影片
更多
2013-04-17
31 瀏覽
วันหยุดที่ผ่านมา ผึ้งน้อยและเดอะก๊วนรวม 3 กระเพาะพากันไปเดินเล่นที่ Community Mall แห่งแรกของฝั่งธนฯที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานบนถนนเจริญนคร SENAFEST นั่นเองค่ะแม้ลักษณะทรงอาคารจะดูคล้ายๆ Rain Hill ที่ถนนสุขุมวิท แต่เนื่องจาก SENAFEST ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนเจริญนครและถนนกรุงธนบุรี จึงมีมุมมองเกือบจะรอบทิศจึงดูโปร่ง และ SENAFEST ยังมีพื้นที่ที่กว้างกว่าอีกด้วยSENAFEST อยู่ตรงข้ามท่าเป๊บซี่ ถ้ามาโดยใช้ถนนเจริญนครพอถึงแยกก็จะเห็นตัวอาคารอยู่ทางซ้ายมือเลย มีที่จอดรดใต้ดินค่อนข้างสะดวกทีเดียวขึ้นมาที่ชั้น 2 จะอุดมไปด้วยร้านอาหารทั้งไทยและเทศ ยิ่งตอนนี้แต่ละร้านกำลังกระหน่ำเรียกลูกค้าด้วยโปรโมชั่นเปิดตัว จึงนับเป็นนาทีทองของนักทานอย่าง
แม้ลักษณะทรงอาคารจะดูคล้ายๆ Rain Hill ที่ถนนสุขุมวิท แต่เนื่องจาก SENAFEST ตั้งอยู่บนหัวมุมถนนเจริญนครและถนนกรุงธนบุรี จึงมีมุมมองเกือบจะรอบทิศจึงดูโปร่ง และ SENAFEST ยังมีพื้นที่ที่กว้างกว่าอีกด้วย
SENAFEST อยู่ตรงข้ามท่าเป๊บซี่ ถ้ามาโดยใช้ถนนเจริญนครพอถึงแยกก็จะเห็นตัวอาคารอยู่ทางซ้ายมือเลย มีที่จอดรดใต้ดินค่อนข้างสะดวกทีเดียวขึ้นมาที่ชั้น 2 จะอุดมไปด้วยร้านอาหารทั้งไทยและเทศ ยิ่งตอนนี้แต่ละร้านกำลังกระหน่ำเรียกลูกค้าด้วยโปรโมชั่นเปิดตัว จึงนับเป็นนาทีทองของนักทานอย่างก๊วนผึ้งน้อยค่ะ
หลังจากเดินวน 1 รอบ พวกเราก็เลือกร้าน Kasa Yakiniku เพราะเดิมทีเคยทานเมนูปกติของร้าน Kasa นี้อยู่แล้ว พอเห็นมาเปิดไลน์ใหม่โดนเน้นขายเฉพาะเนื้อย่างก็เลยอดสนใจไม่ได้
Kasa Yakiniku มีทั้งเมนูอาลาคาร์ทและเมนูบุฟเฟต์ ผึ้งน้อยเลือกทานบุฟเฟต์ค่ะ (กำหนดระยะเวลาในการทาน 1 ชั่วโมง 30 นาที)
ราคาปกติต่อหัว 395+ พอได้โปรฯเปิดตัวที่ “ลด 20%” ก็เลยเหลือเพียง 316+ (ประมาณ 350 บาทเท่านั้น >_<)
(มีเครื่องดื่มและไอศครีมรวมอยู่ในบุฟเฟต์แล้ว)
เครื่องดื่มที่รวมในบุฟเฟต์ก็มี ชาเขียวร้อน/เย็น ชามะนาว และเอสโคล่า สามารถเปลี่ยนชิดเครื่องดื่มได้ตลอด
ของผึ้งน้อยเป็นชาเขียวเย็นตลอดรายการค่ะ
เมื่อเปรียบเทียบกับร้าน Momiji ที่เพิ่งรีวิวไปก่อนหน้านี้แล้ว ร้าน Kasa Yakiniku นี้มีพื้นที่กว้างขวางกว่ามาก และที่สำคัญคือที่นั่งมีที่ให้วางขา นั่งสบายกว่าเยอะค่ะการตกแต่งก็ยังคงเน้นความเป็นร่มตามชื่อร้านเช่นเคย (傘 = Kasa = ร่ม)
