更多
2013-09-24
291 瀏覽
คราวนี้ผึ้งน้อยมาเลือกทานมื้อกลางวันกับคุณเพื่อนสองคนที่ร้านแซ่บสไตล์อีสานย่านใจกลางเมืองอย่างสยามแสควร์ว่ากันตามตรงแล้ว ทีแรกก็ไม่อยากมาทานเท่าไหร่เพราะขี้เกียจรอคิวนานนั่นเอง แต่คุณเพื่อนชอบร้านนี้ก็เลยตามใจ (โอ้ ผึ้งน้อยแมนสุดๆค่ะ)ร้าน “Somtam นัว” อยู่ในสยามสแควร์ซอย 5 เดินเข้าซอยมาแล้วเห็นคนออๆกันตรงไหนก็ตรงนั้นเลยค่ะ หาง่ายสุดๆระหว่างรอคิวโต๊ะ คุณพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้เราออร์เดอร์กันก่อนเลย อย่างไม่น่าเชื่อ รอโต๊ะไม่นานอย่างที่คิด (อาจเป็นเพราะเริ่มบ่ายแล้วก็เป็นได้)ผึ้งน้อยและคุณเพื่อนได้ที่นั่งหลบมุมติดหน้าร้าน ในร้านค่อนข้างแออัด โต๊ะเรียงกันเต็มร้านเลยซักพัก เมนูแรกของพวกเราก็มาค่ะ“ไก่ทอด” (98 บาท) เป็นส่วนปีกไก่ทั้
คราวนี้ผึ้งน้อยมาเลือกทานมื้อกลางวันกับคุณเพื่อนสองคนที่ร้านแซ่บสไตล์อีสานย่านใจกลางเมืองอย่างสยามแสควร์
ว่ากันตามตรงแล้ว ทีแรกก็ไม่อยากมาทานเท่าไหร่เพราะขี้เกียจรอคิวนานนั่นเอง แต่คุณเพื่อนชอบร้านนี้ก็เลยตามใจ (โอ้ ผึ้งน้อยแมนสุดๆค่ะ) ร้าน “Somtam นัว” อยู่ในสยามสแควร์ซอย 5 เดินเข้าซอยมาแล้วเห็นคนออๆกันตรงไหนก็ตรงนั้นเลยค่ะ หาง่ายสุดๆ
ระหว่างรอคิวโต๊ะ คุณพนักงานก็จะเอาเมนูมาให้เราออร์เดอร์กันก่อนเลย
อย่างไม่น่าเชื่อ รอโต๊ะไม่นานอย่างที่คิด (อาจเป็นเพราะเริ่มบ่ายแล้วก็เป็นได้)
ผึ้งน้อยและคุณเพื่อนได้ที่นั่งหลบมุมติดหน้าร้าน ในร้านค่อนข้างแออัด โต๊ะเรียงกันเต็มร้านเลย ซักพัก เมนูแรกของพวกเราก็มาค่ะ
“ไก่ทอด” (98 บาท) เป็นส่วนปีกไก่ทั้งปีก ตั้งแต่ต้นแขน ปีกกลาง และปลายปีก ทอดมาเกรียมๆจัดวางมาในภาชนะน่ารักๆ
มีน้ำจิ้มให้เลือกจิ้มตามชอบสองแบบ คือ น้ำจิ้มไก่ และ น้ำจิ้มแจ่ว
ตัวไก่ทอดที่รสชาดกลมกล่อม ทอดมาได้ไม่อมน้ำมัน มีกลิ่นหอมแตะจมูกยั่วน้ำลาย
แต่ก็มีรอยไหม้นิดหน่อยก็พยายามเลี่ยงๆกันไปค่ะ ...ถ้าทอดมาเหลืองทองไม่ไหม้ผึ้งน้อยจะให้คะแนนเต็มซะหน่อย
ถัดมาเป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้
“ตำไทย” (65 บาท) และ “ขนมจีน” (25 บาท) รสส้มตำไม่จัดจ้านอย่างที่คาดหวังไว้ (เอ๊ะ..หรือหน้าเราอินเตอร์จนแม่ครัวคิดว่าทานเผ็ดไม่ได้กันนะ)
ทานคู่กันกับขนมจีนแทนข้าวเหนียวจะได้ไม่จุกมาก
ตบท้ายด้วยเมนูเพิ่มความฉลาด (ยังทันมั้ย??)
“ยำปลาทอด” (105 บาท)
ร้านนี้เค้าใช้ปลานิลไซส์กลางๆ ที่มีเนื้อหนานุ่ม จานนี้ถูกใจที่สุดในแง่ของรสชาดจัดจ้าน
ตัวปลาก็ทอดมาได้กำลังดีค่ะ ไม่ไหม้เลย
สรุปภาพรวมกันซักหน่อย
บรรยากาศ – ค่องข้างจะแออัด แต่พอลูกค้าเริ่มซาแล้วก็จะสบายตาขึ้นหน่อย เท่าที่เห็นคือไม่เน้นการตกแต่งแต่เน้นพื้นที่ใช้สอยมากกว่า ใช้โต๊ะสีแดงแปร๊ดแบบธีมร้านอาหารจานด่วน แต่ทางร้านอาจจะสื่อว่าเผ็ดแซ่บก็เป็นได้
การบริการ – เน้นความรวดเร็วเป็นหลัก
รสชาดอาหาร – อร่อยแบบกลางๆ ครบรสแต่ไม่จัด อาจเป็นเพราะมีชาวต่างชาติมาเป็นลูกค้าอยู่เยอะพอสมควร ราคาหากเทียบกับร้านส้มตำที่พบเห็นได้ทั่วกทม.แล้วก็แพงกว่าประมาณ 2-3 เท่าตัว แต่วัตถุดิบก็จะดูดีมีคุณภาพมากกว่าค่ะ
張貼