影片
更多
2013-02-27
70 瀏覽
หนึ่งในร้านเนื้อย่างที่ถูกอกถูกใจผึ้งน้อยเป็นอย่างมากคือร้าน Gyu-Maru ร้านนี้ค่ะ แม้ว่าที่จอดรถจะดูแน่นไปสักหน่อย แต่เพราะมีคุณยามที่จัดระเบียบรถเก่งมากเลยช่วยแก้ปัญหาส่วนนี้ไปได้เยอะเส้นทางที่ผึ้งน้อยใช้คือ ขับรถเข้าซอยสุขุมวิท 49 (ซอยโรงพยาบาลสมิติเวช) เลี้ยวขวาตรงมุมร้าน S&P จรงเข้ามาทางซ้ายมือจะมีเวิ้งตึกที่อุดมไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าย่าน Nihonmura ตึกแถว 2 ชั้นรูปตัวยูที่มีส่วนเว้าตรงกลางเป็นที่จอดรถหลัก (มีที่จอดย่อยในซอกซอยตามแต่ละร้านเช่าที่ไว้) ตรงที่จอดรถจะมีน้ำตกจำลองด้วย ด้านในเป็นร้านอุโอมาสะ (ยังไม่เคยลองทานค่ะ ท่าทางจะแพงน้าาา^^)ขึ้นบันใดช้างร้านขนมปัง Toraya มาเลยค่ะ ร้าน Gyu-Maru อยู่ชั้น 2 นี่เองจะให้ดีคว
เส้นทางที่ผึ้งน้อยใช้คือ ขับรถเข้าซอยสุขุมวิท 49 (ซอยโรงพยาบาลสมิติเวช) เลี้ยวขวาตรงมุมร้าน S&P จรงเข้ามาทางซ้ายมือจะมีเวิ้งตึกที่อุดมไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นที่มีชื่อว่าย่าน Nihonmura
ตึกแถว 2 ชั้นรูปตัวยูที่มีส่วนเว้าตรงกลางเป็นที่จอดรถหลัก (มีที่จอดย่อยในซอกซอยตามแต่ละร้านเช่าที่ไว้) ตรงที่จอดรถจะมีน้ำตกจำลองด้วย ด้านในเป็นร้านอุโอมาสะ (ยังไม่เคยลองทานค่ะ ท่าทางจะแพงน้าาา^^)
ขึ้นบันใดช้างร้านขนมปัง Toraya มาเลยค่ะ ร้าน Gyu-Maru อยู่ชั้น 2 นี่เองจะให้ดีควรโทรมาจองก่อนนะคะ เพราะร้านไม่ได้ใหญ่มาก แถมยังมีลูกค้าเยอะทีเดียวเชียว
ที่นั่งโซนด้านขวาเป็นแบบโต๊ะนั่งธรรมดา แอบมองเห็นทางซ้ายเป็นโต๊ะแบบญี่ปุ่นแต่ห้อยขาได้ ปูเสื่อทาทามิ (น่าจะนะคะ ยังไม่ได้สัมผัสเลยไม่รู้ว่าเป็นเสื่อทาทามิจริงๆรึเปล่า)
อุปกรณ์ยังน่ารักเช่นเคย ผ้าที่เห็นเป็นผ้ากันเปื้อนนะคะ (คุณเพื่อนบอกว่าอยากได้หมวกคลุมผมกันผมหอมเนื้อย่างด้วย) ว่าแล้วก็ดับร้อนกันด้วยชาเย็นๆกันก่อนค่ะ (ปกติแก้วละ 30 บาท แต่วันนี้มาทานแบบใช้ดีล น้ำแถมในดีลค่ะ เยี่ยม!!)
