影片
更多
2012-08-26
9 瀏覽
ท้าวความกันซักนิดเนื่องจากว่าผึ้งน้อยไปทานบุฟเฟต์กับคุณป๋าที่โรงแรมระดับ 5 ดาว Royal Orchid Sheratonแม้ราคาบุฟเฟต์ของที่นี่ในมื้อเย็นวันศุกร์จะมีสนนราคาแพงที่สุดที่ 1150++ บาทต่อคน แต่เพราะว่าคุณป๋ามีคูปองทานฟรีของบัตร Starwood เรื่องราคาจึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ (ราคาต่อหัวแบบละเอียดๆดูที่รีวิวภาคแรกได้เลยค่า)โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในย่านสี่พระยาค่ะ ผึ้งน้อยเดินทางมาจากฝั่งธนฯ ข้ามสะพานสาทรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นเจริญกรุง ขับเลยไปรษณีย์กลางมา เข้าซอยเจริญกรุง 30 (ซอยกับตันบุช) ตรงไปจนถึงทางเลี้ยวโค้งก็ตีขวามาจะเจอโรงแรมอย่างง่ายดายในรีวิวภาคแรก ผึ้งน้อยได้เกริ่นในส่วนของไลน์ต่างๆและรีวิวออร์เดิร์ฟไปแล้วคราวนี้มาถึงจานหลักๆกันบ้
เนื่องจากว่าผึ้งน้อยไปทานบุฟเฟต์กับคุณป๋าที่โรงแรมระดับ 5 ดาว Royal Orchid Sheraton
แม้ราคาบุฟเฟต์ของที่นี่ในมื้อเย็นวันศุกร์จะมีสนนราคาแพงที่สุดที่ 1150++ บาทต่อคน แต่เพราะว่าคุณป๋ามีคูปองทานฟรีของบัตร Starwood เรื่องราคาจึงไม่เป็นปัญหาอีกต่อไปค่ะ (ราคาต่อหัวแบบละเอียดๆดูที่รีวิวภาคแรกได้เลยค่า)
โรงแรมนี้ตั้งอยู่ในย่านสี่พระยาค่ะ ผึ้งน้อยเดินทางมาจากฝั่งธนฯ ข้ามสะพานสาทรแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นเจริญกรุง ขับเลยไปรษณีย์กลางมา เข้าซอยเจริญกรุง 30 (ซอยกับตันบุช) ตรงไปจนถึงทางเลี้ยวโค้งก็ตีขวามาจะเจอโรงแรมอย่างง่ายดาย
ในรีวิวภาคแรก ผึ้งน้อยได้เกริ่นในส่วนของไลน์ต่างๆและรีวิวออร์เดิร์ฟไปแล้ว
คราวนี้มาถึงจานหลักๆกันบ้าง
จานนี้มาจากไลน์ปิ้งย่างที่เหมือนการช้อปปิ้งค่ะ ต้องตาต้องใจชิ้นไหนก็ให้คุณเชฟย่างให้ตรงนั้นเลย
จัดมาด้วย เนื้อแกะ และกุ้งแม่น้ำ
กุ้งโอค่ะแต่แอบผิดหวังที่เนื้อแกะไม่อร่อยเอาซะเลย เสียดายมากๆเพราะเป็นเมนูโปรดของคุณป๋าซะด้วยสิ
ลองแบบที่ปรุงไว้แล้วตรงไลน์ Hot Dish ก็ไม่อร่อยเหมือนกันค่ะ
สรุปว่าเนื้อแกะตกรอบ
