูปทางเข้าไม่ติดนะคะ มืดมาก
ไกด์พาเดินลึกเข้าไปนั่งในห้องอาหารที่มืดมิด มืดจริงๆ มืดจนไม่รู้ว่าเก้าอี้อยู่ไหน เพื่อนที่ไปด้วยอยู่ใกล้หรือไกล แต่เสียงของโต๊ะอื่นดังมาก ดังเหมือนโรงอาหารเลยค่ะ ฉันสงสัยว่า เวลาเรามองไม่เห็นกัน จะทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายรึเปล่า ทำไมถึงได้คุยกันเสียงดังได้ขนาดนั้น
แต่สำหรับฉันค่อนข้างเครียดแล้วก็อึดอัดค่ะ มืดจนเริ่มหงุดหงิด ทำให้เห็นใจคนที่มองไม่เห็นขึ้นมาทันทีว่าเค้าจะรู้สึกอึดอัด หวาดกลัว หงุดหงิด ขึ้นมาได้ตลอดเวลาเหมือนกับเราตอนนี้นี่แหละ
ไกด์บอกให้เราคลำดูบนโต๊ะ จะมีอุปกรณ์วางไว้ในที่ที่เราคุ้นเคย เครื่องดื่มจะอยู่ตำแหน่งในรูปเลยค่ะ
อาหารจานแรกเสริฟแล้ว ไกด์บอกให้เราเอามือวางไว้บนตัก พอวางเสร็จก็บอกว่า เชิญได้แล้วครับ
เอามือคลำไปเจอจานอาหารวางอยู่ 5555 5 ความรู้สึกเหมือนมีคนเนรมิตอาหารมาวางตรงหน้า จานแรกเป็นสลัดรสชาติดีมากกกกกกกกกก กินไปก็นั่งทายกันไปว่าตัวเองกินอะไรเข้าไป แต่ที่แน่ๆ รอบปากน่าจะเปื้อนหมดแน่ๆ เค้าคงจงใจวางระเบิดไว้ให้เปื้อนนะ ฉันคิดเอาเอง
อาหารทุกจานที่ทานเข้าไป พอออกมาก็จะมีวางโชว์ไว้ด้านหน้าบริเวณส่วนต้อนรับค่ะ แต่ในรีวิวนี้ขอปิดไว้เป็นความลับดีกว่า เพื่อความตื่นเต้นของสมาชิก Openrice อิอิ ถ้าไม่มีกิจกรรมทายว่าตัวเองกินอะไรเข้าไปมื้อนี้ก็จะหมดสนุกไปเยอะเลยค่ะ
จานที่สอง Main dish อร่อยเหมือนกัน แต่ที่ขัดใจคือ ฉันรู้สึกว่ามีอาหารชิ้นที่ถ้าตาฉันมองเห็นฉันต้องเขี่ยออกแน่ๆ แต่นี่ ไม่สามารถทำได้ เลยหลับหูหลับตา กินไปหมดทุกอย่างเลยวันนี้ ดีเหมือนกัน ไม่ต้องเลือกกิน
จานที่สาม ขนมหวานแล้วค่ะ เป็นจานสุดท้าย หวานเย็นนุ่ม ถูกใจ
ระหว่างทานอาหารไกด์คอยมาไถุ่ถามทุกข์สุขนะคะ แบบเป็นห่วง กลัวหนีกลับบ้าน ฮ่า อ้อ ทุกจานที่เสริฟ ไกด์จะเ็ก็บอาวุธในการกินทุกชิ้นไปเลยนะคะ แล้วจะเอาของใหม่มาวางให้แทนทุกๆ จานไป เพราะฉะนั้นใช้เสร็จแล้ว วางทุกอย่างไว้บนจานได้เลยค่ะ ไม่เหมือนอาหารฝรั่งทั่วๆไป ที่วางอาวุธของทุกจานไว้ในครั้งเดียวแล้วก็เลือกหยิบกินจนหมดครบ course พอดี
อาหารอร่อยทุกจานค่ะ แต่น้อยไปหน่อย ไม่ค่อยสมราคา (1000.-) สักเท่าไร ออกมายังไม่อิ่มเลยค่ะ คงต้องไปหาอะไรบำรุงบำเรอกระเพาะอีกเล็กน้อย แต่ถ้าบวกประสบการณ์แปลกใหม่นี่เข้าไป ก็ต้องถือว่าที่นี่เป็นร้านอาหารร้านหนึ่งที่น่าไปเยือนสักครั้ง
ตอนเดินออกมาด้านหน้า มาจ่ายเงิน รับของที่ฝากไว้ บรรยากาศเฮฮามาก มาดูว่า ตัวเองกินไรเข้าไป ทายถูกทายผิดกันยังไง น้องไกด์ดูแลเอาใจดีมากเลยค่ะ ให้คะแนนเต็ม
張貼