โปรฯเนื้อ Wagyu Kata Bara (450 บาท) จัดมาแบบหมักเกลือก่อนเลยโดยไม่รอช้า (เนื้อ 1 เมนูสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะทานแบบหมักซอสหรือหมักเกลือ อร่อยไปคนละแบบ)
ไม่รู้เหมือนกันว่าที่นี่ใช้เนื้อ Wagyu จากที่ไหน สายพันธุ์อะไร ขอให้อร่อยเป็นพอค่ะ (>_<) แม้สีเนื้อจะดูตุ่นๆ แต่ขอบอกว่านุ่มมากมาย ข้อเสียอย่างเดียวที่เจอคือจะรู้สึกว่าเนื้อมีกลิ่นสาปเล็กๆคล้ายๆเนื้อแกะ แต่ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้นค่ะไม่ถือสา
ถัดมา เพื่อใช้เป็นจานอ้างอิงกับ Wagyu Kata Bara
Kata Bara (เนื้อส่วนขาหน้า หรือที่เรียกว่าใบพาย) 230 บาท แบบหมักเกลือเช่นกัน
เนื้อสีสวยงาม รสชาดอร่อยแบบบาลานซ์ส่วนของเนื้อและมัน แม้สัมผัสจะไม่นุ่มนวลเท่าแบบ Wagyu แต่ด้วยราคาที่แตกต่างก็นับเป็นตัวเลือกอีกทางที่น่าสนใจJou Karubi (เนื้อซี่โครงชั้นเยี่ยม) 250 บาท
จานนี้ดูง่ายมากค่ะว่าเป็นเนื้อซี่โครง ...ชัดเจน !!!
เนื้อส่วนนี้ถ้าย่างไม่สุกจะเคี้ยวยากมากเพราะเป็นผังผืดติดซี่โครง ส่วนเรื่องรสชาดนั้น....หากคนชอบความเด้งหนึบของเนื้อซี่โครงก็ไม่ผิดหวังแน่ๆค่ะ สมเป็น “Jou = ชั้นเยี่ยม”... เข้มข้นสะใจ
น้ำจิ้มเนื้อย่างปกติแล้วจะได้ 2 อย่าง เป็นน้ำจิ้มเนื้อย่างแบบที่เห็นทั่วๆไป กับ น้ำมะนาวค่ะ จะเอามาผสมก็ๆได้ รึจะแตะๆทานกับเนื้อก็อร่อยค่ะ แล้วก็จะมีเครื่องปรุงเพิ่มเติมอีก 3 อย่างอยู่ในโถ มีกระเทียมสับ พริกสดสับ และโกะชูจัง(มิโซะเกาหลีแบบเผ็ด...ที่ไม่เผ็ดเลยสำหรับคนไทย) ผึ้งน้อยชอบกระเทียมที่สุดค่ะ ของที่นี่จะสับมาละเอียดมากๆเลย (ส่วนตัวแล้วจะสับหยาบก็ชอบค่ะ ได้หมด)
คราวนี้ผึ้งน้อยขอลองของ ออร์เดอร์น้ำจิ้มพิเศษมา 1 ที่ เป็นผิวส้มยูสุ หอมๆเปรี้ยวอ่อนๆอมหวาน ราคาถ้วยละ 30 บาท แอบแพง ซึ่งก็ได้มาถ้วยกระจิ๊ดริดอย่างที่เห็นค่ะ
หอมดีนะคะ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่าอร่อยเลิศเลอขึ้นซักเท่าไหร่ น้ำมะนาวก็พอเพียงแล้วค่ะ
เมนูน่าทานยังมีอีกเยอะค่ะ ติดตามในภาคต่อได้เลยนะคะ
พักครึ่งมาสรุปความประทับใจกันซักหน่อย
บรรยากาศ – ร้านสไตล์ญี่ปุ่นแบบบ้านๆไม่ติดหรู ที่นั่งกว้างสบาย แม้วันนี้แอร์ทำท่าจะเสียเลยมีเสียงดังแปลกๆแต่ก็ยังเย็นดี เตาถ่านได้ฟีลมากๆ เครื่องดูดควันทำงานดีปานกลาง (กลิ่นติดตัวและผมมาพอประมาณ)
การบริการ – รวดเร็วยิ้มแย้ม แนะนำอาหารได้ดี มาคอยเปลี่ยนตะแกรง เขี่ยถ่าน เติมถ่านให้อยู่เรื่อยๆไม่ต้องเรียกเลย
รสชาดอาหาร – โดยรวมแล้วก็ยังปลื้ม เพราะความนุ่มและรสชาดของเนื้อที่เต็มที่นั่นและค่ะ
หมายเหตุ : คำอธิบายแต่ละส่วนของเนื้อแต่ละจานนั้น ผึ้งน้อยหาข้อมูลมาอีกทีนะคะว่าส่วนไหนเป็นส่วนไหน ไม่ได้เชี่ยวชาญเฉพาะทางค่าาา
張貼