เบนเข็มมาที่อาหารอิตาเลียนกันบ้างพิซซ่าค่ะ จากหน้าตาเข้าใจว่าจะเป็น 4Cheese แต่ลองทานแล้วยังไม่ได้รสชีสที่หลากหลายขนาดนั้น เลยสันนิษฐานได้ 2 แบบคือ 1.ชิ้นที่ตักมาไม่โดนชีสครบทั้ง 4 ชนิด และ2.เป็นพิซซ่าหน้าชีสธรรมดา
อย่างไรก็ตามโดยรสชาดแล้วถือว่าผ่าน (แม้ไม่เลิศเลอแต่ก็จัดว่าได้อยู่ค่ะ)
**ผิดหวังกับไลน์ปลาดิบมากๆ เพราะผึ้งน้อยวิ่งตรงไปเพื่อแซลม่อนเลยแต่กลับไม่มี หน้าตาปลาที่มีอย่างมากุโร่ ปูอัดก็จัดเรียงแบบกองลวกๆไม่น่าทาน ตอนก่อนกลับมีน้องม่อนออกมาแต่ก็เป็นส่วนที่ไม่น่าทานเลย ไม่น่าเชื่อว่าบุฟเฟต์ราคาขนาดนี้จะใช้วตถุดิบแบบนี้ ..เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมา**
มาทางด้าน Hot Dish กันบ้าง
(อาจจะเห็นว่าตักมาน้อยๆ นั่นก็เพื่อการถ่ายภาพค่ะ จานนั้นจะต่ออีกกี่จานก็สุดแล้วแต่ความอร่อยของเมนูนั้นๆ)
เน้นๆที่น้องปลา เพื่อสุขภาพ (ไอ้ที่หล่อนมากินดุนี่เพื่อสุขภาพตรงไหน)
จัดมาทั้งปลากะพงนึ่ง, ปลาแซลม่อนปรุงรสสไตล์อินเดีย และปลาทอดแบบทานเล่น
โดยรวมแล้วจานปลาอร่อยใช้ได้ค่ะ แต่คุณป๋าเจอปลากะพงที่ค่อนข้างคาวเลยคะแนนตกกว่าจานอื่นซักหน่อยส่วนปลาแซลม่อนสไตล์อินเดียนั้นปลื้มทั้งพ่อทั้งลูกค่ะ รสเข้มข้นเครื่องเทศตามแบบฉบับของอาหารอินเดีย เนื้อปลาก็หวานนุ่มสุกกำลังดี ให้จานนี้เป็นที่ 1 ในสามอย่างที่ตักมาค่ะ
ปลาทอดแบบฟิงเกอร์ ตัวนี้มีน้ำราดมาด้วย นึกว่าจะเผ็ดแต่จริงๆแล้วไม่เผ็ดเลย โดยรวมแล้วทานเพลินๆดีค่ะ
หลังจากที่สนุกสนานกับของคาวมาซักพัก ผึ้งน้อยก็เริ่มเล็งของหวาน (กระเพาะผึ้งน้อยสามารถบรรจุอาหารคาว-หวานสลับกันได้ตลอดเวลาค่ะ ไม่มีการกำหนดลำดับในการทานแต่อย่างใด)
ตามที่เกริ่นไว้ในรีวิว “ภาคแรก” ว่าวันที่มาเป็นช่วงเทศการสตรอเบอร์รี่พอดี ดังนั้นของหวานวันนี้จึงเป็นไปด้วยสตรอเบอร์รี่มากมายละลานตาค่ะ (ที่ไม่ใช่สตรอเบอร์รี่ก็มีบ้างค่ะ แต่ไม่เยอะ)
และของหวานอีกชนิดที่ผึ้งน้อยไม่อยากพลาดแม้ของจะใกล้หมดเต็มทีคือ ชอคโกแลตฟองดูว์ค่ะตอนแรกมีของให้เลือกจุ่มมากมายแต่ตอนนี้เหลือแค่นิดหน่อย ต้องรีบซะแล้ว...