การออร์เดอร์นั้นทางร้านจะมีแผ่นกระดาษยาวๆที่ระบุเมนูแต่ละอย่างเอาไว้ให้เราเขียนออร์เดอร์เองไดด้อย่างง่ายๆ
เริ่มจากเหล่าผักกันก่อน (เพื่อความสมดุล ต้องทานทั้งเนื้อและผักนะคะ ^^)
ฟักทอง เห็ดออรินจิ ผักกาดหอม
เห็ดออรินจิสดดี เสียดายที่ไม่อวบเท่าไหร่ อย่างไรก็ตามพอย่างออกมาแล้วหวาน แถมยังที่น้ำปรุงรสราดมาด้วย อร่อยดี
ฟักทองเนื้อหนา แม้ไม่ใช่ฟักทองญี่ปุ่นก็ถือว่ามีความหนึบที่ใช่ได้ ย่างทานเพลินๆได้เบต้าแคโรทีน ^^ผักกาดหอมของโปรดคุณเพื่อน ทานคู่กับเนื้อที่ย่างแล้ว เป็นสไตล์เกาหลีค่ะ
และแล้วก็มาถึงจานเนื้อๆกันบ้าง
เมนูแรกที่เห็นแล้วต้องขอออร์เดอร์มาลองทันทีคือ
เนื้อสันกลางพิเศษ ไทย-เฟรนช์
เนื้อสไลด์บางๆสีแดงชมพู มีเส้นไขมันกระจายทั่วทั้งชิ้น จุดสังเกตุสำหรับแยกแยะเนื้อจานนี้คือเส้นมันที่ชัดที่สุดตรงกลางชิ้นเนื้อค่ะ
เนื้อนุ่มและรสชาดดีมากๆ เป็นเมนูที่ออร์ดอร์ว้ำมาเยอะที่สุด
เนื้อสันคอออสเตรเลีย
สีออกแดงเข้มที่สุดในบรรดาจานเนื้อวัวที่ออร์เดอร์มาในวันนี้ ความนุ่มจัดให้ผ่านแบบไม่มีข้อกังขา มีส่วนที่เป็นมันแยกออกมาชัดเจน ไม่มากเกินไป กำลังดี
อย่างไรก็ตาม รสชาดโดยรวมยังเป็นรองเนื้อสันกลางพิเศษ ไทย-เฟรนช์อยู่หน่อยนึง
เนื้อสันนอกนิวซีแลนด์
เนื้อสีแดงอ่อนๆ ออกไปทางชมพูกว่าจานอื่นๆ มีลายมันแทรกบางๆเนื่องจากมันน้อย เนื้อที่ย่างสุกจัดๆจะแอบแห้ง และมีความนุ่มน้องกว่าสองเมนูแรก
ดังนั้นย่างแค่พอสุกก็พอค่ะ (มีเดี้ยมๆ อร่อยทุกเมนู >_<)
ยังมีอีกหลายเมนูเลยค่ะ ไปติดตามกันต่อในรีวิวตอนที่ 2 ต่อนะคะ
สรุปความประทับใจครึ่งแรก
บรรยากาศ – ที่ดูจอแจหน่อยน่าจะเป็นเพราะมีโปรโมชั่น 20% นั่นแหละค่ะ แต่ละโต๊ะมีความเป็นส่วนตัวแบบกลางๆ เพราะโต๊ะแต่ละแถวดันตั้งแนวเดียวกัน เลยเห็นความเป็นไปของโต๊ะข้างๆสะดวกไปหน่อย ^^’
การบริการ – รวดเร็วมากค่ะ ออร์เดอร์ไปไม่ทันไรอาหารก็ยกมาแล้ว และโดยรวมก็ถือว่าตกหล่นน้อยมาก ตามทีเดียวได้ครบ มีติแค่ว่าบางครั้งพนักงานจะมองไปค่อยเห็นว่าเราจะส่งใบออร์เดอร์ให้ก็เลนต้องโบกหลากครั้งหน่อย
รสชาด – จนถึงตอนนี้ ปลื้มทุกจาน ยิ่งเมื่อเทียบกับราคาแล้ว จัดว่าเวิร์คอย่างยิ่ง
張貼