ท้ายสุดก็ได้เป็นสตรอเบอร์รี่มา 1 ชิ้น นอกนั้นเป็น แคนตาลูป มาชเมลโล่ว์ แล้วก็ผลลูกพรุนแนวๆ Sunsweet
ของที่ถูกอกถูกใจเด็กๆทั้งหลายรวมทั้งคุณป๋าของผึ้งน้อยด้วยคือ น้ำสตรอเบอร์รี่ ค่ะ เป็นน้ำสตรอเบอร์รี่หวานๆที่ปั่นผสมกับเนื้อสตรอเบอร์รี่จนได้เป็นน้ำสีแดงข้นๆสดสวย แล้วเทใสหลอดยาวๆเหมือนหลอดทดลอง ทานตอนยังเย็นๆ เป็นรสชาดอร่อยที่เคียงคู่มากับความเก๋ของภาชนะเลย ใช้แทนสตรอเบอร์รี่ซอสก็ยังได้
Cappuccino & Chocolate Mousse อันนี้อร่อยกลามกล่มมากๆ จัดมาหลายชิ้นเลย ทานกับไอศครีมก็อร่อยค่ะเนื้อมูสสองรสที่ผสมผสานทั้งรสชาดและกลิ่นหอมๆได้อย่างลงตัว บวกกับเนื้อขนมที่ไม่หนักเกินไปก็เลยทำให้ทานได้เรื่อยๆ มูสชิ้นนี้มาในรูปแบบเค้กปอนด์ทรงกลมให้ตัดเอาตามใจชอบค่ะ แม้จะมาชิ้นใหญ่แต่หมดอย่างเร็ว แค่ช่วงที่ผึ้งน้อยทานก็หมดไป 2 ก้อนแล้วค่ะ
ขนมอื่นๆ ถ้าว่าขึ้นบนโต๊ะอาหารโรงแรมก็ถือว่าอยู่ระดับกลางๆ พอทานเล่นๆเพลินๆ ทั้งกล้วยหอมย่างไฟหวานๆที่วางมาบนแป้งทาร์ตแน่นๆ เอแคร์ที่มีสตรอเบอร์รี่สดสอดไส้อยู่ด้วย คาราเมลคัสตาดเนื้อเนียนๆที่แต่งรสชอคโกแลต
...ขนมบางส่วนเริ่มหมด (น้ำสตรอเบอร์รี่หมดก่อนเลยค่ะ มาเติมหลายรอบ...จนหมดสต๊อกในที่สุด) แอบงงที่มาเติมแค่ไม่กี่อย่าง ตั้งใจจะหยิบบลูเบอร์รี่ชีสเค้กมาให้คุณป๋าซะหน่อย..ไม่ทัน หลังจากที่วนเวียนทานนู่นนี่รอขนมอยู่อีกระยะจนแน่ใจว่าน่าจะไม่มีอะไรมาเติมแล้ว ผึ้งน้อยและคุณป๋าก็ของชา-กาแฟมาดื่มช่วยย่อยหลังมื้อหนักๆค่ะ
กำลังเตรียมตัวจะกลับแท้ๆ ปรากฏว่าเค้กชอคโกแลตที่น่าทานมากๆๆๆๆก็ถูกยกมาเติม
อดใจไม่ไหว...จัดไปอร่อยมากค่ะ คุ้มที่ทานทั้งๆที่อิ่ม ชอคโกแลตมูสด้านในนุ่มนวลให้เนื้อสัมผัสที่ดี ส่วนกานาซที่ราดมาก็ไม่เหนียวไม่เหลว เรียกได้ว่าปลื้มสุดๆกับมูสเค้กชิ้นสุดท้ายชิ้นนี้
สรุประดับความประทับใจบรรยากาศ – พื้นที่กว้างดีแต่จัดโต๊ะติดกันแบบเน้นรับลูกค้ามากไปหน่อย ไลน์กินพื้นที่ยาวมาก(แต่บางช่วงดูไม่ค่อยมีของ) ส่วนบรรยากาศทาง Outdoor นี่ถ้ามาตอนยังไม่มืดคงจะแจ่มแจ๋วเป็นแน่ แต่น่าเสียดายที่ผึ้งน้อยมาเอามืดแล้วเลยไม่ค่อยเห็นอะไรเท่าไหร่
การบริการ – ตามมาตรฐานระดับโรงแรมค่ะ
รสชาดอาหาร(เฉพาะภาคจบ) – ของคาวไม่เท่าไหร่แต่ของหวานอร่อยหลายอย่าง (เสียตรงที่ไม่ค่อยมาเติม) เรียกได้ว่าทานของหวานกันยิ่งกว่าของคาวอีกค่ะมื้อนี้
張貼
